บทที่ 251 9ตอนที่250. จับรางวัลกันเถอะ
“หรือว่าจับรางวัลดีไหม?”
ผู้บรรยาย (倒黴蛋) เพิกเฉยต่อคอมเมนต์ที่ไม่มีสาระ แล้วเสนอความคิดนี้ขึ้นมาเอง
ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
【ดีเลย จับรางวัลๆ】
【จะแจกอะไร แจกน้ำพริกเหรอ?】
【จะจับแจกเป็นชุดสี่กระปุกไหม?】
【ขอดูหน่อย น้อง ๆ ไม่มีตังค์แล้ว กระปุกมันเปล่าแล้ว ต้องกินดินแทน】
เพราะในไลฟ์สดเคยขายแต่น้ำพริก ทุกคนเลยคิดถึงแต่น้ำพริก
แต่ผู้บรรยายกลับหยิบกระปุกใหม่สองกระปุกออกมา ซึ่งใหญ่กว่ากระปุกน้ำพริกเยอะ “วันนี้เราจับรางวัลแจกสินค้าตัวใหม่ ชุดสมุนไพรแช่เท้าจากบริษัทของเราเอง”
พอพูดจบ หน้าจอก็เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
【ตกลงเป็นเธอหรือว่าฉันที่มีปัญหา】
【พวกเธอเป็นบริษัทอาหารไม่ใช่เหรอ ทำไมออกสมุนไพรแช่เท้า? คิดอะไรอยู่?】
ผู้บรรยายตอบว่า “เราเป็นบริษัทเกษตร ทุกอย่างที่ปลูกในไร่เรานำมาใช้ได้หมด ครั้งก่อนที่ทุกคนเห็นไวท์เจียง (白芷) เราขุดมันออกมาแล้ว แถมยังมีขิงของบริษัทเราเอง ผสมกับสมุนไพรที่ซื้อจากโรงงานยาโดยตรง ทำเป็นชุดสมุนไพรแช่เท้าสองแบบ”
จากนั้นเขาก็หยิบกระปุกสีดำหนึ่งกระปุกมายื่นให้กล้องชี้ไปที่ฉลาก “ดูสิ ผ่านการรับรอง SC แล้ว”
แล้วก็ชี้ไปที่ด้านล่างของฉลากแสดงรายการส่วนผสม “นี่ก็มีใบอนุญาตด้านสุขอนามัยและใบอนุญาตประกอบการยา”
“แล้วโรงงานผลิตก็เป็นโรงงานผลิตยาเพื่อสุขภาพของเราเอง รับรองว่าไม่ใช่สินค้าจากโรงงานที่รับจ้างผลิต”
【เดี๋ยวก่อน บริษัทเธอยังมีโรงงานอีกเหรอ?】
“ใช่แล้ว บริษัทของเราใช้ชื่อว่า ชิงอินเกษตร และมีบริษัทลูกคือ ชิงอินไบโอเทคโนโลยี จำกัด ในนั้นมีโรงงานอีกสองแห่ง หนึ่งคือโรงงานผลิตอาหาร อีกหนึ่งคือโรงงานผลิตยาเพื่อสุขภาพ”
【ครอบครัวของพวกเธอทำฟาร์ม แต่ทำไมตั้งโรงงานเยอะขนาดนี้? เป็นแค่ชื่อโรงงานหรือเปล่า?】
“ไม่ใช่นะ เราใหญ่โตทีเดียว ไม่ใช่แค่ฟาร์มครอบครัว โรงงานอาหารของเรามีพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร มีหลายห้องปลอดเชื้อแบบอัตโนมัติ เพียงแค่ค่าอุปกรณ์ก็ 9.75 ล้านหยวน ยอดขายครึ่งปีแรกของบริษัทเราก็แตะหลักหลายสิบล้านแล้ว…”
ข้อมูลเหล่านี้ผู้บรรยายพูดคล่องปาก นี่เป็นการเตรียมข้อมูลล่วงหน้า
แล้วก็มีแต่คอมเมนต์ 【…】 และ 【พวกเธอเป็นบริษัทใหญ่ขนาดนี้ แต่ให้แมวมาเป็นประธานเนี่ยนะ】
จับจุดสำคัญได้ดีจริง ๆ
【ไม่กล้ามองเจ้าแมวอีกต่อไปแล้ว รวยมาก】
【เรียกแค่แมวผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้แล้ว ตอนนี้ต้องเรียกแมวเศรษฐี】
【ประธานหล่อมาก ประธานสุดยอดแห่งความเท่ต้องการผู้ช่วยไหม ฉันจะเป็นดอกบัวขาวให้กับเธอ】
【สาว ๆ มโนภาพกันแล้ว ลองอ่านนิยายบอสสุดหล่อแล้วจินตนาการว่าบอสคือเจ้าแมว คงเท่มาก】
ผู้บรรยายรู้สึกอึ้งไปอีกครั้ง
เขายังไม่เข้าใจสมองของผู้ชมในไลฟ์อยู่ดี
ทำได้เพียงเพิกเฉย และพูดประโยคปิดท้ายว่า “ถ้ามีเวลา ผมจะไปไลฟ์ที่โรงงานให้ดูด้วย จะได้เห็นกับตากันไปเลย”
ข้อมูลต้องค่อย ๆ ปล่อยออกมา อย่าปล่อยทีเดียวหมด
นี่ก็เป็นการเตรียมล่วงหน้าเช่นกัน
พูดจบก็ดึงกลับเข้าเรื่องเดิม
แนะนำชุดสมุนไพรแช่เท้าในมือ “กระปุกนี้คือสูตรพื้นฐาน ประกอบด้วยไวท์เจียง, ใบหญ้าหมอน้อย, ตังกุย, ขิงแห้ง และสมุนไพรอื่น ๆ อีกหลายชนิด ช่วยบำรุงร่างกายให้ความอบอุ่น ช่วยให้นอนหลับและบำรุงร่างกาย ถือว่าเป็นการบำรุงร่างกายแบบครบถ้วน”
“ในส่วนของไวท์เจียงและขิงแห้งเราปลูกเอง”
พอแนะนำจบ ปรากฏว่ามีคนถามทันทีว่า 【เอามาตุ๋นเนื้อได้ไหม?】
ผู้บรรยายส่ายหัวแรง ๆ “ไม่ได้ ๆ บางอย่างไม่เหมาะสำหรับใช้ตุ๋นเนื้อ ใช้ได้แค่แช่เท้า ห้ามกินนะครับ”
แต่เขาก็พูดต่อว่า “ส่วนการตุ๋นหรือทำพะโล้ อย่ากังวลไป เรากำลังหาวัตถุดิบดี ๆ อย่างใบกระวานและโป๊ยกั๊ก พอได้วัตถุดิบครบ เราจะทำชุดเครื่องพะโล้ขาย ใช้ไวท์เจียงและพริกไทยของเราเอง ไม่ต้องรอนานเกินไป”
นี่เป็นแผนฉุกเฉิน เพราะหลังจากทำชุดสมุนไพรแช่เท้า พบว่ามีไวท์เจียงเหลือเยอะ
จากการเก็บเกี่ยวไวท์เจียงได้ 3,100 ต้น ผลผลิตควรอยู่ที่ประมาณ 550 ถึง 600 กิโลกรัม
แต่เนื่องจากได้แร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ จึงได้ผลผลิตมากกว่าปกติเล็กน้อย หลังจากการตากแห้ง ชั่งน้ำหนักได้ทั้งหมด 719 กิโลกรัม
คุณภาพยังคงเป็นระดับพิเศษ
แพทย์แผนจีนคำนวณตามคุณภาพนี้ในการทำยาสูตรสมุนไพร ซึ่งแต่ละซองใช้เพียง 3 กรัม
แต่ขิงมีน้อย ทำได้เพียง 50,000 ซองสำหรับสูตรพื้นฐาน
รวมกับสูตรสำหรับผิวขาวอีก 20,000 ซอง ยังเหลืออีกมาก
พอดีที่บ้านปลูกพริกไทยไว้ จึงคิดว่าจะทำชุดเครื่องพะโล้เพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์เสริม
แต่ทำแค่ 10,000 ถึง 20,000 ซองพอ
แบบนี้ก็ยังใช้ไปได้เพียง 300 กิโลกรัม
ไวท์เจียง ส่วนที่เหลือขายให้แพทย์อาวุโสเก็บไป
——
อธิบายจบ คนดูในไลฟ์ก็เริ่มสนใจน้อยลง
ผู้บรรยายหยิบกระปุกสีขาวออกมาแนะนำว่า “อันนี้คือสูตรพิเศษ ประกอบด้วยไวท์เจียง, แปะตุ๋ย, หญ้าฝรั่น ช่วยให้ผิวขาวเนียนทั้งตัว”
พอบอกสรรพคุณนี้ ทุกคนก็ไม่เชื่อ
คอมเมนต์เต็มไปด้วยการหัวเราะเยาะ บอกว่าดูเกินจริง เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครเคยได้ยินว่าแช่เท้าจะช่วยให้ผิวขาวได้
ผู้บรรยายเกาหัว แล้วยื่นใบรับรองจากโรงพยาบาล ซึ่งออกโดยแพทย์แผนจีนหลายคนที่ร่วมกันรับรอง “นี่เป็นใบรับรองยาสูตรสมุนไพรจากแพทย์ของเรา ผ่านการตรวจสอบหมดแล้ว”
แต่ว่าก็ยังไม่มีใครเชื่อ
จริง ๆ ผู้บรรยายก็ไม่ค่อยเชื่อเหมือนกัน แต่เพราะเขาลองใช้แล้ว
เขาจึงชี้มาที่ตัวเอง “ดูสิ ผมดูขาวขึ้นไหม?”
แล้วหมุนหน้าไปมาให้ดู
พร้อมกับถกแขนเสื้อขึ้นให้เห็น
คอมเมนต์หยุดชั่วครู่ ก่อนจะเริ่มแสดงความคิดเห็น
บางคนบอกว่าดูขาวขึ้นจริง ๆ
แต่บางคนก็บอกว่าเปิดโหมดปรับสี หรือไม่ก็เพราะหน้าหนาว
เรื่องพวกนี้ไม่สามารถทำให้เชื่อได้หากไม่ได้ลองใช้เอง
ผู้บรรยายไม่ใส่ใจ เดินหน้าต่อ
“มา มา จับรางวัลกัน กติกาคือ
ให้ทุกคนกดติดตามบัญชีของเราบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้แก่ Weibo, Douyin, Kuaishou, Little Red Book, Xiaochu และ Bilibili ชื่อบัญชีคือ ‘ติงเสี่ยวม่านคือแมว’ แล้วก็เข้าร่วมจับรางวัลได้เลย แต่ละแพลตฟอร์มจะจับ 10 รางวัล สามารถเข้าร่วมซ้ำได้ และเราจะแจกคูปองส่วนลด สามารถซื้อชุดสมุนไพรแช่เท้าได้ในราคาเพียง 1 เซ็นต์ ในหนึ่งกระปุกมีซองย่อย 10 ซอง ใช้ได้ครั้งละ 1 ซอง ถ้าไม่เคร่งเรื่องผลลัพธ์สุดยอด ซองเดียวสามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง”
“เพียงแค่กดติดตาม ไม่ต้องแชร์ รางวัลจะจับช่วงเย็นนี้”
นี่ก็เป็นการวางแผนไว้แล้ว
การหยุดไลฟ์ในวันนี้ก็เพื่อทำกิจกรรมจับรางวัลนี้
ถ้าไม่มีใครเสนอความคิด ก็มีกลุ่มนักศึกษาพาร์ทไทม์ที่ช่วยดึงหัวข้อกลับมาที่จับรางวัล
การจับรางวัลนี้เป็นการโหมกระแสสินค้าสมุนไพรแช่เท้าใหม่ อีกทั้งยังช่วยดึงดูดผู้ติดตามใหม่ให้กับบัญชีบนแพลตฟอร์ม
อีกทั้งการจ่าย 1 เซ็นต์เพื่อซื้อสินค้าก็เพื่อเพิ่มคะแนนรีวิว
เรามั่นใจในผลิตภัณฑ์ ใช้แล้วต้องได้รับคำชมแน่นอน
เมื่อผู้บรรยายพูดจบกติกา
คนดูในไลฟ์ก็หายไปกว่าครึ่ง รวมถึงฉู่เส้าหยางด้วย
เขาใช้ Weibo และ Douyin
ทันทีที่ออกจากไลฟ์ไป เขาค้นหาชื่อบัญชีแล้วกดติดตาม
พร้อมทั้งมองผ่าน ๆ
พบว่าบัญชีเหล่านี้เริ่มมีเนื้อหาแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคลิปจากไลฟ์เก่าที่ถูกตัดต่อ ประมาณสิบกว่าอัน ถูกอัพเดตเมื่อวานกับวันนี้
อันล่าสุดเป็นประกาศจับรางวัล พร้อมกับลิงก์ไปยังร้านค้าออนไลน์
ฉู่เส้าหยางกดเข้าไปที่ลิงก์
ร้านค้าออนไลน์ตกแต่งได้ดีมาก รายละเอียดสินค้าแต่ละตัวดูสวยงาม ข้อมูลชัดเจน มีใบรับรองครบ
ดูเป็นทางการมาก
จากนั้นเขาดูราคาขาย
เกือบทำมือถือหลุดมือ
สมุนไพรแช่เท้า 2 สูตร แต่ละกระปุกมีซองเล็ก 10 ซอง ราคา 299 หยวน
… จริงจังใช่ไหม! เป็นราคาสไตล์บ้านติงเสี่ยวม่านเลยนะ แพงสุด ๆ
หวังว่าจะคุ้มเหมือนน้ำพริก
ฉู่เส้าหยางรู้สึกตื่นเต้น แล้วกลับไปที่ไลฟ์สด
เขาใช้เวลานานพอควร
พบว่าผู้บรรยายปีนบันไดไปแล้ว
ถือมือถือส่องเข้าไปในโพรงกระรอก
มืดสนิท มองไม่เห็นอะไร
จากนั้นเขาปีนลงมา
พยักหน้าให้กล้องแล้วพูดว่า “ตรวจสอบแล้ว กระรอกน้อยอยู่ในบ้าน เหมือนกำลังหลับอยู่”
“แล้วก็…” เขายิ้มเล็กน้อย “ทุกคนคงไม่ได้คิดว่าผมจะเป็นคนติดกล้องเองหรอกนะ ยังไงก็เป็นไปไม่ได้!”
【… หลอกกันนี่!】
【เลิก ๆ หลอกกันนี่】
【นั่งรอทั้งวันเพื่อดูแบบนี้เหรอ!】
【เธอเปลี่ยนไป กลายเป็นคนไม่ดีซะแล้ว เธอแค่ทำเพื่อจับรางวัลใช่ไหม…】
【เลิกเถอะ ไม่มั่นใจแม้แต่เรื่องจับรางวัลแล้ว】
ผู้บรรยายดูสีหน้าเคร่งเครียด
เหมือนจะเกิดปัญหา
เขารีบหยิบมือถืออีกเครื่องขึ้นมา โบกมือและพูดว่า “ไม่ใช่ ๆ ผมติดกล้องไม่เป็น และก็ไม่ควรทำด้วย มีผู้เชี่ยวชาญ”
พูดจบก็รีบหันกล้องออกไปด้านนอก
จากนั้น คนดูในไลฟ์ก็เห็นชายหนุ่มสะพายกระเป๋า เดินเข้ามาในชุดยูนิฟอร์ม มีสัญลักษณ์ป่าไม้ติดอยู่ที่แขน
ผู้บรรยายนำเสนอว่า “นี่คือเจ้าหน้าที่จาง ทุกคนยังจำได้ไหม? ตรงนี้เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้มาตั้งจุดพัก เจ้าหน้าที่จางจะเข้าพื้นที่อนุรักษ์ป่าสามวัน หัวหน้าบอกให้เขาช่วยติดกล้องในรังกระรอก เรามีใบอนุญาตนะครับ”
“ไลฟ์นี้เป็นไลฟ์เชิงวิชาการ”
【จริง ๆ เหรอ???】
【การถ่ายทำลับแบบติดตามนี้เป็นเชิงวิชาการจริง ๆ】
คอมเมนต์เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่จาง
พอเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลป่าในพื้นที่อนุรักษ์ ยิ่งน่าสนใจ
คอมเมนต์เต็มไปด้วยคำถาม ข้อสงสัยนานับประการ ผู้บรรยายช่วยถามแทนทุกคน
ถามถึงความเหนื่อยล้า ว่าพบเรื่องสนุก ๆ บ้างไหม เจ้าหน้าที่จางมีแฟนหรือยัง อยากมีไหม
ฉู่เส้าหยางก็ถามไปว่า 【ได้ยินว่าภูเขาฉินหลิงมีแพนด้า เจ้าหน้าที่เคยเห็นบ้างไหม?】
ผู้บรรยายถามตามจริง
เริ่มจากเรื่องแฟน ทำเอาเจ้าหน้าที่จางหน้าแดง
ทำให้สาว ๆ ในไลฟ์ยิ่งตื่นเต้น
แต่หลังจากนั้นผู้บรรยายก็เลือกถามคำถามที่เป็นปกติ
เจ้าหน้าที่จางปีนขึ้นไปติดกล้อง จากนั้นลงมาใช้เวลาตอบคำถามด้วย
ถือเป็นการให้ความรู้
เขาตอบคำถามของฉู่เส้าหยาง เขาบอกว่าตนเองยังไม่เคยเจอแพนด้า แต่เพื่อนที่ทำงานเคยเจออยู่ใกล้ ๆ ต้นไม้เก่าแก่
ฉู่เส้าหยางถึงกับตาลุกวาว
และในคืนนั้น
เขาก็ตาลุกวาวอีกรอบ
เพราะเขาถูกรางวัล!
(จบบท)###