ตอนที่แล้วบทที่ 28 มูลค่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 การอยู่ที่มี“เหุตผล”

บทที่ 29 สถานะของเต้าหู้เหม็น -1


สถานะของเต้าหู้เหม็น -1

หลี่จิ้งลูบหัวเต้าหู้เหม็นพลางพูดว่า

"จีชิงจะพักอยู่ที่นี่สักพัก เจ้านายของนายก็เห็นด้วยแล้ว อย่าทำหน้าขลาดๆ แบบนั้น ปฏิบัติกับเธอเหมือนแขกก็พอ เธอจะไม่รังแกนายหรอก"

เมื่อได้ยินว่าจีชิงเป็นแขกและจะไม่รังแกตน เต้าหู้เหม็นก็ดูผ่อนคลายขึ้น มันไม่ใช่ไซบีเรียนฮัสกี้ธรรมดา

แม้จะมีนิสัยเหมือนฮัสกี้ทั่วไปและฉลาดน้อยหน่อย แต่ก็เป็นสัตว์วิเศษที่มีจิตวิญญาณตั้งแต่เกิด

มันกระดิกหางและส่งเสียง "โฮ่งๆ" ใส่จีชิง

จีชิงกะพริบตาโตที่เหมือนอัญมณีแล้วพูดออกมาเป็นภาษามนุษย์

"ขอบใจ แต่ฉันไม่สนใจกรงหมาของเธอหรอก"

"?"

หลี่จิ้งทำหน้างงๆ แล้วหันไปถาม

"เธอเข้าใจที่มันพูดด้วยเหรอ?"

"ภาษาสัตว์เป็นภาษากลาง ฉันเป็นแมวปีศาจ มันเป็นสุนัขวิเศษ ฉันก็เข้าใจที่มันพูดได้สิ" จีชิงตอบอย่างเป็นธรรมชาติ พลางพูดอย่างรังเกียจว่า

"มันเพิ่งบอกว่าจะแบ่งกรงให้ฉันครึ่งหนึ่ง ให้นอนด้วยกัน"

"..."

หลี่จิ้งเงียบ มองเต้าหู้เหม็นแล้วอึ้งไป

เต้าหู้เหม็นเป็นสุนัขตัวผู้

อาจจะไม่ได้มีเจตนาร้ายที่ชวนจีชิง แต่มันก็ไม่เหมาะสม

ส่วนเต้าหู้เหม็นที่ถูกปฏิเสธส่งเสียง "อู้ๆ" อย่างเศร้าๆ ดูผิดหวัง

หลี่จิ้งเห็นท่าทางของมันก็ยิ้ม แล้วเดินเข้าห้องนั่งเล่นพาจีชิงไปวางบนโซฟา

"เดี๋ยวเฉินยวี่หรานก็คงกลับมาแล้ว ฉันจะไปทำอาหารเช้าก่อน ถ้าคุณไม่มีอะไรทำก็เล่นกับเต้าหู้เหม็นไปพลางๆ"

ก่อนที่จีชิงจะได้พูดอะไร เต้าหู้เหม็นก็ดูตื่นเต้น วิ่งกระดี๊กระด๊าไปที่หน้าโซฟา ใช้อุ้งเท้าหยิบจานร่อนออกมาวางตรงหน้าเธอ แล้วส่งเสียง "โฮ่ง" ไปทางประตู

เห็นท่าทางแบบนี้ ไม่ต้องให้จีชิงแปล หลี่จิ้งก็เข้าใจ

เต้าหู้เหม็นกำลังชวนจีชิงไปเล่นจานร่อนในสวน

แต่จีชิงไม่สนใจแน่นอน

เธอกับเต้าหู้เหม็นต่างกัน

ในฐานะปีศาจร่างมนุษย์ เธอหลุดพ้นจากสัญชาตญาณของสัตว์ไปแล้ว

แต่เต้าหู้เหม็นไม่เช่นนั้น

ในฐานะสัตว์วิญญาณ มันยังคงมีสัญชาตญาณของหมาอยู่ ชอบการเล่นสนุก

ถ้าเต้าหู้เหม็นหยิบมือถือออกมาชวนเธอเล่นเกม "ROV" เธออาจจะพอรับได้

แต่จานร่อนนี่ ดูต่ำศักดิ์ศรีเกินไป

"ฉันมีธุระต้องจัดการ ตอนนี้ไม่ว่างเล่นกับนายหรอก"

จีชิงปฏิเสธเต้าหู้เหม็นอย่างนุ่มนวล พลางใช้อุ้งเท้าขนฟูหยิบมือถือของตัวเองออกมา เปิดแอพเซียนซิ่น

พยายามติดต่อพนักงานที่ร้านหม้อไฟของเธอ

เธอกลับมากับหลี่จิ้ง

ช่วงนี้คงไม่ได้กลับไปที่ร้านแน่ๆ

ต้องบอกพนักงานสักหน่อย ไม่อย่างนั้นการดำเนินงานของร้านหม้อไฟอาจมีปัญหา

เต้าหู้เหม็นเห็นท่าทางแบบนั้นก็รู้ความ นอนลงหน้าโซฟาโดยไม่รบกวนจีชิง

ขึ้นโซฟามันไม่กล้า

ถ้าเฉินยวี่หรานกลับมาเห็นจะโดนตี

หลี่จิ้งเห็นแมวกับหมาอยู่ด้วยกันได้อย่างราบรื่น ก็วางใจเดินเข้าครัวไป

ยังไม่ทันที่จะทำอาหารในครัวได้นาน หลี่จิ้งก็ได้ยินเสียง "โฮ่ง" ดังอย่างตื่นเต้นจากห้องนั่งเล่น

คิดว่าน่าจะเป็นเฉินยวี่หรานกลับมา เขาจึงโผล่หัวออกมาจากครัวมองไปที่ห้องนั่งเล่น

พอดีตอนนั้น เฉินยวี่หรานก็เดินเข้ามาจากข้างนอก

หลี่จิ้งเห็นแล้วก็ทักว่า

"อาหารเช้าต้องรออีกสักพัก ฉันเพิ่งเริ่มทำ"

"อืม"

เฉินยวี่หรานพยักหน้า พลางลูบหัวเต้าหู้เหม็นที่วิ่งมาหา แล้วมองไปที่จีชิงบนโซฟาที่รีบเก็บมือถือท่าทางเรียบร้อย ก่อนจะหันมาถามว่า

"แมวตัวนี้ชื่ออะไร?"

"ให้เธอแนะนำตัวเองดีกว่า"

หลี่จิ้งตอบแล้วหันกลับเข้าครัวไป

เมื่อคืนเฉินยวี่หรานก็เห็นความผิดปกติของจีชิงแล้ว ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร

เห็นหลี่จิ้งตอบตรงๆ แบบนั้น เฉินยวี่หรานก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เธอสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ แต่ยังไม่แน่ใจ

แต่ตอนนี้เธอแน่ใจแล้ว

คนที่เขาบอกว่าเป็น "คนใจดีที่ผ่านมา" จริงๆ ก็คือจีชิงนี่เอง

บนโซฟา

จีชิงเห็นเฉินยวี่หรานมองมาด้วยความสนใจ ในใจก็ตื่นเต้นไม่น้อย

หลี่จิ้งนี่ ช่างสบายใจเกินไปแล้ว!

ถึงคนจะเห็นความผิดปกติของเธอแล้ว แต่ก็ไม่ควรทำแบบนี้สิใช่ไหม?

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง จีชิงก็ฝืนใจพูดออกมา

"สวัสดีค่ะ คุณผู้ตรวจการเฉิน ฉันชื่อจีชิงค่ะ"

เมื่อได้ยินจีชิงพูดเป็นภาษามนุษย์ด้วยเสียงหวานใส เฉินยวี่หรานก็แสดงสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

"เธอเป็นผู้หญิงเหรอ?"

พูดพลางเดินมานั่งข้างๆ จีชิงบนโซฟา แล้วพูดเรียบๆ ว่า

"ข้อมูลเมื่อคืนของเธอมีประโยชน์มาก ทำให้สำนักตรวจการของเราประหยัดแรงไปได้เยอะ ถือว่าได้ช่วยรักษาความสงบของเขตเป่ยเฉิงด้วย เธอไม่ต้องกังวลขนาดนั้น เมื่อฉันตกลงกับหลี่จิ้งว่าจะให้เธอพักอาศัยชั่วคราว ฉันก็จะไม่ทำอะไรเธอหรอก"

พูดจบแล้วเธอก็เสริมว่า

"เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหา ช่วงที่เธออยู่ที่บ้านฉัน เธอไม่ควรเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ นั่นจะไม่ดีกับทั้งสองฝ่าย"

ได้ยินน้ำเสียงที่มีเหตุผลของเฉินยวี่หราน จีชิงก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย พลางเงยหน้ามองเธอด้วยความสงสัย

ผู้ตรวจการคนนี้ ดูเหมือนจะแตกต่างจากที่เธอเคยรู้มา

ราวกับรู้ว่าเธอคิดอะไร เฉินยวี่หรานก็ยิ้มพูดว่า

"หน้าที่หลักของผู้ตรวจการคือรักษาความสงบของเมือง ไม่ใช่จับปีศาจฆ่าปีศาจโดยไม่แยกแยะ แม้ว่าปกติเราจะไม่ปล่อยผ่านปีศาจที่กลายร่างเป็นมนุษย์ แต่นั่นก็เพื่อความปลอดภัย"

พูดพลางยืดตัว แล้วพูดต่อ

"พูดง่ายๆ การจัดการภัยจากปีศาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งในหน้าที่ของเรา เมื่อเทียบกับคดีปีศาจทำร้ายมนุษย์ การจัดการคดีอาชญากรรมของผู้ฝึกตนต่างหากที่เราต้องเผชิญบ่อยๆ ในวันปกติ พวกเราไม่มีเวลามาสนใจว่าพวกเจ้าปีศาจจะซ่อนตัวอยู่มุมไหนของเมืองหรอก"

หลังจากอธิบายอย่างมีเหตุผล เฉินยวี่หรานก็อุ้มจีชิงขึ้นมา ลูบขนพลางพูดว่า

"ช่วงนี้การควบคุมปีศาจจะเข้มงวดขึ้นจริงๆ หลังจากมีเรื่องพิษปีศาจเกิดขึ้น มาตรการป้องกันต่างๆ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วเธอไม่จำเป็นต้องกลัวขนาดนั้น ปีศาจร่างมนุษย์คงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เธอก็อยู่ที่บ้านฉันอย่างสบายใจไปก่อน อย่าออกไปเพ่นพ่านล่ะ"

"..."

จีชิง

เหตุผลเธอเข้าใจ

การที่เฉินยวี่หรานเป็นกันเองขนาดนี้ก็ทำให้เธอสบายใจ

แต่...ทำไมพูดไปพูดมา เฉินยวี่หรานถึงได้จับตัวเธอมาลูบล่ะ?

คนนี้…

คงไม่ได้หมายตาร่างของเธอหรอกนะ!

พอคิดได้แบบนั้น เต้าหู้เหม็นก็เห็นเฉินยวี่หราน "ลูบ" จีชิงอยู่ จึงส่งเสียง "อู้ๆ" แล้วเข้ามาขอให้ลูบบ้าง

จิตใจของหมานั้นบริสุทธิ์

แต่เฉินยวี่หรานที่มีจีชิงแล้ว กลับไม่ค่อยสนใจเต้าหู้เหม็น

เลี้ยงเต้าหู้เหม็นมาสิบเจ็ดปี หมาโง่ตัวนี้ทำให้เธอเหนื่อยใจไม่น้อย

ลูบทุกวันจนเบื่อแล้ว

มีสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ เธอเฉินยวี่หรานจะเจ้าชู้หน่อยก็ไม่เป็นไรใช่ไหม?

อีกอย่าง จีชิงก็แค่มาพักชั่วคราว พอสถานการณ์สงบก็จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม ถ้าไม่รีบลูบตอนนี้

เดี๋ยวก็ไม่มีโอกาสแล้ว

แต่ในฐานะเจ้าของของเต้าหู้เหม็น เฉินยวี่หรานก็ยังพอมีความยุติธรรม

จำใจลูบเต้าหู้เหม็นหนึ่งทีเพื่อให้ผ่านไป แล้วก็กลับมาลูบจีชิงต่อ หลับตาพึงพอใจกับสัมผัสขนนุ่มละเอียดของแมวในอ้อมกอด

"บ้านฉันมีแต่กรงหมา ไม่มีบ้านแมว และเธอก็เป็นผู้หญิง ให้ไปนอนห้องหลี่จิ้งก็คงไม่เหมาะ ตั้งแต่วันนี้ เธอมานอนห้องเดียวกับฉันแล้วกัน"

!!!

จีชิง

คนนี้...

หมายตาร่างเธอจริงๆ ด้วย!

บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ อยู่กันแค่สองคนกับหมาหนึ่งตัว จะไม่มีห้องว่างได้ยังไง?

แต่เผชิญหน้ากับเฉินยวี่หราน เธอก็ไม่กล้าปฏิเสธ

อีกด้าน เต้าหู้เหม็นได้ยินคำพูดของเฉินยวี่หราน ใบหน้าหมาก็เต็มไปด้วยความงุนงง

ในฐานะไซบีเรียนฮัสกี้

มันอาจจะโง่นิดหน่อย

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่รู้ว่าตัวเองถูกทอดทิ้ง และสถานะลดลง -1

"โฮ่ง" หนึ่งที เต้าหู้เหม็นก็หันหลังวิ่งเข้าครัวไป

ในครัว

หลี่จิ้งกำลังยุ่งอยู่กับการผัดอาหาร

จู่ๆ ก็เห็นเต้าหู้เหม็นวิ่งเข้ามาส่งเสียง "อู้ๆ" อย่างน่าสงสาร หลี่จิ้งก็กระตุกมุมปาก

เขาได้ยินคำพูดของเฉินยวี่หรานจากข้างนอกแล้ว

ตอนนี้เต้าหู้เหม็นวิ่งมาหาเขา ชัดเจนว่าไม่กล้าท้าทายอำนาจของเฉินยวี่หราน จึงมาหาเขาเพื่อขอกำลังใจ

พูดตามตรง เรื่องนี้ทำให้เขาแปลกใจมาก

เมื่อคืนเฉินยวี่หรานเคยพูดว่าอยากเลี้ยงแมวมานานแล้ว แต่มีเต้าหู้เหม็นอยู่ก็ไม่มีเวลาเลี้ยง

แต่เขาไม่คิดจริงๆ ว่าเฉินยวี่หรานจะไม่เลือกเลยสักนิด

แมวปีศาจก็เอา

เอาไม่พอ ยังจะจับนอนด้วยกันอีก!

ช่างเหลือเชื่อ

หัวเราะขันๆ พลางลูบหัวเต้าหู้เหม็น หลี่จิ้งพูดว่า

"พอๆ เรื่องแค่นี้เอง นายก็เป็นหมาตัวโตแล้ว ต้องเข้มแข็งหน่อย"

คำปลอบใจที่ไม่เหมือนปลอบใจ ทำให้เต้าหู้เหม็นรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย มันหันไปส่งเสียง "โฮ่งๆ" ใส่ตู้เย็นสองที

หลี่จิ้งเห็นท่าทางก็เข้าใจ เปิดตู้เย็นหยิบไส้กรอกสองอันที่ซื้อมาเมื่อวันก่อน

"รอแป๊บนึง เดี๋ยวฉันละลายให้ เป็นของว่างพิเศษ"

"โฮ่ง!"

เต้าหู้เหม็นส่งเสียงพอใจ สะบัดหัวกระดิกหาง

ผู้หญิงเจ้าชู้ข้างนอกนั่น มันไม่กล้ายุ่ง

แมวตัวนั้น มันก็ไม่กล้ายุ่งเหมือนกัน

ดีที่ยังมีหลี่จิ้งที่เข้าใจมัน รู้จักดูแลมัน

ชีวิตหมามันช่างยากลำบากจริงๆ!

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด