บทที่ 33 วิชาต้องห้าม
ผู้ฝึกตนนอกรีต!?
ผู้ฝึกตนนอกรีตโดยทั่วไปหมายถึงการฝึกฝนวิชาต้องห้าม
ก่อนที่จะเริ่มการบ่มเพาะความเป็นอมตะ ผู้คนในโลกนี้ต้องเลือกวิธีการบำเพ็ญฝึกตนที่เหมาะสมกับพวกเขา แล้วนำปราณวิญญาณเข้าสู่ร่างกายผ่านวิธีการฝึก
วิธีการบำเพ็ญฝึกตนเป็นรากฐานของการบ่มเพาะความเป็นอมตะ
ผู้ที่เข้าสู่วิธีการบำเพ็ญฝึกฝนแล้ว จึงจะถือว่าเข้าสู่การฝึกตนอย่างเป็นทางการ และสามารถควบคุมปราณวิญญาณได้
มีวิธีการบำเพ็ญฝึกตนหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะของตนเอง
ต่างจากวิชาเซียนที่ถูกควบคุม วิธีการบำเพ็ญฝึกตนมีเกณฑ์การเข้าสู่การฝึกฝนที่ต่ำมาก คุณสามารถหาได้หลายหมื่นประเภทบนอินเทอร์เน็ต
"บางประเภทที่แปลกกว่านั้นอาจต้องใช้เวลาในการค้นหา
มีเพียงวิธีการบำเพ็ญฝึกตนที่เหมาะกับตัวเองเท่านั้น จึงจะดีที่สุด
การตัดสินว่าวิธีการบำเพ็ญฝึกตนนั้นเหมาะกับตัวเองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยพิจารณาว่าตนเองสามารถฝึกฝนได้อย่างราบรื่นหรือไม่
วิธีการบำเพ็ญฝึกตนต้องห้ามเป็นประเภทของลัทธิชั่วร้ายนอกรีต
ประเภทเหล่านี้ มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน
คือการพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและกระบวนการนั้นง่าย
การฝึกฝนแบบนี้มักจะขัดกับหลักการทางศีลธรรม โดยอาศัยการทำลายผลประโยชน์ของผู้อื่นเพื่อพัฒนาตนเอง
บางคนที่ฝึกฝนเส้นทางนี้ อาจถึงกับทำร้ายชีวิตผู้อื่นหรือแย่งชิงพลังฝึกตนของผู้อื่นเพื่อพัฒนาตนเอง
ผู้ฝึกตนนอกรีตที่ฝึกฝนด้วยวิธีการบำเพ็ญฝึกฝนต้องห้าม เป็นกลุ่มคนที่น่ากลัวที่สุดในโลกฝึกตนนี้
ผู้ฝึกตนนอกรีตโดยทั่วไปมองชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งไร้ค่า และใช้การทําร้ายผู้อื่นเป็นความสุขของตนเอง
วิธีการบำเพ็ญฝึกฝนต้องห้ามก็เหมือนยาเสพติด
เมื่อเข้ามาแล้ว คุณจะจะต้องจมอยู่กับความสุขในการทำร้ายผู้อื่นและการพัฒนาที่รวดเร็วจนไม่สามารถถอนตัวได้"
ไม่กี่วันก่อน ที่พบพิษปีศาจบนทะเลก็ทําให้หลี่จิ้งประหลาดใจมากพอแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้ยังเจอคดีเกี่ยวกับผู้ฝึกตนนอกรีตแบบนี้อีก
เขาเพิ่งเป็นผู้ช่วยตรวจการไม่นาน...
คดีเกี่ยวกับผู้ฝึกตนนอกรีตนั้นเกิดขึ้นน้อยกว่าเหตุการณ์ปีศาจ
ถึงแม้จะเป็นผู้ตรวจการ ก็ไม่ค่อยพบเจอบ่อยนัก
ไม่มีเหตุผลอื่น
ผู้ฝึกตนนอกรีตเป็นที่เกลียดชังโดยทุกคน พวกเขาเป็นเหมือนหนูข้ามถนน
หากคุณพบปีศาจร่างมนุษย์ที่เปิดเผยตัวตนแต่ไม่ได้ทําชั่ว ผู้ตรวจการที่สมเหตุสมผลนั้นอาจจะจัดการตามสถานการณ์
แต่หากพบผู้ฝึกตนนอกรีต ผู้ตรวจการจะไม่เห็นใจแม้แต่นิดเดียว
ฆ่าทันที!
ไม่จําเป็นต้องมีกระบวนการสอบปากคําใดๆ และไม่จําเป็นต้องพิจารณาการจับกุมหรือขั้นตอนใดๆ
พบเจอคือฆ่า นั่นทำให้ไม่มีผู้ฝึกตนนอกรีตคนไหนกล้าปรากฏตัวในเมือง
หลี่จิ้งตกตะลึงที่นี่ และเฉินอวี่หรานก็จบการสื่อสารและมองดูเขา
เมื่อสบตากับเขา เฉินอวี่หรานก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกระซิบ
"ฉันก็แค่คาดเดา แต่เท่าที่สถานการณ์ปัจจุบัน เป็นไปได้มากว่าเกี่ยวข้องกับคดีของผู้ฝึกตนนอกรีต"
“เมื่อครึ่งปีก่อน มีการฆาตกรรมโดยผู้ฝึกตนนอกรีตในเขตเป่ยเฉิง ในเวลานั้น ผู้ฝึกตนนอกรีตที่ก่อคดีใช้วิธีการบีบอัดปราณวิญญาณที่สะสมอยู่ในอวัยวะภายในของร่างกายมนุษย์ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10 คนในคดีนั้น และศพทั้งหมดกลายเป็นเปลือกเปล่าและอวัยวะภายในถูกนำออกไปทั้งหมด สำนักตรวจการสาขาเป่ยเฉิงของเราได้รวมตัวกับสาขาอื่น ๆ ในเมืองเพื่อจุดประสงค์นี้ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาล้มเหลวในการจับผู้ฝึกตนนอกรีต มันหนีไปได้”
"ผู้ฝึกตนนอกรีตเป็นพวกนอกคอก วิธีการบำเพ็ญฝึกตนวิชาต้องห้ามอาจแพร่กระจายไปในพื้นที่เล็กๆ แต่มีน้อยมากที่ผู้ฝึกตนนอกรีตที่ฝึกฝนวิชาต้องห้ามชนิดเดียวกันจะก่ออาชญากรรมในสถานที่ที่ผู้อื่นก่ออาชญากรรมมาก่อน"
“ผู้ที่ก่อคดีครั้งนี้น่าจะเป็นคนที่หนีไปเมื่อครึ่งปีที่แล้ว ที่แย่ไปกว่านั้น วิชาต้องห้ามของเขาดูเหมือนจะมีความเชี่ยวชาญมากขึ้นในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ในคดีครึ่งปีก่อน แม้ว่าศพของผู้เสียหายจะกลวงเหมือนกัน แต่ทั้งหมดก็ถูกผ่าออกจากท้องโดยตรง ซึ่งแตกต่างจากศพที่อยู่ตรงหน้านี้ โดยไม่มีบาดแผลที่ชัดเจน แต่อวัยวะภายในกลับหายไป”
หลังจากเล่าเรื่องแล้ว เฉินอวี่หรานเผยสีหน้าไม่สบายใจเล็กน้อยขณะมองดูศพแห้งกรังอื่นๆ ในห้องเย็น
"หากบุคคลนั้นก่อเหตุมจริง เป็นไปได้ว่าผู้เสียหายจะถูกบีบให้แห้งและถูกดูดซับสารอาหารจากร่างกายขณะที่ยังมีชีวิต เพื่อเพิ่มพลังการฝึกตนของเขา"
"..."
หลี่จิ้งขยับริมฝีปากแต่ไม่ได้พูดอะไร
การกระทำพวกนั้นโหดร้ายเหลือเกิน เขาได้ยินเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเขาเข้าใจการฝึกตน
แต่ความโหดร้ายถึงระดับนี้ มันอยู่เหนือจินตนาการของเขา
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไรและไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดต่อไป เฉินอวี่หรานจึงสั่ง
“ก่อนอื่น นายออกไปร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานสองคนของนายเพื่อสังเกตฝูงชน ผู้ฝึกตนนอกรีตนั้นโหดร้ายและเจ้าเล่ห์ พวกเขามักก่ออาชญากรรมในสถานที่ที่พวกเขาก่ออาชญากรรมมาก่อน หากพบพวกเขา อย่าทำให้พวกเขารู้ตัว ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันข้างนอก หากพวกเขารู้ว่าถูกติดตาม ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ”
เธอพูดต่อ
ส่วนสนับสนุนจากสำนักตรวจการจะมาถึงภายใน 5 นาที เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาจะควบคุมที่เกิดเหตุ ในส่วนของหัวหน้าของนาย ฉันจะแจ้งแยกต่างหาก"
"โอเค"
หลี่จิ้งพยักหน้าและหันหลังออกไป
...
นอกร้าน
ลู่หยางเฉิงและอี้ซิวจู่ยังคงอยู่ทั้งสองด้านของเทปกัน
หลังจากการโน้มน้าวใจครั้งแรก ตอนนี้พวกเขาขี้เกียจพูดแล้ว
ไม่มีทางอื่น
คนชอบสอดรู้สอดเห็น ไม่เคยกลัวว่าเรื่องมันหนักหนาสาหัสแค่ไหน
มีผู้เสียชีวิต 14 คนในร้านขายอาหารทะเล และไม่มีใครกลัวเลย
จะเสียเวลาหายใจทำไม ในเมื่อรู้ว่าไม่สามารถชักชวนให้พวกเขาออกไปได้?
เมื่อเห็นหลี่จิ้งออกมาจากร้าน ทั้งสองก็มองไปเหมือนจะถามบางอย่าง
เมื่อเห็นสายตาของทั้งสองแล้ว หลี่จิ้งยกมือขึ้นกดหูฟังแล้วกระซิบ
“รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง การสนับสนุนจากสำนักตรวจการจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ โปรดสังเกตว่ามีผู้ต้องสงสัยอยู่ในที่เกิดเหตุหรือไม่ และอย่าทำให้เขาตื่นตระหนก”
ลู่หยางเฉิงและอี้ซิวจู่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคําพูดนั้น
การสนับสนุนจากสํานักตรวจการ?
ควรเป็นหนาวยภาคพื้นดินของแผนกผู้ช่วยตรวจการไม่ใช่เหรอ?
หลี่จิ้งขอให้ใส่ใจกับคนที่น่าสงสัย...
หมายความว่าฆาตกรอาจอยู่ในที่เกิดเหตุหรือไม่?
มองหน้ากันจากระยะไกลเล็กน้อย ทั้งสองไม่ได้เอ่ยอะไรและสังเกตฝูงชนอย่างเงียบ ๆ
หลี่จิ้งเดินออกจากร้านและแสร้งทําเป็นเหลือบมองฝูงชนโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อมองแวบนี้ เขาไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
เขามีความสามารถในการเห็นแถบพลังชีวิตของปีศาจ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นว่าใครคือผู้ฝึกตนนอกรีตในผู้ชม
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าผู้ฝึกตนนอกรีตที่ก่ออาชญากรรมใจกล้าขนาดนั้น ยังจะอยู่ร่วมวงดูเหตุการณ์อีก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลี่จิ้งไม่คาดคิดคือ
ขณะที่เขากําลังมอง เขาเหลือบไปเห็นแถบเลือดข้างคูน้ำตรงมุมตลาด
หลี่จิ้งจ้องมองไปโดยไม่รู้ตัว พบว่าแถบพลังชีวิตเป็นของหนูตัวใหญ่ตัวหนึ่ง 621
ปีศาจ!?
หลี่จิ้งตกใจไปหมด
ไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาหรือไม่ ปีศาจหนูกําลังสังเกตร้านขายอาหารทะเลเสมือนเป็นผู้ชมในเวลานี้
ก่อนที่เขาจะมองให้ละเอียด ปีศาจหนูก็มองมาที่เขาแล้วหันหัวรีบวิ่งเข้าไปในคูน้ำ
หลี่จิ้งตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งนี้ และกำลังจะลอยตามไปตามสัญชาตญาณ
แต่ทันใดนั้น เขาก็เปลี่ยนใจและยืนอยู่เฉยๆ
ปรากฎว่าเขาคิดถูกที่ไม่ขยับตัว
ปีศาจหนูรีบเข้าไปในคูน้ำไม่นาน และก็โผล่หัวออกจากที่อื่นของคูน้ำ
เมื่อเห็นปีศาจหนูปรากฏตัว หลี่จิ้งแสร้งทําเป็นว่าไม่พบว่ามัน
เมื่อเห็นไม่มีใครสังเกต ปีศาจหนูปีนออกจากคูน้ำอย่างระมัดระวัง
หลี่จิ้งสังเกตจากหางตาของเขา สรุปทันทีว่าปีศาจหนูตัวนี้มีบางอย่างผิดปกติ
เมื่อเขามาที่ตลาดก่อนหน้านี้ เขาลอยอยู่บนอากาศและมองลงมาที่ตลาด
มุมมองจากอากาศนั้นกว้าง และเขาไม่เห็นแถบพลังชีวิตใด ๆ ในเวลานั้น
ปีศาจหนูอยู่ดีๆก็ปรากฏตัวออกมา และมีการสังเกตร้านขายอาหารทะเล มันน่าสงสัยจริงๆ
สิ่งที่น่าสงสัยกว่านั้นคือปีศาจหนูคอยระวังเกินไป
เมื่อมองแวบแรกนั้น เหมือนรู้ว่ากำลังถูกมองจึงวิ่งหนีไป
แถบพลังชีวิต 621 แต้ม
หมายความว่าปีศาจหนูอยู่ในช่วงกลางของระดับที่ 1
ไม่ว่าปีศาจที่เกิดมาหรือกลายเป็นปีศาจในภายหลัง ปีศาจช่วงกลางของระดับที่ 1เพียงแค่เริ่มมีสติ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีความว่องไวถึงระดับนี้
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลี่จิ้งก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าและเปิดเว็บไซต์เซียนเสวีย
ฝ่ามือสายฟ้าของเขารุนแรงอย่างมาก
น่าเสียดายที่ระยะมันสั้นไปหน่อยและระยะทางที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องใช้โดยห่างจากเป้าหมายเพียง 50 เมตรเท่านั้น
ในขณะนี้ ปีศาจหนูอยู่ถัดจากคูน้ำห่างจากเขา 100 เมตร ระยะฝ่ามือสายหฟ้านั้น ไม่ถึง
ถ้าเขาลอยขึ้นบนอากาศ มันจะต้องหนีลงไปในคูน้ำก่อนด้วยความคอยระวัง และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจัดการมัน
ถ้าเขาจะจัดการปีศาจหนู เขาต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ด้วยระยะการโจมตีที่ไกลพอ!