บทที่ 2 เราไม่ได้เป็นอะไรกัน
สวี่สุยคิดว่าการพบกันเมื่อคืนนี้ไม่ต่างอะไรกับการเดินผ่านกัน คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นโจวจิงเจ๋อที่โรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น
สวี่สุยนั้นเพิ่งออกมาจากห้องผ่าตัด เจลทำความสะอาดมือแบบใสกำลังจะบีบลงในฝ่ามือของเธอ แต่ยังไม่ทันได้บีบออกมา หัวหน้าพยาบาลก็รีบวิ่งเข้ามาและพูดอย่างรีบร้อนว่า “ที่แผนกผู้ป่วยนอก มีคนไข้เอาหลอดไฟเข้าปาก หมอซ่งรับมือไม่ไหวเลยเรียกให้คุณไปช่วย”
“ได้ ฉันจะรีบไป” สวี่สุยยื่นมือเข้าไปใต้ก๊อกน้ำและล้างมือครู่หนึ่ง จากนั้นตรงไปที่แผนกผู้ป่วยนอกทันที
ประตูสำนักงานถูกผลักออก สวี่สุยเข้ามาพร้อมกับล้วงกระเป๋าเสื้อทั้งสองข้างเธอมองเห็นโจวจิงเจ๋อกับพยาบาลและแพทย์หลายคนกำลังรายล้อมผู้ป่วย สีหน้าดูหมดหนทาง ผู้ป่วยเป็นหญิงสาว ตอนนี้น้ำตาเธอกำลังจะไหล และเสียงที่ออกมานั้นไม่ชัดเจน
ผู้ชายที่ยืนข้าง ๆ ยังคงพูดจาเยาะเย้ยหญิงสาวเสียงเย็นชาที่คุ้นเคยดังกังวานข้างหูของเธอ “ที่ชั้นล่างมีเด็กอายุสามขวบครึ่งก็เล่นแบบนี้เหมือนกัน เธอสองคนไปเล่นด้วยกันก็ได้นะ”
หญิงสาวไม่สามารถเปล่งเสียงออกมา ได้แต่มองดูเขาอย่างโกรธเคือง
ความสนิทสนมระหว่างทั้งสองคนตกอยู่ในสายตาของสวี่สุย เธอหลับตาลงเพื่อซ่อนอารมณ์ในดวงตาของเธอ
สวี่สุยเดินไปหยิบถุงมือป้องกันที่พยาบาลรุ่นน้องส่งมาให้ เดินไปข้างหน้าผู้ป่วยบีบคางของเธอและมองอย่างละเอียด สวี่สุยพบว่าหลอดไฟขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ติดอยู่ในปากของเธอ
ในเวลานี้โจวจิงเจ๋อเพิ่งมองเห็นเธอ สวี่สุยจงใจเพิกเฉยต่อสายตาที่มองมา เธอเอียงศีรษะและถามแพทย์ฝึกหัดที่อยู่ด้านหลัง
“ใช้น้ำมันพาราฟินหรือยัง?”
“ใช้แล้ว แต่ไม่ได้ผล” หมอฝึกหัดตอบ
สวี่ซุยก้มศีรษะลงราวกับว่าผมที่ผูกไว้ด้านหลังศีรษะของเธอหลวมเล็กน้อย ผมบนหน้าผากของเธอห้อยลงมาที่แก้ม เธอสังเกตหลอดไฟในปากของผู้ป่วยอีกครั้ง และพูดว่า “ไปเอาถุงผ่าตัดมา”
ห้านาทีต่อมา ภายใต้สายตากลุ่มคนที่ห้อมล้อม สวี่สุยกระซิบให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันก็ค่อย ๆ นำถุงผ่าตัดเข้าไปในปาก เมื่อถุงผ่าตัดห่อหุ้มหลอดไฟจนหมด สวี่สุยจึงกล่าวว่า
“กัดลงมาแรง ๆ นะ”
หญิงสาวยังคงส่ายหัว สายตาของเธอดูหวาดกลัว ถ้าเธอกัดแล้วมันระเบิดจะทำอย่างไร สวี่สุยปลอบโยนหญิงสาว “เธอจะไม่เป็นอะไร”
สวี่สุยปลอบโยนเธออยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่เป็นผล หญิงสาวพูดไม่ออก เธอน้ำตาคลอเบ้า และรู้สึกเครียดมาก
สวี่สุยมองดูต่างหูที่หญิงสาวสวมต่างหูใบไม้สีเงิน และพูดราวกับไม่ได้ตั้งใจว่า “ต่างหูสวยจัง”
หญิงสาวยิ้ม ทันใดนั้นความสนใจของเธอก็เปลี่ยนไป เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดอินเทอร์เน็ต แล้วพูด ฮือ ฮือ ฮือ แต่ก็สามารถจับใจความสิ่งที่เธอพูดได้ “หนูจะส่งลิงก์ซื้อให้คุณเอง”
ในขณะที่หญิงสาวกำลังจดจ่ออยู่กับการหาลิงก์ต่างหูให้สวี่สุยนั้น สวี่สุยใช้โอกาสจากการผ่อนคลายของเธอ เอามือวางบนคางของเธอ และผลักมันลงอย่างไร้ความปรานี กระจกแตกทำให้เกิดเสียงดัง ‘คลิก’
หญิงสาวยืนนิ่งอยู่สองวินาทีแล้วร้องว่า “อ๊ะ ๆ ๆ ๆ” โจวจิงเจ๋อโยกศีรษะเธอแล้วหัวเราะออกมาเล็กน้อย “โอเค ฉันจะพาเธอไปกินไอศกรีมทีหลังแล้วกัน”
หญิงสาวหยุดส่งเสียงและสงบลงทันที
น้อยมากที่เขาจะพูดเกลี้ยกล่อมผู้คน เพียงแค่เขาพูดจาดี ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ยอมจำนนทันที
ที่เหลือให้หมอผู้ป่วยนอกจัดการต่อ สวี่สุยถอดถุงมือป้องกันออกแล้วโยนเข้าไปในถุงขยะ เธอสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมสีขาวและเดินออกจากแผนกผู้ป่วยนอกทันที
หญิงสาวมองดูแผ่นหลังที่เย็นชาของหมอสวี่และยังคงตกตะลึง “สาวที่ดูอ่อนหวานไว้ใจไม่ได้ ฉันอุตส่าห์ตั้งใจหาลิงก์ให้เธอ แต่เธอกลับหักหลังฉัน”
สวี่สุยกลับไปที่สำนักงานและยุ่งอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง เมื่อเธอออกไปและกำลังเดินผ่านเคาน์เตอร์แผนกพยาบาลก็มีพยาบาลสาวคนหนึ่งตะโกนเรียกเธอ “หมอสวี่ เมื่อกี้มีคนกำลังตามหาคุณอยู่ เป็นญาติของคนที่เอาหลอดไฟเข้าปาก อ้อ เขาเอาของมาให้คุณด้วยนะ บอกมาว่าเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ”
สวี่สุยมองไปด้านหลังเห็นนมรสพีชลิ้นจี่ตั้งเรียงเป็นแถว และยังมีที่คาดผมสีฟ้า ดวงตาของเธอตกตะลึง เธอไม่ขยับไปไหนเลยอยู่ครู่หนึ่ง พยาบาลที่อยู่แถวนั้นจึงพูดจาหยอกล้อว่า “หมอสวี่ คนนั้นดูดีจริง ๆ แค่เขายกมุมปากแล้ว ยิ้มบาง ๆ ให้เสี่ยวจาง วิญญาณของเสี่ยวจางก็แทบจะหลุดไปแล้ว”
โจวจิงเจ๋อมีความสามารถในด้านนี้จริง ๆ ลูกชายมหาเศรษฐี เดิมทีแล้วเขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากกระดิกนิ้ว บางครั้งแค่เขามองไป ผู้หญิงนับไม่ถ้วนก็กรูกันเดินตามเขาไปแล้ว
สวี่สุยพยักหน้าและกำลังจะหันหลังเดินออกไป พยาบาลเรียกเธอและพูดว่า “หมอสวี่ คุณยังไม่ได้หยิบของไป”
“พวกเธอเอาไปแบ่งกันเถอะ” สวี่สุยพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวและเดินไปข้างหน้า แต่ตรงหัวมุมไม่ไกลจากตรงนี้นัก เธอเห็นโจว จิงเจ๋อพร้อมผู้หญิงอยู่ข้างกายเขา
หญิงสาวคนนั้นแต่งตัวทันสมัย หน้าตาสดใส ริมฝีปากสีแดง รูปร่างดี เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในห้องผู้ป่วย สวี่สุยได้เห็นทักษะการออดอ้อนของหญิงสาว
เธอลืมตาขึ้นและมองไป หญิงสาวกำลังเขย่าแขนของโจวจิงเจ๋อ ไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังออดอ้อน โจวจิงเจ๋อ ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ แต่คิ้วและตาของเขาผ่อนคลายลง แน่นอนว่าเขาต้อง ใจอ่อน
มือของสวี่สุยที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อกำแน่นโดยไม่รู้ตัว ปลายนิ้วของเธอเปลี่ยนเป็นสีขาว เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวด เธอจึงรู้สึกตัว เขาเป็นแบบนี้มาตลอดไม่ใช่หรอ? ชอบผู้หญิงเซ็กซี่ แต่เธอดีและเชื่อฟังเกินไป
นักเรียนที่ดีไม่เคยอยู่ในตัวเลือกของเขา
เมื่อต้องเผชิญหน้าเช่นนี้ สวี่สุยจึงทำได้เพียงเดินผ่านไป เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นสวี่สุย หญิงสาวตะโกนเรียกเธอและพูดด้วยรอยยิ้มที่สดใส “หมอสวี่ เมื่อกี้ขอบคุณนะ”
สวี่สุยส่ายหน้า “ไม่เป็นไร นี่คือสิ่งที่ฉันควรจะทำ”
หญิงสาวยืนอยู่ข้างโจวจิงเจ๋อ เธอเหลือบมองไปที่พี่ชาย และเห็นได้ชัดว่าพี่ชายของเธออารมณ์ไม่ดีหลังจากพบหมอสวี่คนนี้
ต้องมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับพวกเขาสองคนแน่นอน
หญิงสาวกลอกตาและพูดว่า “หมอสวี่ คุณรู้จักกับลูกพี่ลูกน้องของฉันใช่มั้ย ไม่รู้สึกว่าความสัมพันธ์ไม่ปกติหรอ?”
เธอเป็นลูกพี่ลูกน้อง แต่คำถามของหญิงสาวนั้นชัดเจนและตรงไปตรงมาเกินไป สวี่สุยรับมือไม่ได้ เธอจึงมองขึ้นไปที่โจวจิงเจ๋อ หวังว่าเขาจะทำอะไรบางอย่าง
โจวจิงเจ๋อยืนเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า เมื่อเห็นสวี่สุยทำอะไรไม่ถูก แก้มของเธอค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง เขามองตรงไปที่สวี่สุย ดุนปลายลิ้นไปที่กรามแล้วหัวเราะเสียงต่ำ พูดด้วยน้ำเสียงเข้ม ๆ ว่า “เธอพูดมาสิว่าเราเป็นอะไรกัน หืม”
คำพูดที่ดูคลุมเครือ เขาให้เธอตัดสินใจ
สวี่สุยเข้าใจในทันทีเพราะท่าทีล้อเล่นของเขา ผู้ชายที่หยิ่งผยองอย่างเขาคงไม่เข้าใจว่าความรู้สึกของการรักใครสักคนจริง ๆ เป็นอย่างไร
บางทีเขาอาจไม่เคยใส่ใจเธอเลย
เดิมทีโจวจิงเจ๋อแค่อยากล้อเล่น แต่หลังจากพูดแบบนี้ เขากลับรู้สึกเสียใจกับมัน เพราะเขาเห็นดวงตาของสวี่สุยค่อย ๆ มีน้ำตาขึ้นมา
คล้ายกับหัวใจเธอสั่นและแพร่กระจายไปทั่วก้นบึ้งของหัวใจ และขยายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด โจวจิงเจ๋อกระแอมในลำคอตอนที่ต้องการจะพูดอะไร เขาเห็นสวี่สุยกะพริบตา อารมณ์ก่อนหน้านี้จางหายไปจนหมดสิ้น ดวงตาและน้ำเสียงของเธอสงบ
“ถ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไร”
โจวจิงเจ๋อเห็นความมุ่งมั่นและความตรงไปตรงมาในดวงตาของเธอ หัวใจราวกับถูกรัดด้วยด้ายบาง ๆ มันเป็นอารมณ์ที่อธิบายไม่ได้ และในที่สุดเขาก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เธอไม่ชอบเขาอีกแล้ว