บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 310 หลี่เสวี่ยบรรลุระดับมหายาน

บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 310 หลี่เสวี่ยบรรลุระดับมหายาน

“ท่านพ่อ รอข้าบรรลุเป็นเซียนแล้ว ข้าจะให้ท่านแม่พาข้ามาพบกับท่าน ท่านแม่ถึงแม้จะมีความไม่พอใจต่อท่าน แต่บางครั้งนางก็เหม่อลอย คาดว่าน่าจะกำลังคิดถึงท่าน ท่านลองอยู่กับท่านแม่...”

ภายในโลกแห่งความฝัน หลี่หยู่เยียนเริ่มออกอุบายให้กับหลี่ซู

ในฐานะที่เป็นบุตรสาว นางย่อมต้องหวังที่จะเห็นพ่อแม่คืนดีกัน

เรื่องของหลี่ซูกับท่านแม่ หลี่หยู่เยียนที่ฉลาดหลักแหลม ก็คาดเดาได้บ้าง

แต่นะ ในสายตาของลูก ไม่ว่าพ่อแม่จะทะเลาะกันอย่างไร พวกเขาก็ยังคงหวังที่จะเห็นพ่อแม่คืนดีกัน

เหมือนกับก่อนที่หลี่ซูจะข้ามภพมา คู่รักที่หย่าร้างจำนวนมาก ไม่ว่าคู่นั้นจะไม่พอใจกันแค่ไหน บุตรหลานของพวกเขาก็ยังคงหวังที่จะให้พ่อแม่คืนดีกัน

ในการสังเกตการณ์ของนางต่อฮวาเฟยเยียน ท่านแม่ มิใช่ว่าจะมีความไม่พอใจต่อหลี่ซูเพียงอย่างเดียว

เห็นหลี่หยู่เยียนเป็นเด็กดีขนาดนี้ หลี่ซูก็รู้สึกชอบบุตรสาวคนนี้ที่ยังไม่เคยพบหน้ามากขึ้น

.

เช่นนี้เอง อีกหลายปีผ่านไป ตอนที่หลี่หยู่เยียนอายุสามร้อยปี นางก็บรรลุระดับหลอมสุญตา

ความเร็วของนาง เร็วมาก

หลอมสุญตาอายุสามร้อยปี เร็วกว่าหลี่ซูในตอนนั้น

เรื่องนี้ การที่หลี่ซูนำนางเข้าไปฝึกฝนในโลกแห่งความฝันหลายชั้นทุก ๆ ระยะเวลาหนึ่ง เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก

หลี่หยู่เยียนยังเด็กเกินไป

หากมิใช่การฝึกฝนของหลี่ซู ฮวาเฟยเยียนคงจะควบคุมระดับการฝึกฝนของนาง

ป้องกันไม่ให้การฝึกฝนเร็วเกินไป จิตใจไม่มั่นคง

ทุกครั้งที่ฝึกฝนในโลกแห่งความฝันหลายชั้น หลี่ซูต่างก็อยู่เป็นเพื่อนหลี่หยู่เยียน

ภายในโลกแห่งความฝันหลายชั้น หนึ่งราตรีมิรู้ว่าจะผ่านไปกี่ปี เขาสามารถสอนหลี่หยู่เยียนได้ด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าโลกแห่งความฝันหลายชั้นจะผ่านไปกี่ปี ความจริงแล้ว ก็เป็นเพียงหนึ่งราตรีเท่านั้น

.

เวลาที่เส้นทางสู่โลกวิญญาณจะเปิดออก ก็ใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ

หลี่ซูมาถึงดวงจันทร์อีกครั้ง

เขาตัดสินใจที่จะเรียนรู้เสียงที่เจ็ดแห่งเทพจันทราให้สำเร็จก่อน

“ผู้ยิ่งใหญ่” บนดวงจันทร์ผู้นั้น เวลาที่ให้ ก็ยังคงมากมายมหาศาล

เสียงที่หก ให้เวลาหนึ่งพันกว่าปีในการเรียนรู้

เสียงที่เจ็ด คาดว่าจะให้ถึงสองพันปี

ยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างนี้ ตราบใดที่หลี่ซูมาถึง อีกฝ่ายก็สามารถแสดงเสียงที่เจ็ดให้กับหลี่ซูได้

ดังนั้น หลี่ซูจึงตัดสินใจที่จะเรียนรู้ก่อน

อาศัยโลกแห่งความฝันหลายชั้น ตนเองลองทำความเข้าใจก่อน รอจนได้รับประสบการณ์แล้วค่อยว่ากัน

เช่นนี้สามารถประหยัดเวลาได้มาก

แน่นอน ตัวเขาต้องเหนื่อยหน่อย

หากเป็นปกติ หลี่ซูจะไม่เหนื่อยขนาดนี้

เขายินดีที่จะให้กำเนิดบุตรหลานเพิ่มขึ้น

ตอนนี้ เขาก็อยากที่จะบรรลุแปดวัฏเส้นทางสู่โลกวิญญาณจะเปิดออกอีกครั้ง

ก็ทำได้เพียงให้ตนเองเหนื่อยหน่อย

“ท่าน โปรดรอสักครู่”

บนดวงจันทร์ที่เย็นชา เสียงของสตรีชุดกระโปรงสีขาวดังขึ้น

คำพูดของนาง ก็มีเพียงเท่านี้

ทุกครั้งที่หลี่ซูมาถึง โดยพื้นฐานแล้วก็เป็นสองประโยคนี้

หากมิใช่สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเป็นครั้งคราว หลี่ซูคงคิดว่านางเป็นหุ่นยนต์... เป็นหุ่นเชิดวิญญาณแล้ว

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสียงที่เจ็ดแห่งเทพจันทราดังขึ้นอีกครั้ง

หลายเดือนต่อมา หลังจากหลี่ซูตื่นขึ้น เขาก็เริ่มทำความเข้าใจในโลกแห่งความฝันหลายชั้น

โดยทั่วไปแล้ว หลังจากทำความเข้าใจด้วยตนเองหลายปี เขาก็จะไปที่ดวงจันทร์ ฟัง “ผู้ยิ่งใหญ่” ผู้นั้นแสดงอีกครั้ง

เขาก็ยิ่งขยันมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วหลังจากรับนางสนมเข้าบ้าน ก็จะมีหนึ่งหรือสองเดือน หลี่ซูจะไม่เข้าไปในโลกแห่งความฝันหลายชั้น แต่กลับอยู่กับนางสนมอย่างมีความสุข

ภายในโลกเซียนมาร ฮวาเฟยเยียนยังคงดูแลหลี่หยู่เยียนอยู่

ฮวาเฟยเยียนควบคุมความฝันของตนเองโดยตั้งใจ ปกติจะไม่ฝัน

หากนางฝัน ก็จะเป็นการฝันโดยตั้งใจ อยากจะพูดอะไรบางอย่างกับหลี่ซู

หลี่ซูคาดเดาว่า ดูจากสถานการณ์แบบนี้ ฮวาเฟยเยียนอาจจะไม่มาแล้ว

เขาก็ยังคงรู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่บ้าง

ความสุขที่ฮวาเฟยเยียนมอบให้ ทำให้เขารู้สึกติดใจ

สถานการณ์ของไป๋จื่อ หลี่ซูก็ยังไม่ทราบ

ไป๋จื่อไม่ค่อยฝัน

หากฝันเป็นครั้งคราว พอหลี่ซูเข้าไป นางก็จะรับรู้ จากนั้นก็จะทำลายจิตสำนึกวิญญาณของหลี่ซูอย่างโกรธเคือง

ไม่รู้ว่า จะทำให้สาวน้อยผู้นี้ ตั้งครรภ์ได้หรือไม่

เซียนหญิงตั้งครรภ์ ยากมาก

เหมือนกับฮวาเฟยเยียน หลายปีผ่านไป นางจึงจะตั้งครรภ์

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด

เพราะพวกนางเองก็จะป้องกัน

.

หลี่ซูคาดเดาว่า ถึงแม้ไป๋จื่อจะมาอีกครั้ง ก็ยังคงต้องใช้เวลาสักพัก

ความคิดของฮวาเฟยเยียน ก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้าง เช่น มีอยู่หลายครั้งในความฝัน นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูด

แต่ในที่สุด เพราะความไม่พอใจที่ยังไม่หายไป นางจึงไม่ได้พูดออกมา

เช่นนี้เอง วันเวลาจึงสงบสุขมากขึ้น

หลี่ซูยังคงไปที่ดวงจันทร์ทุก ๆ ระยะเวลาหนึ่ง

“ผู้ยิ่งใหญ่” ผู้นั้น ก็ได้แยกเสียงที่เจ็ดออกมา แสดงให้กับหลี่ซูครั้งแล้วครั้งเล่า

หนึ่งร้อยกว่าปีผ่านไป ในที่สุดก็มีข่าวดีมาถึง

เจ้าสูงศักดิ์หว่านอี๋ผ่านห้าการเสื่อมทรามคนฟ้า บรรลุระดับมหายานสำเร็จ

นางเองก็เป็นรากวิญญาณเซียน

“ท่านพี่”

หลังจากบรรลุระดับมหายานแล้ว พอเห็นหลี่ซู เจ้าสูงศักดิ์หว่านอี๋ก็เรียกเบา ๆ

ถึงแม้จะแต่งงานกับหลี่ซูมานานขนาดนี้ ต่อหน้าหลี่ซู นางก็ยังคงพูดจาเบา ๆ ใบหน้าแดงก่ำ

เจ้าสูงศักดิ์หว่านอี๋แบบนี้ ทำให้หลี่ซูรู้สึกอดทนไม่ไหว

ดังนั้นก็เป็นช่วงเวลาแห่งความเร่าร้อนอีกหลายเดือน

เจ้าสูงศักดิ์หว่านอี๋ไปปิดด่านบำเพ็ญ นางอยากจะบรรลุระดับมหายานขั้นสมบูรณ์ในคราวเดียว

วันเวลาสงบสุขอีกครั้ง

ภายใต้การใช้ชีวิตที่สงบสุขเช่นนี้ อีกไม่นาน ห้าร้อยปีก็ผ่านไป

วันนี้ ในที่สุดหลี่ซูก็เรียนรู้เสียงที่เจ็ดสำเร็จ

เสียงที่เจ็ดนี้ ยากมาก การที่หลี่ซูทำความเข้าใจในโลกแห่งความฝันหลายชั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียนรู้ได้เร็วขนาดนี้

ถึงแม้จะมีการแยกออกมา ก็ยังคงยาก

แต่ประสบการณ์หลายร้อยปีของหลี่ซู บวกกับการทำความเข้าใจของเขาเอง ทำให้เขาทำสำเร็จ

ตอนนี้ ยังเหลือเวลาอีกเจ็ดร้อยปีกว่าเส้นทางสู่โลกวิญญาณจะเปิดออก

“น่าจะไม่มีปัญหา”

หลี่ซูคิด

ก่อนหน้านี้ก็มีหลายร้อยปี บวกกับเจ็ดร้อยปีนี้ เขาควรจะสามารถบรรลุแปดวัฏได้ก่อนที่เส้นทางสู่โลกวิญญาณจะเปิดออก

“ท่านพ่อ ข้าบรรลุระดับมหายานแล้ว!”

หลังจากที่หลี่ซูเรียนรู้เสียงที่เจ็ดแห่งเทพจันทราสำเร็จได้ไม่นาน

ก็มีข่าวดีมาถึงอีกครั้ง

หลี่เสวี่ย บรรลุระดับมหายาน!

ข่าวนี้ ทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างมาก

นั่นหมายความว่า หลี่เสวี่ยก็สามารถขึ้นสวรรค์ได้ในไม่ช้า

หลี่ซูรู้สึกดีใจเล็กน้อย

ดูจากความเร็วแบบนี้ ก็ต้องดูว่าหลี่เสวี่ยสามารถบรรลุระดับมหายานขั้นสมบูรณ์ได้ก่อนที่เส้นทางสู่โลกวิญญาณจะเปิดออกหรือไม่

หากทำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร

ด้วยพลังของหลี่ซูในตอนนี้ ถึงแม้ว่าหลี่เสวี่ยจะขึ้นสวรรค์ตอนที่เส้นทางสู่โลกวิญญาณเปิดออก ตราบใดที่มีหลี่ซูอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลอะไร

อีกหนึ่งร้อยปีผ่านไป ก็มีข่าวดีมาถึงอีกครั้ง

ประมุขสำนักก็ผ่านห้าการเสื่อมทรามคนฟ้า บรรลุระดับมหายานสำเร็จ

การเสื่อมทรามครั้งนี้ เวลาที่ประมุขสำนักใช้ มิได้มากนัก เพียงแค่ช้ากว่าหลี่เสวี่ยไม่กี่ร้อยปี

เช่นนี้เอง ภายในตระกูลหลี่ ก็มีระดับมหายานถึงสามคน!

ต่อไป ก็จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