ตอนที่ 580
ตอนที่ 580
เต๋าซุนมองไปที่ไช่เยว่ และในที่สุดก็เดินเข้าไปในวัด
กลุ่มคนนี้มีพลังฝีมือไม่น้อย แต่เนื่องจากวัดแห่งนี้อยู่ห่างไกล พวกเขาจึงไม่ได้พบเจอใครระหว่างทาง
"ในวัดของเรามีคนอยู่สิบเอ็ดคน รวมทั้งท่านอาจารย์" ชายหนุ่มอธิบาย
"ข้ามีพี่ชายเก้าคน นับตั้งแต่ที่ข้าจำความได้ ชีวิตในวัดแห่งนี้ก็เงียบเหงามาโดยตลอด"
เต๋าซุนพยักหน้า ระหว่างทาง เขาเห็นว่ามีการปลูกพืชผักสวนครัวมากมายในวัด
ดูแล้วไม่ต่างจากโลกภายนอก
ชายหนุ่มพาพวกเขาไปยังลานบ้านหลังหนึ่งที่ดูเก่าแก่และทรุดโทรม
มีใยแมงมุมมากมายอยู่ที่ประตู เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครมาที่นี่นานแล้ว
มีป้ายไม้ผุพังแขวนอยู่ บนนั้นมีตัวอักษรสามตัวเขียนว่า "ศาลาหยวนฝาง"
"ยินดีต้อนรับสหายจากแดนไกล รึ……" เต๋าซุนกล่าว
"ข้าเคยได้ยินพี่ชายเล่าว่า ที่นี่เคยใช้ต้อนรับแขก แต่ตั้งแต่ที่ข้าจำความได้ มันก็ถูกปิดตาย"
ชายหนุ่มกล่าว "ท่านเรียกข้าว่า ซวนยฺหวี่ ก็ได้ นี่คือชื่อที่ท่านอาจารย์ตั้งให้"
"ซวนยฺหวี่ ท่านต้องการให้พวกข้าช่วยทำความสะอาดหรือไม่?" ไช่เยว่ ถามด้วยรอยยิ้ม
"ไม่จำเป็น ข้างในสะอาด ข้าทำความสะอาดเป็นประจำ" ซวนยฺหวี่รีบตอบ
"ข้าแค่กลัวว่าท่านอาจารย์จะรู้ จึงไม่กล้าทำความสะอาดภายนอกของห้องนี้ ขออภัยด้วย"
"ไม่เป็นไร" เต๋าซุนโบกมือ "แล้วอาจารย์ของเจ้าชื่ออะไร?"
"อาจารย์มีนามว่า เฉียนคุน" ซวนยฺหวี่กล่าว
"แต่พวกท่านคงไม่ได้พบท่านหรอก ท่านมักจะหลบซ่อนตัว และออกมาในยามค่ำคืนเท่านั้น"
เต๋าซุนพยักหน้า เขาเดินเข้าไปในศาลา
ภายในศาลานั้นแตกต่างจากภายนอกโดยสิ้นเชิง
มีเตียงไม้ โต๊ะ กระจก และข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ
"พวกท่านพักอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะออกไปดูข้างนอก" ซวนยฺหวี่กล่าว
หลังจากที่ซวนยฺหวี่ออกไป ไช่เยว่ ก็ถามด้วยความสงสัย "เหตุใดท่านจึงอยากมาที่นี่ต่อ?"
"เพียงแค่อยากรู้อยากเห็น" เต๋าซุนตอบ
"มีสิ่งใดน่าสงสัยที่นี่หรือ?" ไช่เยว่ ถาม
"ข้าก็ยังไม่รู้ แต่วัดแห่งนี้ไม่ธรรมดา" เต๋าซุนกล่าว
"เช่นนั้น พวกเราก็พักที่นี่หนึ่งคืน พรุ่งนี้ค่อยไปที่เมืองก็แล้วกัน" ไช่เยว่ กล่าว
เต๋าซุนพยักหน้า เขาจัดห้องเล็กน้อย
ลานบ้านแห่งนี้กว้างขวางมาก ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน
เต๋าซุนไม่มีอะไรทำ เขาจึงเริ่มฝึกฝนในห้อง
เขาฝึกฝนวิชาเขย่าสวรรค์ไปได้เพียงครึ่งเดียว เขานั่งขัดสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ และเริ่มฝึกฝนต่อ
เขาฝึกฝนจนกระทั่งถึงยามเย็น ซวนยฺหวี่นำอาหารเย็นมาให้
อาหารในวัดนั้นเรียบง่ายมาก มีเพียงข้าวเปล่า ผักต้ม และซุปถ้วยหนึ่ง
"พวกท่านคงไม่คุ้นเคย ลองชิมดู" ซวนยฺหวี่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
"เจ้าเคยฝึกฝนตนหรือไม่?" เต๋าซุนมองไปที่ซวนยฺหวี่และถาม
"ข้าเคยคิดจะฝึกฝน แต่พวกเราชาวเต๋านั้นเกิดมาพร้อมกับเส้นชีพจรที่ถูกปิดกั้น ไม่อาจฝึกฝนได้" ซวนยฺหวี่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
"แต่ผ่านไปหลายปี ข้าก็เริ่มชินแล้ว การเป็นคนธรรมดาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร"
"ให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?" เต๋าซุนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
"ได้" ซวนยฺหวี่พยักหน้า
เต๋าซุนวางมือลงบนข้อมือของซวนยฺหวี่ ตรงตำแหน่งของประตูเส้นชีพจรแรก
เขาหลับตาลง ตรวจสอบภายในร่างกายของอีกฝ่าย
ไม่นานนัก เต๋าซุนก็ลืมตาขึ้น มองไปที่ซวนยฺหวี่ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา
"ใครบอกเจ้าว่าเส้นชีพจรของเจ้าถูกปิดกั้น?"
"ท่านอาจารย์บอกข้า" ซวนยฺหวี่ตอบ "มันจริงหรือไม่?"
เต๋าซุนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร
เส้นชีพจรในร่างกายของซวนยฺหวี่ไม่ได้ถูกปิดกั้น แต่ถูกผนึกเอาไว้
และเต๋าซุนยังสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งในร่างกายของเขา
เพียงแต่พลังนี้และเส้นชีพจรของเขาถูกผนึกไว้ ทำให้เขาไม่อาจดูดซับพลังปราณได้ เขาจึงเป็นได้เพียงคนธรรมดา
หลังจากรับประทานอาหารเย็น ซวนยฺหวี่ก็ยังคงฟังเรื่องราวต่างๆ ดูเหมือนว่าเขาจะโหยหาโลกภายนอก
เต๋าซุนให้ไช่เยว่ เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ซวนยฺหวี่ฟัง ส่วนตัวเขาก็ฝึกฝนวิชาต่อไป
เขาไม่ได้เข้าใจทุกสิ่งในโลกนี้ เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ มักทำให้เขาประหลาดใจ
ในยามค่ำคืน เสียงระฆังสามครั้งดังขึ้นจากภายนอกวัด ซวนยฺหวี่หาวหวอดๆ
"พี่สาวเยว่ ถึงเวลาพักผ่อนแล้ว ข้าขอตัวก่อน"
"ไปเถอะ" ไช่เยว่ พยักหน้า
หลังจากที่ทุกคนกล่าวลา ซวนยฺหวี่ก็เดินจากไป
ในขณะนั้น เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น เต๋าซุนก็สัมผัสได้ถึงพลังปราณอันแข็งแกร่ง
พลังปราณทั้งหมดบนภูเขารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ ราวกับพายุ
เต๋าซุนตกตะลึง เขามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นว่าท้องฟ้าสว่างไสวเป็นพิเศษ
แสงสว่างสองสี สีดำและสีขาว พันเกี่ยวกัน วัดทั้งวัดถูกปกคลุมด้วยม่านพลังสีดำและสีขาว
"นี่มันอะไรกัน?" เต๋าซุนตกตะลึง
ทันใดนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ไช่เยว่ ลุกขึ้นไปเปิดประตู "ยุหวี่ ท่านกลับมาด้วยเรื่องอันใดหรือ?"
เสียงคำรามดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงร้องตกใจของไช่เยว่
เต๋าซุนรีบวิ่งออกจากห้อง เห็นซวนยฺหวี่กำลังลากไช่เยว่ ออกไปที่ลานบ้าน พยายามจะฆ่านาง
ออร่ารอบตัวเขานั้นแข็งแกร่งมาก น่าจะอยู่ในระดับ 5
พลังปราณของเต๋าซุนพุ่งออกมา ปราบซวนยฺหวี่เอาไว้
เขาช่วยไช่เยว่ ออกมาจากมือของซวนยฺหวี่ ไช่เยว่มีสีหน้าหวาดกลัว ชี้นิ้วไปที่ซวนยฺหวี่ แต่พูดไม่ออก
เต๋าซุนมองไปที่ซวนยฺหวี่ ดวงตาของซวนยฺหวี่เป็นสีแดงก่ำ ผนึกในร่างกายของเขาถูกเปิดออก
ดูเหมือนว่าเขาจะขาดสติ กำลังดิ้นรนราวกับปีศาจคลั่ง
"เขาเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?" ไช่เยว่ ถามด้วยความหวาดกลัว
"ข้าก็ไม่รู้" เต๋าซุนควบคุมซวนยฺหวี่เอาไว้ และล่ามโซ่เขาไว้ในห้อง
"เจ้าไปหลบซ่อนตัวก่อน คอยดูเขาไว้ ข้าจะไปดูที่อื่นในวัด"
"เช่นนั้น ท่านก็ระวังตัวด้วย" ไช่เยว่ กล่าว
เต๋าซุนเดินออกจากศาลา ได้ยินเสียงคำรามดังมาจากทั่วทุกสารทิศในวัด
เขามองไปรอบๆ เห็นผู้คนในชุดเต๋าหลายคน พวกเขาทั้งหมดเสียสติ วิ่งพล่านไปทั่ว
พวกเขาพยายามวิ่งออกจากวัด แต่กลับถูกม่านพลังขวางกั้นเอาไว้
ม่านพลังนี้ดูแป
ลกประหลาด ราวกับหิมะที่พบกับแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ ปรากฏและละลายหายไปเหมือนไม่มี