บทที่ 29 ยินดีสมรสกับเจ้าหน้าที่

บทที่ 29 ยินดีสมรสกับเจ้าหน้าที่

ตึก... ตึก... ตึก...

พร้อมกับเสียงฝีเท้าบนบันได ร่างหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน คนที่มาใหม่สวมเสื้อคลุมผ้าหยาบสีเทา ที่คอมีผ้าปิดตาขาด ๆ ห้อยอยู่

สือจี๋ เหวินเฉา หันไปมองสองพี่น้องตระกูลซู ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตกใจทันที พวกเขาไม่คิดเลยว่าคนนี้จะยังมีชีวิตอยู่!

อู๋เซี่ยนยิ้มออกมาอย่างดีใจ

หญิงสาวที่เพิ่งปรากฏตัวนี้คือเย่วเหมย คนที่หายตัวไปก่อนหน้านี้ และเป็นผู้พักในห้อง 408 ถึงแม้ว่าชุดของเธอจะดูเรียบง่ายมากขึ้น แต่เธอกลับดูสวยขึ้น ใบหน้าขาวผ่อง และดูมั่นใจมากกว่าเดิม

การกลับมาของเย่วเหมยหมายความว่า ความคิดของอู๋เซี่ยนถูกต้อง นั่นคือมีวิธีรอดจากโรงแรมนี้!

อู๋เซี่ยนถามเย่วเหมยด้วยความหวัง "บอกวิธีของเธอหน่อยสิ?"

เย่วเหมยยิ้มบาง ๆ แบบยากจะเข้าใจ "พวกคุณอยากรู้ไหม เกี่ยวกับผู้ช่วยของเรา ผีแม่ที่ตามหาลูก!"

...

ชั้นสามของที่พักผิงอัน

อู๋เซี่ยนหยิบธนบัตรยมโลกออกมาหนึ่งใบ วางลงบนแท่นบูชารูปปั้น

การปรากฏตัวของเย่วเหมย ทำให้ทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังได้เห็นความหวังอีกครั้ง

แต่เธอเพียงบอกว่ามีวิธีรอดชีวิต โดยยังไม่บอกว่ารายละเอียดเป็นยังไง รู้แค่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผีแม่ที่ตามหาลูก รายละเอียดจะบอกในคืนนี้

แม้ว่าเธอจะดูมีลับลมคมใน แต่แค่เธอยังรอดชีวิตกลับมา ก็ทำให้แผนการของอู๋เซี่ยนถูกมองข้ามไป ดังนั้นพวกเขาต้องเดินตามแผนของเย่วเหมยไปก่อน

ตอนนี้ยังเป็นกลางวัน ทุกคนเลยออกไปตามหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเอง

อู๋เซี่ยนถือธนบัตรยมโลก เริ่มการซื้อของครั้งแรกในถ้ำสวรรค์ เขาเอาธนบัตรยมโลกมูลค่า 10 ใบ ใส่ลงไปในปากรูปปั้นพระพุทธรูป

ซู้ด!

รูปปั้นดูดธนบัตรเข้าไปเหมือนกินบะหมี่ จากนั้นฐานของรูปปั้นเปิดออก ไม้และผ้าชิ้นเล็ก ๆ เริ่มปรากฏขึ้นมา ในพริบตาก็กลายเป็นแผงเล็ก ๆ

บนแผงนั้นมีแสงทอง 9 ก้อน

ในนั้นมี 4 ก้อนที่เป็นยันต์ คือ 'ยันต์เสริมคม' 'คาถาแสงทอง' 'คาถาเพิ่มพลัง' และ 'คาถาฟื้นฟูหลังคอขาด'

นอกจากนี้ยังมีอีก 3 ก้อนที่เป็นหนังสือ ซึ่งเป็นวิชา ได้แก่ 'ขนปีกแห่งนกทอง' 'เข้าสู่ด้านมืด' และ 'ดวงตาแห่งหยินหยาง'

