ตอนที่แล้วบทที่ 2 คู่มือทักษะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 การมองหาเป้าหมาย

บทที่ 3 การวางแผนสัตว์เลี้ยงวิเศษตัวแรก


คู่มือนั้นอัพเดทจริงๆ

เมื่อพบการเปลี่ยนแปลง ซื่อยวี่ก็รู้สึกตื่นเต้นทันที

"คัดลอกทักษะการข่มขู่สำเร็จแล้ว"

"ตามกฎ ต่อไปแค่หาเป้าหมาย ก็น่าจะสอนทักษะนี้ให้กับสัตว์เลี้ยงวิเศษอื่นๆ ได้ทุกเมื่อ!"

ทักษะการข่มขู่... ก็คือความสามารถที่จ่าฝูงใช้ควบคุมฝูงหมาป่านั่นเอง

ถ้าสามารถสอนทักษะนี้ให้กับหมาป่าหิมะธรรมดาได้ นั่นก็หมายความว่าสามารถผลิตจ่าฝูงได้เป็นจำนวนมากด้วยตัวเองสิ?

และถ้าสามารถสอนทักษะนี้ให้กับสัตว์เลี้ยงวิเศษต่างสายพันธุ์ได้ด้วย ก็คงจะสามารถฝึกฝน "ราชา" ของสายพันธุ์อื่นๆ ได้

คิดดูให้ดี ช่างเป็นบั๊กที่รุนแรงจริงๆ

แต่ก็ต้องเป็นบั๊กถึงจะมีความสุขนี่นา

การมีพรสวรรค์การควบคุมสัตว์วิเศษที่ทรงพลังขนาดนี้ ช่างสมกับเป็นตัวเขาจริงๆ

ซื่อยวี่ยิ้มออกมา เมื่อเขาได้สติ ก็เห็นว่าจ่าฝูงหมาป่าหิมะกำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาสงสัย

"โฮ่ว------"

จ่าฝูงส่งเสียงคำรามต่ำ และขมวดคิ้ว

ซื่อยวี่เข้าใจแล้ว อีกฝ่ายเห็นเขายิ้มโง่ๆ จึงสงสัยว่าเขาเป็นบ้า...

จะสงสัยก็สงสัยไป ซื่อยวี่ไม่โกรธหรอก

ความสุขของเขา จ่าฝูงคงไม่มีวันเข้าใจ ความสุขของคนกับหมาป่านั้นไม่เหมือนกัน

เพิ่งจะได้เปรียบอีกฝ่ายไป ตอนนี้ซื่อยวี่มองจ่าฝูงหมาป่าหิมะด้วยสายตาเป็นมิตร

ทักษะการข่มขู่ของเจ้าดูจะทรงพลังมาก แต่ในวินาทีนี้ มันกลายเป็นของฉันแล้วฮี่ฮี่

จ่าฝูงหมาป่าหิมะยังไม่รู้ว่าทักษะของมันถูกคัดลอกไปแล้ว หลังจากที่แน่ใจว่าซื่อยวี่ไม่ได้มีปัญหาเพราะถูกมันทำให้ตกใจ มันก็หันไปกินเนื้อเต็มปากเต็มคำ

มันกินอิ่มดื่มเต็มที่แล้ว หมาป่าหิมะธรรมดาในฝูงถึงได้กล้าเข้ามาล้อมรอบ

แน่นอนว่าเป็นเพราะจ่าฝูงทิ้งกลิ่นของมันไว้ หลังจากที่จ่าฝูงจากไป เมื่อเผชิญหน้ากับซื่อยวี่ ฝูงหมาป่าหิมะธรรมดาพวกนี้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ดุร้ายเหมือนก่อนหน้านี้

เหมือนกับที่นักศึกษาฝึกงานคนอื่นๆ พูดไว้ ว่านอนสอนง่ายมาก

ความว่านอนสอนง่ายนี้ ทำให้กระบวนการให้อาหารและการศึกษาคู่มือในสมองของซื่อยวี่ต่อไปราบรื่นขึ้นมาก

"สอนได้จริงๆ ด้วย" หลังจากแจกจ่ายอาหารให้กับหมาป่าหิมะแต่ละตัวแล้ว ซื่อยวี่รู้สึกตื่นเต้นในใจ

เมื่อครู่ ในขณะที่มีหมาป่าหิมะแต่ละตัวอยู่ในสายตา ข้อมูลในหน้าแรกของคู่มือหินในสมองของซื่อยวี่ก็เปลี่ยนแปลงทันที

สถานะของทักษะเปลี่ยนจาก "ยังไม่มีผู้รับการสอน" เป็น "สามารถสอนได้"

นั่นก็หมายความว่า เขาสามารถถ่ายทอดทักษะการข่มขู่ในคู่มือให้กับหมาป่าหิมะทุกตัวที่เขาเพิ่งให้อาหารไปได้จริงๆ! สร้างจ่าฝูงด้วยตัวเองได้จริงๆ! แน่นอนว่า ทำได้ก็ทำได้ แต่ซื่อยวี่ย่อมไม่ใช้ความสามารถในการสอนนี้อย่างไม่รอบคอบ

อย่าว่าแต่ไม่รู้ว่าจะสิ้นเปลืองพลังงานมากแค่ไหนเลย นอกจากนี้ การช่วยให้หมาป่าหิมะของศูนย์เลี้ยงสัตว์เรียนรู้ทักษะการข่มขู่อย่างไม่มีเหตุผล ก็จะเกิดปัญหาใหญ่แน่นอน...

ให้อาหารต่อไป------

ซื่อยวี่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ ไม่นานงานก็เสร็จ แต่สิ่งที่ทำให้ซื่อยวี่รู้สึกเสียดายก็คือ ในระหว่างการให้อาหารหมาป่าหิมะ เขาไม่สามารถคัดลอกทักษะอื่นๆ ของพวกหมาป่าหิมะได้

เพราะนอกจากจ่าฝูงที่แสดงการข่มขู่ตลอดเวลาแล้ว หมาป่าหิมะตัวอื่นๆ ก็ไม่มีเวลาว่างพอที่จะใช้ทักษะประจำเผ่าพันธุ์ในขณะที่กินอาหาร

ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ซื่อยวี่ก็ไม่โลภมาก ทักษะการข่มขู่ทางจิตระดับสูงหนึ่งทักษะ ก็ทำให้เขาได้กำไรมากแล้วในครั้งนี้

......

ต่อมา หลังจากเสร็จสิ้นงานให้อาหารฝูงหมาป่าหิมะแล้ว ซื่อยวี่ก็เริ่มทำงานอื่นๆ

ภายในศูนย์เลี้ยงสัตว์ ซื่อยวี่เห็นเหยี่ยวหลังเขียวบินลาดตระเวนผ่านท้องฟ้า

ภายใต้สายตาและความคิด แม้จะอยู่ห่างกันพอสมควร แต่สถานะของทักษะการข่มขู่ในคู่มือในสมองก็เปลี่ยนจาก "ยังไม่มีผู้รับการสอน" เป็น "สามารถสอนได้" อีกครั้ง

ดูสิ ไม่เพียงแต่สามารถฝึกจ่าฝูงได้... ยังสามารถฝึกราชานกได้ด้วย!

ซื่อยวี่อยากลองจริงๆ

แต่เหตุผลทำให้เขาเลือกที่จะทำงาน

นักศึกษาฝึกงานนั้นลำบากมาก งานที่ยากและเหนื่อยที่สุดล้วนเป็นของพวกเขา และยังไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากนัก

นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะพวกเขายังอยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้

การให้ซื่อยวี่และคนอื่นๆ ทำงานที่ยากเช่นการฝึกสัตว์เลี้ยงวิเศษ พวกเขาก็ต้องมีความสามารถนั้นก่อน

เหมือนกับฝูงหมาป่าเมื่อครู่ ถ้าไม่มีจ่าฝูงที่มีทักษะการข่มขู่สักตัว การจัดการและฝึกฝนก็จะยากมาก

การฝึกฝูงหมาป่าหิมะเหล่านี้ให้ดี ให้เป็นสัตว์เลี้ยงวิเศษที่เหมาะสมสำหรับนักเลี้ยงสัตว์วิเศษในการเลี้ยงดูและทำสัญญา เป็นหน้าที่ของผู้ฝึกสอนอย่างเป็นทางการคนอื่นๆ

ซื่อยวี่และนักศึกษาฝึกงานคนอื่นๆ ก็ทำได้แค่งานพื้นฐานเท่านั้น

แน่นอนว่า นอกจากงานพื้นฐานแล้ว ผู้เลี้ยงสัตว์อย่างเป็นทางการจะนำซื่อยวี่และนักศึกษาฝึกงานคนอื่นๆ ไปทำงานอื่นๆ เป็นประจำ เพื่อให้นักศึกษาฝึกงานได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมาย

"ช่วงฝึกงานยังเหลืออีกสามเดือน ยังคงต้องตั้งใจเรียนรู้ก่อน"

ร่างเดิมต้องการเป็นนักเลี้ยงสัตว์วิเศษมาตลอด และได้เตรียมการไว้มากมาย อาชีพผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงวิเศษนี้ก็เป็นสะพานที่เขาเตรียมไว้ให้ตัวเอง

แม้จะได้รับความสามารถพิเศษมา แต่ซื่อยวี่ก็พิจารณาแล้วว่า ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับนักเลี้ยงสัตว์วิเศษนั้นยังมีจำกัดมาก อาศัยความรู้เพียงเล็กน้อยในความทรงจำนั้นไม่สามารถทำอะไรได้อย่างเต็มที่ ตอนนี้การพัฒนาอย่างมั่นคงน่าจะดีกว่า

คู่มือทักษะนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถูกสร้างมาเพื่อการเป็นนักเลี้ยงสัตว์วิเศษ ถ้าไม่เป็นนักเลี้ยงสัตว์วิเศษก็น่าเสียดาย แต่นอกจากความสามารถในการสอนของคู่มือแล้ว ตอนนี้เขาก็ไม่มีทุนอะไรในการเป็นนักเลี้ยงสัตว์วิเศษเลย

ต่อไป ซื่อยวี่ตัดสินใจที่จะให้ความสำคัญกับงานผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงวิเศษนี้ก่อน ใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคู่มือทักษะและโลกใบนี้ให้มากขึ้น แล้วค่อยวางแผนอื่นๆ

นอกจากนี้ ลูกสัตว์เลี้ยงวิเศษที่เขาสั่งจองไว้จากศูนย์เลี้ยงสัตว์เหล็กไผ่ เขตผิงเฉิง เมืองปิงหยวน ก็ต้องใช้ใบรับรองการฝึกงานครั้งนี้ถึงจะรับได้

ศูนย์เลี้ยงสัตว์เหล็กไผ่พิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ของซื่อยวี่ ตอนนี้เขายังไม่มีคุณสมบัติที่จะรับสัตว์เลี้ยงวิเศษตัวนั้น แต่หลังจากที่เขาฝึกงานเสร็จ ได้รับใบรับรองผู้เลี้ยงสัตว์ ก็จะมีคุณสมบัติในการกู้เงินแล้ว

ดังนั้น สำหรับซื่อยวี่แล้ว การฝึกงานครั้งนี้จึงไม่อาจประมาทได้จริงๆ

ถ้าแผนทั้งหมดของซื่อยวี่ราบรื่น การเป็นนักเลี้ยงสัตว์วิเศษก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หลังจากนั้น ก็จะเป็นช่วงเวลาอันยาวนานของการผ่อนชำระหนี้ ในช่วงนี้ การเป็นนักเลี้ยงสัตว์วิเศษอาจทำให้ซื่อยวี่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว หรืออาจทำให้เขาล้มละลายก็ได้... เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงวิเศษนั้นสิ้นเปลืองทรัพยากรจริงๆ

สัตว์กินเหล็ก! นี่คือชื่อของสัตว์เลี้ยงวิเศษที่ซื่อยวี่สั่งจองไว้

สัตว์กินเหล็ก... จริงๆ แล้วก็คือแพนด้ายักษ์นั่นเอง

ซื่อยวี่ก็ไม่คิดว่า แพนด้ายักษ์ในโลกนี้จะวิวัฒนาการกลายเป็นสัตว์กินเหล็กที่มีระดับเผ่าพันธุ์เป็นเหนือธรรมชาติระดับกลาง

สำหรับสัตว์เลี้ยงวิเศษตัวแรกที่ร่างเดิมเลือกให้ตัวเอง ซื่อยวี่ก็พอใจอยู่

ความสวยงามและความหายากของสัตว์ประจำชาติช่างเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่!

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาคงไม่เปลี่ยนการเลือกแล้ว เพราะจ่ายเงินมัดจำไปแล้วด้วย

แต่ว่า สัตว์ประจำชาติในชาติก่อนมาตกอับถึงขนาดนี้ ก็น่าสงสารเหมือนกัน

แท้จริงแล้ว แพนด้ายักษ์ธรรมดาสู้กับหมาป่าธรรมดา แพนด้ายักษ์สามารถตบหมาป่าให้มึนได้ด้วยอุ้งเท้าเดียว

แต่สัตว์กินเหล็กกลับมีระดับเผ่าพันธุ์ต่ำกว่าหมาป่าหิมะหนึ่งระดับ

แต่ซื่อยวี่ก็เข้าใจดีว่า นี่เกี่ยวข้องกับทักษะประจำเผ่าพันธุ์

เมื่อเทียบกับทักษะประจำเผ่าพันธุ์ทั้งสี่อย่างของหมาป่าหิมะ ได้แก่ เขี้ยวแยกน้ำแข็ง กรงเล็บแตกน้ำแข็ง ลมหายใจเย็นเยือก และซ่อนตัวในหิมะ สัตว์กินเหล็กมีเพียงทักษะประจำเผ่าพันธุ์เดียว

เหมือนกับชื่อสัตว์กินเหล็ก หลังจากแพนด้ายักษ์ในโลกนี้วิวัฒนาการ พวกมันสามารถกินแร่โลหะเพื่อทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้า

ระดับของทักษะประจำเผ่าพันธุ์การแข็งตัวนี้ มีข้อจำกัดไม่สูง และยังต้องต่อสู้ระยะประชิดเท่านั้น จัดอยู่ในระดับต่ำ จึงเป็นธรรมดาที่จะสู้กับหมาป่าหิมะที่ได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์ไม่ได้

ทักษะประจำเผ่าพันธุ์ระดับต่ำ คุณสมบัติทางร่างกายที่แข็งแกร่ง เมื่อรวมกันแล้ว ระดับเผ่าพันธุ์ของสัตว์กินเหล็กจึงอยู่ในระดับกลาง ซึ่งก็ไม่ต่ำนัก แค่น่าเสียดายเท่านั้นเอง

อย่างน้อยในตำนานบนโลกก็ยังเป็นสัตว์ขี่ของฉือโหย่ว พอมาอยู่โลกนี้กลับไม่มีหน้ามีตาเลย... ธรรมดาสามัญ ไม่มีอะไรพิเศษ

ซื่อยวี่สงสัยว่า คงเป็นเพราะแพนด้ายักษ์ขี้เกียจเกินไป นอกจากกินไผ่ก็นอนหลับ อีกทั้งยังมีนิสัยอ่อนโยน จึงทำให้พวกมันวิวัฒนาการช้า

ถ้ามีนิสัยดุร้านสักหน่อย... คงไม่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้สินะ?! แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่งั้นซื่อยวี่คงซื้อสัตว์กินเหล็กไม่ได้

นี่ก็เพราะว่าทะเบียนบ้านของเขาอยู่ในเขตผิงเฉิง เป็นคนท้องถิ่นจึงได้รับนโยบายสิทธิพิเศษถึงซื้อได้ ไม่งั้นอย่าคิดเลย

"สัตว์กินเหล็กก็ไม่เลวนะจริงๆ ..."

"ทักษะที่กินแร่โลหะแล้วเปลี่ยนเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งของสัตว์กินเหล็กนี้ ทั้งรุกและรับ ก็ใช้ได้แล้ว"

ถ้าเขาไม่ได้ตัดสินผิดพลาด ทักษะการข่มขู่ที่เพิ่งคัดลอกมา สัตว์กินเหล็กก็น่าจะเรียนรู้ได้ ความเข้ากันได้น่าจะไม่มีปัญหา

ตัวเขามีคู่มือทักษะ สามารถลองให้มันเรียนรู้ได้

ทักษะการข่มขู่ที่เป็นตัวแทนของ "คุณสมบัติของราชา" สามารถลดความตั้งใจในการต่อสู้ของคู่ต่อสู้ และเพิ่มความตั้งใจในการต่อสู้ของตัวเอง! ทักษะการแข็งตัว สามารถเพิ่มพลังป้องกันและพลังโจมตีของตัวเอง ทั้งรุกและรับ!

การผสมผสานสองทักษะนี้ ทำให้ซื่อยวี่นึกถึงอะไรแปลกๆ

ดังนั้น ขาดแค่ทักษะการรับรู้เพื่อเพิ่มความเร็วใช่ไหม?

ถ้าตัวเองสามารถคัดลอกทักษะคล้ายๆ แบบนั้นได้...

เมื่อถึงเวลานั้น สัตว์กินเหล็กก็สามารถเปลี่ยนชื่อเป็นราชาแพนด้าได้เลย

การจัดชุดทักษะแบบนี้ คงไม่มีนักเลี้ยงสัตว์กินเหล็กคนไหนเคยลองมาก่อน...

คิดถึงตรงนี้ ซื่อยวี่รู้สึกว่าน่าจะลองดู...

การอยู่ในศูนย์เลี้ยงสัตว์เลี้ยงวิเศษ ไม่เพียงแต่เพื่อการเรียนรู้ สภาพแวดล้อมที่นี่ดูเหมือนจะทำให้เขาเก็บรวบรวมทักษะที่หายากได้ง่ายด้วย

เก็บรวบรวมให้มากก่อน ในอนาคต เมื่อนักเลี้ยงสัตว์วิเศษคนอื่นๆ กำลังกังวลว่าจะสอนทักษะต่างๆ ให้สัตว์เลี้ยงวิเศษของตนเองอย่างไร เขาก็สามารถรวบรวมชุดทักษะเทพให้กับสัตว์เลี้ยงวิเศษของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว!

(จบบท)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด