บทที่ 30 การอยู่ที่มี“เหุตผล”
บทที่ 30: การอยู่ที่มี“เหุตผล”
ประมาณสิบห้านาทีผ่านไป
หลี่จิ้งเตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้วจัดใส่ถาดเดินออกมาจากครัว
ขณะนั้นที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
จีชิงนอนแผ่หมดอาลัยตายอยากอยู่บนตักของเฉินอวี่หราน ปล่อยให้เธอลูบไล้ตัวไปมา
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอก็เริ่มชินแล้ว
บางสิ่งบางอย่าง
เมื่อยอมรับได้แล้ว ความจริงก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร
มีคำพูดหนึ่งที่ว่าอย่างไรนะ?
ชีวิตก็เหมือนถูกบังคับ
เมื่อต้านทานไม่ได้ ก็ได้แต่ต้องสนุกไปกับมัน
อย่างน้อยมือของเฉินอวี่หรานก็นุ่มนวลและละเอียดอ่อน ถูกเธอลูบก็รู้สึกสบายดี
เกิดมาเป็นแมว โดนคนลูบสองทีจะเป็นไรไป?
เต้าหู้เหม็นคาบไส้กรอกย่างเดินตามหลี่จิ้งออกมาจากครัว เงยหน้าเห็นภาพบนโซฟาแล้วรู้สึกขมขื่นใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เบือนหน้าหนีเลือกที่จะไม่มอง วิ่งไปกินที่มุมห้องนั่งเล่น
หลี่จิ้งเห็นท่าทางของจีชิงที่ดูเหมือน "ยอม" เฉินอวี่หรานไปแล้ว ก็รู้สึกอิจฉานิดหน่อย
เขาวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ แล้วเรียก
"มากินอาหารเช้ากันเถอะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย"
"อืม"
เฉินอวี่หรานตอบรับ อุ้มจีชิงมานั่งที่โต๊ะ หยิบตะเกียบขึ้นจะเริ่มกิน
หลี่จิ้งเห็นท่าทางแบบนั้นก็ยิ้มมุมปากอย่างจนใจ พูดขึ้น
"เอ่อ... เธอปล่อยจีชิงลงก่อนไหม? เธอก็ไม่ได้กินอะไรทั้งคืนแล้ว ให้เธอได้กินบ้าง?"
จีชิงได้ยินคำพูดนี้แล้วรู้สึกซาบซึ้งใจไม่น้อย
ในช่วงเวลานี้ หลี่จิ้งในสายตาเธอเป็นเหมือนเจ้าแม่กวนอิมผู้ช่วยให้พ้นทุกข์เลยทีเดียว
เฉินอวี่หรานถูกเตือนแล้ว กะพริบตาไม่พูดอะไร อย่างไม่เต็มใจนักก็ปล่อยจีชิงลงบนโต๊ะ
หลี่จิ้งยิ้มน้อยๆ นั่งลงที่โต๊ะพลางส่งถาดอาหารใบหนึ่งไปตรงหน้าจีชิง
สำหรับอาหารเช้า เขาได้เตรียมไว้สามที่
"ขอบคุณ"
จีชิงพูดเป็นภาษามนุษย์ ดมกลิ่นอาหารในถาด แล้วนั่งลงเลียอาหาร
การกินของจีชิงนั้นสง่างามมาก
เมื่อรวมกับรูปลักษณ์แมวของเธอ
ภาพนี้ช่างงดงามเหลือเกิน
โดยเฉพาะในยามที่เธอพยายามจะใช้อุ้งเท้าเล็กๆ ที่สวมถุงมือขาวช่วยในการกิน แต่ก็กังวลว่าจะทำให้อุ้งเท้าเปื้อน ท่าทางลำบากใจนั้น ช่างทำให้หัวใจละลายได้จริงๆ
เฉินอวี่หรานนั่งอยู่ข้างๆ มอง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่อุ้มเธอมาป้อนอาหารเอง
เธอหยิบตะเกียบขึ้นชิมอาหารเช้าที่ค่อนข้างหรูหรา แล้วมองไปที่หลี่จิ้ง
"เบาะแสเมื่อคืนสำคัญมาก สำนักตรวจการให้เงินรางวัลสองแสนหยวน เงินแค่นี้ฉันไม่สนหรอก แล้วข้อมูลก็มาจากคุณด้วย เดี๋ยวฉันกินเสร็จจะโอนให้"
หลี่จิ้งเลิกคิ้ว
ให้ข้อมูลแล้วยังได้เงินรางวัลด้วย?
สำนักงานตรวจการนี่มีน้ำใจจริงๆ!
"ขอบคุณนะ
เขายิ้มพลางพูด แล้วมองไปที่จีชิง
ยังไม่ทันได้พูดอะไร จีชิงก็เงยหน้าขึ้น
"เงินรางวัลคุณเก็บไว้เองก็ได้ แค่สองแสนฉันไม่ก็สนใจ ที่ฉันบอกข้อมูลให้คุณก็แค่อยากจะอยู่ในเขตเป่ยเฉิงได้อย่างสงบสุขเท่านั้น"
หลี่จิ้งพูดไม่ออก
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้รู้จักคนมากมาย
แต่เดิมเขาไม่ค่อยรู้สึกอะไร
แต่ตอนนี้เขาถึงได้รู้ตัว
คนที่เขารู้จักช่วงไม่กี่วันมานี้ ดูเหมือนจะไม่มีใครขัดสนเงินทองเลยสักคน?
แม้แต่จีชิงที่เป็นปีศาจในร่างมนุษย์ซึ่งการหาเงินค่อนข้างลำบาก ก็ยังมีร้านหม้อไฟชื่อดังบนโซเชียลในย่านคึกคักของเขตเป่ยเฉิง มีฐานะร่ำรวย
ตัวตลกกลับกลายเป็นตัวเขาเอง
เงียบๆ กลืนคำพูดที่จะหลุดออกมากลับลงไป หลี่จิ้งอยากจะร้องไห้
ในโลกนี้
เขาที่ไร้รากเหง้า แม้แต่แมวปีศาจยังสู้ไม่ได้
ถอนหายใจเบาๆ หลี่จิ้งเลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ถามเฉินอวี่หราน
"เรื่องต้นกำเนิดของพิษปีศาจ บอกฉันได้ไหมว่าเป็นยังไงบ้าง?"
"เรื่องรายละเอียด ฉันไม่สะดวกจะพูดมาก ถ้าคุณสนใจ ตอนเที่ยงจะมีการแถลงข่าว ตอนนั้นทางทีวีจะเปิดเผยข้อมูลบางส่วน"
เฉินอวี่หรานตอบ ก้มลงกินอาหารสองคำ แล้วพูดต่อ
"สิ่งที่ฉันบอกคุณได้ก็คือ ต้นกำเนิดพิษปีศาจมีขนาดค่อนข้างใหญ่ คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนในการกำจัดให้หมดอันตราย แล้วอีกหน่อยตอนสิบโมง แต่ละเขตในเมืองเจียงไห่จะส่งผู้ตรวจการระดับสองขึ้นไปประมาณพันคนมาที่นี่ เพื่อช่วยสำนักงานสาขาเป่ยเฉิงกวาดล้างชายฝั่งตะวันออกและทะเลใกล้ฝั่งให้ทั่ว งานกวาดล้างจะใช้เวลาสิบสองชั่วโมง มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ปีศาจที่ถูกพิษปีศาจครอบงำขึ้นมาก่อกวนในเมือง"
เมื่อได้ยินว่าจะมีการกวาดล้างปีศาจในทะเลตอนกลางวัน หัวใจของหลี่จิ้งก็เต้นแรง
สำนักตรวจการให้ความสำคัญถึงขนาดเรียกผู้ตรวจการระดับสองขึ้นไปมาถึงพันคนจากทุกเขตในเมืองเจียงไห่มาช่วยกวาดล้าง คงมีปีศาจที่กลายพันธุ์จากพลังปีศาจไม่น้อยเลย
ปีศาจพวกนั้น ล้วนเป็นประสบการณ์ทั้งนั้น!
แต่เรื่องนี้ เขาได้แต่คิดเท่านั้น
ตัวเองมีฝีมือแค่ไหน เขารู้ดี
ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นแค่ผู้ช่วยตรวจการ ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม
ปีศาจในทะเลกับบนบกนั้นเป็นคนละเรื่องกัน
แถมปีศาจที่ถูกพิษปีศาจครอบงำอย่างหนักก็ไม่ใช่แค่ฆ่าแล้วจบ หลังจากนั้นต้องจัดการซากด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ซากกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อพิษปีศาจ
งานกวาดล้างของสำนักตรวจการนั้นยากลำบากมาก
ไม่คิดมาก หลี่จิ้งถาม
"ต้นกำเนิดของพิษปีศาจอยู่ในทะเลลึก ดูเหมือนว่าในทะเลลึกจะมีปีศาจมากกว่า ทำไมถึงกวาดล้างแค่ทะเลใกล้ฝั่งล่ะ?"
คำพูดยังไม่ทันจบ จีชิงก็เอ่ยขึ้น
"ฉันเห็นว่าเธอเป็นคนค่อนข้างเข้าใจโลก ทำไมแม้แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่เข้าใจ?"
พูดพลางเลียอุ้งเท้าเล็กๆ ของตัวเอง
"การดำรงอยู่ย่อมมีเหตุผล พิษปีศาจเองก็เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติ ปีศาจก็เป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่ชีวิตของโลก การเข้าไปแทรกแซงโดยมนุษย์อย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้"
"ถูกต้อง"
เฉินอวี่หรานยิ้ม พูดว่า
"ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่กระทบต่อความปลอดภัยของเมือง อะไรที่ไม่จำเป็นต้องแทรกแซง สำนักตรวจการมักจะไม่เข้าไปยุ่ง ไม่ใช่แค่สำนักตรวจการของประเทศหลงอวี่เราเท่านั้น ประเทศอื่นๆ ก็มีแนวทางรับมือเหมือนกัน ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ในโลกมีวัตถุดิบวิญญาณอย่างน้อยสามร้อยชนิดที่จะพบได้เฉพาะในที่ที่มีพลังปีศาจรวมตัวกัน ในนั้นบางส่วนเกิดคู่กับพลังปีศาจ อีกส่วนหนึ่งเกิดจากซากปีศาจที่ถูกพลังปีศาจครอบงำอย่างหนักแล้วกลายพันธุ์หลังตาย"
พูดจบ เธอก็ชำเลืองมองจีชิงอย่างไม่ตั้งใจ
"แล้วก็ เรื่องวัตถุดิบวิญญาณที่เกี่ยวข้องกับพลังปีศาจที่มีราคาแพงที่สุดและหายากที่สุด คือเห็ดวิญญาณชนิดหนึ่งที่จะเติบโตบนซากของปีศาจร่างมนุษย์ที่ตายจากพลังปีศาจและกลับคืนสู่ร่างดั้งเดิม ต้องใช้เวลาเติบโตกว่าห้าสิบปีถึงจะสุก ยิ่งอายุมากยิ่งมีค่า ราคาสูงสุดอาจถึงหลายร้อยล้าน"
หลายร้อยล้าน!
หลี่จิ้งสูดลมหายใจเฮือก
จีชิงที่ถูกเฉินอวี่หรานมองมา รู้สึกอึดอัดไปหมด
ผู้หญิงคนนี้ พูดก็พูดไป
ทำไมต้องมองมาด้วย?
ตั้งใจจะขู่แมวใช่ไหม?
กระสับกระส่ายกับอุ้งเท้าเล็กๆ จีชิงสะบัดหางฟูฟ่องของตัวเอง วางไว้ข้างมือเฉินอวี่หราน
เฉินอวี่หรานเห็นดังนั้นก็ไม่แสดงอาการใดๆ สบายใจเล่นหางของเธอ
หลี่จิ้งมองภาพนี้ แอบยิ้มมุมปาก
เขาพบว่า
เฉินอวี่หรานแม้จะคุยด้วยง่าย แต่จริงๆ แล้วเป็นคนที่ภายนอกดูน่ารักแต่ภายในดุ
อาศัยโอกาสที่อธิบายให้เขาฟัง แอบขู่จีชิงเสียหนึ่งตั้ง จนกระตุ้นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของอีกฝ่ายออกมา
หลี่จิ้งที่กำลังรู้สึกอึ้ง โทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั่น
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูโดยไม่รู้ตัว พบว่าเป็นข้อความเซียนซิ่นจากคงอู่
พอเปิดดู เขาก็ขมวดคิ้วทันที
"สำนักตรวจการยืนยันจุกกำเนิดของพิษปีศาจแล้ว วันนี้เริ่มจัดการ งานตรวจสอบอาหารทะเลย้อนหลังจะเสร็จภายในเย็นนี้ งานของทีมลาดตระเวนที่เก้าดำเนินไปตามปกติ นายกับอี้ซิวจู่คืนนี้ยังคงต้องเข้าเวรในเขตรับผิดชอบของทีมเทียนหวัง ลู่หยางเฉิงยังไม่สามารถกลับมาร่วมทีมได้ ในฐานะผู้ช่วย เขาต้องอยู่ในทะเลลึกอย่างน้อยเจ็ดวัน"
เรื่องอื่นๆ ในข้อความ หลี่จิ้งไม่ค่อยสนใจ
ตัวเขาเองก็แค่ผู้ช่วยตรวจการตัวเล็กๆ สนใจเรื่องพวกนี้ทำไม?
แต่ลู่หยางเฉิงต้องไปเป็นแรงงานอยู่ในทะเลลึกเจ็ดวัน นี่มัน...
เจ็ดวัน
พอหลู่หยางเฉิงกลับมา จะมีความแค้นมากแค่ไหน?
กำลังจะตอบข้อความ ในเซียนซิ่นก็มีกลุ่มแชทผุดขึ้นมา
?
หลี่จิ้งงงเล็กน้อย เปิดดูพบว่าคงอู่ตั้งกลุ่มแชทของทีมลาดตระเวนที่เก้า
คงอู่: กลุ่มแชทนี้จะใช้เป็นกลุ่มพูดคุยภายในทีมลาดตระเวนที่เก้าในยามว่าง ทุกคนเปลี่ยนชื่อในกลุ่มให้คนอื่นจำได้ด้วย
เติ้งหยิง (กลุ่มราตรี): รับทราบ
จ้าวจุ้นเฟิง (กลุ่มเฟยเซียน): รับทราบ
เหรินซานเฉียน (กลุ่มราตรี): รับทราบ
หลงเฟยเซียน (กลุ่มราตรี): รับทราบ
อี้ซิวจู่ (กลุ่มเทียนหวัง): รับทราบ
เจียงเฉิงซี (กลุ่มเฟยเซียน): รับทราบ
ซานเสี่ยวอวี๋ (กลุ่มเฟยเซียน): รับทราบ
เห็นว่านอกจากลู่หยางเฉิงที่ไป "ทำงานราชการ" แล้วทุกคนมาพร้อมหน้า หลี่จิ้งรีบเปลี่ยนชื่อในกลุ่มของตัวเอง ตอบกลับไปหนึ่งข้อความ
หลี่จิ้ง (กลุ่มเทียนหวัง): รับทราบ
พอข้อความเด้งขึ้นมา ลู่หยางเฉิงที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้โผล่มาก็โผล่มา
ลู่หยางเฉิง (กลุ่มเทียนหวัง): หัวหน้าคง คุณมาช่วยฉันที่ทะเลลึกหน่อยได้ไหม? ข้างนอกแดดแรงมาก แถมต้องใส่ชุดป้องกันหนักหลายสิบกิโล ร่างกายฉันบอบบางทนไม่ไหวแล้ว...
คงอู่: แดดแรง อดทนหน่อยก็ได้ แค่นี้ยังทนไม่ได้ จะเป็นผู้ช่วยตรวจการได้ยังไง?
เผชิญกับคำพูดไร้มนุษยธรรมของคงอู่ ลู่หยางเฉิงก็จมดิ่งสู่ความเงียบยาวนาน
รวมถึงหลี่จิ้งและสมาชิกอื่นๆ ในทีมลาดตระเวนที่เก้าก็เงียบเช่นกัน
จะช่วยพูดแทนลู่หยางเฉิง?
ไม่มีใครโง่ขนาดนั้น
คงอู่เป็นคนแปลกประหลาด
ใครจะรู้ว่าเขาจะไม่สมองกลับและส่งใครไปแทนลู่หยางเฉิงที่ทะเลลึก?
มีแค่ลู่หยางเฉิงบาดเจ็บคนเดียว โลกก็ดีแล้ว
กลุ่มเงียบไปพัก คงอู่ก็ส่งข้อความอีก
คงอู่: เมื่อคืนพวกเธอเข้าเวรวันแรก ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะกลุ่มเทียนหวัง แทบจะเป็นการสืบสวนคดีปีศาจกลายพันธุ์ในเขตเป่ยเฉิงโดยตรง สำนักตรวจการให้เงินรางวัลมา ลู่หยางเฉิงที่พกเครื่องตรวจจับส่วนตัวมาจนได้รับความดีความชอบได้สามแสน สมาชิกทีมเก้าคนที่เหลือคนละหนึ่งแสน ไม่มีใครมีความเห็นอะไรใช่ไหม?