บทที่ 53 เจ้าไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะเช็ดรองเท้าให้เขา - บทที่ 54 หินศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถคายหินวิญญาณได้
บทที่ 53 เจ้าไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะเช็ดรองเท้าให้เขา
หลินจ้าน รวมถึงทุกคนในตระกูลหลิน ต่างก็ตกตะลึง
ขอบเขตหลุนไห่กับขอบเขตเจินหยวน มันเหมือนกับเหวลึก แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเจินหยวนขั้นสูงสุด ก็ยังยากที่จะรับมือกับการโจมตีของผู้แข็งแกร่งในขอบเขตหลุนไห่ขั้นต้น แต่ตอนนี้ หลินอวี่ไม่เพียงแต่ป้องกันการโจมตีของหลางเถิงได้ เขายังทำให้หลางเถิงถอยหลังไปเจ็ดก้าว!
ทั้งหมดนี้ มันช่างเหลือเชื่อ!
“อ๊าก!”
ถ้าคนของตระกูลหลินตกใจ งั้นหลางเถิง ก็โกรธมาก!
เด็กหนุ่มขอบเขตเจินหยวนขั้นต้น กลับสามารถป้องกันการโจมตีของเขาต่อหน้าคนมากมาย สำหรับเขา มันเป็นความอับอายอย่างมาก!
ความอับอายนี้ มีเพียงการตายของหลินอวี่ จึงจะล้างได้!
“ไอ้เด็กบัดซบ ข้าจะสังหารเจ้า!”
เขากู่ร้องคำราม ปลดปล่อยพลังขอบเขตหลุนไห่ขั้นต้นออกมา ปราณหยวนแผ่ซ่านออกมา กลิ่นอายที่น่ากลัวพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา เมื่อกลิ่นอายแข็งแกร่งถึงขีดสุด เขาก็ต่อยออกไป!
หมัดนี้ ดูเหมือนธรรมดา แต่จริงๆ แล้ว มันคือกระบวนท่าไม้ตายของหลางเถิง ทักษะวิชาต่อสู้ระดับหวงขั้นสูงสุด ชื่อว่าหมัดสั่นสะเทือนภูผา หมัดเดียว สามารถทุบภูเขาให้แหลกได้!
“แย่แล้ว!”
“อวี่เอ๋อร์ รีบหลบ!”
หลินจ้านและคนอื่นๆ มีสีหน้าเปลี่ยนไป พลังที่ผู้ฝึกยุทธ์ปลดปล่อยออกมาเมื่อใช้ทักษะวิชาต่อสู้ กับพลังที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อไม่ได้ใช้ทักษะวิชาต่อสู้ มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าหลินอวี่จะสามารถรับมือกับหลางเถิงได้ แต่เมื่อหลางเถิงใช้หมัดสั่นสะเทือนภูผา หลินอวี่ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้!
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หลินอวี่กำลังจะโดนหมัดนี้ บนใบหน้าของเขา กลับไม่มีความตื่นตระหนกปรากฏขึ้น เขาพูดอย่างแผ่วเบา “ทุกท่าน ดูละครมานานแล้ว ออกมาเถอะ”
“ฮ่าๆๆๆ!”
เมื่อหลินอวี่พูดจบ เสียงหัวเราะก็ดังขึ้น จากนั้น ร่างสามร่าง ก็ปรากฏตัวระหว่างหลินอวี่และหลางเถิงพร้อมกัน
ตูม!
เห็นร่างสามร่างตบฝ่ามือไปข้างหน้าพร้อมกัน คลื่นพลังพุ่งทะยาน ในพริบตา หมัดสั่นสะเทือนภูผาที่หลางเถิงปลดปล่อยออกมา ก็ถูกทำลาย ไม่เหลือแม้แต่น้อย
จากนั้น ร่างสามร่าง ก็เผยโฉม
คนแรก คือชายวัยกลางคนในชุดสีเขียว มีรอยยิ้มบนใบหน้า มีกลิ่นอายที่สง่างาม คนที่อยู่ด้านซ้าย คือชายร่างสูงใหญ่ ในชุดแดง มีใบหน้าดำคล้ำ ทำให้ผู้คนจดจำได้ในทันที ส่วนคนที่อยู่ด้านขวา กลับเป็นชายชราที่เตี้ยมาก บนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มแปลกๆ
เห็นทั้งสามคนปรากฏตัว ไม่ว่าจะเป็นหลินจ้านหรือหลางเถิง ต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป!
ที่แท้ คนทั้งสามนี้ คือผู้นำของกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดสามกองกำลังในระยะหลายพันลี้ พวกเขาคือจั่วเฉียนชิว ผู้นำของป้อมปราการตระกูลจั่ว เจียงอ้าวหวู่ ผู้นำของภูเขาเฮยหลง(มังกรดำ) และชิงเหยียนเหล่าโส่ว ผู้นำของเมืองชิงเหยียน(ศิลาคราม)
คนทั้งสามนี้ ทำไมถึงปรากฏตัวที่นี่?
“คารวะท่านผู้ตรวจการ”
ภายใต้สายตาที่ตกใจของหลินจ้านและหลางเถิง จั่วเฉียนชิวก็ยิ้ม มองหลินอวี่ โค้งคำนับ พูดว่า “ท่านผู้ตรวจการอายุยังเยาว์ ทว่ากลับมีพลังเช่นนี้ ช่างน่าชื่นชมยิ่งนัก!”
ผู้ตรวจการ?
เห็นท่าทางที่สุภาพของจั่วเฉียนชิวที่มีต่อหลินอวี่ รวมถึงคำเรียกขานของจั่วเฉียนชิว หลินจ้านและหลางเถิงก็ตกตะลึง ไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า
จั่วเฉียนชิว เขามีพลังถึงขีดสุดของขอบเขตหลุนไห่ขั้นกลาง ห่างจากขอบเขตหลุนไห่ขั้นปลายเพียงก้าวเดียว ในระยะหลายพันลี้ เขาถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด บุคคลแบบนี้ แม้แต่หลางเถิงและหลินจ้านร่วมมือกัน เขาก็ยังไม่สนใจ แต่ตอนนี้ เขากลับสุภาพกับหลินอวี่ เด็กหนุ่มคนหนึ่ง มันเกิดอะไรขึ้น?
“ดูเหมือนว่าพี่หลินยังไม่รู้เรื่องราวที่น่าทึ่งของบุตรชายท่าน ใช่หรือไม่?”
เห็นความสงสัยบนใบหน้าของหลินจ้าน จั่วเฉียนชิวก็ยิ้ม พูดว่า “อายุเพียงสิบหกปี ด้วยขอบเขตเจินหยวนขั้นต้น กลับควบคุมเจตจำนงกระบี่ขั้นสมบูรณ์แบบ กลายเป็นศิษย์สายในอันดับหนึ่งของหุบเขาเสวียนเจี้ยน ได้รับการปฏิบัติเทียบเท่ากับศิษย์สายตรง และยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ตรวจการประจำเทือกเขาม่านหวง พี่ชายหลิน ท่านช่างมีบุตรชายที่ดีจริงๆ!”
ตูม!
คำพูดของจั่วเฉียนชิว ราวกับฟ้าผ่า ฟาดลงบนหัวของหลินจ้าน ในพริบตา หลินจ้านก็ตกตะลึง!
ด้วยขอบเขตเจินหยวนขั้นต้น กลับควบคุมเจตจำนงกระบี่ขั้นสมบูรณ์แบบ?
กลายเป็นศิษย์สายในอันดับหนึ่งของหุบเขาเสวียนเจี้ยน ได้รับการปฏิบัติเทียบเท่ากับศิษย์สายตรง?
กลายเป็นผู้ตรวจการประจำเทือกเขาม่านหวง?
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ มีเพียงอัจฉริยะที่แท้จริงเท่านั้นที่สามารถทำได้ แต่ตอนนี้ เรื่องทั้งสามนี้ กลับเกิดขึ้นกับหลินอวี่!
ตระกูลหลินของพวกเขา กลับมีอัจฉริยะแบบนี้ปรากฏตัว? เขา หลินจ้าน กลับมีบุตรชายที่น่าทึ่งขนาดนี้?
ทั้งหมดนี้ ราวกับความฝัน ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อ!
“เป็นไปไม่ได้!”
ไม่เพียงแต่หลินจ้านที่ไม่อยากจะเชื่อ หลางเถิงก็เช่นกัน
ในเวลานี้ ใบหน้าที่ดุร้ายของเขาบิดเบี้ยว คำราม “ข้าไม่เชื่อ! แม้แต่บุตรชายของข้า หลางเปิ่น ก็เป็นแค่ศิษย์สายในของสถาบันเสวียนชิง กับอีแค่หลินอวี่ ทำไมมันถึงมีพลังขนาดนี้? ตระกูลหลินเล็กๆ ทำไมถึงมีอัจฉริยะแบบนี้ปรากฏตัว?”
“บุตรชายของเจ้า หลางเปิ่นเนี้ยนะ?”
ได้ยินคำพูดของหลางเถิง เจียงอ้าวหวู่ ชายร่างสูงใหญ่มีใบหน้าดำคล้ำ เขายืนอยู่ข้างๆ จั่วเฉียนชิว ก็หัวเราะเยาะ “หลางเถิง พูดตามตรง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหรือบุตรชายของเจ้า ล้วนไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะเช็ดรองเท้าให้หลินอวี่ เจ้านำบุตรชายของเจ้ามาเทียบกับหลินอวี่เนี้ยนะ? เจ้าช่างคิดมากจริงๆ!”
“เจ้า!”
ได้ยินคำพูดของเจียงอ้าวหวู่ หลางเถิงก็แทบจะกระอักเลือด เขาเป็นคนหยิ่งยโส ไม่เคยสนใจใคร แต่ตอนนี้ กลับมีคนบอกว่าเขาไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะเช็ดรองเท้าให้เด็กหนุ่มคนหนึ่ง?
นี่มันน่าอับอายแค่ไหน!
“หืม?”
เห็นสีหน้าที่โกรธจัดของหลางเถิง จั่วเฉียนชิวก็ขมวดคิ้ว พูดอย่างแผ่วเบา “หลางเถิง ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีจิตสังหารต่อท่านผู้ตรวจการ คนแบบนี้ ถ้าปล่อยไว้ คงจะสร้างปัญหา ใช่ไหม? เจียงอ้าวหวู่ ชิงเหยียนเหล่าโส่ว พวกเราร่วมมือกัน สังหารมันเถอะ!”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ จั่วเฉียนชิวทั้งสามคน ก็ตบฝ่ามือออกไปพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่า การลงมือของพวกเขา ไม่ได้เป็นการตัดสินใจชั่ววูบ แต่พวกเขาเตรียมการไว้แล้ว!
จั่วเฉียนชิวทั้งสามคน ล้วนมีพลังขอบเขตหลุนไห่ขั้นกลาง แต่ละคน ล้วนแข็งแกร่งกว่าหลางเถิง ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้งสามคนยังร่วมมือกัน แถมยังเป็นการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว มันง่ายมาก ในพริบตา พวกเขาก็สังหารหลางเถิง!
ตูม!
มีเพียงเสียงระเบิดดังขึ้น หลางเถิงยังไม่ทันได้ร้อง หัวของเขาก็ระเบิดราวกับแตงโม ในพริบตา ผู้แข็งแกร่งขอบเขตหลุนไห่ขั้นต้น ก็ตกตาย!
-----------
บทที่ 54 หินศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถคายหินวิญญาณได้
หลางเถิง ตายแล้ว!
“คุณชายหลิน การพบกันครั้งแรก หัวของหลางเถิงถือว่าเป็นของขวัญจากข้า เพื่อแสดงความยินดีกับท่านที่ได้เป็นผู้ตรวจการประจำเทือกเขาม่านหวง”
หลังจากสังหารหลางเถิง จั่วเฉียนชิวก็มีสีหน้าไม่เปลี่ยน ราวกับทำเรื่องเล็กน้อย ตบมือ จากนั้นก็มองหลินอวี่ ยิ้มออกมา
“ขอบคุณผู้อาวุโสจั่ว”
หลินอวี่ยิ้ม แต่ในใจกลับไม่ได้คิดแบบนั้น
เขาฝึกฝนเคล็ดบ่มเพาะว่านกู่ฉางชิง พลังจิตวิญญาณของเขาเหนือกว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป เขาค้นพบว่า จริงๆ แล้ว ในขณะที่คนของเมืองชิงหลางมาถึง จั่วเฉียนชิวทั้งสามคน ก็ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ ตระกูลหลินอยู่ก่อนแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น หลินอวี่ยังรู้ดีว่า เหตุผลที่จั่วเฉียนชิวทั้งสามคนไม่ลงมือตั้งแต่แรก แต่กลับรอจนกระทั่งเขาสู้กับหลางเปิ่นและหลางเถิง ก่อนจะปรากฏตัว มันมีสองสาเหตุ
ประการแรก คือการประเมินพลังของหลินอวี่ ถ้าหลินอวี่เป็นอัจฉริยะอย่างที่ข่าวลือว่า พวกเขาย่อมจะลงมือ และสร้างมิตรภาพ แต่ถ้าไม่ใช่ พวกเขาก็จะยืนดู หรือแม้แต่เล่นงานตระกูลหลินด้วยซ้ำ
ประการที่สอง ถ้าลงมือตั้งแต่แรก มันก็จะไม่สามารถแสดงพลังของพวกเขาได้ มีเพียงการปรากฏตัวในช่วงเวลาที่ตระกูลหลินตกอยู่ในอันตราย จึงจะสามารถเน้นย้ำถึงความสำคัญของความช่วยเหลือนี้
ดังนั้น แม้ว่าจั่วเฉียนชิวทั้งสามคนจะดูสุภาพ แต่จริงๆ แล้ว คนทั้งสามนี้ ก็ไม่ใช่คนจิตใจดี!
แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลใด จั่วเฉียนชิวทั้งสามคนก็ยื่นมือเข้ามาช่วย ดังนั้น หลินอวี่จึงไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกับพวกเขา
หลังจากนั้น พวกเขาก็พูดคุยกัน
“คุณชายหลิน ท่านเพิ่งกลับบ้าน คงมีเรื่องต้องจัดการมากมาย พวกเราสามคนจะไม่รบกวนท่านแล้ว ถ้ามีโอกาส พวกเราค่อยดื่มสุราและพูดคุยกัน”
ครู่ต่อมา จั่วเฉียนชิวก็ยิ้ม บอกลาหลินอวี่
จากนั้น เขากับเจียงอ้าวหวู่ ชิงเหยียนเหล่าโส่ว ร่างของพวกเขาก็สั่นไหว ในพริบตา ก็หายตัวไปจากสายตาของหลินอวี่
“พี่จั่ว หลินอวี่ผู้นี้ ช่างหยิ่งยโสจริงๆ!”
ความเร็วของพวกเขาเร็วมาก ในพริบตาก็ออกจากเมืองหลิงสือไปหลายสิบลี้ ทันใดนั้น เจียงอ้าวหวู่ก็หยุดฝีเท้า แค่นเสียงอย่างเย็นชา “พวกเราช่วยชีวิตเขา ไอ้เด็กนั่น กลับไม่แสดงความขอบคุณออกมาเลย!”
“อัจฉริยะ ย่อมหยิ่งยโส”
จั่วเฉียนชิวยิ้ม พูดว่า “หลินอวี่ผู้นี้ เป็นแค่ขอบเขตเจินหยวนขั้นต้น กลับสามารถต่อกรกับหลางเถิงได้ จะเห็นได้ว่าพรสวรรค์ของเขายอดเยี่ยมมาก คนแบบนี้ พวกเราอย่าไปยั่วยุเขาเลย”
“ข้าก็รู้ แต่น่าเสียดายสำหรับหินศักดิ์สิทธิ์ก้อนนั้น!”
เจียงอ้าวหวู่แค่นเสียง พูดว่า “หินศักดิ์สิทธิ์ของเมืองหลิงสือ ได้ยินมาว่ามันสามารถคายหินวิญญาณขั้นต้นออกมาได้วันละสิบก้อน หนึ่งปี ก็คือสามพันหกร้อยห้าสิบก้อน เทียบเท่ากับเงินประมาณสี่แสนตำลึง! สมบัติล้ำค่าแบบนี้ กลับตกเป็นของตระกูลหลินเล็กๆ ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก!”
“ไม่แน่หรอก”
ชิงเหยียนเหล่าโส่ว คนที่เงียบมาตลอด ก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “มีหลินอวี่อยู่ พวกเราย่อมไม่สามารถเล่นงานตระกูลหลินได้ แต่ถ้าเขาตายล่ะ? หุบเขาเสวียนเจี้ยนไม่ใช่สถานที่ธรรมดา หลินอวี่อายุยังน้อย กลับกลายเป็นผู้ตรวจการประจำเทือกเขาม่านหวง คงมีหลายคนที่ไม่ยอมรับเขา เขาจะอยู่ในตำแหน่งนี้นานแค่ไหน มันก็ยังไม่แน่นอน”
“ถูกต้อง”
ดวงตาของจั่วเฉียนชิวเต็มไปด้วยความเย็นชา พูดว่า “ชิงเหยียนเหล่าโส่วพูดถูก ถ้าหลินอวี่เกิดอุบัติเหตุ พวกเราย่อมไม่ปล่อยตระกูลหลินไว้แน่ แต่ในช่วงเวลานี้ พวกเราก็รอดูสถานการณ์ไปก่อนเถอะ”
“อืม”
เจียงอ้าวหวู่ และชิงเหยียนเหล่าโส่วพยักหน้า จากนั้น ทั้งสามคนก็แยกย้ายกัน มุ่งหน้าไปยังกองกำลังของตัวเอง
……
ไม่ต้องพูดถึงแผนการของจั่วเฉียนชิวทั้งสามคน หลินจ้านและคนอื่นๆ ของตระกูลหลิน ต่างก็ยังคงตกตะลึง
ต้องยอมรับว่า วันนี้ มันทำให้พวกเขารู้สึกตกใจมาก พวกเขายังคงทำใจไม่ได้!
เมืองชิงหลางบุกมา ตระกูลหลินตกอยู่ในอันตราย จากนั้น หลินอวี่ นายน้อยที่เข้าเรียนในหุบเขาเสวียนเจี้ยนเกือบหนึ่งปีก็กลับมา แถมยังแสดงพลังที่น่าตกใจ สังหารหลางเปิ่น และต่อกรกับหลางเถิง หลังจากนั้น จั่วเฉียนชิว ผู้นำของกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดสามกองกำลัง ก็ปรากฏตัว สังหารหลางเถิง ทั้งหมดนี้ราวกับความฝัน ทำให้ผู้คนไม่อยากจะเชื่อ
แต่ศพของหลางเถิงที่ไม่มีหัวบนพื้น มันบอกพวกเขาอย่างชัดเจนว่า ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ความฝัน!
“อวี่เอ๋อร์ บิดาไม่คิดเลยว่า เจ้าจะเติบโตมาถึงระดับนี้”
ผ่านไปนาน หลินจ้านก็ถอนหายใจ เดินไปหาหลินอวี่ ตบไหล่หลินอวี่ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “อวี่เอ๋อร์ เจ้าทำได้ดีมาก! ตระกูลหลินของเรา ล้วนภาคภูมิใจในตัวเจ้า!”
“ถูกต้อง อายุแค่สิบหกปี ก็ควบคุมเจตจำนงกระบี่ขั้นสมบูรณ์แบบได้แล้ว พรสวรรค์ของนายน้อย คงติดอันดับต้นๆ ในแคว้นว่านหลิง ใช่ไหม?”
“มีนายน้อยอยู่ การผงาดขึ้นของตระกูลหลินของเรา คงไม่ไกลแล้ว!”
เมื่อหลินจ้านพูดแบบนี้ คนอื่นๆ ของตระกูลหลินก็ได้สติกลับมา ต่างก็พูดคุยกัน ในชั่วขณะหนึ่ง เสียงชื่นชมมากมาย ก็พุ่งเข้าหาหลินอวี่
มองรอยยิ้มที่จริงใจบนใบหน้าของคนตระกูลหลิน หลินอวี่ก็พยักหน้าในใจ
พูดตามตรง เดิมทีเขาไม่ได้ผูกพันกับตระกูลหลินมากนัก แต่เมื่อเขาปรากฏตัว สิ่งแรกที่คนของตระกูลหลินคิดถึง คือการให้เขาหนีไป เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสังหารโดยคนของเมืองชิงหลาง เรื่องนี้ ทำให้เขารู้สึกถึงความสามัคคีของตระกูลนี้
ไม่ว่ายังไง ร่างกายนี้ก็มีสายเลือดของตระกูลหลิน ความเจริญรุ่งเรืองและความเสื่อมโทรมของตระกูลนี้ ย่อมเกี่ยวข้องกับเขา
เขายิ้ม เปลี่ยนเรื่อง พูดว่า “ท่านพ่อ เมืองหลิงสือของเรา ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ทำไมครั้งนี้ ถึงได้ยั่วยุคนของเมืองชิงหลาง?”
“เรื่องนี้ มันเกี่ยวกับหินศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมืองหลิงสือของเรา”
พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของหลินจ้านก็เคร่งเครียด “หินศักดิ์สิทธิ์ก้อนนี้ อยู่ในเมืองหลิงสือมานานหลายร้อยปีแล้ว ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อหนึ่งเดือนก่อน มันกลับคายหินวิญญาณขั้นต้นออกมา! ตอนแรก มีแค่หนึ่งก้อน สามก้อน แต่ตั้งแต่วันที่สาม มันก็คายหินวิญญาณขั้นต้นออกมาวันละสิบก้อน จนถึงตอนนี้! เพราะหินศักดิ์สิทธิ์ก้อนนี้ ทำให้ตระกูลหลินของเรากลายเป็นเป้าหมายของทุกคน!”
“คายหินวิญญาณขั้นต้น?”
ได้ยินแบบนี้ แม้แต่หลินอวี่ ก็ยังมีสีหน้าตกใจ
ตามหลักการแล้ว แหล่งที่มาของหินวิญญาณมีเพียงแหล่งเดียว นั่นคือแหล่งแร่หินวิญญาณที่สวรรค์และปฐพีสร้างขึ้น แต่หินศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมืองหลิงสือ กลับสามารถคายหินวิญญาณออกมาได้?
นี่มันช่างเหลือเชื่อ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน!