ตอนที่แล้วบทที่ 4 เหลียงเฉินผู้เชื่อฟัง (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 การเยี่ยมบ้านที่แสนวุ่นวาย (2)

บทที่ 5 การเยี่ยมบ้านที่แสนวุ่นวาย (1)


เสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้น

โรงเรียนมัธยมต้นเป่ยเหมินไม่สามารถค้างได้ หลังเลิกเรียนในตอนบ่ายก็กลับบ้านได้เลย

นักเรียนส่วนใหญ่ในชั้นเรียนต่างรีบร้อนเก็บกระเป๋า รอเวลาเลิกเรียนและรีบออกไปหลังเลิกเรียน แม้แต่จัวเซ่าก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่เหลียงเฉินกลับค่อย ๆ เก็บของอย่างไม่รีบร้อนและกลับทีหลังสุด

บ้านของเขาไม่มีใคร เมื่อเทียบกันแล้ว เขาอยากอยู่ที่โรงเรียนมากกว่ากลับบ้าน

เหลียงเฉินมองจัวเซ่าจากไปอย่างรวดเร็วก่อนจะเก็บหนังสือลงกระเป๋า จากนั้นเขาก็หยิบกล่องชาดำเย็นที่ไม่มีหลอดออกมาจากกระเป๋า

หยิบกรรไกรออกมา กำลังวางแผนจะตัดชาดำเย็นกล่องนี้ดื่ม เหลียงเฉินก็นึกขึ้นได้ว่าเขาสัญญากับจัวเซ่าว่าจะไม่ดื่มเครื่องดื่มพวกนี้อีก...

เอาชาดำเย็นเก็บใส่กระเป๋า เหลียงเฉินเดินออกไปนอกโรงเรียนโดยสะพายกระเป๋าไว้ข้างหลัง

บริเวณประตูโรงเรียนคึกคักมาก แผงขายไส้กรอกทอดหลายร้านเต็มไปด้วยผู้คน...

กลิ่นหอมลอยเตะจมูก เหลียงเฉินรู้สึกหิวขึ้นมา

ครอบครัวคนเดียวของเหลียงเฉินคือ พ่อของเขา หนึ่งปีมานี้เขาได้เจอพ่อไม่กี่ครั้ง เมื่อก่อนเวลากินข้าวเย็นมักจะซื้อขนมไปกิน บางครั้งก็จะกินไส้กรอกทอดหรือไม่ก็ขาไก่ทอดจนอิ่ม แต่วันนี้...

จัวเซ่าบอกให้เขากินขนมให้น้อยหน่อย จัวเซ่าบอกว่าเขาอ้วนแล้ว

เหลียงเฉินหันมองไปยังถนนอีกครั้ง เข้าไปในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดร้านหนึ่ง

ราคาห้าหยวนสามารถกินอาหารจานเนื้อและเลือกอาหารจานผักได้อีกสองสามอย่าง หากราคาสามหยวนจะได้เพียงอาหารจานผักอย่างเดียว

เหลียงเฉินกัดฟันไปมา เอาเซตราคาสามหยวนมากิน

และในเวลานี้จัวเซ่าก็กลับถึงบ้านแล้ว

โรงเรียนประถมเลิกเร็วกว่า ในตอนที่จัวเซ่ากำลังกลับ จัวถิงก็กลับถึงบ้านแล้ว เธอกำลังซักผ้า แถมผ้าที่ซักก็ยังไม่ใช่ผ้าของตัวเองอีก เป็นเสื้อผ้าของครอบครัวจัวเจียเป่า

ชวีกุ้ยเซียงให้จัวเจียเป่าอาศัยอยู่ที่บ้านหลังใหม่ ไม่ใช่เพื่อให้จัวเจียเป่าอยู่อย่างอิสระ แต่เพียงให้เขาหาคู่ได้ง่ายขึ้น

ทุกวันเธอเวียนไปที่บ้านจัวเจียเป่าหลายครั้ง ไม่เพียงไปทำความสะอาดบ้านให้จัวเจียเป่า ยังไปเอาเสื้อผ้าของจัวเจียเป่ากลับมาซัก

ทีแรกเธอก็ยังเป็นคนซักเอง ต่อมาก็ใช้จัวเซ่าและจัวถิงแทน

จัวเซ่าไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน ทั้งยังมีโทสะ นอกจากเสื้อผ้าของตนเองก็ไม่ยอมซักของใครทั้งนั้น ชวีกุ้ยเซียงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการให้เขาทำงาน ต่อมาก็ไม่ตะโกนเรียกเขาแล้ว แต่ให้จัวถิงช่วยซักแทน

แม้ว่าจัวเซ่าจะช่วยให้จัวถิงไม่ต้องซักได้ แต่เพราะจัวถิงเรียนอยู่ชั้นประถม เลิกเรียนก่อนเขาประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง ในตอนที่จัวเซ่าไม่อยู่บ้าน สุดท้ายเธอก็ถูกชวีกุ้ยเซียงผลักภาระให้ทำงานบ้าน

“ถิงถิง” จัวเซ่าเห็นจัวถิงกำลังซักผ้า คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันทันที เมื่อเห็นว่ามีกางเกงในอยู่ในกะละมังด้วย เขาก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม

จัวถิงเห็นสีหน้าของจัวเซ่าก็รีบพูดออกมาอย่างรวดเร็ว “พี่ชาย หนูไม่เป็นไร หนูซักเสร็จหมดแล้ว”

“ถิงถิง ต่อไปน้องไม่ต้องไปซักผ้าให้พวกเขาอีกแล้ว” จัวเซ่าเอ่ยบอกน้องสาว สายตาตกลงไปที่มือขวาที่พิการของจัวถิง

มือขวาของจัวถิงนิ้วหัวแม่มือปกติดี อีกสี่นิ้วที่เหลือติดกันและบิดเบี้ยวเล็กน้อย...มือขวาของเธอทำอะไรไม่ได้หลายอย่าง แต่มือซ้ายปกติดี ไม่มีผลต่อการใช้ชีวิต จึงถูกบังคับให้ถนัดซ้ายไปโดยปริยาย

“เอาเถอะ” จัวถิงพยักหน้า และในขณะนั้นก็มีเสียง “ปัง” ดังขึ้นในครัว

จัวเซ่ามองไปทางห้องครัวต้นกำเนิดของเสียงนั้นด้วยความประหลาดใจ

เมื่อตอนเที่ยงเขาใช้เมล็ดข้าวอุดรูระบายของหม้ออัดแรงดันเอาไว้ สิ่งที่คิดคือต้องการจะให้หม้ออัดแรงดันระเบิด

แรงระเบิดของหม้ออัดแรงดันไม่แรงพอที่จะทำร้ายใครหรือสร้างความเสียหายอะไรมากมาย แต่สามารถทำให้ชวีกุ้ยเซียงหวาดกลัวและสอนบทเรียนเล็กน้อยให้กับเธอ

แต่ตอนนี้หม้ออัดแรงดันระเบิดแล้วเหรอ?

หม้ออัดแรงดันระเบิดแล้ว

ชวีกุ้ยเซียงจะใช้หม้ออัดแรงดันเฉพาะเวลาปรุงเนื้อสัตว์เท่านั้น เมื่อเธอใช้หม้อตุ๋นหมูน้ำแดงเมื่อตอนกลางวัน เธอจะไม่ใช้หม้ออัดแรงดันในตอนเย็นอีก แต่ในหมูตุ๋นน้ำแดงที่เธอทำเมื่อตอนกลางวันมีแมลงสาบอยู่ข้างใน

วันนี้สามีของเธอ จัวหรงหมิงจะกลับมาทานอาหารเย็นที่บ้าน หลังจากกินเนื้อเข้าไปได้สองชิ้น เขาก็กินแมลงสาบเข้าไป เธอจึงถูกเขาด่าอย่างรุนแรง...

ในเนื้อมีแมลงสาบเข้าไป ชวีกุ้ยเซียงไม่ได้คิดว่ามันสำคัญอะไร แค่เลือกแมลงสาบออกก็พอ แค่นี้ก็กินต่อได้แล้ว แต่จัวเจียเป่าลูกชายของเธอท้องไม่ดี กินอาหารสกปรกเข้าไปอาจจะท้องเสียได้ เนื้อที่ถูกแมลงสาบเดินไปมาเอาให้เขากินไม่ได้แน่นอน

ชวีกุ้ยเซียงรีบวิ่งไปที่ตลาดสด ซื้อเนื้อชิ้นใหม่ กลับถึงบ้านก็เอาเนื้อเข้าหม้ออัดแรงดัน

ผลลัพธ์ก็คือ...หม้ออัดแรงดันระเบิด

เสียง “ปัง” ดังขึ้น ฝาหม้ออัดแรงดันถูกเหวี่ยงลอยขึ้นไป เนื้อข้างในก็บินออกมาด้วย ยังมีเนื้อสองสามชิ้นตกใส่ชวีกุ้ยเซียงด้วย...

“อ้า!” ชวีกุ้ยเซียงกรีดร้อง วิ่งออกจากห้องครัวราวกับบินได้ ใบหน้าซีดเผือด

เธอไม่ได้จ้องไปที่จัวเซ่าและจัวถิง ที่จริงแล้วเพราะเธอไม่กล้าพอ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด