บทที่ 28 มูลค่า
ปีศาจจำพวกเปลือกแข็ง
หลี่จิ้งเลิกคิ้วและลอยขึ้นสู่อากาศ
ก่อนหน้าเขา ผู้ตรวจการอีกสองคนที่อยู่แถวนี้ลงจอดที่ชายหาดก่อน
ก่อนที่หลี่จิ้งจะเข้าใกล้ ผู้ตรวจการหญิงหยิบเครื่องวัดที่มีเข็มทิศออกมามและเล็งไปยังหลุมขนาดใหญ่
นาทีถัดมา เครื่องวัดเริ่มส่งเสียงดัง“ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด”
เมื่อฟังเสียงบี๊บ ผู้ตรวจการสองคนข้าง ๆ ก็เปลี่ยนสีหน้าไป
ผู้ตรวจการหญิงเหลือบไปเห็นสีหน้าของผู้ตรวจการสองคน เธอจึงพูดขึ้น
“ไม่ต้องกังวล ระดับความเข้มข้นของพิษปีศาจอยู่ที่ 16 ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่เป็นอันตราย ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้นี้ถูกฆ่าตายก่อนที่มันจะปล่อยไอพิษปีศาจออกมา อย่างไรก็ตาม ระดับความเข้มข้นของพิษปีศาจในร่างกายของมันยังไม่แน่ใจ เราควรวางแนวป้องกัน และติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อจัดการ”
เมื่อได้ยินว่าระดับความเข้มข้นของพิษปีศาจต่ำกว่ามาตรฐานที่เป็นอันตราย สีหน้าของผู้ตรวจการทั้งสองจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ความเข้มข้นของพิษปีศาจ มากกว่า 30 เมื่อสูดเข้าจะทําให้เกิดความเสียหายอย่างถาวรต่อร่างกายมนุษย์
นี่ไม่ใช่เรื่องตลก
พวกเขานําเทปเตือนสําหรับการลาดตระเวนออกจากพื้นที่เก็บของ และทั้งสองก็เดินออกไปและจัดสถานที่
ผู้ตรวจการหญิงมองไปที่หลี่จิ้ง
"เพื่อนร่วมงาน ที่นี่มีพิษปีศาจหลงเหลืออยู่ เพื่อความปลอดภัยของน้องแมวของคุณ คุณไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป”
"โอเค"
หลี่จิ้งพยักหน้า และทำท่าปกป้องจีชิง ลอยตัวไปยังบ้านริมทะเลของอี้ซิวจู่
โดยใช้โอกาสนี้ เขามองเข้าไปในหลุมขนาดใหญ่
มันใหญ่มากและฝังอยู่ใต้ชายหาดลึกประมาณ 10เมตร
เมื่อยืนอยู่บนชายหาดมองไม่เห็นภาพรวมของหลุมนั้น แต่ยังเห็นมีเพียงเปลือกบางส่วนที่ทะลุเท่านั้น
ดูแล้วน่าจะเป็นปู
...
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่จิ้งก็กลับไปที่หลังคาของคอนโดริมทะเล
ในเวลานี้ อี้ซิวจู่กำลังฟื้นฟูพลังอยู่
เมื่อเขาเห็นหลี่จิ้งกลับมา เขาก็เงยหน้ามอง
เมื่อเห็นจีชิงเกาะอยู่บนไหล่ของหลี่จิ้ง เขาแสดงสีหน้าสงสัย
"แมวมาจากไหน"
"ฉันเก็บมาข้างทางน่ะ"
หลี่จิ้งพูดอย่างกระทันหัน
"เจ้าตัวเล็กนี่น่าจะหลงทาง ฉันจะเอามันกลับไปเลี้ยง"
อี้ซิวจู่ได้ยินคําพูดนั้นและมองไปที่จีชิง แต่เขาไม่สนใจมากนัก
เขาถอนหายใจยาวๆ สิ้นสุดการฟื้นฟูพลัง เขาลุกขึ้นมองทิศทางที่หลี่จิ้ง
“เสียงระเบิดดังสนั่นเมื่อกี้มาจากทางนั้น คุณมาจากทางนั้น ตรวจสอบแล้วใช่ไหม?”
"อืม"
หลี่จิ้งตอบและพูดต่อ
“มีปีศาจที่ถูกพิษปีศาจกัดกร่อนอย่างรุนแรงอยู่ใต้ชายหาดตรงนั้น มันตายแล้ว ผู้คนในสํานักตรวจการคาดเดาว่ามีปรมาจารย์ระดับที่ 3 ที่ไม่เปิดเผยตัวตน ลงมือระเบิดฆ่าปีศาจนั่น
"ปรมาจารย์ระดับที่ 3 ที่ไม่เปิดเผยตัวตน?"
อี้ซิวจู่ ขมวดคิ้วและรู้สึกว่าแปลกๆ
แต่ไม่รู้มันแปลกยังไง
ท้ายที่สุดแล้ว การประเมินนั้นมาจากคนของสำนักตรวจการ
ไม่ต้องคิดอะไรมาก อี้ซิวจู่ถาม
"แล้วปีศาจที่ถูกระเบิดตายคือตัวที่เรากําลังตามหาใช่ไหม"
"ไม่"
หลี่จิ้งส่ายหัวและพูดว่า
"ปีศาจที่ถูกฆ่าคือปีศาจจำพวกเปลือกแข็ง ไม่ใช่ปีศาจคล้ายปลาไหล"
ได้คำตอบนี้ อี้ซิวจู่ถอนหายใจ
"นั่นหมายความว่าเรายังต้องอยู่ที่นี่ลาดตระเวนงั้นเหรอ"
"ตามนั้น ดีกว่าถูกมอบหมายให้ทําอย่างอื่นล่ะนะ"
หลี่จิ้งยิ้ม
กำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่างอยู่ มีเสียงกระบี่สิบกว่าเล่มแล่นผ่านชายฝั่งไปยังทะเล
หลังแสงกระบี่ เรือเร็วหลายลำพร้อมไฟค้นหาก็ตามมา
อี้ซิวจู่มองเห็นฉากดังกล่าวและมองมันไปโดยไม่รู้ตัว
"พวกนั้นคือผู้ตรวจการงั้นเหรอ? พวกเขาตรงไปที่ทะเลทำไม? ไม่ค้นหาชายฝั่งแล้วเหรอ"
"ฉันก็ไม่รู้เรื่องนี้"
หลี่จิ้งแกล้งทําเป็นโง่และพูด
"เราเป็นเพียงผู้ช่วยตรวจการ และไม่จําเป็นต้องให้ความสนใจมากนัก เกิดอะไรขึ้น? รอถาม ลู่หยางเฉิงพรุ่งนี้หลังเลิกงานตอนเช้าก็แล้วกัน รอบนี้เราถือว่ามีเส้นมีสาย เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งของเราอยู่ในแนวหน้า ข่าวสารเชื่อถือเชื่อถือได้แน่นอน”
เมื่อพูดถึงลู่หยางเฉิง อี้ซิวจู่ก็ยิ้มกว้าง
หลายสิ่งหลายอย่างไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาในฐานะผู้ช่วยจะสามารถสัมผัสได้ทันที
ลู่หยางเฉิงถูกสำนักตรวจการลากไปเป็นแรงงาน เขาอยู่แนวหน้า อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขามีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อรอเขาเลิกงานพรุ่งนี้เช้า ลู่หยางเฉิงคงบ่นกับพวกเขาก่อน
อี้ซิวจู่ไม่ปล่อยให้หัวข้อสนทนาดำเนินต่อไป เขาพูด
“ฉันฟื้นฟูพลังเรียนร้อยแล้ว เราจะลาดตระเวนต่อไหม?”
…
กลางคืนผ่านไปอย่างเงียบสงบ
8 โมงเช้า
เบาะแสของปีศาจบนฝั่งนั้นยังคงเป็นปริศนา
งานที่เกี่ยวข้องยังคงดําเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลี่จิ้งและอี้ซิวจู่โล่งใจชั่วคราว
งานของผู้ช่วยตรวจการส่วนมากเป็นงานจุกจิก
แต่ดีที่มีคนจำนวนมากพอ
ไม่เหมือนผู้ตรวจการ เมื่อคนไม่เพียงพอ การทำงานล่วงเวลาเป็นเรื่องปกติ
การเลิกงานตรงเวลา ถือเป็นหนึ่งในข้อดีของแผนกผู้ช่วยตรวจการ
หลังจากเปลี่ยนเวรกับหน่วยลาดตระเวนแล้ว หน่วยลาดตระเวนกลุ่มที่ 9 ของหลี่จิ้งและอี้ซิวจู่ก็เสร็จสิ้นการทำงานวันแรก
ยกเว้นลู่หยางเฉิง
เพื่อนคนนี้อยู่ทะเลนอกชายฝั่ง
ถ้าผู้ตรวจการไม่กลับมา เขาก็ไม่สามารถกลับมาได้
ต้องทํางานล่วงเวลาตาม…
ประเด็นคือเขาอยู่เพียงระดับที่ 2 เขาไม่สามารถบินกลับได้ด้วยตัวเอง
มันไกลเกินไป
เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ หลี่จิ้งและอี้ซิวจู่ต่างก็แสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับลู่หยางเฉิงผ่านเครื่องมือสื่อสารและพยายามสอบถามสถานการณ์ในทะเลนอกชายฝั่ง
น่าเสียดายที่ลู่หยางเฉิงถูกสั่งปิดปาก ทั้งสองจึงไม่สามารถทราบอะไรได้เลย
หลี่จิ้งก็ไม่ได้อะไรมาก
รอกลับถึงบ้านค่อยถามเฉินอวี่หรานก็ได้
เขาให้ตําแหน่งเฉินอวี่หราน เธอก็น่าจะบอกอะไรบางอย่างให้สำหนักตรวจการ
ส่วนอี้ซิวจู่รู้สึกเสียใจเล็กน้อย
คำสั่งปิดปากออกมาแล้ว แน่นอนว่าสำนักตรวจการต้องมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เขาจึงรู้สึกอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะอยากรู้อยากเห็นมากแค่ไหน ก็ทำอะไรไม่ได้
เขาเป็นเพียงผู้ช่วยตรวจการหน้าใหม่ ไม่มีสิทธิ์เข้าไปมีส่วนร่วมในสิ่งต่าง ๆ
…
ประมาณ 8:30 น.
หลึ่จิ้งพาจีชิงกลับไปที่วิลล่าของเขา
การมีสิทธิ์บินในเมืองนั้นสะดวกมาก หลึ่จิ้งถือว่าได้รับประโยชน์พิเศษของหน่วยลาดตระเวน
มิฉะนั้น การกลับจากชายฝั่งตะวันออกจะต้องใช้เวลาไม่น้อย
เมื่อลงจอดที่ลานบ้าน หลี่จิ้งพูดกับจีชิงที่แขวนอยู่บนไหล่ของเขา
"เมื่อคืนคุณคงได้ยิน เฉินอวี่หรานพูดว่าบ้านมีหมา คุณ..."
ยังพูดไม่จบ จีชิงในรูปร่างของแมวแร็กดอลล์ก็หาวและพูดออกมา
"มันเป็นแค่หมาเอง ไม่จําเป็นต้องกำชับฉันเป็นพิเศษ ฉันก็ไม่ใช่แมวทั่วไป และฉันก็จะไม่ตีกับหมาบ้าน หรอก ถ้าฉันอยากจะตีมันจริงๆ ฉันจะตบมันให้ตายเลย
เมื่อหลี่จิ้งได้ยินคําพูดนั้น เขาก็พูด
"หมาที่เฉินอวี่หรานเลี้ยงไม่ใช่หมาทั่วไป แต่เป็นสัตว์วิญญาณระดับที่ 3 ฉันเกรงว่าคุณจะตบมันไม่ตาย"
"สัตว์วิญญาณระดับที่ 3 เหรอ"
จีชิงตกตะลึงและเปลี่ยนท่าทีทันที
"มันเก่งมากไหม"
"ฉันแค่เตือนคุณ อย่าใส่ใจมากนัก"
หลี่จิ้งยิ้มและพูดว่า
"เต้าหู้เหม็นอยู่ในช่วงเริ่มต้นของระดับที่ 3 เทียบกับคุณแล้วอ่อนว่าเล็กน้อย แล้วสายพันธุ์ของมันคือฮัสกี้ ฮัสกี้คุณก็รู้จัก"
"ฮัสกี้?"
จีชิงตกตะลึงและรู้สึกเฉยเมย จากนั้นก็ประหลาดใจและพูด
"ฮัสกี้ โง่ไปหน่อย แต่มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีราคาแพงจริงๆ ในบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหมด ตัวที่อยูาในบ้านของคุณยังเป็นสัตว์วิญญาณ ราคาน่าจะหลายสิบล้าน?
เมื่อเห็นจีชิงประเมินราคาเต้าหู้เหม็น หลี่จิ้งก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
ถ้าจะให้พูด "มูลค่า"ของจีชิงนั้นสูงกว่าเต้าหู้เหม็นหลายเท่า!
สัตว์วิญญาณฮัสกี้หายากมาก
แมวร่างปีศาจ ก็ไม่ได้หาง่าย?
สัตว์วิญญาณมีจิตวิญญาณและรู้ว่าคนพูดอะไร
แต่จริงๆ แล้วไอคิวก็ได้แค่นั้น
ในการเปรียบเทียบ ปีศาจคล้ายมนุษย์ที่มีปัญญาเช่นเดียวกับมนุษย์นั้นก็ดีกว่าอยู่ดี
อีกย่าง จีชิงยังมีหน้าตาที่งดงามในร่างมนุษย์ และยังเป็นแมวสาวสวยด้วย
สามารถจับเล่นได้และอุ่นเตียงได้
ถ้าจะเอาเธอขายไปจริงๆ คงได้ราคามหาศาล?
ปีศาจไม่ใช่ปัญหา
โลกใบนี้มีผู้คนมากมายที่กล้าหาญ
แม้แต่การเลี้ยงปีศาจก็ยังมีคนทำ
ในบางสถานที่ในต่างประเทศ การเลี้ยงปีศาจก็เป็นห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่เปิดเผย แต่ปีศาจที่พวกเขาขายนั้นได้รับการคัดเลือกและฝึกฝนอย่างเข้มงวดและแทบจะไม่ทำร้ายใครเลย
หลี่จิ้งไม่ได้ตอบจีชิงและยื่นมือออกไปและผลักเปิดประตูวิลล่า
เมื่อเปิดประตู เต้าหู้เหม็นที่อาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพังตลอดทั้งคืนก็รีบวิ่งไปที่ประตูทันที
เมื่อเห็นว่าหลี่จิ้งกลับมา เต้าหู้เหม็นก็สะบัดหางอย่างร่าเริง
แม้ว่ามันจะอยู่ด้วยกันกัลหลี่จิ้งแค่สองวัน แต่หลี่จิ้งดูแลมันดีกว่าเฉินอวี่หรานมากกว่า
ขณะที่มันกําลังจะวิ่งออกจากบ้าน เต้าหู้เหม็นหยุดชะงักทันที ยืนตัวแข็งทื่อ และหุบหางลงเงียบ ๆ
มันเห็นจีชิง
เมื่อเห็นดังนั้น หลี่จิ้งอดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก
เต้าหู้เหม็นขี้ขลาดแค่ไหน เขาเคยเห็นมาแล้ว
ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลว่าเต้าหู้เหม็นจะไม่ถูกกับจีชิง
ที่พูดเมื่อกี้ แค่อยากให้จีชิงทำใจเล็กน้อย
เต้าหู้เหม็นที่อยู่ตรงหน้าเขา ไม่ได้ทําให้เขาผิดหวังจริงๆ
เมื่อเห็นจีชิง มันก็ขี้ขลาดทันที...