บทที่ 35 เขาให้มากเกินไป

เฉินอวี่หรานยืนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากอย่างจริงจัง

"หัวหน้าไต้ การทำแบบนี้มันผิดกฎระเบียบนะคะ"

"เจ้าหนูนี่ ยังคงชอบเคร่งครัดกฎเกณฑ์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน"

ไต้หงยิ้มพลางกล่าว "อย่าเครียดไปเลย ฉันก็แค่พูดเล่นๆ ถ้าจะให้หลี่จิ้งเข้าร่วมหน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 จริงๆ ผู้บัญชาการคงไม่อนุมัติแน่"

เฉินอวี่หรานได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเธอจะเคร่งครัดหรือไม่ แต่เป็นเพราะหลี่จิ้งมีพลังแค่ระดับที่สอง ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วมหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ!

ภายในสำนักตรวจการมีหลายแผนกหลายหน่วย ทั้งแผนกรักษาความปลอดภัย แผนกนิติเวช หน่วยสืบสวนคดีพิเศษ หน่วยสนับสนุน และอื่นๆ แต่ละแผนกต่างมีหน้าที่เฉพาะของตน

อย่างแผนกรักษาความปลอดภัยที่เฉินอวี่หรานสังกัดอยู่ รับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อยในเมือง ส่วนแผนกนิติเวชที่หยางชิวจื่อสังกัด ทำหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานและชันสูตรศพผู้เสียชีวิต

ในบรรดาทุกแผนกของระบบตรวจการ หน่วยสืบสวนคดีพิเศษมีอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

คดีพิเศษ!

ลองคิดดู

งานประจำของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษต้องเผชิญกับคดีที่มีระดับอันตรายสูงมาก

อย่างเช่นคดีผู้ฝึกตนปีศาจที่กำลังเผชิญอยู่นี้

การที่ไต้หงนำหน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 มา ก็หมายความว่าเขาจะรับช่วงคดีนี้ต่อ

ถ้าหลี่จิ้งเข้าไปร่วมด้วย จะอันตรายแค่ไหน?

เฉินอวี่หรานขยับตัวบังหลี่จิ้งไว้ข้างหลัง กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ไต้หงก็รีบพูดขึ้นก่อน

"ตอนนี้สถานการณ์ในสำนักงาน อวี่หรานก็รู้ดี เพื่อรับมือกับเรื่องพิษปีศาจทางทะเล แต่ละแผนกถูกดึงกำลังคนไปไม่น้อย โดยเฉพาะหน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ปกติไม่ค่อยมีงาน กำลังหลักถูกดึงไปเกือบครึ่ง จู่ๆ ก็มีคดีแบบนี้เข้ามา ที่นี่ขาดคนอย่างหนัก"

พูดพลางเหลือบมองหลี่จิ้งด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันกลับไปมองเฉินอวี่หราน

"เพื่อรับมือกับคดีฉุกเฉิน การที่ฉันจะยืมตัวคนจากแผนกผู้ช่วยมาชั่วคราว คงไม่ถือว่าเกินไปนะ?"

"..."

เฉินอวี่หรานนิ่งเงียบ

การที่จะยืมตัวคนจากแผนกผู้ช่วยตรวจการ ไม่ถือว่าเกินไปแน่นอน

อันที่จริง มันเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น

แผนกผู้ช่วยตรวจการมีไว้ก็เพื่อช่วยเหลือหน่วยตรวจการอยู่แล้ว

เหตุผลของไต้หง ทำให้เธอไม่สามารถโต้แย้งได้

พูดตามตรง เธอรู้สึกงุนงง

ทำไมไต้หงจู่ๆ ถึงได้มาสนใจหลี่จิ้งแบบนี้?

เนื่องจากไม่มีทางโต้แย้ง และตำแหน่งของไต้หงก็สูงกว่าเธอมาก เฉินอวี่หรานจึงหันไปถาม

"หลี่จิ้ง นายว่ายังไง?"

ขณะที่ถาม เธอก็แอบบีบเอวหลี่จิ้งเบาๆ

หลี่จิ้งกำลังจะตอบ แต่จู่ๆ ก็ถูกบีบเอว จนเกือบมืดหน้าไปด้วยความเจ็บ

มองเห็นเฉินอวี่หรานที่กำลังส่งสัญญาณด้วยสายตาอยู่ตรงหน้า หลี่จิ้งรู้สึกทั้งโมโหและขบขัน

เขาอาจจะไม่ค่อยเข้าใจระบบภายในของสำนักตรวจการนัก

แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีฝีมือแค่ไหน

หน่วยสืบสวนคดีพิเศษ มันเป็นที่ที่คนพลังระดับที่สองอย่างเขาจะไปยุ่งได้หรือ?

หลี่จิ้งไม่เคยเป็นคนที่หลงตัวเอง

และเขาก็มีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดสูงมาก

ไม่ต้องให้เฉินอวี่หรานเตือน เขาก็จะปฏิเสธอย่างสุภาพอยู่แล้ว

แต่เฉินอวี่หรานกลับไม่วางใจเขา ถึงกับลงมือบีบเอวเขา

เอวผู้ชายนั้นบอบบางแค่ไหน?

เฉินอวี่หรานใช้แรงไม่น้อย และมุมที่บีบก็แม่นยำมาก จนเกือบทำให้เขาร้องไห้ออกมา

พยายามกลั้นสีหน้าไว้ หลี่จิ้งมองไปที่ไต้หง

"หัวหน้าไต้ ผม..."

พูดยังไม่ทันจบ ไต้หงก็ยกมือขึ้นห้าม

"คดีนี้อาจเกี่ยวข้องกับคดีผู้ฝึกตรปีศาจเมื่อครึ่งปีก่อน คงรู้แล้วนะ อวี่หรานได้รายงานข่าวขึ้นไปแล้ว ผู้บัญชาการให้ความสำคัญมาก คดีนี้กำหนดให้หน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 ของเรารับผิดชอบสืบสวน ผู้บัญชาการสั่งให้เราต้องปิดคดีภายในเจ็ดวัน ฉันเผชิญกับความกดดันมาก"

พูดจบ ไต้หงเสริมว่า

"ถ้านายยินดีมาช่วยงานฉันชั่วคราว และสามารถให้ความช่วยเหลือที่สำคัญในการไขคดี หลังจากนี้ฉันจะขออนุมัติเงินรางวัลสูงสุดหนึ่งล้านหยวนให้เธอ"

เงินรางวัลสูงสุดหนึ่งล้าน!?

หลี่จิ้งสูดหายใจเฮือก แล้วรีบตอบอย่างเด็ดเดี่ยว

"ผมเป็นผู้ช่วยตรวจการ การร่วมมือกับหน่วยตรวจการเป็นหน้าที่ของผม การรับใช้หน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 ผมยินดีอย่างยิ่งครับ!"

"ดีมาก"

ไต้หงพยักหน้าพอใจ

"..."

เฉินอวี่หราน

เมื่อครู่เธอเห็นหลี่จิ้งเอ่ยปาก สีหน้าชัดเจนว่าจะปฏิเสธอย่างสุภาพ

ไม่คิดว่าไต้หงแค่พูดไม่กี่คำ คนคนนี้ก็เปลี่ยนใจทันที

มีใครเล่นแบบนี้ด้วย?

เธอรู้ว่าหลี่จิ้งจน

เพราะแบบนี้ทุกครั้งที่กินอาหารของหลี่จิ้ง เธอถึงได้จ่ายค่าอาหารให้แยกต่างหาก

แต่ไอ้คนนี่...

เห็นเงินตาโต ก็ควรจะมีขีดจำกัดไม่ใช่หรือ?

เพื่อเงิน ถึงขั้นไม่เอาชีวิตเลยเหรอ?

เห็นเฉินอวี่หรานมองมาด้วยสีหน้าอึ้งงง หลี่จิ้งก็ยิ้มแหยๆ

เรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากปฏิเสธ

แต่เป็นเพราะไต้หงให้มากเกินไปต่างหาก!

หนึ่งล้าน!

เขาขายไก่ปีศาจกับปลาปีศาจไปอย่างละตัว รวมกันก็ได้แค่แปดแสนกว่า

รวมกับเงินรางวัลที่เฉินอวี่หรานเอากลับมาให้ และเงินรางวัลที่แผนกผู้ช่วยตรวจการจ่ายให้ ก็รวมได้แค่หนึ่งล้านหนึ่งแสน

ที่เขาสามารถหาเงินได้มากขนาดนั้นในเวลาอันสั้น ก็เพราะได้ประโยชน์จากพิษปีศาจทั้งนั้น

ตอนนี้เรื่องพิษปีศาจจบลงแล้ว คงไม่มีเรื่องแบบนี้อีก

หลังจากนี้เขาจะหาเงินก็คงยากแล้ว!

เห็นหลี่จิ้งกับเฉินอวี่หรานจ้องตากันอยู่ ไต้หงมองดูทั้งสองคนอย่างสนใจ แล้วเอ่ยขึ้น

"อวี่หราน เธอก็มาช่วยงานที่หน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 ของเราด้วย ส่วนหลัวจื่อเจ๋อไม่ต้องมา ตอนนี้แผนกรักษาความปลอดภัยก็ขาดคนเหมือนกัน ถ้าพวกเธอทั้งสองคนถูกย้ายมาที่หน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 ชั่วคราว ตำแหน่งที่แผนกรักษาความปลอดภัยก็จะขาดคนไปหนึ่งทีม หัวหน้าแผนกของพวกเธอต้องมาหาเรื่องฉันแน่"

เฉินอวี่หรานได้ยินดังนั้นก็หันกลับมา ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร

คดีนี้แต่เดิมควรจะเป็นของเธอกับหลัวจื่อเจ๋อ แต่พอพัวพันถึงนักพรตมารจึงถูกส่งต่อให้หน่วยสืบสวนคดีพิเศษ

หน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 ขาดคนจึงเชิญเธอมาช่วย เธอไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

แน่นอนว่า เหตุผลสำคัญที่สุดคือ เธอไม่วางใจหลี่จิ้งที่เห็นแก่เงินจนไม่คิดถึงชีวิต

ได้รับการตอบรับจากเฉินอวี่หราน ไต้หงก็ยิ้มอย่างพอใจ

ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ที่ไปตรวจสอบศพหนูปีศาจก็รีบร้อนเดินกลับมาใกล้ๆ

"หัวหน้า หนูที่พี่ผู้ช่วยคนนี้สังหาร ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าเป็นหนูปีศาจครับ"

รายงานพลางเหลือบมองหลี่จิ้งกับเฉินอวี่หราน ใบหน้าแสดงความลังเล

ไต้หงเห็นท่าทางนั้นจึงกล่าว

"มีอะไรก็พูดมาตรงๆ พวกเขาสองคนได้รับการโยกย้ายชั่วคราวมาที่หน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 ของเราเพื่อร่วมสืบสวนคดี ไม่ต้องปิดบังอะไร"

คนผู้นั้นได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่ง มองหลี่จิ้งอย่างประหลาดใจ แล้วลดเสียงลงพูด

"ในขนหนูปีศาจตรวจพบพลังปีศาจ และยังมีร่องรอยพิษปีศาจหลงเหลืออยู่เล็กน้อย"

"พิษปีศาจ?"

มุมตาของไต้หงกระตุก สั่งการว่า

"นำศพหนูอสูรกลับไปให้แผนกนิติเวช ให้พวกเขาใช้เครื่องมือเฉพาะทางตรวจสอบ แล้วทำรายงานละเอียดมาให้ฉัน"

"เข้าใจแล้วครับ"

ชายคนนั้นรับคำอย่างรวดเร็ว แล้วหมุนตัวเดินจากไป

มองดูลูกน้องเดินห่างออกไป ไต้หงขมวดคิ้วมองไปที่เฉินอวี่หราน

"เรื่องมันยิ่งซับซ้อนขึ้นทุกที"

"อืม"

เฉินอวี่หรานตอบเบาๆ นวดขมับเล็กน้อย

"พูดตามตรง ตอนที่หลี่จิ้งแจ้งฉันว่าพบสัตว์ปีศาจที่ถูกควบคุมแอบดูสถานที่เกิดเหตุ ผมก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนสถานการณ์ที่แย่ที่สุดก็เกิดขึ้นจริงๆ"

พูดพลางเธอก็กล่าวต่อ

"เมื่อพัวพันถึงพิษปีศาจ ก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมคนร้ายถึงกล้าก่อเหตุในเจียงไห่อย่างไม่เกรงกลัว เขตเป่ยเฉิงช่วงก่อนหน้านี้มีอาหารทะเลที่ถูกพิษปีศาจแทรกซึมไหลเข้ามาจำนวนมาก ถ้าผมเดาไม่ผิด คนร้ายคงค้นพบร่องรอยมาตั้งแต่ก่อนที่สำนักตรวจการจะรู้ตัวและเริ่มสืบย้อนที่มาของอาหารทะเลพวกนั้น เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ เกรงว่าเขาคงเพาะและควบคุมสัตว์ปีศาจระดับหนึ่งไว้จำนวนไม่น้อยแล้ว"

ไต้หงนิ่งเงียบ

สิ่งที่เฉินอวี่หรานพูดมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นสถานการณ์ที่แย่ที่สุดที่คาดการณ์ได้ในตอนนี้

มีแหล่งที่มาของพิษปีศาจอยู่ในมือ

แค่เพียงนิดเดียว คนร้ายก็สามารถ "ผลิต" สัตว์ปีศาจที่อยู่ภายใต้การควบคุมได้นับไม่ถ้วน

ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว...

สัตว์ปีศาจระดับหนึ่งที่เพิ่งผ่านการแปรสภาพเป็นปีศาจ จะไม่แข็งแกร่งมากนัก

แต่ถ้ามีจำนวนมาก และถูกคนควบคุม ยากจะจินตนาการได้ว่าจะก่อคลื่นป่วนในเมืองได้มากแค่ไหน

หลี่จิ้งที่ยืนฟังบทสนทนาของทั้งสองอยู่ข้างๆ มีสีหน้าน่าเกลียดเล็กน้อย

เรื่องที่จะเกี่ยวพันถึงพิษปีศาจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆ

ตอนเห็นหนูปีศาจ เขาแค่คิดถึงการเก็บเกี่ยวแต้มประสบการณ์เท่านั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะพฤติกรรมของหนูปีศาจน่าสงสัยเกินไป เขาอาจจะนึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่ามันถูกคนควบคุมให้มาแอบสอดแนม

ตอนนี้แต้มประสบการณ์เข้าบัญชีแล้ว เขาก็เข้าสู่ช่วงเย็นชาคล้ายกับหลังจากบรรลุถึงจุดสุดยอด

คำคาดการณ์ของเฉินอวี่หราน ทำให้เขาตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ ในขณะเดียวกันก็เหมือนเห็น "คลื่นของแต้มประสบการณ์" มากมายลอยอยู่ตรงหน้า

หน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 เขามาถูกทางแล้ว!

แอบซ่อนความรู้สึกตื่นเต้นไว้ หลี่จิ้งเอ่ยปาก

"หัวหน้าไต้ สถานการณ์ร้ายแรงกว่าที่คาดไว้มาก พวกเราจะเริ่มจากตรงไหนดีครับ?"

----------------

ขออภัยครับ พอดีไม่สบาย แล้วนึกว่าตั้งเวลาอัปอัตโนมัตไว้แล้วเลยลืมอัปตอนใหม่ให้ เดี๋ยวชดเชยให้นะครับผม