บทที่ 195 สหรัฐอเมริกา (10)
[แปลโดยฝีมือ...ยัก.ษา.แปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมานะครับ]
บทที่ 195 สหรัฐอเมริกา (10)
“......จัดการคนร้ายงั้นเหรอ?” ชายร่างท้วมที่ดูราวกับคุณลุงซานต้าผู้น่ารัก ถอดแว่นกันแดดออกด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่หญิงสาวต่างชาติผมบ็อบสีน้ำตาลยังคงแววตาเรียบเฉย เอ่ยเป็นภาษาอังกฤษด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่ใช่การแสดงหรอกค่ะ ของจริง”
“ใน Youtube มีคลิปแบบนั้นด้วยเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
ชายร่างท้วมผละตัวจากเก้าอี้ชายหาดที่นอนเอกเขนกอยู่ ค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้น พลางนึกทบทวนถึงนักแสดงชาวเกาหลีที่หญิงสาวเอ่ยถึง คังวูจินสินะ เรื่องมันก็นานมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้วล่ะ ตั้งแต่ที่เขาได้ดูหนังสั้นเรื่อง ‘สำนักงานนักสืบ’ ในเทศกาลหนังสั้นชื่อดังของเกาหลี
‘ถ้าว่ากันตามตรง นักแสดงคนนั้นก็ดูเข้าท่าสุดแล้วในเทศกาลนั่นเลยไม่ใช่รึไง?’
ชายร่างท้วมรู้สึกสนใจคังวูจิน นักแสดงหน้าใหม่คนนั้นขึ้นมา ถึงขั้นคว้ารางวัลแดซังจากเทศกาลหนังมิสอองแซงมาครอง แม้จะเป็นแค่รางวัลสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ก็เถอะ แต่ไม่ว่ายังไง ชายคนนี้ก็จดจำคังวูจินได้อย่างแม่นยำ
‘ฝีมือการแสดงน่ะ······ สุดยอดมาก โดยเฉพาะแววตาในห้องใต้ดิน นั่น’
แม้เวลาจะผ่านมานานจนความทรงจำเลือนราง แต่การแสดงของคังวูจินยังคงชัดเจนในหัว จนเขาต้องเอ่ยปากพูดถึงคังวูจินกับผู้ดูแลฝ่ายคัดตัวนักแสดงหลังจากกลับไปฮอลลีวูดว่ามีนักแสดงเกาหลีที่ไม่เลวเลย ลองไปสืบดูหน่อยสิ
แค่นั้นแหละ
โลกนี้มันกว้างใหญ่ นักแสดงก็มากมายถมไป โดยเฉพาะนักแสดงหน้าใหม่อย่างคังวูจินด้วยแล้ว ชายร่างท้วมจึงลืมคังวูจินไปโดยปริยาย จนกระทั่งผู้ดูแลฝ่ายคัดตัวนักแสดง หญิงสาวที่ทำหน้าที่สืบหาข้อมูลนักแสดง หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกครั้ง
จากนั้น
-กึก!
หญิงสาวในชุดเดรสได้ยื่นโทรศัพท์มือถือให้กับชายร่างท้วม โทรศัพท์มือถือมีวีดีโอ Youtube หยุดค้างอยู่ ชายร่างท้วมใช้นิ้วชี้กดเล่นวีดีโอ
วิดีโอบันทึกเหตุการณ์ความยาวประมาณสองนาทีฉายภาพเหตุการณ์ที่ดูคุ้นเคย คังวูจินปรากฏตัวขึ้น จัดการคนร้ายที่ถือมีดพุ่งเข้าหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว แม้แต่คนทั่วไปเห็นยังต้องตะลึง แล้วชายร่างท้วมที่กำลังให้ความสนใจในตัววูจินอยู่จะขนาดไหน ดวงตาเบิกกว้างขึ้นในทันที รีบกดเล่นวีดีโอซ้ำอีกครั้ง วนไปวนมาอยู่สี่รอบ ชายร่างท้วมก็พึมพำออกมาเบา ๆ
“หืม เจ๋งสมคำร่ำลือจริง ๆ”
หญิงสาวผมบ็อบสีน้ำตาลอมแดงข้าง ๆ ยิ้มออกมา
“ใช่ไหมล่ะคะ?”
“วีดีโอนี่ถ่ายทำขึ้นมาจริง ๆ ไม่ใช่การแสดงใช่ไหม?”
“ค่ะ ดิฉันลองเช็คดูแล้วค่ะ มันเป็นเหตุการณ์จริง มีการรายงานข่าวในเกาหลีด้วย นักแสดงหญิงชาวเกาหลีคนนั้นได้รับความช่วยเหลือจากคังวูจิน ตอนนี้เขากำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในเกาหลีเลยล่ะค่ะ”
“ถ้าขนาดนี้ ต่อให้ที่ฮอลลีวูดเองก็ต้องดังเป็นพลุแตกแน่ ๆ”
ทันใดนั้นเอง
-แซก
หญิงสาวชาวต่างชาติสองคนในชุดบิกินี่เดินผ่านพวกเขาไป หญิงสาวร่างอวบอิ่มคนหนึ่งเหลือบมองเห็นชายร่างท้วมที่นั่งอยู่บนม้านั่งริมชายหาด ก็กระซิบเบา ๆ กับเพื่อน
“นั่น จอร์จ เมนเดส ไม่ใช่เหรอ?”
“หืม ใครนะ?”
“ก็นั่นไง ไม่รู้จักเหรอ นักแสดงที่เคยเล่นหนัง แล้วก็ดังมากในฐานะผู้กำกับด้วย”
“อ๋อ ๆ นึกออกแล้ว”
ทันใดนั้นหญิงสาวทั้งสองก็หันไปยิ้มทักทายชายร่างท้วม
“สวัสดีค่ะ-”
ชายร่างท้วมยิ้มรับอย่างคุ้นเคยกับการทักทาย โบกมือให้พวกเธอ
“ยินดีที่ได้พบกันนะครับ ไว้ทานมื้อเที่ยงด้วยกันไหมครับ?”
“ไม่ค่ะ”
ชายร่างท้วมถูกปฏิเสธอย่างกะทันหัน จ้องมองแผ่นหลังของพวกเธอพลางปฏิเสธความจริง
“ฮ่า ๆ พวกเขาคงเขินล่ะสิท่า”
ผู้ดูแลฝ่ายคัดตัวนักแสดงสาวในชุดสูทส่ายหัว
“พวกเธอไม่ได้เขินหรอกค่ะ แต่น่าจะไม่ชอบผู้กำกับเลยมากกว่า”
"อย่างนั้นเหรอ? แบบนี้นี่เอง"
ถึงอย่างนั้น เขาก็คือผู้ชายที่เป็นถึงซานตาคลอส... ไม่สิ จอร์จ เมนเดส คือผู้กำกับชื่อดังในฮอลลีวูดคนหนึ่ง ในอดีตเขาเคยเป็นนักแสดงมาก่อน หลังจากมีผลงานแสดงที่โด่งดังอยู่หลายเรื่อง เขาก็หันเหเส้นทางมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์อย่างกะทันหัน
แน่นอนว่าการเริ่มต้นมันไม่ราบรื่นนัก
หลังจากล้มเหลวกับผลงานไม่กี่เรื่อง ผู้กำกับจอร์จ เมนเดสก็กัดฟันฝ่าฟันจนสามารถสร้างผลงานที่พอไปวัดไปวาได้สำเร็จ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้สร้างภาพยนตร์เรื่อง ‘ปิดบัญชีเลือด’
เรื่องนี้แหละ ที่ดังเป็นพลุแตก
หลังจากนั้น ‘ปิดบัญชีเลือด 2’ ซึ่งเป็นภาคต่อของ ‘ปิดบัญชีเลือด’ ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม จนทำให้ผู้กำกับจอร์จ เมนเดส กลายเป็นผู้กำกับชื่อดังในฮอลลีวูด และในตอนนี้เขากำลังเตรียมตัวสำหรับ ‘ปิดบัญชีเลือด 3’ ซึ่งจะเปลี่ยนจากภาพยนตร์มาเป็นซีรีส์ ‘ปิดบัญชีเลือด’ อย่างที่เห็นได้จากชื่อเรื่อง แนวของมันก็คือแอ็กชัน
เนื้อเรื่องเกี่ยวกับนักฆ่าที่เกษียณแล้ว แต่กลับต้องมาล้างบางองค์กรนักฆ่าด้วยเหตุผลบางอย่าง
เป็นผลงานที่เน้นแอ็กชันมากกว่าเนื้อเรื่อง จุดเด่นคือการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและฉากต่อสู้ที่ดูเท่ ดังนั้น ‘ศิลปะการต่อสู้’ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และพวกเขากำลังต้องการนักแสดงที่เชี่ยวชาญ ‘ศิลปะการต่อสู้’ เป็นจำนวนมากใน ‘ปิดบัญชีเลือด 3’ พวกเขาวางแผนจะขยายจักรวาลของเรื่องราว จึงจำเป็นต้องหานักแสดงฝั่งเอเชียมาร่วมแสดงด้วย
และในขณะที่กำลังหานักแสดงชาวเอเชียที่เชี่ยวชาญ ‘ศิลปะการต่อสู้’ อยู่นั้น ชื่อของคังวูจินก็กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง
“เอ่อ...” เสียงของผู้กำกับดังขึ้นเบา ๆ สายตาที่จ้องมองสาวสวยที่เดินผ่านไปมาอย่างหลงใหล ถูกดึงกลับมาที่โทรศัพท์ในมือทันที
สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจัง ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของคังวูจินในโทรศัพท์อย่างพิจารณา
“ผ่านการฝึกมาอย่างหนักเลย ท่าทางแบบนั้นไม่ธรรมดา” จอร์จพึมพำกับตัวเอง
“เห็นด้วยค่ะ ดูแล้วไม่น่าจะฟลุค ท่าทางแบบนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน” หญิงสาวผมบ็อบสีน้ำตาลสนับสนุนความคิดของเขา
“โดยเฉพาะตอนที่จับไอ้บ้านั่น... บิดแล้วเหวี่ยงลงพื้นเนี่ย สุดยอด! ไม่มีท่าทีลังเลเลยแม้แต่น้อย ดูก็รู้ว่าไม่ได้ตื่นเต้น ซึ่งในชีวิตจริงมันทำยากมากเลยนะ ผมเริ่มชอบไอ้หนุ่มคนนี้แล้วสิ” จอร์จลูบคางอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวแสนสวยที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลฝ่ายคัดตัวนักแสดง
“อีกกี่วันถึงจะเริ่มทดสอบหน้ากล้อง?”
“กำหนดการต้องรอดูนักแสดงชาวจีนที่ติดต่อไว้ก่อนค่ะ”
“งั้นวันนั้นให้คังวูจินมาร่วมด้วยเลย เป็นไง?”
‘การทดสอบหน้ากล้อง’ ที่จอร์จพูดถึง คือการถ่ายทำแบบเดียวกับตอนถ่ายจริง เพียงแต่เป็นการถ่ายทำเพื่อทดสอบเท่านั้น ซึ่งมันแตกต่างจากการออดิชั่นทั่วไป เพราะสิ่งสำคัญคือภาพของนักแสดงในมอนิเตอร์จะเป็นอย่างไร โดยมากมักจะเน้นความเหมือนจริงเข้าไว้ ทั้งสภาพแวดล้อม บทพูดของนักแสดงร่วม รวมถึงการกำกับจะเป็นไปตามบทภาพยนตร์ที่กำหนดไว้เปี๊ยบ
เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่แทบจะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับฮอลลีวูด
อืม มันก็เหมือนกับการถ่ายทำจริง ๆ นั่นแหละ แค่มีคำว่า 'ทดสอบ' นำหน้าคำว่าถ่ายทำเท่านั้นเอง ถึงอย่างนั้น การทดสอบครั้งใหญ่ขนาดนี้ ไม่ใช่แค่จะมีผู้กำกับ ทีมงานอีกหลายคนก็ต้องมาร่วมด้วยเช่นกัน แต่ในบรรดานั้นกลับมีชื่อของคังวูจินรวมอยู่ด้วย
“อ่า อีกไม่กี่วันเองนี้ การทดสอบหน้ากล้องดูจะกะทันหันไปหน่อยนะ?” เสียงทุ้มของผู้กำกับจอร์จดังขึ้น พร้อมกับท่าทางกอดอกครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“คิดว่าไม่น่ามีปัญหานะคะ เพราะตอนนี้คุณคังวูจินไม่ได้อยู่เกาหลี แต่อยู่ที่LAน่ะค่ะ” ผู้ช่วยผู้กำกับสาวสวยส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะตอบ
“โอ้ อย่างนั้นเหรอ? ทำไมล่ะ”
“ดูเหมือนจะมาถ่ายรายการทีวีค่ะ”
“งั้นเหรอ?” ผู้กำกับจอร์จทวนคำสั้น ๆ ก่อนจะพูดต่อ
“งั้นวันนั้นลองติดต่อเขาดูสิ”
หลายชั่วโมงต่อมา ในช่วงบ่ายแก่ ๆ ณ ชายหาดเฮอร์โมซา ลอสแอนเจลิส
ชายหาดชื่อดังที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสนามบินนานาชาติลอสแอนเจลิส แม้จะเป็นช่วงบ่ายแก่ ๆ แต่ที่ชายหาดเฮอร์โมซาก็ยังคงมีชาวต่างชาติจำนวนมากมาพักผ่อนหย่อนใจ และในบริเวณที่ติดกับชายหาดเฮอร์โมซานั้นก็มีป้ายภาษาเกาหลีอันหนึ่งดึงดูดสายตา
- ‘ครัวเรือนหรรษาของเรา’
ถึงร้านจะไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แต่ก็เป็นร้านอาหารที่สะดุดตาอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นร้านที่ขายอาหารเกาหลี ภาพของชาวต่างชาติจำนวนมากที่มายืนเข้าแถวหน้าร้าน บอกได้คำเดียวว่า ใช่เลย ที่นี่คือร้านที่ทีม ‘ครัวเรือนหรรษาของเรา’ จะมาบริหารจัดการ ต่างจากร้านรถขายอาหารที่ฮอลลีวูดเหนืออยู่มาก ทั้งระยะทางและที่พักก็เปลี่ยนไปด้วย
ตอนนี้เปิดร้านมาได้ 3 วันแล้ว
ความโด่งดังจากรถขายอาหาร บวกกับกระแสปากต่อปากที่เล่าลือถึงรสชาติอันเลิศล้ำ แพร่สะพัดไปทั่วทั้งย่าน ยิ่งได้พลังของโซเชียลมีเดียและกระแสเกาหลีเป็นตัวเสริม 『ครัวเรือนหรรษาของเรา』จึงคึกคักจนแทบหมุนติ้ว ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียดนับสิบ แล้วยังมีชาวต่างชาติจับจองที่นั่งเต็มร้าน
แน่นอนว่าบรรยากาศต้องวุ่นวายกว่าร้านธรรมดาหลายเท่าตัว
และนั่นทำให้ คังวูจิน กลายเป็นพ่อครัวเต็มตัวอยู่ในครัว
“เนื้อย่างบูลโกกิ มักกุกซูโรยสาหร่าย! เพิ่มด้วย!!”
“รับทราบ!”
“อ๊ะ! ผัดซอสเผ็ดหรือไม่เผ็ดนะ!”
คอนเซ็ปรายการอะไร ตอนนี้ไม่สำคัญแล้ว เหลือเพียงแค่ภารกิจทำอาหารตรงหน้าเท่านั้น ฮงฮเยยอน กับ ยอนแบกกวัง ที่ยืนประจำตำแหน่งอยู่ข้าง ๆ ต่างก็ไม่มีแม้แต่เวลาจะยิ้มให้กัน ได้แต่มุ่งมั่นทำงานตรงหน้าไปเรื่อย ๆ ส่วน อันจองฮัก ฮวาลิน และ ฮากังซู ก็วุ่นวายไม่แพ้กัน ทั้งรับออเดอร์ เสิร์ฟอาหาร เก็บโต๊ะ แถมยังต้องคอยตอบคำถาม
“รายการทีวีนี้ดูได้ที่ไหน? Netflix?”
“ขอโทษนะครับ Netflix ไม่มีครับ”
เหล่านักแสดงระดับท็อปของเกาหลี ต้องมาพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ บอกเลยว่าไม่ง่าย! คนที่ดูจะมีรอยยิ้มและความสุขอยู่บ้าง คงจะเป็น PD ยุนบยองซอน และทีมงานที่คอยดูแลร้าน 『ครัวเรือนหรรษาของเรา』 ทว่า...ทีมงานเองก็ไม่ได้สบายไปกว่ากัน พวกเขามีงานล้นมือ ทั้งสัมภาษณ์ลูกค้า ถ่ายทำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง และตัดต่อเพื่อประชาสัมพันธ์รายการ
มีเพียงทีมงานที่ไม่ได้ดูแลนักแสดงโดยตรงเท่านั้น ที่พอจะมีเวลาว่างบ้าง
เมื่อการถ่ายทำเริ่มต้น พวกเขาก็แทบจะไม่มีบทบาทอะไร บางคนจึงถือโอกาสแวะไปเที่ยว หาดเฮอร์โมซา ที่อยู่ไม่ไกล
แต่ ชเวซองกุน ชายหนุ่มเจ้าของผมทรงหางม้า กลับไม่เป็นข้อยกเว้นเช่นกัน
-♬♪
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นไม่หยุดหย่อน แน่นอนว่าเจ็ดในสิบส่วนต้องเป็นเพราะเรื่องของคังวูจิน ชเวซองกุนจึงจำเป็นต้องออกมาหาที่สงบอย่างร้านกาแฟใกล้ ๆ ร้าน ‘ครัวเรือนหรรษาของเรา’ ที่มีระเบียงด้านนอก เพื่อรับโทรศัพท์
“สวัสดีครับ ผู้กำกับ ฮ่า ๆ ไม่ได้คุยกันนานเลยนะครับ ครับ ๆ วูจินปีหน้าช่วงต้นปีเหรอครับ อืม... ขอผมเช็กดูก่อนแล้วจะโทร. กลับไปนะครับ”
เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง
ชเวซองกุนวางโทรศัพท์ที่เงียบลงเสียที ก่อนจะยืดเส้นยืดสายคลายเมื่อย
“โอ้ย ตายแน่ ๆ”
แต่ทว่า...
-♬♪
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้ง ชเวซองกุนถอนหายใจยาวเหยียด ขณะกำลังยกกาแฟขึ้นจรดริมฝีปาก
“เฮ้อ แบบนี้ก็พลาดไม่ได้สิ”
เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะก้มลงมองเบอร์โทร. ที่ปรากฏขึ้น พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของบริษัทสื่อบันเทิง BW ชเวซองกุนก็รีบกดรับสายอย่างรวดเร็ว
“ฮัลโหลครับ อะ เอ่อ เอ่อ?!”
ดวงตาเบิกกว้างอย่างกะทันหัน ก่อนจะพูดตะกุกตะกัก
“คือ คือว่าทางนั้นเขาพูดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ เอ่อ... ได้ งั้นวางก่อนนะ”
ชเวซองกุนกดวางสาย ใบหน้าเหมือนคนโดนสะกด
‘ไมลีย์ คาร่า?’
นี่มันเรื่องใหญ่โตไม่ใช่เล่น
‘คาร่า อยากมาร่วมงานกับ ‘ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน’ งั้นเหรอ?’
ไมลีย์ คาร่า ดาราดังระดับโลกที่กำลังอยู่ในประเทศเกาหลี อยากมาร่วมรายการ ‘ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน’ แถมยังเป็นฝ่ายติดต่อมาก่อนด้วย เรื่องที่เธอมาเกาหลี ชเวซองกุนก็พอทราบอยู่หรอก แต่เรื่องแบบนี้เขาเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน
“ไม่น่าเชื่อ ‘ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน’ หรือว่าเธอจะดูคลิปนั้น”
ชเวซองกุนนึกถึงคลิปวิดีโอที่ Cover เพลงคาร่าลงช่อง ‘ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน’ จริง ๆ แล้วการที่ดาราฮอลลีวูดมาเกาหลีแล้วไปออกรายการ Youtube ก็เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว เพราะที่ผ่านมาก็มีดาราฮอลลีวูดหลายคนทำแบบนี้ ไม่ใช่แค่คาร่าคนเดียว
เงื่อนไขของฝ่ายคาร่านั้นง่ายมาก...
รายการ 'ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน' ... เนื้อหาที่ลงจะต้องมีทั้งโปรโมตภาพยนตร์เรื่องใหม่และสัมภาษณ์คาร่าไปพร้อมกัน ตารางงานที่เกาหลีของพวกเขากำหนดไว้ว่าต้องถ่ายทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 18 นี้
"ทั้งหมดนี้...พอจะทำได้อยู่" ชเวซองกุนพึมพำ ขณะมือคว้าเครื่องคิดเลขขึ้นมากดอย่างรวดเร็ว
" 'ตัวตนอีกด้านของคังวู' ต้องรีดเรตติ้งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลองเสนอเป็นแพ็คเกจใหญ่ไปเลยดีไหม ทั้งช่วงพูดคุย เรื่องเพลงดูเอ็ท ทำอาหาร แล้วยังมีช่วงอวตารทำอาหารอีก"
ดวงตาคมกริบของชเวซองกุนวาววับ จินตนาการถึงใบหน้าของ ไมลีย์ คาร่า
"ถ้าได้ไมลีย์ คาร่า มาเป็นแขกรับเชิญ... อิทธิพลมันจะขนาดไหนกันนะ?"
แค่ชื่อของ ไมลีย์ คาร่า ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ยิ่งมาร่วมรายการ 'ตัวตนอีกด้านของคังวู' ที่มียอดวิวหลายล้านอยู่แล้ว พลังทำลายล้างคงทวีคูณขึ้นอีกหลายเท่าตัว
"ยิ่งไปกว่านั้น..." ชเวซองกุนหยุดคิด "เคมีคงเข้ากันน่าดู"
เขาได้แต่ตื่นเต้นกับเคมีระหว่างคังวูจินกับคาร่า ถ้ามีซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดอยู่เบื้องหน้าคังวูจินจะเป็นยังไงนะ? แต่ไม่นานเขาก็ได้คำตอบ
"ฮ่า ๆ คงไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่หรอกมั้ง"
รุ่งอรุณของวันใหม่มาเยือน แสงอาทิตย์สาดส่องทั่วLA ชเวซองกุนในชุดสบาย ๆ เดินสยายผมออกมาจากบ้านพักทรงเรียบง่าย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของทีมงาน 'ครัวเรือนหรรษาของเรา'
"อ๊าาาา"
เขาอ้าปากหาวหวอด มือข้างหนึ่งถือแก้วกาแฟร้อนหอมกรุ่น ผมที่เคยรวบไว้ถูกปล่อยสยายจนดูคล้ายผมบ็อบ ชเวซองกุนทรุดตัวลงบนเก้าอี้ตัวเล็กที่ตั้งอยู่หน้าบ้านพัก
- ฟู่
เสียงจิบกาแฟดังขึ้น เขาไล่อ่านข้อความ สายที่ไม่ได้รับ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ ที่เต็มไปหมด เพราะผลต่างของเวลา
ชเวซองกุนเลือกเช็คข่าวที่พนักงานบริษัทบันเทิง BW ส่งมาให้ดูก่อนเป็นอันดับแรก
[ข่าวด่วน] ‘ไมลีย์ คาร่า’ ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกเยือนเกาหลี เตรียมร่วมงาน ‘ตัวตนอีกด้านของคังวูจิน’ แน่นอน!
โชคดีที่เรื่องของไมลีย์ คาร่า ดำเนินไปอย่างราบรื่น ถึงแม้รายละเอียดของผลงานและกำหนดการถ่ายทำจะยังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุย แต่การตอบรับร่วมงานของเธอนั้นชัดเจนแล้ว สื่อเกาหลีคงประโคมข่าวนี้ไปทั่วทุกสารทิศเป็นแน่
“บรรยากาศช่างดีเยี่ยม-”
ชเวซองกุนเผยรอยยิ้มแห่งความสำเร็จ พลางใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ระใบปรกหน้าผากขึ้นอย่างสบายอารมณ์
-♬♪
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เป็นหมายเลขที่เขาไม่คุ้นเคย แต่ขึ้นต้นด้วยรหัสพื้นที่ของลอสแอนเจลิส ไม่ใช่เบอร์โทรภายในเกาหลี ชเวซองกุนเลิกคิ้วขึ้นอย่างฉงน ก่อนตัดสินใจกดรับสาย
“ฮัลโหล”
ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนเสียงหญิงสาวจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเป็นภาษาอังกฤษ
“ดิฉันโทรมาจากบริษัท ‘Winner Movie Pictures’ ค่ะ ไม่ทราบว่าใช่คุณชเวซองกุน ประธานบริษัทสื่อบันเทิง BW หรือเปล่าคะ?”
คิ้วของชเวซองกุนขมวดเข้าหากันทันที
' ‘Winner Movie Pictures’ งั้นเหรอ?'
บริษัทนี้ถือว่ามีชื่อเสียงในวงการฮอลลีวูด
‘Winner Movie Pictures’ เขาเองก็รู้จักดี พวกเขาเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ระดับกลาง ๆ ท่ามกลางบริษัทและสตูดิโอภาพยนตร์มากมายในฮอลลีวูด นอกจากภาพยนตร์แล้ว ช่วงหลังมานี้ พวกเขายังเริ่มผลิตผลงานเพื่อฉายทางโทรทัศน์อีกด้วย
แต่แน่นอนว่าธุรกิจหลักของพวกเขายังคงเป็นการสร้างภาพยนตร์
ขณะที่แนบโทรศัพท์มือถือไว้ที่ข้างหู ชื่อภาพยนตร์เรื่องหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในความคิดของชเวซองกุน
'ถ้าเป็นผลงานที่โด่งดังเมื่อไม่นานมานี้ คงจะเป็น ‘ปิดบัญชีเลือด 2’ สินะ'
แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เคยฝากผลงานชิ้นเอกไว้บนโลกใบนี้มากมาย แต่ถ้าให้พูดถึงช่วงนี้ คงหนีไม่พ้น ‘ปิดบัญชีเลือด’ ภาพยนตร์ที่ตอกย้ำว่าบริษัทของเขาไม่ใช่บริษัทกระจอกงอกง่อย พวกเขายังคงยืนหยัดในฐานะบริษัทผลิตภาพยนตร์ระดับกลางของฮอลลีวูด แม้เบื้องหน้าจะมีแต่บริษัทและสตูดิโอระดับยักษ์ใหญ่ขวางกั้นอยู่เต็มไปหมด
แล้วทำไมบริษัทแบบนั้นถึงโทรมาหาเขาได้นะ?
“ใช่ครับ ผมชเวซองกุน ประธานบริษัท BW ครับ ไม่ทราบว่าโทรมาเรื่องอะไรครับ” เขาเอ่ยถามออกไป น้ำเสียงติดจะประดักประเดิดตามสไตล์คนไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษ
“ดิฉันอยากพบกับคังวูจินค่ะ หนึ่งในนักแสดงในสังกัดของคุณ” เสียงปลายสายตอบกลับมาอย่างฉับไวโดยไม่ปล่อยให้เขาต้องรอนนาน
จบ
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_