บทที่ 255 ท้องฟ้าลอยมาห้าคำ นั่นไม่ใช่ปัญหา!
ในวันนั้น สตูดิโอขนาดใหญ่แห่งหนึ่งได้โพสต์ข้อความลงบนเวยป๋อว่า:
“อัลบั้ม ‘เพลงธรรมดา’ ของสวี่เย่ เพลงที่แปด จะอัปโหลดลงในเพนกวินมิวสิกในเวลาเที่ยงตรงของวันพรุ่งนี้ ทุกคนโปรดติดตาม!”
ใต้โพสต์นั้นยังแนบภาพประกอบอีกภาพหนึ่งด้วย
ในภาพมีเพียงตัวอักษรขนาดใหญ่เพียงตัวเดียว:
“สะใจ!”
ผู้ป่วยในโรงพยาบาลจิตเวชหัวฮว๋าเมื่อเห็นโพสต์นี้ก็หัวเราะออกมาในทันที
“รู้อยู่แล้วว่า ผู้อำนวยการของเราน่ะเจ๋งสุด ๆ แต่ไม่จำเป็นต้องแสดงออกขนาดนี้ก็ได้ป่ะ? ถึงกับใช้คำว่า ‘สะใจ’ ไปตรง ๆ เลยเหรอ?”
“สะใจ ๆ ๆ! พอเห็นผู้อำนวยการเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฉันก็สะใจเหมือนกัน!”
“ขอโทษนะทุกคน ขอถามนิดนึง คำว่า ‘สะใจ’ นี่มันสุภาพใช่ไหม?”
แต่ละคนก็ตีความคำว่า ‘สะใจ’ กันไปต่าง ๆ นานา
ถ้าเอาตีความแบบสุภาพ มันก็เข้าใจได้อยู่
แต่ถ้าจะตีความแบบทะลึ่งนิด ๆ ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้
ส่วนใหญ่คนก็เข้าใจคำนี้แบบสุภาพ
ยังไงสวี่เย่ก็เป็นดารามีชื่อเสียง เขาคงไม่แต่งเพลงหยาบโลนอะไรออกมาหรอก
ในยุคนี้ ถ้าใครแต่งเพลงแนวนี้ อาชีพศิลปินก็แทบจะจบเห่
สุดท้าย ทุกคนเลยลงความเห็นว่า คำว่า ‘สะใจ’ ของสวี่เย่ คงหมายถึงความสะใจในทางบวก
“รอฟังเพลงใหม่ไม่ไหวแล้ว อยากรู้ว่าความสะใจแบบนี้จะออกมาเป็นยังไง!”
“ตอนนี้เขากวาดวงการเพลงไปหมดแล้ว จะสะใจหน่อยก็ไม่แปลก!”
“ผู้อำนวยการแค่พูดในสิ่งที่อยู่ในใจเขาออกมาก็เท่านั้นเอง”
หลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ผู้คนในวงการเพลงก็ให้ความสนใจทันที
ซึ่งทำให้เฉิงเทียนเล่ยยิ่งไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่
ความสะใจมันไม่ได้หายไป มันแค่เปลี่ยนที่
เมื่อสวี่เย่สะใจ คนอื่นก็ไม่สะใจแทน
อีกด้านหนึ่ง เว่ยชิงเฟิงจากบริษัทตงไห่วัฒนธรรมก็เห็นโพสต์นี้เช่นกัน
เพลงใหม่ของเขาและศิลปินดังอื่น ๆ ช่วงนี้กลายเป็นแค่เพลงที่แฟน ๆ ฟังกันเอง ไม่มีทางขึ้นชาร์ตได้
เพลงฮิตอันดับต้น ๆ บนชาร์ต ตอนนี้มีแต่เพลงของสวี่เย่
จะให้ไม่อารมณ์เสียได้ยังไง?
“เอาอีกแล้วเหรอ? นี่ยังปล่อยไม่หมดอีกเหรอ สวี่เย่? นายตั้งใจใช่ไหม?”
ช่วงนี้เว่ยชิงเฟิงก็ไม่ค่อยสบายใจ เพราะตงไห่วัฒนธรรมแพ้คดีให้กับตงอวี้คุน
ตงอวี้คุนซึ่งถือครองสองเพลงดังของสวี่เย่ มีมูลค่าทางการค้าเพิ่มขึ้นมหาศาล
ฝั่งตงไห่วัฒนธรรมพยายามใช้สัญญาผูกมัดตงอวี้คุน เพื่อจะได้ใช้มูลค่าทางการค้าโดยไม่ต้องจ่ายอะไร
แต่แน่นอนว่า ความพยายามนั้นไม่สำเร็จ
ตอนนี้ตงอวี้คุนยกเลิกสัญญากับตงไห่วัฒนธรรมอย่างเป็นทางการแล้ว โดยต้องจ่ายค่าปรับเพียงหนึ่งล้านหยวน
ซึ่งสำหรับตงอวี้คุนในตอนนี้ หนึ่งล้านไม่ใช่เรื่องใหญ่
ในวงการบันเทิง ตงไห่วัฒนธรรมกลายเป็นตัวตลก
เพราะตงอวี้คุนซึ่งได้รับความนิยมสูง ทำให้เรื่องนี้ติดกระแสในโลกออนไลน์
ทำให้ผู้คนภายนอกเริ่มสนใจเรื่องเบื้องหลังอันดำมืดของการปั้นเด็กฝึกหัด
เจ้าของตงไห่วัฒนธรรมตอนนี้กำลังเครียดสุด ๆ ไม่เพียงต้องเผชิญกับกระแสวิจารณ์ ยังอาจถูกตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ
สุดท้ายความไม่พอใจของเจ้าของบริษัทก็ตกมาถึงบรรดาศิลปินในบริษัท
พวกเขากลัวว่าอาจมีคนอื่นเลียนแบบตงอวี้คุน
ดังนั้นบริษัทจึงเร่งรีดมูลค่าทางการค้าจากเหล่าศิลปินเต็มที่
“ถ้าไม่มีสวี่เย่ จะมีเรื่องพวกนี้เหรอ!” เว่ยชิงเฟิงคิดในใจ
เด็กฝึกหัดคนหนึ่งยกเลิกสัญญา มันควรจะเป็นเรื่องเล็ก
แต่ใครจะคิดว่าเด็กฝึกหัดคนนี้จะโด่งดังขึ้นมาได้ และที่แย่กว่านั้นคือ มีสวี่เย่หนุนหลัง
เที่ยงวันถัดมา แฟน ๆ ของสวี่เย่ก็รอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ
นอกจากแฟนคลับ ยังมีนักวิจารณ์เพลงมืออาชีพรอคอยเช่นกัน
จิ่งซีเยว่ก็เป็นหนึ่งในนั้น
แต่ที่ต่างจากคนอื่นคือ เธอเป็นแฟนคลับของสวี่เย่ด้วย
ต้องรู้ว่าสวี่เย่เป็นศิลปินที่มีฐานแฟนคลับมหาศาล
ศิลปินคนอื่นต้องติดสินบนให้นักวิจารณ์เขียนชม แต่สวี่เย่ไม่เคยทำอะไรแบบนั้น
แม้จะไม่มีใครจ้าง แต่นักวิจารณ์ก็รีบเขียนรีวิวกันเอง เพราะมีสวี่เย่ก็มีคนอ่าน
แน่นอน มีทั้งคนชมและคนด่า
แต่จิ่งซีเยว่ชอบเพลงของสวี่เย่มาก เธอจะด่าก็ต่อเมื่อเพลงมันแย่จริง ๆ
แต่จนถึงตอนนี้ สวี่เย่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
เมื่อจิ่งซีเยว่เข้าไปในเพนกวินมิวสิก โปสเตอร์ของสวี่เย่ก็ปรากฏบนหน้าแรก
บนโปสเตอร์มีเพียงคำเดียว: “สะใจ”
“นี่จะเป็นเพลงแบบไหนกันแน่นะ?” จิ่งซีเยว่สงสัย
เมื่อถึงเวลาเที่ยงตรง เธอคลิกเข้าไปในหน้าโปรโมท
ชื่อเพลงปรากฏขึ้นว่า ‘สะใจสุดๆ’
แค่ชื่อเพลงก็บ่งบอกถึงความสะใจได้อย่างชัดเจน
ทันทีที่เพลงเริ่มขึ้น จิ่งซีเยว่ก็ได้ยินเสียงพิณกู่เจิง ให้ความรู้สึกใสกระจ่าง
ตามมาด้วยเสียงร้อง:
“สะใจ สะใจ สะใจ สะใจ!”
เธอประหลาดใจจนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
จากนั้นท่อนฮุคดังขึ้น:
“ฟีลนี้มันสะใจสุด”
เพลงนี้ทำให้เธอรู้สึกสะใจและปลดปล่อยจนลืมความกังวลทุกอย่าง
จิ่งซีเยว่แชร์ลิงก์เพลงลงเวยป๋อ พร้อมข้อความว่า:
“ฟีลนี้มันสะใจสุด!”
เพลงนี้สะท้อนถึงความสามารถของสวี่เย่ในการเข้าใจและควบคุมอารมณ์ของผู้ฟังได้อย่างดีเยี่ยม