สุดท้ายมีสองชิ้นเป็นอาวุธวิญญาณ หนึ่งคือไม้กวาดบริสุทธิ์ และอีกหนึ่งคือดาบไม้ท้อ

ของทั้งหมดนี้มีราคา 70 ธนบัตรยมโลก อู๋เซี่ยนมีอยู่ 210 ใบ แต่เขาใช้ไป 10 ใบเพื่อเปิดร้านค้า นั่นหมายความว่าเขาซื้อได้แค่สองชิ้นเท่านั้น ต้องคิดให้รอบคอบ

อู๋เซี่ยนตัดสินใจไม่เลือกอาวุธวิญญาณ ไม้กวาดบริสุทธิ์เขาไม่ต้องการ และดาบไม้ท้อก็มีความสามารถที่ซ้ำกับดาบเหรียญทองแดง จึงตัดออกไป

จากนั้นเขาหันไปมองที่ยันต์

ยันต์เสริมคมทำให้สิ่งของคมขึ้น ส่วนคาถาแสงทองปล่อยแสงทองเพื่อโจมตีศัตรู สองอันนี้ถูกอู๋เซี่ยนตัดออกทันที

ดาบเหรียญทองแดงไม่ต้องการความคม และคาถาแสงทองก็ซ้ำกับคาถาเพลิงแท้

ถัดมาคือคาถาฟื้นฟูหลังคอขาด

นี่คือคาถาที่ใช้กับตัวเอง หลังจากใช้แล้ว ถ้าคอถูกตัดจะไม่ตาย เพียงเก็บหัวกลับมาติดใหม่ก็ฟื้นคืนได้ เป็นวิธีหลอกตายที่ดีมาก

แต่ในโรงแรมผิงอันนี้ ศพมักจะหายไปบ่อย ๆ การแกล้งตายในสถานการณ์นี้ถือว่าเสี่ยงมาก

'คาถาเพิ่มพลัง' ดูน่าสนใจ

สามารถทำให้ยันต์ธรรมดากลายเป็นยันต์วิเศษ และยังสามารถใช้ยันต์นั้นได้หลายครั้ง อู๋เซี่ยนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบ 'คาถาเพิ่มพลัง' ออกจากกองแสงทอง

คาถาเพิ่มพลังนี้เหมาะกับคาถาเพลิงแท้ของเขา

หลังจากซื้อคาถาเพิ่มพลัง อู๋เซี่ยนเหลือธนบัตร 130 ใบ เขาหันไปมองสามวิชาที่เหลืออยู่

เข้าสู่ด้านมืด : สูบพลังชีวิต ทำลายวิชา ทำให้สูญเสียบุญกุศล เป็นเหตุให้กลายเป็นปีศาจ ผู้ที่เข้าสู่ด้านมืดจะมีอาการบ้าคลั่ง กระดูกและกล้ามเนื้อเปลี่ยนแปลง ไม่เคารพกฎฟ้าและศีลธรรม สภาพเหมือนกับสิ่งชั่วร้าย

ดวงตาแห่งหยินหยาง : ดวงตาสามารถมองเห็นพลังหยินหยาง มองเห็นวิญญาณชั่วร้าย และโลกวิญญาณ

ส่วนสุดท้าย ขนปีกแห่งนกทอง อู๋เซี่ยนเอง ขนหน้าอกของเขาก็กลายเป็นรูปนกทองไปแล้ว...

ในสามวิชานี้ เข้าสู่ด้านมืด น่าจะเป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ผลกระทบด้านลบก็น่ากลัวที่สุด หากโชคไม่ดี อาจจะเสียสติหลังจากใช้งาน อู๋เซี่ยนจึงตัดสินใจไม่เลือก

ดวงตาแห่งหยินหยาง ก็ไม่ได้มีประโยชน์มากนัก เพราะวิญญาณชั่วร้ายในดินแดนนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอยู่แล้ว

พิจารณาแล้ว อู๋เซี่ยนจึงเลือก ขนปีกแห่งนกทอง

ใครจะรู้ว่าการเพิ่มจำนวนอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญก็เป็นได้?

เมื่อเลือกวิชาแล้ว อู๋เซี่ยนรู้สึกได้ถึงลมอุ่น ๆ ไหลเข้าสู่ร่าง

ทันใดนั้น เขารู้สึกคันที่หนังศีรษะ พอหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปก็พบว่าผมของเขามีขนทองแซมอยู่ และพลังไฟในร่างกายก็ร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากซื้อขายเสร็จ ไม้และผ้าที่ตั้งแผงก็หายกลับไป

แต่สิ่งที่ทำให้อู๋เซี่ยนแปลกใจคือ รูปปั้นพระพุทธรูปไม่ได้หายไปเหมือนกับรูปปั้นอื่น ๆ

นั่นหมายความว่าใครก็ตามที่มีธนบัตรยมโลกสามารถใช้รูปปั้นนี้ได้ อู๋เซี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจไม่ปกปิดรูปปั้นนี้

ถ้าใครมีธนบัตรยมโลก ก็ปล่อยให้พวกเขาใช้ไปเถอะ

ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ว่าใครที่สามารถเพิ่มพลังได้เล็กน้อยก็เป็นประโยชน์ต่อทุกคน

...

หลังจากนั้น อู๋เซี่ยนออกค้นหาต่อ หวังว่าจะเจอรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์อีก หรือวิญญาณชั่วร้ายสักตัว

แต่หลังจากค้นหาหลายรอบก็ไม่เจออะไรเลย

พื้นที่ในดินแดนนี้มีจำกัด สถานที่ที่หาได้ง่ายก็ถูกค้นหมดแล้ว หากยังมีรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ซ่อนอยู่ก็คงหายาก

ทันใดนั้น อู๋เซี่ยนก็คิดได้

เขานึกออกว่ายังมีอีกที่หนึ่งที่อาจมีรูปปั้นซ่อนอยู่

เขารีบวิ่งไปยังตึกตรงข้ามกับโรงแรม วิ่งขึ้นไปถึงชั้นสี่ และถีบประตูห้องเข้าไป

ในเช้าวันแรกที่มาถึงดินแดนนี้ อู๋เซี่ยนเคยเห็นป้ายโฆษณาตรงข้าม มีชายคนหนึ่งถูกคว้านท้องแขวนอยู่

ตอนนั้นเขายังไม่สนใจ แต่ตอนนี้คิดได้ว่าชายคนนั้นอาจเป็นเครื่องยืนยันว่าห้องหลังป้ายโฆษณาเคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง

และสถานที่แบบนี้ น่าจะมีรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์หรือของที่มีประโยชน์ซ่อนอยู่!

อู๋เซี่ยนใช้ความสามารถนักสืบ ค้นหาห้องในเวลาสั้น ๆ จนพบรูปปั้นสูง 30 เซนติเมตร ในเตาอบของห้องครัว

รูปปั้นนี้เป็นรูปผู้หญิง สวมชุดฟินิกซ์ มือถือโซ่แดง ที่ปลายทั้งสองข้างของโซ่มีปลอกคอโลหะสองอัน ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมไม่มีดวงตา จมูก หรือปาก

บนฐานของรูปปั้นมีชื่อเขียนไว้ว่า

เทพสวรรค์ - เทพเจ้าแห่งการสมรส

ในบันทึกของฉีจื้อหยง มีข้อมูลเกี่ยวกับรูปปั้นนี้ว่า หลังจากบูชาเทพเจ้าแห่งการสมรสแล้ว จะได้รับยันต์ที่มีคำต่อท้ายว่า 'ศาสตร์'

แต่สิ่งที่ทำให้อู๋เซี่ยนงงคือ

สถานที่ที่รูปปั้นนี้อยู่แคบเกินไป ทำให้ไม่สามารถบูชาได้

อู๋เซี่ยนจึงระวังตัวเต็มที่ และค่อย ๆ ยื่นมือเข้าไปในเตาอบนั้น

ในหนังสยองขวัญที่เขาเคยดู มีฉากที่ตัวละครยื่นมือเข้าไปในที่แคบและมืด แล้วถูกวิญญาณทำร้าย มือถูกตัด ถูกบด ถูกเผา หรือถูกดึงเข้าไปข้างใน มีเรื่องราวหลายแบบที่อาจเกิดขึ้นได้