ตอนที่แล้วบทที่ 34 วิชาซ่อนลมหายใจ – หยุดการเคลื่อนไหว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 ร่างหุ้มเลือดหมา

บทที่ 35 แผนล่าเหยื่อ


บทที่ 35 แผนล่าเหยื่อ

อู๋เซี่ยนและพวกถอยหลังไปพร้อมกันหนึ่งก้าว

"ผีดิบ" เป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงมาก ใครเล่าจะไม่เคยดูหนังผีดิบบ้าง? ทุกคนมองผีดิบด้วยสายตาเต็มไปด้วยความระแวง พวกเขาชักอาวุธออกมาและเตรียมพร้อมที่จะโจมตีทันที

เหวินเฉาส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย

"อย่าทำแบบนั้นเลย เธอไม่ดุร้ายหรอก เธอเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ทำร้ายใคร"

เหวินเฉาจับมือผีดิบอย่างเป็นกันเอง ท่าทางของเขาทำให้ทุกคนขนลุก "ใครจะไปเชื่อผีดิบที่ 'เงียบสงบ' แบบนี้ได้?" พวกเขาคิด

"นี่คือภรรยาของผม ชื่อฟู๋เหอ"

"เมื่อเรายังหนุ่ม เราต่างก็ยุ่งกับการทำงาน ตอนนี้เราแก่ตัวกันแล้ว เธอก็ป่วยหนัก ผมอยากพาเธอออกไปเดินทางดูโลกภายนอก ก่อนที่เวลาของเธอจะหมดลง"

"แต่พอเรามาถึงที่นี่ ที่นี่กลายเป็นดินแดนมรณะ และเธอเองก็ขี้กลัวมาตลอด... ดังนั้น เธอไม่สามารถรอดจากคืนแรกได้"

"โชคดีที่ดินแดนแห่งนี้แตกต่างจากความเป็นจริง"

"ผมเริ่มเลียนแบบพวกคุณ และบูชาเหล่าเทพเจ้า ผมได้วิชา 'ฟื้นคืนชีพซากศพ' มา ผมคิดว่านั่นจะช่วยทำให้เธอฟื้นคืนชีพ แต่แทนที่จะทำให้เธอกลับมามีชีวิต ผมกลับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ครึ่งคนครึ่งผี"

ขณะที่เหวินเฉากำลังอธิบาย

อู๋เซี่ยนจ้องมองผีดิบหญิงชราอย่างละเอียด

เขาเห็นเศษเนื้อและเส้นผมยาวที่ติดอยู่บนแขนเสื้อของเธอ ผมยาวนั้นดูเหมือน...

"ศพของเย่วเหมยยังอยู่ไหม?"

เหวินเฉาส่ายหัว

"ไม่มีแล้ว ผมให้ฟู๋เหอกินศพเธอไป เนื้อสดใหม่ช่วยเพิ่มพลังให้กับผีดิบ ผมไม่อยากให้ศพเสียเปล่า..."

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย ราวกับว่าเขาไม่ได้กำลังพูดถึงคนเป็น แต่พูดถึงเนื้อหมูลดราคาที่ซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ต

ซูฮุ่ยจิ่นถาม "แล้วศพที่หายไปก่อนหน้านี้ล่ะ?"

"ผมให้ฟู๋เหอกินไปทั้งหมดแล้ว การฝึกผีดิบต้องการเนื้อและเลือดในปริมาณที่มาก ผมเลยคิดว่าศพพวกนั้นก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรอยู่แล้ว"

เหวินเฉาพูดอย่างตรงไปตรงมา

แต่ความตรงไปตรงมานี้ทำให้อู๋เซี่ยน สือจี๋ และซูฮุ่ยจิ่นรู้สึกเย็นสันหลัง

ถ้าการฝึกผีดิบต้องการคนเป็นเพิ่มขึ้นมาอีก เหวินเฉาจะเอาพวกเขาไปเป็นอาหารให้ผีดิบหรือเปล่า?

แท้จริงแล้ว ชายแก่ที่ดูใจดีคนนี้ กลับเป็นคนที่อันตรายที่สุด!

ทุกคนพยายามสงบสติอารมณ์

ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาสอบสวนความผิดของเหวินเฉาในการฝึกผีดิบ

เมื่อพวกเขาเข้าใจสาเหตุการตายของทั้งสองคนแล้ว อู๋เซี่ยนก็รู้สึกโล่งใจ ตราบใดที่พวกเธอไม่ได้ตายโดยไม่มีเหตุผล แผนการของเขาก็ยังสามารถดำเนินต่อไปได้

อู๋เซี่ยนกระแอมเบา ๆ

"ตอนนี้ทุกคนคงคุ้นเคยกับเกมตบมือแล้ว เราสามารถใช้ผีแม่ที่ตามหาลูกเป็นเครื่องมือ เพื่อให้เราผ่านช่วงเวลาที่เหลือไปได้อย่างปลอดภัย"

"ผมคิดว่าหลายคนคงไม่อยากเสี่ยงอะไรอีกแล้ว"

"แต่พวกคุณพอใจจะจบเรื่องไว้แค่นี้เหรอ?"

สือจี๋รีบพูดขัดขึ้น "พอใจสิ! มีชีวิตรอดดีกว่าตายอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ?"

อู๋เซี่ยนจ้องสือจี๋ สือจี๋รีบหุบปากและก้มหน้าลง

"ใช่ เราสามารถรอดชีวิตในครั้งนี้"

"แต่ครั้งต่อไปล่ะ?"

"เราอยู่ในดินแดนมรณะ และหนีออกไปไม่ได้ สุดท้ายเราจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก แล้วเราจะโชคดีรอดมาได้ทุกครั้งหรือเปล่า? จะให้เราเสี่ยงดวงกับโอกาสที่แสนเล็กน้อยนั้นอีกงั้นเหรอ?"

"ไม่หรอก เราควรจะฉวยโอกาสนี้ไว้ เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้เปรียบในดินแดนมรณะครั้งต่อ ๆ ไป"

ซูฮุ่ยจิ่นพูดเสริม "ฉันเคยผ่านดินแดนมรณะมาแล้วหลายครั้ง ถ้าเราแสดงผลงานได้ดี มันก็จะมีข้อได้เปรียบอยู่บ้าง... แต่มันก็เป็นข้อได้เปรียบเล็กน้อยนะ"

"ถ้าฉันไม่ได้ทำลายบ่อบำบัดน้ำเสีย ฉันคงไม่ได้รับพรจากจื่อกูหรอก เอาไงดี เราจะไประเบิดบ่อบำบัดกันอีกไหม?" สือจี๋พูดเสริมให้กำลังใจอู๋เซี่ยน ซึ่งทำให้อู๋เซี่ยนเหลือบตามองเขาด้วยความพึงพอใจ

หลังจากสนทนากันไปสักพัก

ทั้งสือจี๋และซูฮุ่ยจิ่นเริ่มรู้สึกสนใจมากขึ้น

เหวินเฉาถามขึ้น "แล้วสิ่งที่นายบอกว่าเสี่ยงน่ะ มันคืออะไร?"

อู๋เซี่ยนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "ผมมีแผน..."

...

ช่วงกลางวันในดินแดนมรณะเริ่มสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด

แสงแดดที่เคยสว่างจ้ากลับหม่นหมองลงกว่าเดิม แม้ในตอนกลางวันก็ยังมีเงามัว ๆ ให้เห็นอยู่ทั่วไป ต้นไม้ ตึกอิฐ ทุกอย่างในที่นี้แฝงกลิ่นอายของความแปลกประหลาด

หลังจากที่อู๋เซี่ยนอธิบายแผนการ

เขาก็ได้รับความเห็นชอบจากทั้งสามคน

ซูฮุ่ยจิ่นและเหวินเฉาร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ หวังให้ตัวเองมีความได้เปรียบเล็กน้อยในการเผชิญหน้ากับดินแดนมรณะครั้งหน้า

ส่วนสือจี๋นั้น เขาเชื่อฟังอู๋เซี่ยนโดยไม่ต้องคิดมากนัก

แต่หากให้เขาตัดสินเอง เขากลับคิดว่าแผนนี้ดูแล้วไม่น่าจะสำเร็จได้มากไปกว่าการระเบิดบ่อบำบัดน้ำเสียซะอีก

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะลงมือทำตามแผนของอู๋เซี่ยน มีอุปสรรคสำคัญที่ต้องจัดการให้ได้ก่อน

อุปสรรคนั้นคือ วิญญาณร้ายหญิง "อวี๋อิงฮวา"

ตราบใดที่เธอยังอยู่ แผนของอู๋เซี่ยนก็ไม่สามารถดำเนินต่อได้

ด้วยข้อมูลที่ซูฮุ่ยจิ่นมี พวกเขาจึงมาถึงทางเข้าคลังสินค้าใต้ดินของซูเปอร์มาร์เก็ต

ประตูคลังสินค้าใต้ดินเปิดกว้างอยู่ บันไดคอนกรีตทอดยาวลงไปในความมืด ไม่มีใครมองเห็นปลายทาง ภายในคลังนั้นมีเพียงความมืดมิดที่แผ่กระจายบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกไม่สบายใจ

ซูฮุ่ยจิ่นพูดข้อมูลที่เธอมีให้ทุกคนฟัง

"วิญญาณร้ายตนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ มันไม่เหมือนพวกวิญญาณเล็ก ๆ ที่เราพบเจอมา"

"หากจะฆ่าเธอ เราต้องเอาชนะสามอุปสรรคใหญ่"

"อุปสรรคแรกคือเรื่องแสงสว่าง ภายในใต้ดินมันมืดมาก เราแทบมองไม่เห็นเธอ แต่เธอจะมองเห็นเราทุกคนได้ชัดเจน"

"อุปสรรคที่สองคือความแข็งแกร่ง ร่างกายของอวี๋อิงฮวานั้นแข็งแกร่งมาก อาวุธเวทหรือยันต์ธรรมดา ๆ ไม่สามารถทำร้ายเธอได้มาก"

"อุปสรรคที่สามคือคอนกรีต อวี๋อิงฮวามีความสามารถในการเปลี่ยนพื้นคอนกรีตเป็นโคลนเหนียว เมื่อเราเข้าไปข้างใน การเคลื่อนไหวของเราจะถูกขัดขวางอย่างมาก"

หลังจากอธิบายเสร็จ ซูฮุ่ยจิ่นกอดอกและหันไปมองทุกคนอย่างชัดเจน

เธอหมายความว่าเธอแค่ให้ข้อมูลเท่านั้น แต่เรื่องต่อสู้เป็นหน้าที่ของพวกผู้ชาย

เหวินเฉาพูดขึ้นคนแรก "เรื่องแสงสว่างกับคอนกรีต ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผมรับรองว่ามันจะดีขึ้น"

"ขอบคุณมากครับ ศาสตราจารย์เหวิน" อู๋เซี่ยนพยักหน้า "ส่วนการต่อสู้กับวิญญาณร้าย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราสามคน"

เมื่อซูฮุ่ยจิ่นได้ยินก็แสดงความไม่พอใจทันที

"ทำไมฉันต้องร่วมต่อสู้ด้วยล่ะ? ฉันให้ข้อมูลที่สำคัญแล้ว แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วนี่ ทำไมฉันซึ่งเป็นผู้หญิงต้องไปเสี่ยงต่อสู้ด้วย?"

ความจริงแล้ว ข้อมูลที่ซูฮุ่ยจิ่นให้มามีคุณค่าอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นคู่มือชั้นยอดเลยก็ว่าได้ ด้วยข้อมูลนี้ อวี๋อิงฮวาเหมือนปลาบนเขียง ถึงเธอจะไม่เข้าร่วมการต่อสู้ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องผิด

อู๋เซี่ยนก็ยอมรับในคุณค่าของข้อมูลที่เธอให้มา

"เธอพูดถูก แต่...ฉันไม่ไว้ใจเธอ"

"คุณ!"

คนอื่นอาจจะดูไม่ออก

แต่ในสายตาของนักสืบอย่างอู๋เซี่ยน ซูฮุ่ยจิ่นไม่ได้แค่ 'น่าสงสัย' แต่เธอเป็นคนที่มีหลักฐานมัดตัวแน่นหนาแล้ว

การตายของเหอฉงและพี่สาวของเธอ ซูฮุ่ยจิ่นไม่อาจปฏิเสธความเกี่ยวข้องได้ อู๋เซี่ยนไม่อาจปล่อยให้ตัวเองไปเสี่ยงตายข้างหน้า ขณะที่ปล่อยให้ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนี้นั่งอยู่ในที่ปลอดภัยด้านหลัง

ทั้งสองสบตากันอย่างตึงเครียดอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายซูฮุ่ยจิ่นก็ต้องยอมจำนนอย่างไม่เต็มใจ

เธอไม่มีทางเลือก เพราะตอนนี้อู๋เซี่ยนมีอำนาจมากกว่าเธอ

เมื่อวางแผนกันเรียบร้อย

ทุกคนก็เริ่มเตรียมตัว

เหวินเฉาอธิบายสิ่งที่เขาต้องการอย่างละเอียด ส่วนอู๋เซี่ยน สือจี๋ และซูฮุ่ยจิ่นต่างก็ยุ่งวุ่นวายหาของที่เขาต้องการ

แม้ว่าพื้นที่ที่ถูกครอบคลุมด้วยดินแดนมรณะจะมีเพียงสี่เขต

แต่ร้านค้าต่าง ๆ ก็ยังคงมีอยู่ครบถ้วนดี ยกเว้นร้านที่ขายอาหารและน้ำที่ถูกเก็บกวาดไปหมดแล้ว ร้านประเภทวัสดุก่อสร้างและเครื่องมือยังคงมีสินค้าครบ

ใช้เวลาไม่นาน สิ่งที่เหวินเฉาต้องการก็หาได้ครบถ้วน หลังจากที่เขาจัดการเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้ว แผนการล่าอวี๋อิงฮวาก็พร้อมจะดำเนินต่อไป

ตอนนี้เหลือเพียงแค่การลงมือเท่านั้น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด