ตอนที่แล้วบทที่ 3 พบกันครั้งแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 พาเธอไปโรงพยาบาล

บทที่ 4 อุบัติเหตุ


ซีเซี่ยเย่พยักหน้าตอบรับเล็กน้อย หลุบตาลงจิบชาอีกครั้ง ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจอธิบายออกไปตามตรง “ตอนฉันยังเด็ก แม่ของฉันกังวลเรื่องของฟัน เลยจำกัดขนมและของหวาน โตขึ้นจึงเคยชินและความชอบของฉันก็เปลี่ยนไป”

มู่หยู่เฉินคลี่ยิ้มออกมา แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรโทรศัพท์มือถือที่วางข้างๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เหลือบสายตามองซีเซี่ยเย่ครู่หนึ่งเพื่อขอโทษ แล้วหยิบมันขึ้นมากดรับสาย

คนที่โทรเข้ามาคือหวังฮุย โทรมาถามว่าเขามาตามเวลานัดหรือเปล่า

ได้ยินเสียงวิตกกังวลของหวังฮุยคิ้วของมู่หยู่เฉินก็ขมวดเข้าหากันทันที ฟังเสียงบ่นของหวังฮุยสักพักถึงจะตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส “ผมเจอเธอแล้ว เดี๋ยวกลับไปจะเล่าให้ฟังอีกทีครับ”

เขากดวางสายอย่างเงียบๆ จากนั้นถึงเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า ภาพที่เธอกำลังมองยังท้องฟ้ามืดมิดด้านนอกหน้าต่างพร้อมถือถ้วยชาในมือสะท้อนสู่สายตาของเขา แล้วเสียงเพลงในร้านก็เริ่มบรรเลงเพลงคุ้นเคยขึ้นมา...

บางทีความรักอาจทำให้เราตาบอด

มันเป็นกิเลสทำให้ผู้คนไม่รู้สึกสะทกสะท้านถึงความอันตราย...

ความรักดึงดูดใคร?

ใครจะยอมจำนนต่อความรักและบุกทะลวงเข้าสู่ความเหงาซึ่งถูกกองไฟล้อมรอบอย่างนั้นเหรอ?

หากว่าจุมพิตสามารถเอาชนะความแค้นเคือง...

ลมหนาวพัดเข้ามาทางหน้าต่าง ความหนาวเย็นเข้าครอบงำช่วงเวลาแห่งความเงียบงันในทันที ร่างกายของเซี่ยเย่ถึงกับสั่นเทาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอประสานมือทั้งสองเข้าหากัน ขณะปล่อยมือจากกันก็ได้ยินเสียงมือชนอะไรบางอย่างเข้าอย่างจัง ความร้อนของมันแผดเผาหลังมือของเธอ ตอนนี้พลันสัมผัสได้ถึงฝ่ามือใหญ่ที่กำลังกอบกุมมือของเธอไว้

"ระวังครับ"

น้ำเสียงเป็นกังวลของเขาเผยให้เห็นความรู้สึกอ่อนไหว

ตอนนี้ซีเซี่ยเย่ดึงสายตากลับมามองมือของตัวเอง เห็นว่าหลังมือถูกน้ำชาร้อนๆ ลวก ทำให้แววตานิ่งสงบแปรเปลี่ยนเป็นเขินอายขึ้นมาในทันที อยากจะรีบชักมือกลับและซ่อนมันไว้ แต่ยังไม่ทันขยับมือไปชายหนุ่มตรงหน้าก็ค่อยๆ ยื่นผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดบริสุทธิ์มาให้เธอ

เธอลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือไปรับมาและเช็ดน้ำชาที่เปื้อนบนหลังมือของตัวเองเบาๆ

"ขอบคุณค่ะ"

หลังจากผ่านไปได้ไม่นาน เธอกล่าวขอบคุณเขาเบาๆ ใบหน้าสวยงามเผยรอยยิ้มคล้ายจะขอโทษ

“คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” เขาขมวดคิ้วมุ่น ขณะถามยังจดจ้องมือที่แดงเล็กน้อยของเธอ

ซีเซี่ยเย่ส่ายหน้าเบาๆ เหมือนแสงสว่างในดวงตาของเธอจะเลือนลางหายไป แต่ยังคลี่ยิ้มออกมาและตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ยากเย็นเท่าไหร่นัก “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวกลับไปประคบน้ำแข็งคงดีขึ้น”

“บนท้องฟ้ามีอะไรน่าสนใจขนาดนั้นเหรอครับ ถึงทำให้คุณเหม่อลอยได้ขนาดนี้?”

ดวงตาของมู่หยู่เฉินเป็นประกายวิบวับ มองออกไปนอกหน้าต่างที่เซี่ยเย่มองเมื่อครู่นี้ด้วยท่าทางเฉยเมย สิ่งที่สะท้อนสู่สายตาของเขาคือท้องฟ้ามืดครึ้มเป็นสีเทาที่ไร้ขอบเขต อีกทั้งลมหนาวพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างให้ความรู้สึกชื้น สามารถมองเห็นละอองเม็ดฝนตกลงมาได้อย่างเลือนลาง

“ความจริงฉันไม่ชอบมองท้องฟ้าแบบนี้หรอกค่ะ ฝนที่โปรยปรายลงมาทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด” ซีเซี่ยเย่กุมมือที่โดนลวกตะกี้ไว้เบาๆ มองตรงยังเขาและถอนหายใจออกมา "เหมือนว่าฤดูใบไม้ผลิของเมือง Z ปีนี้จะมาถึงเร็วกว่าปกติ ไม่ทันถึงช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิสภาพอากาศก็เป็นแบบนี้แล้ว”

“อืม... ก่อนหน้านี้ตอนผมผ่านย่านการค้า ได้ยินพวกเขาพูดกันว่าฤดูใบไม้ผลิกำลังจะเริ่มต้นในอีกสองวันนี้” มู่หยู่เฉินตอบกลับมาพลางมองตรงยังเธอ แต่ระหว่างเขากำลังจะหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ สายตาก็เหลือบเห็นมือของเธอที่กำลังถูหลังมืออีกข้าง ทันใดนั้นฝ่ามือใหญ่ของเขาก็ยื่นมาดึงมือข้างที่เธอพยายามปกปิดไว้ จึงเห็นว่ารอยแดงปรากฏบนหลังมือของเธอ...

คิ้วของมู่หยู่เฉินขมวดเข้าหากันยิ่งขึ้น นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งสุดท้ายก็ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางนุ่มนวล พร้อมหยิบกระเป๋าของเธอที่วางข้างๆ ขึ้นมาถือไว้

ซีเซี่ยเย่รู้สึกตกตะลึงขึ้นมาทันที ดวงตาของเธอฉายแววสงสัย แต่ไม่ทันจะถามอะไรออกไปก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเขาพูดขึ้นมาเสียก่อน

“ไปโรงพยาบาลเถอะครับ ไม่อย่างนั้นแผลอาจไม่หาย”

หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไปทันทีโดยไม่รอซีเซี่ยเย่ตอบตกลง

ตอนเขาเดินออกมาจากโรงแรมป่าไม้ไผ่เมเปิ้ล อาโม่ขับรถมาจอดด้านหน้าพอดี แม้รถคันนี้ไม่เหมือนรถหรูยังคล้ายรถพลาสสาทของเธออย่างมากแต่เป็นรุ่นเฟย์ตัน

มันเป็นรถประเภทหนึ่งที่ออกแบบภายในดูหรูหราแต่ภายนอกเป็นเช่นรถธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษ เหมือนเจ้าของรถที่ภายนอกธรรมดาและภายในยากจะหยั่งถึง

"เจ้านายครับ!" อาโม่จอดรถอย่างรวดเร็ว แล้วรีบลงจากรถเพื่อทักทายเขาในทันที

เมื่อเห็นซีเซี่ยเย่ที่ยืนข้างๆ มู่หยู่เฉิน ดวงตาของเขาพลันสว่างวาบขึ้นมา อดคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้ พยายามที่จะสงบนิ่งและค่อยๆ เหลือบสายตาไปมองเจ้านายของเขาอย่างระมัดระวัง เห็นว่าเจ้านายของเขายังคงท่าทางเฉยเมยและนิ่งเงียบเหมือนเช่นเคย

เขาชี้อาโม่และบอกเธอว่า “เขาชื่อ อาโม่”

ซีเซี่ยเย่พยักหน้าตอบรับเล็กน้อย “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ซีเซี่ยเย่!”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณซี!”

อาโม่คลี่ยิ้มตอบกลับพร้อมเปิดประตูรถ

มู่หยู่เฉินชี้นิ้วไปทางรถเพื่อบอกให้ซีเซี่ยเย่เข้าไปนั่งด้านใน

ซีเซี่ยเย่นึกขึ้นมาได้ รถของเธอจอดอยู่ที่จอดรถ ดังนั้นจึงพูดออกไปเบาๆ ว่า “ไม่ต้องลำบากคุณหรอก ฉันขับรถไปเองได้”

มู่หยู่เฉินหลุบตาลงมองมือของเธอที่ยังคงแดงและบวม ปิดฝากระโปรงรถเบาๆ จากนั้นก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “คุณแน่ใจนะว่าตอนนี้ยังขับไปเองได้?”

ซีเซี่ยเย่ก้มลงมองมือของตัวเองทันที ความเจ็บปวดทำให้เธอขมวดคิ้วมุ่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นอาโม่เอาของของเธอไปไว้เบาะหลังเรียบร้อย ก่อนเขาจะเดินขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ ยังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินขึ้นไปนั่งบนรถ

จากนั้นอาโม่ก็เริ่มสตาร์ทรถทันที

“เจ้านายครับ เราจะไปที่ไหนกัน?”

“โรงพยาบาล T” มู่หยู่เฉินตอบกลับด้วยเสียงชัดถ้อยชัดคำ หยิบนิตยสารที่วางข้างๆ ขึ้นมาพลิกอ่าน

ซีเซี่ยเย่ไม่ได้พูดอะไรออกไปเช่นกัน เพียงเอนตัวไปบนเบาะรถ วางมือข้างที่บาดเจ็บบนเข่าของตัวเอง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ถูบนแผลเบาๆ แล้วเอนศีรษะพิงขอบหน้าต่างพลางมองไปด้านนอก

ด้านนอกหมอกปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ ยังมีฝนตกลงมาปรอยๆ ทำให้ถนนเปียก ผู้คนที่เดินตามถนนต่างถือร่มกันคนละคันเดินสวนกันไปมาบนทางเท้า ลมที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างรถที่เปิดเอาไว้ครึ่งหนึ่งทำให้รู้สึกเย็นเล็กน้อย แต่ภายในรถอุ่นทำให้ความหนาวเย็นที่พัดผ่านถูกขับไล่ออกไป

“เมือง Z เปลี่ยนไปมากจริงๆ”

จู่ๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มก็ลอยมาเข้าหูของเธอ ซีเซี่ยเย่หันไปมองเขาทันควัน เห็นว่าเวลานี้มู่หยู่เฉินเงยหน้าขึ้นมาจากนิตยสารที่กำลังอ่านตะกี้และมองไปนอกหน้าต่างรถด้วยท่าทางสงบเช่นกัน

ซีเซี่ยเย่นึกขึ้นมาได้ทันที เขาไปต่างประเทศมาประมาณสองสามปีแล้ว จึงคลี่ยิ้มและพูดออกไปว่า “ใช่ค่ะ โดยเฉพาะไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากนโยบายพัฒนาห้าปีประกาศออกมาที่นี่ก็พัฒนาใหม่ ผู้คนในเมือง Z ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะสร้างเมืองที่เฟื่องฟูเหมือนเมืองทางเหนือ”

Glory World Corporation ที่เธอทำงานมีโปรเจกต์ค่อนข้างเยอะ อีกทั้งเธอยังรับผิดชอบหนึ่งในโปรเจกต์ใหญ่ เพราะอย่างนั้นจึงค่อนข้างรอบรู้เรื่องพวกนี้

“ผมก็เคยได้ยินพวกเขาพูดถึงเหมือนกัน”

จู่ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอ เห็นเธอขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นค่อยเลื่อนสายตาลงไปมองหลังมือของเธอ ตอนนี้หลังมือของเธอเริ่มจะอักเสบแล้ว คิ้วของเขาขมวดกันแน่น บอกอาโม่ที่นั่งด้านหน้าว่า “ไปถึงโรงพยาบาล T ภายใน 10 นาที”

หลังจากออกคำสั่งอย่างเร่งด่วน อาโม่พยักหน้าตอบรับและเร่งเครื่องทันที

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แม้มีหมอกปกคลุมและฝนตกลงมาปรอยๆ แต่ถนนไม่แออัดเหมือนวันทำงาน ดังนั้นรถจึงแล่นผ่านทางหลวงหลายสายไปถึงโรงพยาบาล T ได้อย่างรวดเร็ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด