ตอนที่แล้วตอนที่ 47 ระยะที่สองของเส้นเลือดโลหิต เทคนิคโลหิตพุ่งพล่าน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 49 เทคนิคลับ ค่ายกลปราบปรามปีศาจ!

ตอนที่ 48 ผู้บ่มเพาะสงครามฮุยคงแห่งวัดจินหลง!  


ตอนที่ 48 ผู้บ่มเพาะสงครามฮุยคงแห่งวัดจินหลง!

ฉู่เสวียนฉีดพลังวิญญาณเข้าไปในกระจกตรวจสอบค่ายกล จากนั้นเขาก็ค้นพบตำแหน่งของค่ายกลต่างๆ มากมายอย่างรวดเร็วผ่านกระจกตรวจสอบค่ายกลนี้ ตำแหน่งเหล่านี้จะนำทางเขาไปยังจุดที่มีค่ายกลซ่อนอยู่

แม้ว่าจะไม่พบตาค่ายกล แต่หากได้ทำลายธงค่ายกลไปหนึ่งจุด ค่ายกลที่ครอบคลุมคฤหาสน์หยุนอู๋ก็จะอ่อนแอลง

แต่ด้วยความสามารถของฉู่เสวียนแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะไม่พบตาของค่ายกล แต่มันแค่ต้องใช้เวลาก็เท่านั้น หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่เสวียนก็พบธงค่ายกลขบวนแรกทันที ธงถูกฝังอยู่ในเสาหิน  หากมองด้วยตาเปล่าก็คงจะไม่สามารถตรวจพบได้

ในตอนนั้นฉู่เสวียนจึงได้ปล่อยเสี่ยวหลงให้ออกมาจากหอเลี้ยงศพ เมื่อได้รับคำสั่ง มันก็คำรามและตบลงไปบนเสาหินอย่างรุนแรง เพียงใช้ฝ่ามือฟาดแค่ครั้งเดียว เสาหินก็มีรอยแตกร้าวขึ้นมา

เมื่อฟาดฝ่ามือลงไปเป็นครั้งที่สอง เสาหินก็พังทลายลงจนหมด เผยให้เห็นธงค่ายกลที่ซ้อนอยู่ด้านใน

ฉู่เสวียนจึงหยิบธงค่ายกลออกมา ฉีดพลังวิญญาณเข้าไป และทำลายมันทิ้งในทันที ส่งผลให้ค่ายกลที่ครอบคลุมคฤหาสน์หยุนอู๋นั้นอ่อนแอลงกว่าเดิมเล็กน้อย

ในเวลานี้ เสียงการต่อสู้ก็ดังมาจากภายในของคฤหาสน์หยุนอู๋แล้ว เห็นได้ชัดว่าหลี่ซวนหมิงและอีกสองคนได้เข้าไปปะทะกับผู้บ่มเพาะทั้งสี่ของนิกายเสินกังที่คอยคุ้มกันคฤหาสน์หยุนอู๋แห่งนี้

แต่ฉู่เสวียนก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เขาเพียงแค่เดินไปดูรอบๆคฤหาสน์หยุนอู๋ และทำลายธงค่ายกลให้เสร็จสิ้นเท่านั้น

ต้องขอบคุณรากฐานที่เขามี และความช่วยเหลือจากกระจกตรวจสอบค่ายกล ซึ่งทำให้เขาใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการดึงธงค่ายกลมากกว่า 120 รูปแบบออกมาและทำลายพวกมันทิ้งไปจนหมด ทำให้ค่ายกลที่ปกคลุมท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์หยุนอู๋ได้หายไปทันที ส่งผลให้ความกดดันที่หลี่ซวนหมิงและคนอื่น ๆ ต้องเผชิญได้ลดลงไปอย่างมาก

“เยี่ยมไปเลย! มันเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้มาก!” หลี่ซวนหมิงหัวเราะออกมาและดีดนิ้วทั้งสอง

จากนั้นพลังนิ้วปีศาจก็ได้พุ่งผ่านอากาศลงมาราวกับห่าฝน ปกคลุมคู่ต่อสู้จนอีกฝ่ายหายใจแทบไม่ออก

อ่า!..อีกฝ่ายกรีดร้องออกมา ไหล่ของเขาราวกับถูกเข็มยักษ์ทิ่มแทงอย่างแรง จนเลือดไหลออกมาไม่หยุด

หลี่ซวนหมิงไม่คิดที่จะปล่อยศัตรูให้หลุดมือไป เขาได้เดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยชี้นิ้วปีศาจโจมตีออกไป ครั้งสุดท้ายเขาได้เจาะเข้าไปในหัวใจโดยตรงและฆ่าอีกฝ่ายลงอย่างง่ายดาย!

ส่วนการต่อสู้ของหลิวเจิ้งสงและอู๋เถิงก็ค่อยๆได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเริ่มเข้าที่แล้ว

“ท่านอาจารย์ฮุยคง! ค่ายกลถูกทำลายแล้ว! หากเราไม่รีบดำเนินการ เราทุกคนคงจะตายอยู่ในนี้แน่นอน ท่านไม่คิดจะลงมือทำอะไรเลยหรือ!” ผู้บ่มเพาะคนหนึ่งของนิกายเสินกังได้วิ่งเข้ามาและตะโกนเสียงดัง เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดนูนขึ้นมาเหมือนกำลังจะระเบิดออก  เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธที่ชายคนนั้นไม่ลงมือทำอะไรเลย

หลี่ซวนหมิงและอีกสองคนตกใจและสับสน  ฮุยคง? นักบวชจากวัดจินหลงก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?

ทว่าในตอนนั้นก็มีเสียงที่ไม่พอใจดังมาจากห้องด้านข้างทันที “โง่เขลา! ข้ากำลังรอโอกาสที่ดีในการลงมือกับศัตรู แต่เจ้าก็เปิดเผยตำแหน่งของข้าออกมาจนได้!”

ช่วงเวลาต่อมา ดาบก็แทงทะลุกำแพงออกมาและพุ่งตรงมาโจมตีอู๋เถิงทันที แสงสีทองอร่ามและออร่าอันเฉียบคมทำให้ผมของทุกคนถึงกับลุกตั้ง! อู๋เถิงแอบตะโกนว่าแย่แล้ว และถูกบังคับให้หลบ ดาบที่พุ่งเข้ามาเฉียดหัวของเขาไป และยังเฉือนเส้นผมของเขาออกไปเป็นกระจุก  อู๋เถิงรีบเอามือลูบหัวของตัวเอง เกือบจะต้องหัวล้านไปแล้วจริงๆ!

“หึ  ในเมื่อรู้ตำแหน่งของข้าแล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องซ่อนตัวอีกต่อไป” มีเสียงเยาะเย้ยดังขึ้นมา

ปัง ...ร่างที่สง่างามและกำยำกระโดดออกมาจากห้องๆ หนึ่ง และมาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน รูปร่างของนักบวชรูปนี้สูงกว่าแปดฟุต มีไหล่กว้างและเอวคลอด สวมจีวรสีเหลืองสด แม้แต่ถุงเท้าที่ยาวขึ้นมาถึงเข่าก็ยังเป็นสีเหลือง

ดาบที่พุ่งออกมาเมื่อครู่นี้ได้บินกลับมาที่ฝ่ามือของเขา

“นักบวชสงครามฮุยคงแห่งวัดจินหลง!” การแสดงออกของหลิวเจิ้งสงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ฉู่เสวียนนอนอยู่บนหลังคามองดูการต่อสู้ของพวกเขาอย่างครุ่นคิด ผู้บ่มเพาะของวัดจินหลงนั้นแบ่งออกเป็นสองประเภท นั้นก็คือผู้บ่มเพาะสงคราม และผู้บ่มเพาะพระสูตร

ผู้บ่มเพาะสงครามนั้น จะให้ความสำคัญกับการต่อสู้เป็นหลัก และเก่งในการกำจัดสิ่งชั่วร้ายพวกภูติผีปีศาจ พวกเขามักจะออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อกำจัดปีศาจ ดังนั้นศิษย์ของนิกายอู๋จี๋จึงมักจะต่อสู้กับนักบวชของวัดจินหลงเป็นประจำ

ส่วนผู้บ่มเพาะพระสูตร จะศึกษาพระไตยปิฎกของพระพุทธศาสนาอยู่ในวัดจินหลงมาตั้งแต่เด็ก ในตอนแรกพลังการต่อสู้ของพวกเขาจะด้อยกว่าของนักบวชสงครามมาก แต่เมื่อความเข้าใจในพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นมาถึงระดับหนึ่งแล้ว ความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มสูงขึ้นทันที เหมือนที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้อย่างนั้น

ซึ่งฉู่เสวียนก็เคยได้ยินชื่อเสียงของฮุยคงมานานแล้ว ซึ่งฮุยคงคนนี้ก็เป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงพอ ๆ กับหลี่ซวนหมิง ทั้งสองต่างก็เป็นคนที่มีคุณสมบัติและมีพรสวรรค์ระดับสูง เมื่ออายุได้สามสิบปีก็สามารถทะลวงผ่านเข้าสู่ช่วงสร้างรากฐานได้สำเร็จ ส่งผลให้บรรพบุรุษของวัดหลงจินหลายคนมีความคาดหวังในตัวเขา

หลี่ซวนหมิงและฮุยคงเคยประมือกันมาหลายครั้ง ซึ่งต่างก็เคยแพ้ชนะมาพอๆกัน

“หลี่ซวนหมิง ผู้บำเพ็ญช่วงสร้างรากฐานหลี่ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เราพบกันอีกแล้ว” ฮุยคงจ้องไปที่หลี่ซวนหมิงแล้วยิ้มออกมาด้วยสีหน้าแปลกๆ

มันเหมือนกับการได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่หายาก

ใบหน้าของหลี่ซวนหมิงเองก็ดูน่าเกลียดไม่ต่างกัน

เขาได้ตรวจสอบสถานการณ์ของคฤหาสน์หยุนอู๋มาอย่างละเอียดแล้วล่วงหน้า และพบว่ามีคนประจำการอยู่ที่นี่เพียงสี่คน

คฤหาสน์หยุนอู๋กักขังหวันอู๋อิง​​ไว้เพื่อเอาเลือดของเขามาสังเวยให้กับวิญญาณชั่วร้าย  และจากนั้นก็ใช้ความแข็งแกร่งของวิญญาณชั่วร้ายในการลับคมดาบของผู้นำนิกายเสินกัง  แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี จึงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจากโลกภายนอก แล้วเหตุใดฮุยคงถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่? เป็นไปได้ไหมว่าวัดจินหลงเองก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย?

หลี่ซวนหมิงจึงตะโกนออกมาว่า "ฮุยคง! วัดจินหลงของเจ้าอวดอ้างตนว่าเป็นนักบวชผู้เลื่อมใส ปฏิบัติตามคำสอนของพุทธศาสนาโดยการทำความดีละเว้นความชั่ว  เห็นอกเห็นใจผู้อื่น แต่เหตุใดตอนนี้เจ้าถึงมาสมรู้ร่วมคิดกับนิกายเสินกังและทำสิ่งชั่วร้าย โดยการกักขังและเอาเลือดของผู้บ่มเพาะไปสังเวยให้กับภูตผีปีศาจเช่นนี้? ”

เมื่อได้ยินที่หลี่ซวนหมิงพูดมา ฮุยคงก็หัวเราะออกมาเสียงดังแล้วพูดว่า "เจ้าพูดไร้สาระอะไร นักบวชที่เลื่อมใสอย่างข้ามาที่นี่เพื่อกำจัดภูติผีปีศาจเท่านั้น ข้าไม่เห็นจะเคยได้ยินเรื่องที่เจ้าพูดมาก่อนเลย "

“แต่ว่าก็ดีแล้ว ที่เศษเดนของนิกายสายมารอย่างพวกเจ้าดั้นด้นมาติดกับดักของข้า!” หลังจากพูดอย่างนั้น ฮุยคงก็กระทืบเท้าจนทำให้พื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ผนังอิฐสีแดงเริ่มแตกออกทีละก้อน

ชั่วขณะหนึ่ง หลี่ซวนหมิง, หลิวเจิ้งสง, อู๋เถิงและผู้บ่มเพาะทั้งสี่ของนิกายเสินกังก็ไม่สามารถยืนหยัดให้มั่นคงได้อีกต่อไป

“เทคนิคพิภพสะเทือน!” ฉู่เสวียนสามารถบอกชื่อของเทคนิคอันเป็นเอกลักษณ์ของวัดจินหลงออกมาได้อย่างรวดเร็ว

ผู้บ่มเพาะแห่งวัดจินหลงนั้นขึ้นชื่อเรื่องความกล้าหาญมาโดยตลอด

เทคนิคพิภพสะเทือนนี้สามารถทำให้คู่ต่อสู้ไม่อาจยืนหยัดได้ แต่นักบวชสงครามที่ใช้เทคนิคนี้ออกมาจะสามารถเดินบนพื้นดินที่สั่นสะเทือนได้อย่างราบรื่น

“ถึงเวลาที่ข้าจะต้องส่งพวกเจ้าไปลงนรกแล้ว!”ฮุยคงยิ้มออกมาแปลก ๆ และสั่งการให้ดาบของเขาพุ่งออกไปโจมตีหลิวเจิ้งสง

ทันใดนั้นจีวรบนร่างกายส่วนบนของเขาก็บินออกไปราวกับแมงมุมที่มีเขี้ยวและกรงเล็บ  มุ่งตรงไปที่อู๋เถิงโดยตรง

ในเวลาเดียวกันเขาก็บีบลูกประคำในมือให้บินลอยไปทางหลี่ซวนหมิง!

ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเขาได้เปิดใช้งานอาวุธเวทย์มนตร์สามชิ้นติดต่อกัน เพื่อให้พวกเขาออกไปโจมตีหลี่ซวนหมิงและอีกสองคนในเวลาเดียวกัน!

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมองดูแสงของอาวุธเวทย์มนต์เหล่านี้ ก็เห็นได้ชัดว่าดาบและลูกประคำนั้นเป็นอาวุธคุณภาพดีและอยู่ในระดับสูง !

ส่วนจีวรนั้นเป็นอาวุธเวทย์มนตร์เกรดที่ต่ำกว่าเล็กน้อย แต่ก็เป็นอาวุธเวทย์มนตร์ระดับกลางที่ทรงพลังเช่นกัน

"บ้าเอ้ย" หลี่ซวนหมิงสบถออกมาอย่างลับๆ และรีบหลบการโจมตีอย่างรวดเร็ว

ทั้งที่เขามีความแข็งแกร่งพอที่จะหลบหนี แต่ก็แทบจะไม่รอดจากการโจมตีของลูกประคำนี้เลย

แต่การหลบเลี่ยงของหลิวเจิ้งสงนั้นช้าไปเล็กน้อย  ทำให้แขนของเขาถูกคมดาบเฉือนเนื้อออกไปจนเป็นแผลเหวอะหวะ ทำให้เลือดไหลออกมาในทันที

เขาร้องโอดครวญออกมาและรีบระงับความเจ็บปวดไว้ ก่อนจะถอยกลับออกมาตั้งตัว

ส่วนอู๋เถิงนั้นดูน่าสังเวชมากที่สุด เนื่องจากอาการบาดเจ็บของเขายังไม่หายดี เมื่อเขาบังคับตัวเองให้หลบเลี่ยงการโจมตี ก็ส่งผลทำให้อาการบาดเจ็บที่หน้าอกของเขากำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ในชั่วพริบตา เขาก็ถูกผ้าจีวรพันรอบตัว

ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังพัวพันอยู่กับงูหลามตัวใหญ่ ภายในไม่กี่อึดใจ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะถูกจีวรรัดจนหายใจไม่ออก และเกือบจะตาย

ฮุยคงหัวเราะออกมาเสียงดัง "อ่อนแอเกินไป! ผู้บำเพ็ญสายมารของนิกายอู๋จี๋อ่อนแอขนาดนี้เชียวหรือ?"

หลิวเจิ้งสงกำหมัดของเขาแน่น

ฮุยคงคนนี้เจ้าเล่ห์จริงๆ

เขาจงใจให้ผู้บ่มเพาะทั้งสี่ของนิกายเสินกังมาเป็นด่านหน้า เพื่อผลาญพลังวิญญาณของพวกเขาออกไปจำนวนมาก และยังได้เห็นเทคนิคต่างๆ ที่พวกเขาใช้ต่อสู้กับศัตรูอีกด้วย

แต่ถ้าหากว่าเขาล่าถอยออกไปในตอนนี้ ก็พอจะมีโอกาสหนีไปได้ทัน

"ถอนตัว!" หลี่ซวนหมิงกัดฟัน ชูธงสีดำผืนใหญ่ออกมา แล้วเดินจากไป

การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของฮุยคงทำให้แผนการของพวกเขาหยุดชะงักลงไปอย่างสิ้นเชิง

หากว่าดำเนินการล่าช้ากว่านี้  กำลังเสริมจากนิกายเสินกังและวัดจินหลงจะต้องมาถึงที่นี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อถึงตอนนั้น แม้ว่าอยากจะหลบหนี ก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้

เมื่อธงสีดำปลิวลงสู่พื้นวิญญาณชั่วร้ายนับหมื่นก็ได้หลั่งไหลออกมา มุ่งหน้าตรงไปยังฮุยคงและผู้บ่มพาะคนอื่นๆของนิกายเสินกัง

นี่คืออาวุธเวทย์มนตร์ระดับสูง!

มันเป็นหนึ่งในไพ่ตายของหลี่ซวนหมิง

แม้แต่จีวรที่พันรอบตัวอู๋เถิงก็ถูกวิญญาณชั่วร้ายจำนวนมากพุ่งเข้าไปโจมตี จนจีวรหลุดออกจากตัวอู๋เถิงทันที

สมาชิกทั้งสามคนของนิกายเสินกังก็ได้ใช้วิธีต่างๆ อย่างรวดเร็วเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของวิญญาณชั่วร้าย

ทว่าฮุยคงยังคงนิ่ง และดูไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขายิ้มออกมาแปลกๆ “จะหลบหนีอย่างนั้นหรือ? เจ้าได้ถามข้าหรือยัง?”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด