บทที่ 2 เจ้าอ้วนโต๊ะข้างๆ (2)
จัวเซ่ายังคงจำคนคนนี้ได้ แต่ลืมไปแล้วว่าหน้าตาของเขาเป็นอย่างไร จำได้เพียงว่าเขาอ้วนและมักจะก้มหน้าอยู่เสมอ และตอนนี้เมื่อมองอย่างละเอียด...
จัวเซ่าค้นพบในทันที เจ้าอ้วนนี่เคยถูกเขารีดไถอยู่ร่วมเดือน รู้สึกถูกชะตามากจริง ๆ
“จะ จะ...จัวเซ่า นายไม่เป็นไรใช่ไหม?” เจ้าอ้วนมองจัวเซ่าด้วยสายตากังวล
“ไม่เป็นไร นายมีของกินไหม?” จัวเซ่ามองไปยังเจ้าอ้วนตรงหน้า รอยยิ้มบนใบหน้ามีความจริงใจมากขึ้น
เขาไม่รู้สึกว่าเจ้าอ้วนที่มีทั้งเงินทั้งของกินนี่เป็นภาระอะไร ถึงอย่างนั้นหลังจากที่เขาเอาเงินอีกฝ่ายไปในชีวิตที่แล้ว ชีวิตนี้เขาก็จะต้องดูแลเจ้าอ้วนนี่ให้ดี
เมื่อมีใครมีรังแกเจ้าอ้วน เขาจะช่วยไล่คนพวกนั้นไปให้ หากมีคนอยากจะปล้นเจ้าอ้วน เขาก็จะหยิบก้อนอิฐขึ้นมาแล้วช่วยชีวิตเจ้าอ้วนเอาไว้ได้
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้นเจ้าอ้วนน้อยจะถูกลักพาตัว โดนคนร้ายรุมทำร้าย ในชีวิตที่แล้วเขาพาคนไปช่วยเจ้าอ้วนจากการลักพาตัว
ในตอนนั้นว่ากันว่าพวกโจรลักพาตัวมีแผนที่จะฆ่าตัวประกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ในชาติที่แล้วเจ้าอ้วนน้อยคงมีอายุไม่ถึงสิบหกปีด้วยซ้ำ...
เมื่อจัวเซ่าคิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกสงสารเด็กคนนี้ขึ้นมา
“มะ มะ มี มี” เจ้าอ้วนตัวน้อยมองจัวเซ่าด้วยสายตาตื่นตะลึง จากนั้นก็หยิบขนมจากกระเป๋าที่ห้อยอยู่หลังเก้าอี้ออกมาหลายชิ้น "นาย...นายอยากกินอะไร?"
จัวเซ่าหยิบคุกกี้ห่อหนึ่ง นี่คือแซนด์วิชคุกกี้ที่มีชื่อเสียงยี่ห้อหนึ่งที่ตอนนี้ถือว่าเป็นขนมราคาแพงลิ่ว ที่จริงแล้วเขาไม่ชอบอาหารหวาน ๆ มันเยิ้ม ๆ แบบนี้ แต่นี่เป็นโอกาสเหมาะที่จะกิน เพราะเขาจะสามารถได้รับแคลอรีปริมาณมากในเวลารวดเร็ว
คุกกี้แตกแล้ว จัวเซ่ากินคำแล้วคำเล่า กินหมดไปครึ่งกล่องด้วยความรวดเร็ว เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเจ้าอ้วนตัวน้อยกำลังมองตนด้วยดวงตาระยิบระยับ
“นายเอาไหม?” จัวเซ่าลองถามออกไปประโยคหนึ่ง
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง” เจ้าอ้วนตัวน้อยพูดอย่างรีบร้อน แล้วตบไปที่กระเป๋านักเรียนของตนอีกครั้ง “ฉะ ฉะ ฉะ ฉันยังมี!”
จัวเซ่ากินคุกกี้ที่เหลือเข้าไปไม่หยุด
เมื่อเจ้าอ้วนตัวน้อยเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “ฉันช่วยเอาไปทิ้งให้ไหม?”
มีคนวิ่งเต้นให้เป็นเรื่องดี จัวเซ่ายื่นห่อคุกกี้ให้เจ้าอ้วนตัวน้อยไป จากนั้นก็เห็นเจ้าอ้วนตัวน้อยกำห่อขนมแล้วโยนไปหลังห้อง
และก็เป็นตอนนี้เองที่จัวเซ่าคิดขึ้นมาได้ เขาในตอนนี้น่าจะได้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกับเจ้าอ้วนตัวน้อย ทั้งยังไม่ได้เกลียดเขาเพราะว่าเกลียดคนรวยแล้วด้วย...
การเกลียดคนรวยออกจะน่าเบื่อ คนที่เขาชอบเป็นคนรวยรุ่นที่สองที่ร่ำรวยมาก ๆ หลังจากที่เหลียงซินเสียชีวิต จัวเซ่าก็ออกจากบริษัทและทิ้งบ้านไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังถือได้ว่าเป็นเศรษฐีอยู่ดี
คิดมาถึงตรงนี้ดวงตาของจัวเซ่าก็ดำมืดลงอีกครั้ง
เหลียงซินกับเขารุ่นราวคราวเดียวกัน เหลียงซินเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารด้วยอายุสามสิบเอ็ดปี ในตอนนั้นเป็นเขาที่คอยดูแลอยู่ตลอด และเหลียงซินก็ทำพินัยกรรมมอบบริษัทและบ้านทั้งหมดให้กับเขา
เขาไม่ต้องการบริษัทและไม่ต้องการบ้าน เขาเพียงต้องการให้เหลียงซินยังมีชีวิตอยู่ แต่ถึงอย่างไรเหลียงซินก็ตายไปแล้ว
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น จัวเซ่ากุมหัวใจของเขา รู้สึกเพียงหายใจติดขัดเล็กน้อย
“ท้อง...ท้องนายปวดอีกแล้วเหรอ?” เจ้าอ้วนตัวน้อยที่ไปทิ้งห่อขนมกลับมาแล้ว เห็นฉากนี้แล้วเขาก็ถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ใช่ ฉันแค่สำลักน่ะ” จัวเซ่าสวมหน้ากากยิ้มแย้ม ส่งรอยยิ้มไปให้อีกฝ่าย
เจ้าอ้วนตัวน้อยยิ้มให้จัวเซ่า ทำให้คนเวียนหัวไปหมด เขามองไปยังจัวเซ่า หยิบขวดเครื่องดื่มออกมาแล้วพูดว่า "นะ...นายต้องการเครื่องดื่มไหม?"
จัวเซ่ามองไปยังเครื่องดื่มสองขวดที่ยังไม่ได้เปิดในลิ้นชักใต้โต๊ะของเจ้าอ้วนตัวน้อย จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเจ้าอ้วนตัวน้อยคนนี้มักจะไม่ดื่มน้ำเปล่า ดื่มเฉพาะเครื่องดื่มหวาน ๆ เท่านั้น
ไม่แปลกที่จะอ้วนขนาดนี้! จัวเซ่าเหลือบมองเจ้าอ้วนแล้วเอ่ย “ฉันไม่อยากดื่มเครื่องดื่มพวกนี้ ฉันอยากดื่มน้ำธรรมดา”
“ฉะ ฉะ ฉัน...ฉันช่วยไปเอาให้เอง” เจ้าอ้วนรีบพูด
จัวเซ่าพยักหน้า เอาขวดน้ำที่ว่างเปล่าใต้โต๊ะของตนยื่นให้เขาไป
มีตู้กดน้ำอยู่ในห้องเรียน หิวน้ำก็สามารถไปดื่มได้ สาว ๆ มักจะเตรียมแก้วสวย ๆ มาด้วย ส่วนพวกผู้ชายไม่ค่อยได้สนใจนัก มักจะหาขวดน้ำมากดน้ำเอา
จัวเซ่าไม่มีแก้วที่เหมาะสม เพราะไม่มีเงินที่จะสามารถซื้อเครื่องดื่มได้ ไม่มีแม้กระทั่งขวดน้ำ เขาจำได้ว่าเขาต้องแอบหยิบขวดที่ลูกพี่ลูกน้องทิ้งหลังจากดื่มแล้วนำไปที่โรงเรียน
สำหรับเขาในตอนวัยรุ่นนั้นมันเป็นสิ่งที่น่าอายมาก นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาต้องยอมจำนนให้กับความเป็นจริง จึงจำเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน
กำลังคิดถึงเรื่องขวดน้ำ เสียงกริ่งเข้าเรียนก็ดังขึ้น จัวเซ่ากลับมามีสติอีกครั้ง เพิ่งค้นพบว่าตู้น้ำที่อยู่ข้าง ๆ มีคนอื่นกำลังกดน้ำอยู่ ทำให้เจ้าอ้วนตัวน้อยยังไม่ได้กดน้ำ
เพิ่งจะกินคุกกี้เข้าไปหนึ่งห่อ จัวเซ่ากระหายน้ำมาก แต่ตอนนี้เข้าเรียนแล้ว เจ้าอ้วนตัวน้อยยังไม่ได้กดน้ำอีก เขาคิดว่าตนคงต้องทนกระหายไปก่อน...จัวเซ่ากำลังคิดแบบนั้นก็เห็นนักเรียนที่กำลังกดน้ำอยู่วิ่งกลับมานั่งที่อย่างรวดเร็ว แต่เจ้าอ้วนตัวน้อยยังไม่กลับมานั่งที่
เขาไม่สนใจเสียงกริ่งเข้าเรียน ก้มลงแล้วเริ่มกดน้ำ
คาบแรกเป็นวิชาวรรณกรรม อาจารย์หยางที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาเพิ่งจะเข้ามา เมื่อเห็นสิ่งนี้ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที “เหลียงเฉิน ยังไม่รีบกลับไปนั่งที่อีก !”
เหลียงเฉินกดสวิตช์ตู้กดน้ำ ได้น้ำเพิ่มมาอีกนิดหน่อย ก่อนจะวิ่งกลับมาที่ที่นั่งของตน หลังจากเขานั่งที่เรียบร้อยแล้วก็แอบส่งน้ำให้จัวเซ่าใต้โต๊ะ
รอจัวเซ่ารับน้ำไปแล้ว เขาก็แอบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋านักเรียนอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นานเหลียงเฉินก็หยิบหลอดที่เห็นได้ชัดว่าหักออกมาจากกล่องเครื่องดื่มออกมาจากกระเป๋านักเรียนของเขาและแอบส่งให้จัวเซ่า
ดื่มน้ำจากขวดในห้องเรียนไม่ค่อยดีนัก แต่ถ้าดื่มทีละนิดด้วยหลอด อาจารย์ก็จะไม่ได้ใส่ใจนัก
จัวเซ่าเองก็รู้เรื่องนี้ เขาชะงักไปเล็กน้อยและรับหลอดมาแกะเปลือกพลาสติกที่ห่อหุ้มอยู่ออก
ในเวลานี้ก็มีมืออ้วน ๆ คู่หนึ่งยื่นออกมา
จัวเซ่าไม่ค่อยจะเข้าใจการกระทำของเหลียงเฉินนัก มือนั้นยื่นมาหยิบเปลือกพลาสติกที่เขาเพิ่งแกะออกไปไว้ใต้โต๊ะเรียนของตน
นี่คือ...จะรอแล้วค่อยเอาไปทิ้งให้ทีหลังเหรอ ?
------------------------------------------------
ผู้เขียนมีอะไรจะพูด :
เหลียงเฉิน : จัวเซ่าอยากกินอาหารของฉัน มีความสุขจัง!
จัวเซ่าให้ฉันทิ้งขยะให้เขา มีความสุขจัง!
จัวเซ่าให้ฉันเทน้ำให้ มีความสุขจัง!
จัวเซ่ามาแบล็กเมล์ฉัน มีความสุขจัง!
จัวเซ่า “...”