ตอนที่ 100 ลูกเสือที่บาดเจ็บ (ฟรี)
ตอนที่ 100 ลูกเสือที่บาดเจ็บ
ซ่งเฉิงจุนเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย และเด็ดเดี่ยว เมื่อบอกว่าเขาจะออกเดินทางเพื่อค้นหาฐานผู้ลี้ภัยแห่งอื่น ในไม่ช้าเขาก็เริ่มเปิดให้ผู้คนลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกลุ่มในโรงแรมเจียงหลิน
ในตอนแรก มีเพียงคนจากทีมลาดตระเวนของฐานผู้ลี้ภัยในเมือง B เท่านั้นที่ตอบรับ แต่อาจเป็นเพราะมีคนสมัครเข้ามาในภายหลังมากขึ้น แขกคนอื่นๆ หลายคนจึงเข้ามาร่วมด้วย
หนึ่งวันก่อนออกเดินทาง ซ่งเฉิงจุนส่งข้อความถึงเสิ่นจื้อกุย และฉู่เจียงเยว่
ฉู่เจียงเยว่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า และตัดสินใจจะออกไปดูด้วยตัวเอง
เมื่อฉู่เจียงเยว่ตอบรับ เสิ่นจื้อกุยก็ปรึกษากับคนอื่นๆ ในทีม หลังจากยืนยันว่าไม่มีใครคัดค้าน เขาก็สมัครด้วย
เมื่อฉู่เจียงเยว่มาถึง เธอก็ได้เห็นทีมของหลินเฟิง ทีมของเสิ่นจื้อกุย ทีมของจินซู่หยู และเจิ้งเหวินอัน...
เมื่อเห็นสองตัวเอกอยู่ที่นี่ด้วย เธอก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา คงจะต้องมีปัญหาตามมาเป็นพรวนแน่
แต่ถึงอย่างนั้น ฉู่เจียงเยว่ก็ไม่สามารถละทิ้งการเดินทางครั้งนี้เพียงเพราะพวกเขาได้
เธอต้องพยายามอย่างหนักเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จโดยเร็ว
“เถ้าแก่”
ฉู่เจียงเยว่มาถึงที่นี่ด้วยรถออฟโรดเงินที่จอดอยู่ข้างบ้าน
ซ่งเฉิงจุนขับรถลายทหารที่นำมาจากฐานผู้ลี้ภัย เสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ ก็ได้รับคนละหนึ่งคันเพื่อใช้ในการเดินทาง
“เถ้าแก่ รถของคุณยังมีที่ว่าง ช่วยเราแบ่งคนไปหน่อยได้ไหม จะได้ไม่ต้องเบียดเสียดกันมาก”
เมื่อเห็นฉู่เจียงเยว่ขับรถคนเดียว เจิ้งเหวินอันก็เริ่มสนใจ
มีคนจำนวนมากเบียดเสียดกันในรถ มันจึงค่อนข้างอึดอัด รถของฉู่เจียงเยว่จึงน่าจะช่วยคลายความกดดันให้พวกเขาได้
ฉู่เจียงเยว่เหลือบมองเจิ้งเหวินอันผ่านหน้าต่างรถ "รถของฉันใช่ว่าใครจะนั่งได้ และนายก็ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นคนดีแล้วพูดเอาดีเข้าตัว"
เขาวิ่งออกจากรถของเธอก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรเสียอีก นึกไม่ถึงว่าเขาจะหน้าด้านถึงขนาดนี้
แม้เจิ้งเหวินอันจะเป็นพระเอก แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ด้อยกว่าเสิ่นจื้อกุย ซ่งเฉิงจุน และคนอื่นๆ เขาจึงไม่มีทางเอาชนะเธอได้
เมื่อเห็นแบบนี้ ฉู่เจียงเยว่ก็ยิ่งสงสัยว่าคนที่เลือกเจิ้งเหวินอันเป็นพระเอกนั้นใช้วิธีเสี่ยงเซียมซีเอาหรือไง?
ฉู่เจียงเยว่ทำให้เจิ้งเหวินอันเสียหน้าทันทีที่เธอเปิดปาก คนรอบข้างมองหน้ากัน และสงสัยว่าทำไมจู่ๆ บรรยากาศถึงตึงเครียดขึ้นมา
“รถคนนั้นเป็นของเถ้าแก่ ไม่ว่าเธอจะทำอะไร คนอื่นๆ ก็ไม่มีสิทธิ์จะไปโต้แย้งอะไรได้”
“คุณเจิ้ง หากคุณต้องการขึ้นของเธอก็เจรจากับเธอเอง แต่ต้องไม่กระทบต่อความคืบหน้าในการเดินทางของเรา”
ซ่งเฉิงจุนเป็นผู้เปิดรับสมัครคนในการเดินทางครั้งนี้ คำพูดของเขาจึงมีน้ำหนักมาก
มีผู้คนมากมายในขบวนรถ แต่ฉู่เจียงเยว่คุ้นเคยกับไม่กี่คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นคือเสิ่นจื้อกุย เมื่อเห็นว่าพวกเขาอึดอัดแค่ไหนในรถ เขาจึงโบกมือแล้วให้พวกเขาย้ายมานั่งที่รถของเธอได้
แต่เงื่อนไขคือ ช่วงที่เหลือของการเดินทาง เธอจะรับผิดชอบแค่เรื่องอาหารการกินเท่านั้น ไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องอื่นๆ
แน่นอนว่าเสิ่นจื้อกุย และคนในทีมของเขาไม่ปฏิเสธ
พวกเขารู้ดีกว่าควรจะเลือกอะไรระหว่างนั่งเบียดเสียดในรถคนอื่น หรือนั่งอย่างสบายๆ ในรถของฉู่เจียงเยว่
“ขอบคุณเถ้าแก่ เรากำลังคุยกันอยู่พอดีกว่าจะเปิดระบบนำทางแล้วเช่ารถดีหรือไม่”
แต่หากเป็นเช่นนั้น รายได้ของพวกเขาจะลดน้อยลงมากหลังหักค่าเช่า ซึ่งมันจะทำให้การเดินทางครั้งนี้ไม่คุ้มค่านัก
โชคดีจริงๆ ที่ฉู่เจียงเยว่ช่วยปัญหานี้ให้ ทำให้พวกเขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ไม่เป็นไร ยังไงซะ งานที่เหลือทั้งหมดที่จะเป็นหน้าที่ของพวกนาย”
ฉู่เจียงเยว่มีความสุขมากที่ได้โยนภาระให้คนอื่นทำแทน เธอจึงรับผิดชอบเพียงส่วนหนึ่งเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยจนเกินไป
กลุ่มคนที่มารวมตัวกันออกเดินทางจากโรงแรมเจียงหลินด้วยความมุ่งมั่น และออกสู่โลกภายนอกที่เหมือนกับเตาอบอย่างรวดเร็ว
ฉู่เจียงเยว่พลิกข้อมือ และเครื่องดื่มเย็นหนึ่งแก้วก็ปรากฏขึ้นในมือของเธอ
“เอามั้ย? ฉันจะขายให้ในราคาเดิม”
“ไม่จำเป็น ตอนนี้เรากำลังสวมชุดควบคุมอุณหภูมิอยู่ ไว้เราค่อยดื่มมันในภายหลัง”
ความทนทานของชุดควบคุมอุณหภูมิยังไม่ได้หมดลง การดื่มเครื่องดื่มเย็นในตอนนี้เท่ากับการสิ้นเปลืองเสียเงินไปเปล่าๆ อย่างไร้ความหมาย
ฉู่เจียงเยว่ไม่ได้บังคับ เธอเปิดฝาแล้วดื่ม ปล่อยให้น้ำเย็นไหลลงคอเพื่อเพิ่มความสดชื่น
“ทิศทางนี้ดูเหมือนว่ากำลังจะมุ่งหน้าไปยังเมือง L ที่อยู่ข้างๆ ใช่ไหม?”
ตอนนี้ซูจู้เฉิงกำลังขับรถอยู่ และรถก็ค่อยๆ ตามรถลายทหารของซ่งเฉิงจุนไป
แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งจีพีเอส และระบบนำทาง แต่ฉู่เจียงเยว่ก็ยังพอจะรู้เส้นทางอยู่บ้าง แม้จะไม่แน่ใจนักก็ตาม
ยังมีป้ายบอกทางเหลืออยู่ตามถนน
"อาจจะ"
เสิ่นจื้อกุยยังดูสถานการณ์ภายนอก และให้คำตอบ
อย่างไรก็ตาม ฉู่เจียงเยว่ไม่สนใจมากนัก เธอแค่อยากรู้ว่าพวกเขาจะพบฐานผู้ลี้ภัยอีกแห่งได้เมื่อไหร่
ซ่งเฉิงจุนซึ่งนั่งอยู่บนรถที่ด้านหน้าขบวน รู้สึกเครียดเล็กน้อยจริงๆ ในขณะนี้
ท้ายที่สุดแล้วข้อมูลที่เปิดเผยบนโทรศัพท์ดาวเทียมนั้นไม่ต่อเนื่อง และไม่มีข้อมูลมากนัก เขายังกลัวว่าเขาจะมาผิดทาง และจบลงด้วยการพาคนกลุ่มหนึ่งเดินทางไกลโดยเปล่าประโยชน์
"โฮกกกก!"
ทันใดนั้น เสียงคำรามของสัตว์ร้ายก็ดังขึ้นข้างนอก และฉู่เจียงเยว่ก็เกือบจะตกใจกลัว
“มีสัตว์กลายพันธุ์ขวางอยู่บนถนน!”
ฉู่เจียงเยว่นั่งตัวตรง และมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ลงจากรถแล้วไปดูกันเถอะ”
หลังจากพูดจบ ฉู่เจียงเยว่ก็เปิดประตูแล้วลงจากรถ แล้วเดินไปที่หน้าขบวนรถอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ ซ่งเฉิงจุน และคนของเขากำลังเผชิญหน้ากับเสือตัวใหญ่สองตัว โดยมีเสือตัวเล็กยืนอยู่บนหัวของเสือตัวใหญ่ตัวหนึ่ง
“เสือทั้งสองตัวนี้ดูคุ้นๆ ใช่ตัวเดียวกับที่ลูกของมันถูกทีมก่อสร้างขโมยไปครั้งก่อนหรือเปล่า”
ฉู่เจียงเยว่รู้สึกว่าอย่างน้อยพวกเขาก็ได้สร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกันเอาไว้ แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะคิดเหมือนกันหรือเปล่าก็ตาม
"โฮกกกก!"
“โฮสต์ พวกมันกำลังตามหาคุณ”
จิ้งจอกน้อยยืนอยู่บนไหล่ของฉู่เจียงเยว่ และทำหน้าที่เป็นแปลภาษาสัตว์ให้กับฉู่เจียงเยว่
หลังจากที่โรงแรมเจียงหลินได้รับการอัพเกรด จิ้งจอกน้อยก็ดูโตขึ้นมาก จากที่มันเคยมีขนาดเท่าลูกแมว แต่ตอนนี้พวกมันมีขนาดเท่าแมวโตเต็มวัยแล้ว
ฉู่เจียงเยว่ตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่จิ้งจอกน้อยพูด พวกมันกำลังมองหาเธอ?
อย่างไรก็ตาม ฉู่เจียงเยว่ไม่ได้พูดอะไร แต่ก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
เสิ่นจื้อกุยยังจำเสือทั้งสามตัวนี้ได้ เมื่อเห็นฉู่เจียงเยว่กำลังจะก้าวไปข้างหน้า เขาก็รีบหยุดเธอ “อย่าประมาท”
ไม่มีใครรู้ว่าเสือทั้งสามตัวนี้ต้องการทำอะไร แม้ว่าคราวที่แล้วพวกมันจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เวลาก็ผ่านไปนานแล้ว ใครจะรู้ว่าพวกมันยังจำพวกเขาได้หรือไม่
“ไม่เป็นไร ฉันจัดการเอง”
ต่อให้สถานการณ์เลวร้ายเพียงใด เธอก็ยังมีจิ้งจอกน้อยอยู่ พวกมันไม่มีทางทำร้ายอะไรเธอได้
“เถ้าแก่ คุณไม่จำเป็นต้องเสี่ยง ด้วยพวกเราหลายคน เราสามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างแน่นอน”
คราวนี้ ทีมที่นำโดยซ่งเฉิงจุนล้วนแต่เป็นผู้ปลุกพลังระดับสองเป็นอย่างน้อย
เนื่องจากมีผู้คนมากมาย หากต้องรับมือกับเสือกลายพันธุ์สองตัวจริงๆ พวกเขาก็มั่นใจว่าจะชนะได้
“ไม่เป็นไร พวกมันไม่ได้เจตนาร้าย ฉันจะเข้าไปดู”
"โฮกกกก!"
เมื่อเห็นฉู่เจียงเยว่ก้าวมาข้างหน้า เสือตัวผู้ก็คำรามมาทางเธอ
“โฮสต์ พวกมันอยากให้คุณช่วยดูลูกให้หน่อย”
หลังจากได้ยินสิ่งที่จิ้งจอกน้อยพูด ฉู่เจียงเยว่ก็เดินไปหาเสือตัวเมีย มองไปที่ลูกเสือที่นอนอยู่บนหัวของมัน
เมื่อเห็นฉู่เจียงเยว่เดินเข้ามา เสือตัวนั้นก็นอนลงเพื่อให้ฉู่เจียงเยว่เห็นลูกของมันได้อย่างชัดเจนขึ้น
"วู้..."
เมื่อเห็นฉู่เจียงเยว่ ลูกเสือก็ส่งเสียงครวญคราง ดูน่าสงสารมาก จากนั้นจึงขยับเท้าหลังที่ได้รับบาดเจ็บออกมา
ไม่รู้ว่ามันไปโดนอะไรกัด เลือดเต็มไปหมด และกระดูกก็ดูเหมือนจะอยู่ไม่ถูกที่
“นี่... ดูเหมือนกระดูกจะอยู่ผิด แล้วฉันไม่รู้ว่าจะจัดกระดูกยังไง”
ฉู่เจียงเยว่หันไปมองผู้คนที่อยู่ข้างหลังเธอ “ใครหมู่พวกคุณมีใครรู้วิธีจัดกระดูกบ้าง?”