บทที่ 77: ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา
มู่ไป๋ไป่เบะปากด้วยความรังเกียจพร้อมกับก่นด่าเสียงต่ำ “ผู้ชายสารเลว”
ขณะเดียวกัน เซียวถังอี้ที่อยู่ภายในห้องหูกระตุก เขามองไปยังทิศทางหนึ่งนิ่ง ๆ เขาไม่คาดคิดเลยจริง ๆ ว่าเจ้าเด็กคนนั้นจะกล้าตามเขาเข้ามาจริง ๆ
“คุณชาย ท่านกำลังคิดอะไรอยู่? สุราในมือของข้าไม่หอมเช่นนั้นหรือ?” เสียงหญิงสาวที่ฟังดูเย้ายวนและมีเสน่ห์ดังขึ้น ทำให้มู่ไป๋ไป่ขนลุกไปทั้งตัว
แต่เด็กหนุ่มไม่ตอบโต้เลย เขาเพียงแค่หันศีรษะเพื่อหลีกเลี่ยงจอกสุราที่ถูกส่งมา
“เจ้าเต้นรำเป็นหรือไม่?” เซียวถังอี้แตะปลายนิ้วบนโต๊ะพลางถามด้วยท่าทางสบาย ๆ
พอผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าแขกไม่อยากดื่ม นางก็ไม่ฝืนเซ้าซี้ต่อ ดังนั้นนางจำต้องวางจอกสุราลงแล้วยิ้มอย่างมีเสน่ห์ให้เขา “ข้าย่อมทำได้ ถ้าท่านต้องการดู ข้าก็จะขับร้องให้ท่านฟังด้วย”
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับเบา ๆ และโบกมือเป็นสัญญาณให้นางไปทำตามคำสั่ง
มู่ไป๋ไป่คิดว่าเธอคงจะได้เห็นฉากบางฉากที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าคนผู้นี้จะมาที่หอคณิกาเพื่อดูสตรีเต้นรำตลอดทั้งคืน
ในตอนแรกคนตัวเล็กก็คิดว่ามันน่าสนใจดี แต่พอดึกเข้าเธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอจึงเผลอหลับอยู่บนบันได
ขณะที่เธอกำลังสะลึมสะลืออยู่นั้น เธอก็สัมผัสได้ถึงขนนุ่มปุกปุยบนมือ เธอคิดว่าเป็นเจ้าส้มจึงพึมพำว่า “อืมมม… อย่ามายุ่ง”
อย่างไรก็ตาม สัมผัสบนมือของเธอไม่เพียงแค่หายไป แต่มันยังให้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังไต่ยุบยับอยู่บนหลังมืออีกด้วย
มู่ไป๋ไป่ขมวดคิ้วทันทีและลืมตาขึ้น ก่อนจะเห็นแมงมุมสีดำกำลังคลานขึ้นมาบนมือของเธอช้า ๆ สัมผัสนุ่ม ๆ นั้นน่าจะเป็นขนของเจ้าแมงมุมตัวใหญ่ตัวนี้
“!!!” เด็กหญิงอ้าปากค้างและรีบปัดแมงมุมออกจากหลังมือ
อย่างไรก็ตาม เธอเผลอลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองยังอยู่บนบันได พอปล่อยมือแล้วเธอก็ไม่มีที่จับยึด ส่งผลให้เธอกำลังจะร่วงหล่นลงไปจากชั้น 2
บัดนี้มู่ไป๋ไป่ตกใจมากจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ถึงกระนั้นเธอก็ยังโชคดีที่สามารถคว้าขอบหน้าต่างเอาไว้ได้ทันเวลา
และดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดทั้งมวลนั้นจะเสียงดังเกินไป ทำให้หน้าต่างส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดในตอนที่เธอเปิดมันออก ถึงอย่างนั้นคนด้านในก็มองไม่เห็นเธออยู่ดี
เซียวถังอี้หันไปมองเด็กน้อยที่นอนอยู่บนหน้าต่างด้วยสีหน้าแปลก ๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเบา ๆ “เด็กโง่”
เสียงที่เขาเปล่งออกมาไม่ดังแต่ก็ไม่เบาจนเกินไป มันเพียงพอที่จะทำให้มู่ไป๋ไป่ได้ยิน
เด็กหญิงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที เธอต้องทนตรากตรำอยู่นอกหน้าต่างทั้งคืน แถมยังเป็นอาหารให้กับยุงนับไม่ถ้วนอีก ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาที่คิดอยากจะมาในที่แบบนี้แทนที่จะไปที่อื่น!
แล้วก็เห็นอยู่ทนโท่ว่าเธอกำลังลำบาก แทนที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกันบ้าง ยังกล้ามาว่าเธอโง่อีก!
มันจะมากเกินไปแล้ว!
แต่บางทีมู่ไป๋ไป่อาจจะคุ้นเคยกับนิสัยของเด็กหนุ่มไปเสียแล้ว ดังนั้นเธอจึงโกรธได้เพียงไม่กี่อึดใจก่อนที่จะสงบลง แล้วมองคนสารเลวด้วยสายตาเฉยเมย จากนั้นก็ค่อย ๆ ปีนกลับไปที่บันไดอย่างระมัดระวัง
ในเวลาเดียวกัน เซียวถังอี้ยกคางขึ้นและเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของคนตัวเล็กอย่างไร้ความรู้สึกราวกับว่าการเคลื่อนไหวของนางนั้นน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าสตรีผู้งดงามตรงหน้าเสียอีก
“คุณชาย ท่านกำลังมองอะไรอยู่หรือ?” นางคณิกาที่ถูกสั่งให้เต้นรำอยู่ค่อนคืนก็รู้สึกเหนื่อยมาก เมื่อเห็นว่าสายตาของแขกไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ตน นางจึงโน้มตัวลงมาเล็กน้อย
ในขณะที่นางกำลังจะวางมือลงบนไหลของเขา เซียวถังอี้ก็เคลื่อนไหวทันที
เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน ก่อนจะรีบสาวเท้าไปทางหน้าต่างแล้วคว้าเด็กหญิงที่ลื่นจนเกือบตกบันไดเอาไว้
มู่ไป๋ไป่ที่ห้อยต่องแต่งอยู่กลางอากาศจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเหม่อลอย ก่อนที่เธอจะทันได้คิดอะไร เขาก็รั้งเธอเข้าไปด้านในแล้ว
“เอ๊ะ เด็กผู้หญิงคนนี้มาจากไหน—”
ก่อนที่นางคณิกาจะทันได้พูดอะไรต่อ นางก็ถูกเซียวถังอี้หยุดเอาไว้
มู่ไป๋ไป่ตกใจมากจนหัวใจกระตุกวูบ พร้อมกับที่ความกลัวคืบคลานเข้ามาอีกครั้ง เธอจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ก่อนจะหมุนตัววิ่งหนีออกไปด้านนอก
“ข้าอนุญาตให้เจ้าไปแล้วหรือ?” เสียงของเซียวถังอี้ยังคงเรียบเฉย แต่คนที่ได้ยินกลับรู้สึกว่ามันฟังดูน่าหวาดกลัวมาก
นี่ล้อกันเล่นอยู่หรือไง ผู้ชายคนนี้มันโรคจิตชัด ๆ เขาเพิ่งฆ่าคนโดยไม่กะพริบตานะ!
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ก่อนหน้านี้เธอหยอกล้อคนผู้นี้อยู่ทั้งวัน แต่สิ่งที่เขาทำคือเพียงแค่ตีก้นเธอ ไม่ได้ฆ่าเธอทันทีแบบนี้
จู่ ๆ มู่ไป๋ไป่ก็อยากจะเอ่ยปากขอบคุณอีกฝ่ายที่ไม่ฆ่าตน
ในเวลาเดียวกัน เซียวถังอี้ได้เข้ามาลากคอเสื้อของเธอให้มาเผชิญหน้าเขา จากนั้นก็แสยะยิ้ม “เจ้ามาที่นี่เอง อาณาเขตของข้าไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะไปมาได้ตามใจชอบ”
“ท่านวีรบุรุษ ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ” มู่ไป๋ไป่หลับตาปี๋ ชู 3 นิ้วขึ้นพร้อมเอ่ยปากสาบานว่า “ข้าสาบานจะไม่บอกใครว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”
“คืนนี้ข้าไม่ได้มาที่นี่ และไม่เห็นอะไรเลย”
“ท่านวีรบุรุษ ข้าเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 4 ขวบครึ่งย่างเข้า 5 ขวบเอง ท่านปล่อยข้าไปเถอะนะ”
“เมื่อก่อนเจ้าไม่ได้กล้าหาญมากหรอกหรือ แถมยังกล้าเรียกข้าว่าสัตว์ประหลาดอีกด้วย” เซียวถังอี้ยกยิ้มมุมปากพลางเขี่ยแก้มของเด็กน้อยเบา ๆ “ทำไมวันนี้ถึงเรียกข้าว่าวีรบุรุษเสียล่ะ?”
“ท่านวีรบุรุษ ข้าผิดไปแล้ว” มู่ไป๋ไป่พยายามอธิบาย “เป็นข้าที่ดวงตามืดบอด ทำให้เข้าใจท่านวีรบุรุษผิด ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ ข้าไม่อยากให้ท่านส่งข้ากลับแล้ว ข้ากลับเองได้ ท่านทำธุระของท่านต่อเถอะ”
เด็กหญิงรู้สึกเสียใจที่ก่อนหน้านี้ไม่รออยู่บนภูเขา
ตอนนี้เธออยากจะหลงทางอยู่บนภูเขามากกว่าอยู่กับคนบ้าที่ฆ่าคนด้วยเข็มเงินเช่นนี้ บางทีไทเฮาอาจจะสังเกตเห็นว่าเธอหายตัวไปตอนรุ่งสางและส่งคนออกมาตามหาเธอ
แล้วทีนี้เธอจะเอาชีวิตรอดไปได้อย่างไร?
ตอนนั้นเธอคิดอะไรอยู่ถึงได้ตามคนผู้นี้เข้ามาในเมือง?
“มันสายไปแล้ว” เซียวถังอี้โยนมู่ไป๋ไป่ออกไป โดยไม่ได้บอกว่าจะปล่อยเธอไปหรือไม่ เขาเพียงแค่ยืนขึ้นและบิดแจกันที่มุมห้อง
คนตัวเล็กได้แต่นั่งตัวสั่นอยู่ที่มุมห้องโดยไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มกำลังจะทำอะไร หลังจากการกระทำของเขา ตู้ในห้องก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวแยกออกจากกันและเผยให้เห็นทางเดินมืด ๆ
“มานี่!” เซียวถังอี้สั่งพลางเอียงศีรษะแสดงท่าทางให้เดินมาหาตน
มู่ไป๋ไป่อยากจะตอบปฏิเสธ แต่เมื่อเธอเหลือบมองสตรีที่ตายตาไม่หลับคนนั้น เธอก็รีบกลืนคำพูดของตัวเองลงท้องทันที ก่อนจะถามขึ้นอย่างแผ่วเบาว่า “ท่านจะพาข้าไปไหน?”
“ท่านไม่ได้บอกว่าข้าไร้ราคาหรอกหรือ?”
“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เอาเจ้าไปขายหรอก” เซียวถังอี้ยิ้ม ก่อนจะยกเท้าก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าไม่อยากตายก็ตามข้ามา”
เด็กหญิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินตามเขาไปโดยไม่รอช้า
ต้องบอกว่าวรยุทธของฝ่ายศัตรูสูงเกินไป เธอไม่อาจหลีกหนีเขาได้ผลแม้ว่าจะวิ่งเต็มกำลังก็ตาม ในเมื่ออีกฝ่ายสัญญาแล้วว่าจะไม่เอาเธอไปขาย เธอจึงคิดว่าจะยอมติดตามเขาเป็นการชั่วคราวเพื่อคอยดูสถานการณ์
จากนั้นค่อยหาโอกาสหลบหนี!
ภายในอุโมงค์นั้นทั้งมืดและลึกมากจนมู่ไป๋ไป่ก้าวพลาดไปหลายขั้นจนเกือบจะล้ม
แต่เซียวถังอี้ที่เดินอยู่ข้างหน้ากลับมั่นคงมากประหนึ่งว่าความมืดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของเขาเลย
มู่ไป๋ไป่เม้มริมฝีปากแน่น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองตกบันไดตายเอง เธอจึงคว้าชายเสื้อของคนตัวสูงกว่ามาจับเอาไว้แน่น
ทันทีที่เด็กหนุ่มสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของคนตัวเล็ก เขาก็เหลือบมองนางเล็กน้อย ไม่นานเขาก็ถอนสายตาออกไป โดยที่เขาไม่ได้ปฏิเสธหรือให้รางวัลนางเป็นเข็มเงินโดยตรง
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: น้องมาเจอกับคนประหลาดของแท้เลย นี่มันอะไรกันครับเนี่ย! ไป๋ไป่จะเจอกับอะไร แล้วจะเอาตัวรอดได้หรือไม่?