ตอนที่แล้วตอนที่ 610 นคร
ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนที่ 611 กรมเกษตร (ฟรี)


(ตอนเดียวนะครับ เนื่องจากพ่อของผมเสีย ทำให้จะงดลงนิยายตั้งแต่วันที่ 15 - 18 นะครับ ต้องขออภัยผู้อ่านทุกคนด้วยครับ)

ผู้คนจากเมืองยูไท่เริ่มได้ที่อยู่ตามลำดับ

ปึง

ประตูที่พักถูกเปิดออก ชายที่มาจากเมืองยูไท่เดินเข้าไปในอาคารสองชั้น ที่ชั้นหนึ่งมี 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว และ 1 ห้องน้ำ

ภายในที่พักมีระบบน้ำประปาไหลผ่านจากท่อผลึกแก้ว

นอกจากตัวอาคารแล้วไม่มีอะไรอยุ่ข้างในอีกเลย

“บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ให้ฉันอยู่คนเดียวงั้นหรอ?”

ชายคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาที่เบิกกว้าง และมองไปยังเจ้าหน้าที่ที่พามาส่ง

“ใช่ครับ”

เจ้าหน้าที่ตอบ

“สุดยอดเลย ต่อจากนี้ที่นี่คือบ้านของฉัน!”

ชายคนนั้นตะโกนออกมาด้วยความดีใจ และเดินไปดูทุกห้องด้วยสีหน้าตื่นเต้น

และที่บนชั้นสองมีสองห้องนอนกับหนึ่งห้องนั่งเล่น ซึ่งพื้นที่ไม่ได้ใหญ่เท่าชั้นแรก แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะให้คนอาศัยอยู่

เจ้าหน้าที่เอาสมุดออกมา และจดบันทึกเล่นที่บ้านกับข้อมูลผู้อยู่อาศัยเข้าด้วยกัน

หยู่ฉินหลานระหว่างที่มองดูการย้ายที่อยู่ใหม่ของชาวเมืองยูไท่ เธอก็ได้ถามขึ้น

“น้องต้าอ้านได้พูดอะไรเกี่ยวกับการงานเกษตรแล้วรึยัง”

ต้าอ้านหัวเราะแห้งๆ พร้อมกับเกาหัว

“ยังไม่ได้บอกเลย”

“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจัดการให้”

หยู่ฉินหลานยิ้มและตอบกลับไป

“ขอบคุณพี่ฉินหลาน”

ต้าอ้านถอนหายใจเบาๆ

ถ้าเป็นเรื่องต่อสู้ฆ่าฟันกันเธอคงทำได้อย่างสบายๆ แต่งานจัดการบริหารแบบนี้มันไม่ใช่ทางถนัดของเธอเท่าไหร่

แปะๆ

หยู่ฉินหลานปรบมือหลายครั้งเพื่อดึงดูดความสนใจจากทุกคน

ก่อนที่เธอจะพูดเสียงดังขึ้น

“ทุกคนมาทางนี้ก่อน ฉันมีอะไรจะบอกเพิ่มเติม”

“ใครกัน?”

มีคนอุทานพูดขึ้นด้วยความสงสัย

“ฉันเป็นเลขาของท่านเจ้าเมือง”

หยู่ฉินหลานอธิบายอย่างง่ายๆ

“เลขาคืออะไร?”

ผู้คนต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยมากขึ้น

หยู่ฉินหลานเปิดสมุดบันทึกที่เอาติดตัวมา และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด

“ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบก่อน สิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับปัจจัยในการใช้ชีวิตของทุกคน”

ทันทีที่หยู่ฉินหลานพูดออกมา ชาวเมืองก็เริ่มสนใจและเงียบรอฟังอย่างไม่รู้ตัว

“การได้อยู่ที่นี่ เรามีน้ำให้ใช้ แต่เรื่องอาหารและอื่นๆ ทุกคนต้องจัดการหาด้วยตัวเอง”

หยู่ฉินหลานพูดจบก็มองไปรอบๆ

“พวกเราต้องออกไปล่าสัตว์งั้นหรอ?”

มีเสียงถามขึ้นจากฝูงชน

หยู่ฉินหลานส่ายหัวและตอบอย่างใจเย็น

“ไม่ ฉันแค่ต้องการให้ทุกคนช่วยกันทำพื้นที่ว่างเปล่ารอบๆ นี้ให้กลายเป็นแปลงปลูกพืชผัก”

ฮือฮา

เกิดเสียงอุทานตกใจขึ้น และเริ่มซุบซิบคุยกัน

“ท่านเลขา พวกเราได้ยินไม่ผิดใช่ไหม ที่จะให้ทำแปลงปลูกพืชน่ะ”

“ล้อเล่นรึป่าว เราจะไปปลูกพืชผักได้ยังไง”

“ใช่ พวกเราเป็นแค่คนธรรมดา ไม่รู้วิธีการปลูกอะไรอยู่แล้ว”

เริ่มมีคนคิดต่างและเกิดข้อกังขาขึ้น

“ถ้าฉันบอกว่าใช่ และทุกคนสามารถทำได้ล่ะ”

หยู่ฉินหลานยืนกอดอก และพูดขึ้น

“เราจะมอบต้นอ่อนให้ทุกคน”

เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“ทุกคนต้องปลูกตามวิธีการที่ฉันบอก และจัดแปลงพื้นที่ปลูกให้ตรงกับที่กำหนด แค่นั้นก็สามารถปลูกพืชผักได้แล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนี้เสียงพูดคุยก็ยิ่งดังขึ้น และมีคนถามด้วยความสงสัย

“มีอะไรดีๆ แบบนี้ด้วยงั้นหรอ…”

หยู่ฉินหลานหางตากระตุก และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ

“นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้ปลูกพืชผัก ดังนั้นเราจึงมีคนสอนให้ และวิธีการมันไม่ได้ยากอะไรเลย”

“มันดีมากจริงๆ ดีจนเราไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำ”

มีชาวเมืองพูดขึ้นด้วยความหวาดระแวง

“ใช่ มันดีสำหรับเราทุกคน”

แล้วก็เริ่มมีคนถามขึ้นอีก

“แล้วพวกเราไม่ต้องจ่ายอะไรเลยงั้นหรอ”

“ไม่….”

หยู่ฉินหลานตอบโดยอดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบน

อย่างที่มู่เหลียงพูดเอาไว้ ไม่มีอาหารมื้อไหนได้มาเปล่า ทุกอย่างต้องมีราคาที่ต้องจ่าย

ก่อนที่เธอจะกระแอ่มในลำคอเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ

“เมื่อปลูกพืชผักได้แล้ว ต้องส่งมอบผลผลิตครึ่งหนึ่งให้กับเมือง”

“ผลผลิตครึ่งหนึ่งเลยงั้นหรอ”

เหล่าชาวเมืองอุทานด้วยความตกใจ และเกิดเสียงพูดคุยขึ้นอีกครั้ง

“แบบนี้เอง…”

ต้าอ้านพยักหน้าและเข้าใจสิ่งที่หยู่ฉินหลานคิด

แทนที่จะแจกอาหารให้ทุกคนเปล่าๆ ปล่อยให้พวกเขาปลูกพืชผักกินเอง จะได้พึ่งพาตัวเองได้ด้วย

หยู่ฉินหลานพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เบาลง

“เราให้น้ำ ให้ต้นอ่อน และสอนวิธีปลูก การขอผลผลิตครึ่งหนึ่งนั้นไม่ได้มากอะไรเลย”

คำพูดของหยู่ฉินหลานทำให้ทุกคนสงบลง และฟังอย่างมีเหตุผล

การที่ได้ทุกอย่างมาโดยไม่จ่ายอะไรเลยก็ทำให้พวกเขาอึดอัดมากแล้ว เพราะงั้นการมอบผลผลิตให้ครึ่งหนึ่งก็ทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจมากขึ้น

“แล้วอีกครึ่งหนึ่งล่ะ”

มีคนถามขึ้น

หยู่ฉินหลานปิดสมุดและพูดอย่างใจเย็น

“อีกครึ่งที่เหลือสามารถเก็บเอาไว้ได้ หรือสามารถเอาไปแลกเปลี่ยนที่กรมเกษตร”

กรมเกษตร?

ชื่อใหม่ที่พวกชาวเมืองไม่รู้จักอีกคำ

“พี่ฉินหลาน แล้วกรมเกษตรคืออะไร”

ต้าอ้านถามด้วยความสงสัย

หยู่ฉินหลานอธิบายต่อ

“กรมเกษตรเหมือนกับที่ว่าการของเมือง แต่เป็นสำนักงานที่มู่เหลียงก่อตั้งขึ้น เพื่อจักการเรื่องเกี่ยวกับการเกษตรทั้งหมด”

กรมเกษตรเป็นหน่วยงานใหม่ที่มู่เหลียงตั้งขึ้น เพื่อดูแลพื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะ รวมไปถึงการซื้อขา่ยพืชผักอีกด้วย

“แบบนั้นเอง”

ต้าอ้านเปิดริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ตอบ

“ขอแนะนำให้เอาพืชผักที่ไม่กินเองไม่หมด เอาไปขายให้กับกรมเกษตร เพื่อแลกเป็นเงินทมิฬ”

หยู่ฉินหลานกล่าวต่อ

“ด้วยวิธีการนี้ จะทำให้ทุกคนมีเงินทมิฬไว้แลกเปลี่ยนซื้อของอย่างอื่นภายในเมืองได้”

“ถ้างั้นพวกเราจะกินอะไรก่อนที่พืชผักจะโต”

มีคนถามขึ้นอีกครั้ง

หยู่ฉินหลานเดินนำออกไปสองก้าวพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

“ก่อนจะถึงการเก็บเกี่ยว ทางเมืองเต่าทมิฬจะมอบอาหารให้เอง”

หยู่ฉินหลานได้เตรียมการไว้หมดแล้วก่อนที่จะเริ่มย้ายเมือง

แล้วเธอก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูสุขุมขึ้น

“แต่ในช่วงแรกผลผลิตที่ได้ทางเมืองเต่าทมิฬจะเก็บไป 7 ส่วน”

ที่เพิ่มขึ้นมาอีกสองส่วนเป็นค่าอาหารที่เลี้ยงดูชาวเมืองก่อนที่จะเก็บเกี่ยวได้

-“ยังไงก็ตาม ฉันขอเตือนทุกคนก่อนว่าพืชผักทุกอย่างต้องนำไปขายที่กรมเกษตรเท่านั้น -ห้ามเอาไปซื้อขายเองเด็ดขาด หากใครฝ่าฝืนโทษคือขับไล่ออกจากเมือง”

หยู่ฉินหลานเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เข้าใจแล้ว”

เมื่อได้ยินว่าถูกขับไล่ชาวเมืองก็เริ่มใจเสียทันที เพราะพวกเขาไม่อยากออกไปจากที่นี่

พวกเขาเคยลิ้มรสชาติของการขาดน้ำมาแล้ว แล้วพวกเขาจะยอมทิ้งการได้ใช้น้ำดื่มกินทุกวันได้ยังไง

หยู่ฉินหลานพูดต่อด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ

“วันนี้พักผ่อนกันให้เต็มที่ เพราะหลังจากนี้ไปทุกคนจะต้องไปพื้นที่เพาะปลูก และจะมีคนสอนการปลูกพืชผักให้

“เข้าใจแล้ว”

ชาวเมืองขานตอบกลับมา

“สุดยอดไปเลย”

ต้าอ้านเอ่ยชมหยู่ฉินหลานอย่างจริงใจ และชื่นชอบในความสามารถในการจัดการเรื่องต่างๆ ของเธอมาก

“ที่เหลือฝากน้องจัดการด้วย ฉันจะกลับไปรายงานให้มู่เหลียงฟังก่อน”

หยู่ฉินหลานพูดจบก็พยักหน้าให้เล็กน้อย

ต้าอ้านพยักหน้ารับหลายครั้ง และพูดขึ้น

“ได้เลยพี่ฉินหลาน พี่กลับไปก่อนได้เลย”

“อื้ม”

หยู่ฉินหลานยิ้มให้เล็กน้อย

ก่อนที่เธอจะหันกลับขึ้นไปบนรถม้า พร้อมกับเหยาเอ๋อที่ขึ้นไปนั่งที่คนขับ และบังคับให้รถม้ากลับลำและเคลื่อนตัวออกไป

“ที่เหลือมากับฉันเราจะไปหมู่บ้านเอ้อไท้กัน”

ตอนนี้หมู่บ้านแรกเต็มแล้ว คนที่เหลือจะถูกย้ายไปหมู่บ้านถัดไป

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด