ตอนที่ 107 เด็กน้อยที่อยู่ตามลำพัง (ฟรี)
ตอนที่ 107 เด็กน้อยที่อยู่ตามลำพัง
ซ่งเฉิงจุนโกรธมากในครั้งนี้ คำพูดของเขาจึงดูรุนแรงเล็กน้อย
ใบหน้าของเจิ้งเหวินอันก็ดูไม่ดีนัก ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ ยกเว้นคำพูดหยาบคายของฉู่เจียงเยว่ที่เขาได้ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกดุอย่างรุนแรง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นความผิดของเขาจริงๆ และเจิ้งเหวินอันก็ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ
หากเขาทำให้ซ่งเฉิงจุนไม่พอใจ ชีวิตของเขาในทีมจะยากยิ่งกว่าตอนนี้อย่างแน่นอน
“ผมขอโทษ มันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
ตอนนี้ นอกเหนือจากคำขอโทษแล้ว เจิ้งเหวินอันก็อะไรไม่ได้อีก
เดิมทีเขาแค่จะพักสาย นึกไม่ถึงว่าจะเผลอหลับไป และที่โชคร้ายที่สุดคือ ในเวลานั้นมีคนแอบเข้ามา
หากฉู่เจียงเยว่ไม่ตื่นขึ้นมา และค้นพบชายคนนั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
อาจกล่าวได้ว่าเจิ้งเหวินอันต้องขอบคุณฉู่เจียงเยว่สำหรับสิ่งที่เกิดในวันนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูท่าทีของเจิ้งเหวินอันแล้ว เขาคงไม่คิดจะกล่าวคำขอบคุณเลย
แต่ฉู่เจียงเยว่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ทัศนคติของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน สำหรับบางคนคำว่า ‘ขอบคุณ’ อยากที่จะแงะออกมาจากปาก
เมื่อมาถึงจุดนี้ ความประทับใจของฉู่เจียงเยว่ที่มีต่อเจิ้งเหวินอันก็ต่ำลงยิ่งกว่าเดิม
“ใกล้เช้าแล้ว รีบเก็บของ และเตรียมตัวออกเดินทางต่อกันเถอะ”
ฉู่เจียงเยว่มองไปที่ท้องฟ้าสีซีดข้างนอกแล้วพูดเบาๆ
ซ่งเฉิงจุนก็มองดูท้องฟ้าด้านนอก และเห็นด้วยกับคำแนะนำของฉู่เจียงเยว่
เนื่องจากพวกเขาตื่นขึ้นมากะทันหัน หลายคนจึงยังมีสีหน้าเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่พวกเขาก็รวบรวมพลังกาย และเก็บข้าวของ
เจิ้งเหวินอันรู้ว่าเขาได้ปลุกความไม่พอใจของคนอื่นๆ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะพูดอะไรในตอนนี้ และกลับไปเก็บข้าวของอย่างเงียบๆ
หลังจากที่ทุกคนเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เดินออกจากบ้าน และได้ประจันหน้ากับซอมบี้ที่เดินเตร่อยู่ข้างนอก พวกมันคงเดินมาจากที่อื่นในยามค่ำคืน
คนที่เดินอยู่หน้าสุดคือซ่งเฉิงจุน ขณะที่ซอมบี้วิ่งเข้ามาหาเขา ซ่งเฉิงจุนก็รีบยกเท้าขึ้นเตะออกไป
ซอมบี้ไม่มีเวลาหลบ และสุดท้ายก็ถูกซ่งเฉิงจุนเตะกระเด็นออกไปหลายเมตร
"ดูเหมือนจะมีซอมบี้ที่นี่มากกว่าในเมือง B"
ทันทีที่พวกเขาเดินออกไป พวกเขาก็พบกับซอมบี้หลายตัว
“แถวนี้คงไม่ค่อยมีเสบียงเหลือแล้ว จึงไม่มีใครมาคอยเก็บกวาดพวกมัน”
หากไม่มีใครมาคอยจัดการซอมบี้เป็นประจำ ในบริเวณนั้นก็จะมีซอมบี้เพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ
แม้ว่าซอมบี้จะกินเนื้อ แต่พวกมันก็ไม่อดตายหากไม่ได้กินเป็นเวลานาน
การโจมตีผู้คนเมื่อพบเห็นเกิดจากสัญชาตญาณเท่านั้น
"ขึ้นรถกันเถอะ"
จากการเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้ครั้งก่อน ทุกคนจึงเลือกที่จะเปิดระบบนำทาง และเช่ารถของทางโรงแรมเจียงหลิน
หลังจากเข้าสู่เมือง L แล้ว ซ่งเฉิงจุนก็เริ่มเปิดดูโทรศัพท์ดาวเทียม โดยหวังว่าจะได้รับข้อมูลบางอย่าง แม้ว่าความหวังนี้จะน้อยนิดมากก็ตาม
สนามแม่เหล็กของโลกนั้นเกิดเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน และทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ถือว่าเขาโชคดีที่ได้รับข่าวก่อนหน้านั้น
เนื่องจากไม่มีทิศทางที่แน่นอน ในที่สุดซ่งเฉิงจุนจึงพาทุกคนขับรถไปตามถนน
“จิ้งจอกน้อย เธอเจออะไรบ้างไหม”
ฉู่เจียงเยว่ไม่ต้องการเสียเวลามากเกินไปในการค้นหา เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเสบียง แต่คนอื่นๆ นั้นต้อง
“โฮสต์ ฉันยังไม่ร่องรอยใดๆ น่าจะยังไม่มีฐานผู้ลี้ภัยอยู่ใกล้ๆ”
ระยะการสแกนของจิ้งจอกน้อยมีจำกัด ฉู่เจียงเยว่จึงไม่แปลกใจกับคำตอบนี้
“หากเจออะไรให้รีบบอกฉันด้วย”
“ได้เลยโฮสต์!”
จิ้งจอกน้อยเต็มใจยอมรับคำขอของฉู่เจียงเยว่
ซ่งเฉิงจุนซึ่งขับรถอยู่ข้างหน้าเลือกเส้นทางที่ดูจะเป็นไปได้มากที่สุด และในที่สุดก็เข้าสู่เขตตัวเมืองของเมือง L ด้วยขบวนรถได้สำเร็จ
จำนวนซอมบี้ที่นี่หนาแน่นกว่าที่พวกเขาเห็นเมื่อเช้านี้มาก คนที่ไม่รู้ว่าจะคิดว่าพวกเขากำลังถูกซอมบี้ปิดล้อมอยู่
หลังจากเก็บกวาดซอมบี้ที่อยู่รอบๆ กลุ่มนี้ก็เข้าไปในธนาคารแห่งเดียวที่ตัวล็อคประตูยังคงอยู่
หลังจากเข้าไปในธนาคาร พวกเขาก็พบว่ามีคนอยู่ข้างใน
เป็นเด็กสองคน เด็กสาวมีอายุมากกว่า ประมาณเจ็ดหรือแปดขวบ ส่วนเด็กชายตัว ดูเหมือนเขาอายุแค่สามขวบเท่านั้น
เด็กน้อยทั้งสองคุยกัน โดยมองพวกเขาด้วยดวงตาขาวดำคู่หนึ่งที่ดูขี้อาย
แม้ว่าเธอจะกลัว แต่เด็กสาวก็ยังคงรวบรวมความกล้าเพื่อพยายามปกป้องเด็กอีกคนที่อยู่ข้างหลัง
แม้แต่ฉู่เจียงเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจเมื่อเห็นภาพนี้ และแทบจะหลั่งน้ำตา
มีหลายเรื่องที่น่าสะเทือนใจเกิดขึ้นหลังวันสิ้นโลกมาถึง
“ไม่ต้องกลัว เรามาที่นี่เพื่อหาฐานผู้ลี้ภัย หนูรู้ไหมว่าเมืองนี้มีที่แบบนั้นอยู่หรือเปล่า”
ซ่งเฉิงจุนพยายามอย่างเต็มที่ๆ จะพูดกับเด็กทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดที่เขาจะทำได้
เด็กทั้งสองไม่พูดอะไร และถอยหลังไปหนึ่งก้าว
ซ่งเฉิงจุนเม้มริมฝีปาก ไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้าดี
“ที่นี่มีแค่พวกเธอสองคนเหรอ? พ่อแม่ของพวกเธอล่ะ ไปอยู่ที่ไหน”
ฉู่เจียงเยว่อุ้มลูกเสือแล้วก้าวมาข้างหน้า นั่งยองๆ และมองเด็กทั้งสองด้วยระดับสายตาเดียวกัน
หากเด็กสองคนนี้อยู่ที่นี่ตามลำพัง พวกเขาจะไม่กลัวว่าจะมีซอมบี้บุกเข้ามาทุกเมื่องั้นเหรอ
“พ่อแม่... ฮึกฮือ พวกเขา...”
เด็กสาวไม่ตอบ แต่เด็กชายที่ยังอายุน้อย เมื่อฉู่เจียงเยว่ถาม เขาก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
แม้จะพูดไม่จบ พวกเขาก็พอเดาได้ หลายคนจึงถอนหายใจ
ฉู่เจียงเยว่หยิบซาลาเปา และเครื่องดื่มเย็นออกมาจากมิติส่วนตัวของระบบแล้วมอบให้เด็กทั้งสอง
“รับไป ลองกินดูจะได้รู้สึกดีขึ้น”
ฉู่เจียงเยว่เดาว่าพ่อแม่ของพวกเขาต้องกลายเป็นซอมบี้ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเพราะได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
แม้ว่าเด็กสองคนนี้จะค่อนข้างขี้อาย แต่พวกเขายังคงดูมีน้ำมีนวล ไม่ได้ดูหิวโซ และเสื้อผ้าของพวกเขาก็ไม่สกปรกมากนัก
แต่เด็กน้อยที่เสียพ่อแม่ไปเช่นนี้ไม่มีทางอยู่รอดในโลกแบบนี้ได้อย่างแน่นอน
ฉู่เจียงเยว่ไม่ใช่ผู้กอบกู้ แต่เธอก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นเด็กน้อยตายลงต่อหน้า
เมื่อเห็นฉู่เจียงเยว่เสกบางสิ่งด้วยมือเปล่า ดวงตาของเด็กทั้งสองก็แสดงอาการตกใจ
“พี่สาว พี่เป็นนางฟ้าเหรอ!”
หลังจากที่เด็กชายตกใจ ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขายังเดินออกมาจากด้านหลังของเด็กสาว และมองดูฉู่เจียงเยว่ด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
“ใช่แล้ว พี่เป็นนางฟ้า พี่ถึงมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเธอ อยากไปกับพี่ไหม?”
หากเด็กทั้งสองอยู่ที่นี่ต่อ พวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน อยู่ที่ว่าช้าหรือเร็วเท่านั้น ดังนั้นจะพากลับไปกับเธอ
"ไป!"
เด็กชายตอบรับโดยไม่ลังเล แต่ใบหน้าของเด็กสาวยังดูมีความลังเลอยู่
ฉู่เจียงเยว่จึงพยายามหว่านล้อม “ฉันจะให้พวกเธอมาช่วยงาน และให้เงินเป็นค่าตอบแทน เธอคิดว่าไง?”
เป็นเรื่องดีที่เด็กสาวคนนี้ระวังตัว แม้จะอายุยังน้อย เธอก็ดูค่อนข้างฉลาด
ฉู่เจียงเยว่จึงใช้วิธีการอื่นในการเจรจากับเด็กสาวตรงหน้า
ทุกคนมองดูเด็กสาวที่ยังลังเล เพราะหากเธอไม่เห็นด้วยก็จะไม่มีทางที่จะทำอะไรต่อได้
“เหมือนพ่อแม่ของหนูที่ไปทำงานหาเงินเพื่อซื้อเสื้อผ้าสวยๆ มาให้พวกหนูเหรอ?”
เด็กสาวคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมา
“ใช่แล้ว เธอมาทำงานให้ฉันแล้วฉันจะให้เงินเป็นค่าตอบแทน”
ฉู่เจียงเยว่ยื่นซาลาเปา และเครื่องดื่มเย็นในมือออกไป
"ตกลง เราจะไปด้วย"
ในท้ายที่สุด เด็กสาวไม่สามารถทนกลิ่นของซาลาเปาได้ และตอบรับข้อเสนอของฉู่เจียงเยว่
“เอาไปกินรองท้องกันก่อน ถ้ายังไม่อิ่มก็บอกพี่ได้”