ตอนที่แล้วระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 334 ภัยพิบัติจากนิกายมาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน

ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 335 มหาสงครามใกล้ปะทุ


ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 335 มหาสงครามใกล้ปะทุ

โลกวิญญาณ

ผู้บำเพ็ญในโลกนี้ มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญวิชาคำสาปวิญญาณ จึงถูกขนานนามว่า โลกวิญญาณ

ส่วนพลังอำนาจของโลกวิญญาณในหกมหาโลกนั้น จัดอยู่ในระดับกลาง ๆ

แม้ว่าพลังโดยรวมจะมิอาจเทียบเคียงโลกเซียนและโลกต่างภพได้ แต่ก็ยังมียอดฝีมือระดับราชันเซียนเหนือหล้าเจ็ดคน

กระทั่งยังมียอดฝีมือระดับเหนือหล้าสูงสุดสองคน

ผู้หนึ่งมีนามว่า ราชันเซียนสุญตาวิญญาณ ส่วนอีกผู้หนึ่งมีนามว่า ราชันเซียนถ้ำเร้นลับ

พลังอำนาจของราชันเซียนทั้งสอง มิได้ด้อยไปกว่าราชันเซียนสังสารวัฏแห่งโลกต่างภพ หรือราชันเซียนพินาศแห่งโลกเซียน

ดังนั้น แม้ว่าโลกวิญญาณจะมิอาจเทียบเคียงโลกเซียนและโลกต่างภพได้ แต่พลังอำนาจของพวกเขาก็มิอาจมองข้าม

และในวันนี้

ภายในโถงโบราณโลกวิญญาณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของโลกวิญญาณ

ปรากฏเงาร่างมากมายที่ล้อมรอบด้วยแสงเซียนอันยิ่งใหญ่ ยืนหยัดอยู่ ณ ที่แห่งนี้

ล้วนเป็นราชันเซียน

พวกเขามองไปยังเงาร่างสองตนที่อยู่ใจกลางโถงใหญ่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

นั่นก็คือ ราชันเซียนสุญตาวิญญาณ และราชันเซียนถ้ำเร้นลับ

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้

บนใบหน้าของสองยอดฝีมือระดับเหนือหล้าสูงสุด กลับเต็มไปด้วยความกังวล

เพราะว่า เมื่อครู่นี้ พวกเขาได้รับจดหมายประกาศสงครามจากโลกมาร

ไม่นานหลังจากนี้ โลกมารจะข้ามผ่านประตูมิติ บุกโจมตีโลกวิญญาณ!

เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นข่าวที่น่าตกใจอย่างยิ่ง

หากเป็นโลกมารในอดีต พวกเขาย่อมมิได้สนใจ

กระทั่งไม่จำเป็นต้องให้สองยอดฝีมือระดับเหนือหล้าสูงสุดลงมือ ก็สามารถปราบปรามได้อย่างง่ายดาย

แต่โลกมารในปัจจุบัน มิได้เหมือนกับในอดีต

ที่แห่งนั้น มียอดฝีมือจากนิกายมารคอยปกป้อง!

หากกล่าวว่าก่อนหน้านี้ พวกเขาอาจจะไม่รู้ว่านิกายมารแข็งแกร่งเพียงใด

แต่วันนั้น มารพุทธะอู๋เทียนแห่งนิกายมารเพียงลำพังก็สามารถบีบบังคับยอดฝีมือจากขุมอำนาจโบราณให้ต้องถอยร่น

ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในหกมหาโลก ต่างก็ได้ล่วงรู้ถึงพลังอำนาจของนิกายมาร!

โลกวิญญาณก็เช่นกัน

แม้ว่าราชันเซียนสุญตาวิญญาณ และราชันเซียนถ้ำเร้นลับจะแข็งแกร่งไร้ผู้ต่อต้าน เป็นถึงยอดฝีมือระดับเหนือหล้าสูงสุด

แต่แม้แต่พวกเขาก็มิอาจบีบบังคับยอดฝีมือจากขุมอำนาจโบราณให้ต้องถอยร่นได้พร้อม ๆ กัน!

ยิ่งไปกว่านั้น อู๋เทียนผู้นั้น มิใช่เจ้าแห่งนิกายมาร

สามารถจินตนาการได้ว่า เจ้าแห่งนิกายมารคงต้องแข็งแกร่งจนน่ากลัว กระทั่งอาจจะบรรลุถึงระดับกึ่งจักรพรรดิเซียน

ในเวลานี้ บรรยากาศภายในโถงใหญ่ เต็มไปด้วยความกังวล กระทั่งยังแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว

ท้ายที่สุด เมื่อนึกถึงพลังอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวของนิกายมาร ไม่มีผู้ใดสามารถสงบนิ่งได้

แม้แต่ราชันเซียนสุญตาวิญญาณ และราชันเซียนถ้ำเร้นลับ ก็เช่นกัน

“หรือว่าโลกวิญญาณจะต้องกลายเป็นเชลยของนิกายมาร”

ราชันเซียนสุญตาวิญญาณรู้สึกสิ้นหวัง

นี่เป็นการต่อสู้ที่ไร้ซึ่งความหวัง

ทันใดนั้น ราชันเซียนเหนือหล้าคนหนึ่งราวกับนึกอะไรบางอย่างออก จึงกล่าวว่า

“บางที พวกเราอาจจะขอความช่วยเหลือจากขุมอำนาจโบราณ”

สิ้นคำกล่าว ราชันเซียนคนอื่น ๆ ต่างก็มีดวงตาเป็นประกาย

ราชันเซียนสุญตาวิญญาณ และราชันเซียนถ้ำเร้นลับก็เช่นกัน

“นี่เป็นความคิดที่ดี ตำแหน่งของขุมอำนาจโบราณอื่น ๆ พวกเรามิได้ล่วงรู้ แต่สำหรับนิกายพุทธ พวกเขาน่าจะอยู่ในโลกวิญญาณ”

“เพราะว่าก่อนหน้านี้ ภูเขาเทพสีทองและวัดต้าลุ่ยอิมปรากฏตัวขึ้นทางทิศตะวันตกของโลกวิญญาณ”

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ยอดฝีมือระดับเหนือหล้าสูงสุดทั้งสองสบตากัน จากนั้นก็ตัดสินใจในทันที เดินทางไปขอความช่วยเหลือจากนิกายพุทธ

หากจี๋อวิ๋นรู้เรื่องนี้ คงต้องหัวเราะออกมาอย่างแน่นอน

เขาแสดงละครมานาน ในที่สุดก็มีคนติดกับ

ในเวลาเดียวกัน มหาโลกอื่น ๆ ก็ได้ล่วงรู้ถึงการประกาศสงครามของนิกายมารต่อโลกวิญญาณ

สำหรับโลกอสูร ย่อมไม่ต้องพูดถึง ที่แห่งนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของจี๋อวิ๋น คงมิอาจมีการเคลื่อนไหวใด ๆ

ส่วนโลกมนุษย์สวรรค์ เรื่องนี้มิได้เกี่ยวข้องกับพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยว ก็มิกล้าทำเช่นนั้น

ท้ายที่สุด พวกเขาก็ได้เห็นพลังอำนาจของนิกายมาร

ยิ่งไปกว่านั้น โลกมนุษย์สวรรค์และโลกวิญญาณ เคยทำสงครามกันมาก่อน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

ณ โลกเซียน เมื่อราชันเซียนเหนือหล้าหลายคนได้รับรู้ข่าวสารนี้ พวกเขารีบบอกเล่าให้กับราชันเซียนกลไกสวรรค์

ต้องการให้ราชันเซียนกลไกสวรรค์แจ้งข่าวสารนี้ให้กับวังสวรรค์ เพื่อดูท่าทีของวังสวรรค์

ไม่นานนัก ราชันเซียนกลไกสวรรค์ก็ส่งข่าวสารกลับมา

มีเพียงสี่คำเท่านั้น ‘สงบนิ่ง รอดูสถานการณ์’

“ดูเหมือนว่าวังสวรรค์คงจะหวาดกลัวนิกายมารผู้นี้”

ราชันเซียนเสียงอัสนีกล่าวด้วยความรู้สึก

“แน่นอนสิ เจ้าคงไม่ลืมข่าวสารที่ราชันเซียนกลไกสวรรค์ส่งกลับมาก่อนหน้านี้ หอกสังหารเทพเคยอาบโลหิตจักรพรรดิเซียน!”

“หากเป็นเจ้า ไม่เพียงแค่หวาดกลัว เจ้าคงต้องหวาดผวาจนตาย”

“ข้ารู้ดีว่าตอนที่เจ้ารู้เรื่องนี้เจ้าหวาดกลัวเพียงใด”

ราชันเซียนพินาศกล่าวพร้อมกับมองบน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ราชันเซียนเหนือหล้าคนอื่น ๆ ต่างก็นึกถึงตอนที่พวกเขาได้รับรู้ข่าวสารนี้ พวกเขารู้สึกตกใจเพียงใด

ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่า เหตุใดยอดฝีมือจากขุมอำนาจโบราณเหล่านั้นจึงไม่กล้าลงมือ

“แม้แต่วังสวรรค์ก็เป็นเช่นนี้ ขุมอำนาจโบราณอื่น ๆ คงต้องเป็นเช่นเดียวกัน”

“หากเป็นเช่นนี้จริง ๆ หลังจากที่นิกายมารปราบปรามโลกวิญญาณ คงต้องถึงตาพวกเรา”

ราชันเซียนสรรค์สร้างกล่าวด้วยความกังวล

“ไม่ต้องกังวล เรื่องง่าย ๆ เช่นนี้ เจ้าสามารถคิดได้ ขุมอำนาจโบราณเหล่านั้นย่อมต้องคิดได้เช่นกัน”

“ข้าคาดการณ์ว่า ขุมอำนาจโบราณเหล่านั้น คงกำลังสะสมพลังอย่างลับ ๆ รอคอยการมาถึงของยอดฝีมือที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า”

“เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาจะต้องลงมือกับนิกายมาร”

ราชันเซียนพินาศกล่าว

คำพูดนี้ ได้รับการยอมรับจากราชันเซียนเหนือหล้าคนอื่น ๆ

พวกเขาก็คิดเช่นเดียวกัน

ท้ายที่สุด ขุมอำนาจโบราณเหล่านั้น ล้วนลึกลับ ไม่อาจหยั่งถึงได้ พวกเขาคงมิอาจทนมองดูนิกายมารแข็งแกร่งขึ้น

คงต้องสะสมพลัง รอคอยโอกาส

น่าเสียดาย หากพวกเขารู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแสดง คงต้องโมโหจนกระอักโลหิตออกมา

อีกด้านหนึ่ง

ณ โลกต่างภพ

หลังจากที่ราชันเซียนปฐมกาลได้รับรู้ข่าวสารนี้ เขาก็มีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

“ดูเหมือนว่านิกายมารจะบ้าระห่ำยิ่งกว่าที่ข้าคาดการณ์ไว้ พวกเขาจะบุกโจมตีมหาโลกอื่นแล้ว”

แต่เรื่องนี้กลับเป็นสิ่งที่เขาต้องการ

มีนิกายมารคอยก่อกวน ขุมอำนาจโบราณเหล่านั้น กระทั่งมหาโลกอื่น ๆ คงมิอาจสนใจโลกต่างภพได้

เช่นนี้แล้ว วิกฤตของโลกต่างภพก็จะคลี่คลายลง

“กระทั่ง ข้ายังสามารถร่วมมือกับนิกายมาร หาผลประโยชน์……”

ดวงตาของราชันเซียนปฐมกาลเป็นประกาย

ก่อนหน้านี้ เขาเคยคิดเช่นนี้ เพียงแต่ยังไม่ทันได้ลงมือ นิกายมารก็บุกโจมตีมหาโลกอื่นแล้ว

“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็ยังไม่สาย ข้าได้ยินมาว่าขุมอำนาจโบราณเหล่านั้นต้องการสมบัติฟ้าดินจำนวนมาก บางทีข้าอาจจะใช้เรื่องนี้ สร้างพันธมิตรกับนิกายมาร”

ราชันเซียนปฐมกาลกล่าวในใจ

ทันใดนั้น เขาก็ออกคำสั่งให้ราชันเซียนคนอื่น ๆ เตรียมสมบัติฟ้าดินจำนวนมาก

หากจี๋อวิ๋นรู้เรื่องนี้ คงต้องดีใจอย่างยิ่ง

เขายังมิได้ลงมือ อีกฝ่ายก็ส่งของมาให้ถึงที่ ช่างใจดีจริง ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด