ตอนที่แล้วบทที่ 15 ผู้ดูแลกรรมในถ้ำสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 17 จิ๊กซอว์แห่งอดีต

บทที่ 16 เบาะแสจากห้องลับ


บทที่ 16 เบาะแสจากห้องลับ

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเข้ามาใน ถ้ำสวรรค์ทำให้เหอฉงมั่นใจว่าเขาคือผู้ถูกเลือกตามลิขิตสวรรค์

เหตุการณ์สุดสะพรึงที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ทำให้สองพี่น้องซูฮุ่ยจิ่นและซูฮุ่ยหลาน ลืมความขัดแย้งระหว่างกัน และพร้อมใจกันอยู่เคียงข้างเขา

ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับผีร้ายที่น่าสะพรึง เหอฉงก็ได้รับอุปกรณ์วิเศษที่มีประโยชน์ในการปราบผีอย่างน่าอัศจรรย์

แม้จะเจออุปสรรคจากผีร้าย แต่มันกลับเป็นเหมือน “มอนสเตอร์” ในเกม ที่เมื่อปราบลงได้ก็จะเพิ่มพลังให้พวกเขา

สิ่งที่ทำให้เหอฉงซาบซึ้งใจที่สุด คือการที่ทุกครั้งที่ต้องบูชาเทวรูป สองพี่น้องซูจะเป็นคนบูชาแทนเขา เพื่อไม่ให้ผลข้างเคียงตกมาถึงตัวเขา และหลังจากนั้น พวกเธอก็ยกอุปกรณ์ที่ได้จากการบูชาให้เขาทุกครั้ง

“นี่แหละ คือสิ่งที่คนที่รักจริงเท่านั้นจะทำได้!”

ซูฮุ่ยจิ่นจุดธูปปีศาจและบูชาเทวรูป ทันใดนั้นก็ปรากฏตุ๊กตาฟางตัวหนึ่งที่กระโดดดึ๋งๆ มาหาเหอฉง แต่ก่อนที่เขาจะมองเห็นได้ชัดเจน เทียนแดงที่อยู่หน้าเทวรูปก็ดับลงทันที

บรรยากาศภายในห้องใต้ดินจมลงสู่ความมืดมิด เหลือเพียงแสงรำไรจากประตูเท่านั้น ทำให้พวกเขามองเห็นเพียงเงาเลือนลาง

ทั้งสามคนรู้สึกเย็นวาบในใจ รีบก้าวไปทางประตู แต่ทันทีที่เดินไปเพียงไม่กี่ก้าว พวกเขาก็หน้าซีดเผือด

พื้นดินกลายเป็นนุ่มนิ่มอย่างคาดไม่ถึง!

พื้นปูนแข็งที่ควรจะมั่นคง กลับกลายเป็นเหมือนโคลนตม!

พรวด!

มือที่ชุ่มไปด้วยโคลนโผล่ขึ้นมาจากโคลนตม!

ทั้งสามมองด้วยความตกใจ ขณะที่ร่างหญิงสาวที่ชุ่มไปด้วยโคลนค่อยๆ คลานขึ้นมาจากพื้น หากลู่อวี้จูและฟางจื้อยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจะจำได้ทันทีว่าหญิงคนนี้คือ อวี๋อิงฮวา ที่เคยมาเคาะประตูห้องพักที่โรงแรมผิงอันทุกคืน!

ตาของอวี๋อิงฮวาถูกปิดด้วยโคลน น้ำตาของเธอไหลรินชะล้างคราบโคลนจนเกิดเป็นร่องรอยสองเส้นบนใบหน้า ขณะที่เธอคลานไปมาในโคลน พลางพูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคียดแค้น

“จื้ออู่... เป็นเธอหรือเปล่า... ฉันไม่เคยทรยศเธอเลย ทำไมถึงไม่เชื่อใจฉัน?”

“ทำไม... ทำไมล่ะ!”

อวี๋อิงฮวาคลุ้มคลั่ง คว้าแขนซูฮุ่ยหลานไว้แน่น มืออีกข้างพยายามกดหัวเธอลงไปในโคลน

เหอฉง ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “ปล่อยฮุ่ยหลานเดี๋ยวนี้!”

เขาควักลูกแก้วออกมาจากกระเป๋า แล้วขว้างออกไป ลูกแก้วกลายเป็นสายฟ้าฟาดลงบนมือของอวี๋อิงฮวา ระเบิดดังสนั่น ทำให้ซูฮุ่ยหลานฉวยโอกาสดึงน้องสาวหนีออกจากห้องใต้ดิน

ขณะที่อวี๋อิงฮวาเตรียมจะไล่ตาม สายตาของเธอก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อถูกขวางไว้ด้วยหอกยาวสีเงินวาววับ

เหอฉงยืนหยัดอยู่ตรงหน้าเธอ มือข้างหนึ่งถือหอก อีกมือถือกระสุน พร้อมเผชิญหน้ากับผีร้ายอย่างมั่นใจ ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความสง่าผ่าเผย

ด้านนอกห้องใต้ดิน สองพี่น้องซูมองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนก

“เธอสังเกตไหม? คาถาสายฟ้าแค่ทำให้มือของเธอบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น”

“อวี๋อิงฮวาไม่ใช่แค่ผีทั่วไป... เธออาจเป็นหนึ่งในผีที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากปีศาจชั้นสูง และหมอนั่นยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ”

“แม้เหอฉงจะสู้ชนะ แต่ของวิเศษที่เราสะสมมาจะต้องถูกใช้หมดไปแน่!”

“ถ้างั้น... ก็ลงมือเถอะ!”

เพียงชั่วอึดใจ เสียงกรีดร้องอย่างตกใจของเหอฉงก็ดังก้องออกมาจากห้องใต้ดิน

บรรยากาศภายในตึกนั้นมืดสลัว

แม้ว่าเหตุการณ์อันน่าสะพรึงนี้จะเกิดขึ้นเพียงสองเดือน แต่มนุษย์ก็เริ่มคุ้นชินกับชีวิตที่ขาดอารยธรรมลง

หญิงชราในชุดผ้าป่านถือโคมไฟน้ำมัน เดินไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า

เย่วเหมยเดินตามหลังเธอด้วยความรู้สึกหวาดกลัวและตึงเครียด

ระหว่างทางเธอพบผู้คนมากมาย ทั้งชายหญิง เด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งล้วนใส่เสื้อผ้าป่านเหมือนกัน ทุกคนจ้องมองเธอด้วยสายตาแปลกประหลาด

มีทั้งสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา บางคนดูเหมือนจะริษยา และบางคนเผยให้เห็นถึงความปรารถนาที่ชัดเจนราวกับต้องการครอบครองเธอ

สายตาเหล่านั้นทำให้เย่วเหมยรู้สึกหวาดหวั่นอย่างยิ่ง…

เย่วเหมยปฏิบัติตามคำแนะนำในจดหมายที่ได้รับ เธอพยายามหาชาวพื้นเมืองในถ้ำสวรรค์ที่ยังรอดชีวิต เพื่อขอความช่วยเหลือและเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจ เธอใช้ยารักษาอาการป่วยของหญิงชราได้อย่างทุลักทุเล เมื่ออาการของหญิงชราเริ่มดีขึ้น เธอจึงยอมบอกเย่วเหมยถึงวิธีหลบเลี่ยง ผีเคาะประตู และ ผีบุกประตู

ทั้งสองเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงห้องบนสุดของอาคาร

ห้องนั้นโล่ง ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ มีเพียงรูใหญ่ที่เพดาน ซึ่งแสงอาทิตย์สาดลงมาตรงรูปปั้นที่น่าสะพรึงกลัว

รูปปั้นสลักเป็นรูปร่างของผู้หญิง

หญิงคนนั้นอยู่ในสภาพเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ร่างกายบิดเบี้ยวผิดธรรมชาติ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความวิปลาส ใกล้เท้าของเธอมีผ้าปิดตาสีดำที่เก่าและชำรุดวางอยู่

หญิงชราทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้ารูปปั้น และกล่าวบทสวดที่เย่วเหมยเคยได้ยินมาแล้ว

“ถวายคำนับแด่แม่ผีผู้ให้กำเนิด ขอน้อมบูชา...”

หลังจากสวดเสร็จ หญิงชราลุกขึ้นยืนและหันมายิ้มให้เย่วเหมย เผยให้เห็นฟันที่เหลือเพียงสามซี่

"เราทั้งหมดรอดมาได้ก็เพราะเธอ" หญิงชรากล่าว "จงจุมพิตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ตรงหน้า นี่จะเป็นเกราะคุ้มครองเธอจากผีร้ายทั้งปวง"

เย่วเหมยลังเล "เธอคือใครกัน..."

หญิงชรายิ้มอย่างลึกลับ "เธอคือ ‘แม่ผีตามหาลูก’!"

เย่วเหมยกลืนน้ำลาย รู้ดีว่าการบูชาแม่ผีอาจเป็นอันตราย แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอไม่มีทางเลือกอื่น

ในขณะที่หญิงชรามองด้วยสายตาแปลกประหลาด เย่วเหมยยกผ้าปิดตาสีดำขึ้นมาด้วยมือสั่นเทา และจุมพิตมันอย่างระมัดระวัง

บ้านของนายหวาง

กลุ่มควันจากธูปปีศาจค่อยๆ กระจายตัว อู๋เซี่ยนหยิบยันต์ “คาถาสองเท่า” ออกมาจากกลุ่มควัน บูชาครั้งนี้สิ้นสุดลง

รูปปั้นเทพเจ้ากุยซิงผู้ดูแลโชคลาภและอำนาจ มอบตัวเลือกสามอย่างให้เขา:

เติมพลังวิญญาณ – ฟื้นฟูพลังให้กับอาวุธที่สูญเสียพลังไป

สร้างยันต์สุ่ม – สร้างยันต์สองใบแบบสุ่ม

คาถาสองเท่า – ทำให้คาถาหรือยันต์ต่อไปมีผลสองครั้ง

อู๋เซี่ยนไม่มีอาวุธที่ต้องการพลังเสริม และการสร้างยันต์สุ่มก็เสี่ยงเกินไป เพราะอาจได้ยันต์ที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงเลือก คาถาสองเท่า

จากการบูชาหลายครั้งที่ผ่านมา อู๋เซี่ยนเริ่มเข้าใจรูปแบบของเทวรูปต่างๆ

เทพผู้ดูแลกรรมในถ้ำสวรรค์ มอบยันต์ที่เพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้กับสิ่งของ

เทพกุยซิงผู้ดูแลโชคลาภ มอบคาถาที่ไม่มีผลโดยตรง แต่สามารถเสริมประสิทธิภาพของสิ่งที่ได้จากการบูชา

ส่วนเทวรูปอื่นๆ อู๋เซี่ยนยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ

ห้องโถงชั้นล่างของโรงแรมผิงอัน

ไฟจากกองฟืนลุกไหม้ใต้หม้อเหล็กใบใหญ่ ด้านในมี แกงพะโล้ไส้หมู ที่กำลังเดือดพล่าน กลิ่นหอมลอยไปทั่วขณะที่ทุกคนล้อมวงกันเพื่อรอรับประทานอาหารเย็น

เนื่องจากเวลาในถ้ำสวรรค์ผิดปกติ พวกเขามีโอกาสรับประทานอาหารเพียงวันละหนึ่งครั้งเท่านั้น ทุกคนจึงหิวจัด

ถึงอย่างนั้น ไม่มีใครกล้าหยิบตะเกียบขึ้นมาเป็นคนแรก

เมื่อคืนยังมีพวกเขารวมทั้งหมดเก้าคน แต่มาถึงค่ำคืนนี้เหลือเพียงหกคน ทุกคนต่างรู้ดีว่า นอกจากฟางจื้อคนที่หายไปอีกสองคนคงไม่มีวันกลับมาแล้ว

ซูฮุ่ยจิ่นและซูฮุ่ยหลานโอบกอดกันร้องไห้ น้ำตาและน้ำมูกไหลอาบแก้ม

"เป็นความผิดของพวกเราเองที่ทำให้พี่ฉงต้องตาย"

"ทั้งหมดเป็นความผิดของพวกเราเอง! เราสมควรตาย! ไม่มีพี่ฉง พวกเราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด