ตอนที่แล้วตอนที่ 11 : บ้าเอ้ย! นี่มันหยกเขียวจักรพรรดิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 : สาวสวยขายาวในชุดเมด

ตอนที่ 12 : หลี่จื้อฮุย นักศึกษาสาววัย 19 ปี


ตอนที่ 12 : หลี่จื้อฮุย นักศึกษาสาววัย 19 ปี

ซุนหยวนเทาจากไปพร้อมกับคำพูดที่เคร่งขรึม

ส่วนฉู่เจียง เขาไม่ได้สนใจอีกฝ่ายเลย

“เฮ้ นี่เป็นกำไรสองเท่าเลยนะ!”

ฉินปินพูดด้วยรอยยิ้ม “น้องฉู่ วันนี้ฉันควรจะเลี้ยงข้าวนาย แต่นาย...”

ฉินปินมองไปที่ฉู่เจียงและไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ความหมายนั้นชัดเจนมากพอแล้ว

หวังคงและคนอื่นๆ ก็มองไปที่ฉู่เจียงเช่นกัน ทำไมฉู่เจียงถึงจะไม่รู้ว่าพวกเขากำลังหมายถึงอะไร

เขามาที่นี่และทำเงินได้ 200 ล้านหยวนอย่างง่ายดายและยังได้รับหยกเขียวจักรพรรดิชิ้นใหญ่เช่นนี้มาฟรีๆ มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เขาจะไม่เลี้ยงข้าวอีกฝ่าย!

“ฮ่าๆ ผมจะเลี้ยงเอง ผมจะเลี้ยงเอง!”

ฉู่เจียงย่อมเลี้ยงคนเหล่านี้เป็นธรรมดา

คนอื่นๆ เห็นว่าเขาได้เงิน 200 ล้านหยวนจากซุนหยวนเทาไปฟรีๆ แต่ใครจะรู้ว่าเงินสดที่เขาได้รับในวันนี้เพียงวันเดียวแท้จริงแล้วจะมากกว่า 1 พันล้านหยวนไปแล้ว!

และยังมีรถหรูและคฤหาสน์อีกนับไม่ถ้วน!

และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือดูเหมือนว่าเขาจะปลดล็อกสิ่งของใหม่จากระบบมาด้วยเพราะเขานั้นเก็บตาทองคำขึ้นมาได้!

เมื่อเทียบกับการเก็บเงินสด รถหรู บ้านหรู ฯลฯ ได้แล้ว ตาทองคำก็คล้ายกับทักษะ!

นี่เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก!

หากเขาสามารถหยิบทักษะขึ้นมาได้อีก นั่นจะเป็นข่าวดีสำหรับเขาอย่างแน่นอน

หาปลาให้คนไม่เท่ากับการสอนคนหาปลาอยู่ดี!

อย่างเช่นตอนนี้ที่เขามีความสามารถในการมองทะลุด้วยดวงตาทองคำแม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่สามารถเก็บรางวัลใดๆจากระบบได้อีก แต่ด้วยความสามารถในการตรวจจับของดวงตาทองคำเขาก็จะไม่ต้องกังวลว่าจะหาเงินไม่ได้!

………

เนื่องจากมันเป็นสโมสรส่วนตัวชั้นนำในเมืองเซี่ยงไฮ้ พระราชวังหย่งฟู่จึงมีธุรกิจโรงแรมเป็นธรรมดา

และพ่อครัวที่นี่ในพระราชวังหย่งฟู่ล้วนเป็นลูกหลานของพ่อครัวของจักรพรรดิ ตราบใดที่คุณมีเงิน แม้ว่าคุณจะอยากกินอาหารมื้อใหญ่มันก็ไม่ใช่ปัญหา

ฉู่เจียงและกลุ่มของเขาหกคนสั่งอาหาร 18 จานและดื่มเหล้าเหมาไถสี่ขวด รวมเป็นเงินกว่า 260,000 หยวน

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉู่เจียงคงได้แค่เห็นข่าวเกี่ยวกับคนรวยรุ่นที่สองที่ใช้เงินหลายแสนหยวนไปกับมื้ออาหารมื้อเดียว ในเวลานั้น เขายังคงคิดว่า หากเขาใช้เงินหลายแสนหยวนไปกับมื้ออาหาร เขาสู้เอาไปซื้อทองคำไม่ดีกว่าเหรอ

แต่ตอนนี้ถึงคราวของเขาแล้ว

บางครั้ง คนเราจะไม่รู้ถึงความสุขเว้นแต่เราจะไปอยู่ในนั้น

ต้องบอกเลยว่ามื้ออาหารที่ราคาหลายแสนหยวนนี้แตกต่างจากอาหารธรรมดาจริงๆ

หลังจากผ่านการพนันหินหยกไป ในตอนนี้ทุกคนต่างก็มองว่าฉู่เจียงเป็นพี่น้องของพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น บุคลิกของฉู่เจียงยังเข้ากันได้ดีกับพวกเขา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาเป็นคนใจกว้างและเป็นคนดี ซึ่งทำให้หวังคง ฉินปินและคนอื่นๆ มองว่าฉู่เจียงเป็นเพื่อนแท้!

ฉู่เจียงไม่คาดคิดว่าเขาจะสามารถผสานเข้ากับแวดวงสังคมของหวังคงได้อย่างง่ายดายแบบนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วการเป็นเพื่อนกับคนรวยรุ่นที่สองเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ก่อนอื่นเลย เขาจะต้องมีความแข็งแกร่งเท่ากัน ไม่เช่นนั้น ทำไมพวกเขาถึงต้องมองว่าเขาเป็นเพื่อนด้วย

หลังจากกินและดื่ม ฉินปินก็เชิญทุกคนไปสปานวดเพื่อสุขภาพ

ในตอนแรกฉู่เจียงนั้นไม่อยากจะไป แต่เขาไม่สามารถต้านทานความกระตือรือร้นของฉินปินได้!

“น้องฉู่ ถ้านายไม่ไป ฉันจะถือว่านายไม่ไว้หน้าฉันนะ!”

ฉินปินวางมือบนไหล่ของฉู่เจียง เอาปากเข้าไปใกล้หูของฉู่เจียงแล้วกระซิบว่า “หรือว่านายยังซิงอยู่?”

“เปล่า ผมแค่รู้สึกง่วงนิดหน่อย...”

ฉู่เจียงรีบอธิบาย

“มาเถอะ ไปนวดกันก่อนเถอะ ฉันขอบอกนายเลยนะว่าสาวๆ ที่นี่คุณภาพดีมาก... มีทุกแบบที่นายต้องการเลย ต่อให้เป็นคนดังในวงการบันเทิงก็ตาม ถ้าเงินถึงเรื่องแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!”

ฉินปินไม่ยอมให้ฉู่เจียงอธิบายและลากฉู่เจียงไปที่คลับสุขภาพของพระราชวังหย่งฟู่โดยตรง

“เขาตั้งใจจะพาฉันเดินทางที่ไม่ดี!”

ฉู่เจียงยิ้มขมขื่นและอดไม่ได้ที่จะคิดในใจ

ฉู่เจียงเมามายและเขาจึงได้แต่ตามไปนวดเพื่อสุขภาพกับฉินปินและคนอื่นๆ

ไม่อย่างนั้น พระราชวังหย่งฟู่จะเรียกได้ว่าเป็นคลับส่วนตัวอันดับหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ได้อย่างไร!

ที่นี่ ตราบใดที่คุณมีเงิน คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตแบบจักรพรรดิได้ ไม่สิ มันควรจะเรียกได้ว่าเหนือกว่าจักรพรรดิด้วยซ้ำ

เมื่อพวกเขามาที่นี่แล้ว ฉู่เจียงก็ไม่ได้ขัดขืนขนาดนั้น

ต้องยอมรับเลยว่าแม้แต่พนักงานต้อนรับของที่นี่ก็หน้าตาดีและมีรูปร่างดี

ฉู่เจียงเพิ่งดื่มเหล้าเหมาไถไปหนึ่งขวดเพียงลำพังและตอนนี้เขาก็เมาและเวียนหัวมาก

ในระหว่างอาการมึนงงนั้น เขาดูเหมือนจะได้ยินฉินปินพูดกับหัวหน้าพนักงานที่มาต้อนรับพวกเขาว่า "หาสาวที่ยังพรหมจรรย์ ให้น้องชายของฉันหน่อย!"

โดยสัญชาตญาณ ฉู่เจียงต้องการที่จะปฏิเสธ แต่เขาถูกฉินปินและคนอื่นๆ พาไปที่ห้องส่วนตัวด้วยความมึนงงจากอาการเมา

ไฟในห้องส่วนตัวสลัวเล็กน้อยและฉู่เจียงก็นอนอยู่บนเตียงและหายใจอย่างสบาย

"สบายจัง!"

ฉู่เจียงดื่มมากเกินไปและตอนนี้เขากำลังนอนอยู่บนเตียงและเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

………

ประมาณเก้าโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น เมื่อฉู่เจียงลืมตาขึ้นก็เห็นหญิงสาวนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาก็ตกตะลึงทันที!

"เกิดอะไรขึ้น?"

เมื่อคืนนี้ เขาเกือบจะดื่มจนหมดสติไปและจำได้เพียงว่าฉินปินยืนกรานที่จะลากเขาไปนวด

โอ้ ใช่ เมื่อคืน...ฉินปินดูเหมือนจะพูดกับเขาว่า "ฉันจะหาผู้หญิงที่ยังไม่เคยผ่านมือใครมาให้..."

แล้วฉู่เจียงก็จำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น!

หญิงสาวในอ้อมแขนของเขาดูเด็กมาก แต่เธอมีใบหน้าที่เรียบเนียน ผิวขาวและบอบบางและความงามของเธอก็เกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูด เธออาจจะเป็นสาวงามในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยไหนก็ได้

ฉู่เจียงจ้องไปที่ใบหน้าของหญิงสาวและมองอย่างระมัดระวัง มีรอยน้ำตาสองรอยบนแก้มที่บอบบางของเธอ...

เมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น?

ทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลย

ฉู่เจียงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นและพึมพำในใจ "ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ฉันจะต้องดื่มให้น้อยลงจริงๆแล้ว ถ้าฉันพูดอะไรที่ไม่สมควรพูดออกไปหลังจากดื่มมากเกินไป ฉันคงจะเดือดร้อนแน่!"

ฉู่เจียงอยากจะดึงแขนออกมา แต่บางทีเธออาจจะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของฉู่เจียงและหญิงสาวก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น

หญิงสาวมีตาโตพร้อมเปลือกตาสองชั้นและยังสามารถมองเห็นรอยน้ำตาที่เปียกชื้นได้เลือนลาง

เมื่อเธอเห็นฉู่เจียงจ้องมองเธอ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูทันที

"นายน้อยฉู่..."

เสียงนั้นฟังดูแหบแห้ง เพราะว่าเมื่อคืนนี้มีเรื่องที่ไม่สามารถบรรยายได้เกิดขึ้น

"บอกชื่อเธอให้ฉันหน่อยได้ไหม"

ตอนนี้เรื่องต่างๆ ก็เกิดขึ้นแล้ว ฉู่เจียงก็ไม่สนใจอะไรอีก

เขาลุกขึ้น พิงเตียงและจะสูบบุหรี่ เมื่อเห็นเช่นนี้ หญิงสาวก็จุดมันให้กับฉู่เจียงอย่างรวดเร็ว

"หลี่จื่อฮุย"

หลี่จื่อฮุยเม้มริมฝีปากและตอบเบาๆ

“จื่อฮุยกำลังคิดถึงข้าและเสื้อผ้าของข้าก็กำลังข้ามลำน้ำไป เนื้อเพลงจาก”หนังสือเพลง เจิ้งเฟิง“ดูเหมือนว่าครอบครัวของเธอก็มีการศึกษาเหมือนกันนะ”

ฉู่เจียงอ่านหนังสือโบราณมากมายตอนที่เขาอยู่มหาวิทยาลัย

ชื่อจื่อฮุยฟังดูอ่อนโยนและมีคุณธรรมและเป็นชื่อที่ดีสำหรับเด็กผู้หญิงจริงๆ

และฉู่เจียงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเธอนั้นทำตัวดีและเรียบร้อยมาก

“เธอดูเด็กนะ เป็นนักศึกษาเหรอ”

“ฉันอายุสิบเก้า เป็นนักศึกษาปีหนึ่งในมหาวิทยาลัย”

หลี่จื่อฮุยพยักหน้าและตอบเบาๆ

เมื่อได้ยินว่าเธออายุเพียงสิบเก้าปี ฉู่เจียงก็อดไม่ได้ที่จะปวดหัว

“ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เธอควรมา”

ฉู่เจียงขมวดคิ้วและสูบบุหรี่อย่างหนัก

“ฉันรู้~~”

หลี่จื่อฮุยเม้มริมฝีปากและก้มหน้าลง “คุณฉู่ คุณไม่เข้าใจหรอก คนเราต้องใช้ชีวิตกันต่อไป เงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับชายหนุ่มที่ร่ำรวยอย่างคุณ แต่สำหรับฉัน นอกจากการมาที่นี่แล้ว ฉันมีวิธีอื่นด้วยเหรอ”

เชือกป่านมักจะขาดตรงส่วนที่บางที่สุด และวิกฤตก็ถูกสร้างมาเพื่อก่อกวนคนจน

ฉู่เจียงเข้าใจอารมณ์ของหลี่จื่อฮุยได้

“เธอมีปัญหาที่บ้านใช่ไหม”

“ฉันสูญเสียพ่อไปตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็กและแม่กับฉันก็พึ่งพากันและกันมาตลอด แต่หลายปีก่อนแม่ของฉันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตวาย นอกจากการฟอกไตแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือการปลูกถ่ายไต...”

หลี่จื่อฮุยไม่อยากพูดอะไรในตอนแรก

แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าฉู่เจียงเป็นคนดี แต่เขาก็เป็นคนรวยรุ่นที่สองที่อยู่เหนือคนอื่น แม้ว่าเขาจะเห็นอกเห็นใจเธอ แต่เขาจะช่วยเธอได้อย่างไรโดยไม่มีเหตุผล?

แต่ตั้งแต่ที่ฉู่เจียงถาม เธอก็เล่าทุกอย่างให้ฟัง

“เมื่อคืนเป็นครั้งแรกของเธอเหรอ”

“เอ่อ……”

ฉู่เจียงรู้สึกปวดหัวโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นหลี่จื่อฮุยพยักหน้า

“อย่ามาที่นี่อีก ฉันจะช่วยเธอแก้ปัญหาของแม่เธอเอง”

ฉู่เจียงลุกขึ้นจากเตียง มองไปที่ผ้าปูที่นอนบนเตียง

สีแดงเข้มเล็กน้อยทำให้ตาพร่า

แต่เดิม ฉู่เจียงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เพราะเมื่อคืนเป็นความสัมพันธ์ที่ยินยอมพร้อมใจและทุกคนก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ

แต่ในฐานะผู้ชาย หลังจากรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกของหลี่จื่อฮุย เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจเธอเล็กน้อย

เหมือนกับที่หลี่จื่อฮุยพูด

เงินไม่ใช่อะไรสำหรับพวกเขา

แต่สำหรับคนธรรมดาอย่างหลี่จื่อฮุย เงินจะสามารถหาได้ง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร

หลี่จื่อฮุยตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉู่เจียงพูด

เธอไม่เคยคิดว่าฉู่เจียงจะช่วยเหลือเธอแบบนี้ เพราะยังไงเธอก็เป็นแค่คนแปลกหน้าสำหรับฉู่เจียงเท่านั้น

“อย่าแปลกใจ เธอสมควรได้รับมัน”

ฉู่เจียงสวมเสื้อผ้าของเขาแล้วมองไปที่หลี่จื่อฮุยที่ดูสับสนและพูดว่า “อย่างไรก็ตาม ยังมีเงื่อนไขบางอย่างอยู่...”

เมื่อฉู่เจียงพูดเช่นนี้ หลี่จื่อฮุยก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ในโลกอีกต่อไปแล้ว เธอเข้าใจว่าฉู่เจียงหมายความว่าอย่างไรเมื่อเขาบอกว่าเธอจะต้องมาหาเขาทันทีเมื่อเขาต้องการเธอ

“โอเค เธอเพิ่มเพื่อนฉันใน WeChat จากนั้นส่งบัญชีของเธอมาให้ฉันและอีกอย่าง ส่งข้อมูลการเข้าโรงพยาบาลของแม่ของเธอมาให้ฉันด้วย”

“อืม!”

หลี่จื่อฮุยพยักหน้าอย่างหนักแน่นและเพิ่มเพื่อน WeChat ของฉู่เจียง

“กลับไปได้แล้ว แล้วอย่ามาที่นี่อีก!”

ไม่ใช่ว่าฉู่เจียงนั้นเกิดความรักหรืออะไร แต่เป็นเพราะว่าสถานที่นี้ไม่ควรเป็นสถานที่สำหรับเด็กสาววัยสิบเก้าปีอย่างเธอจริงๆ

ฉู่เจียงมองไปที่ข้อมูลการเข้าโรงพยาบาลที่หลี่จื่อฮุยส่งมา เขาไม่ลังเลและโอนเงินสองล้านเข้าบัญชีของหลี่จื่อฮุยโดยตรง

“เงินถูกโอนไปให้เธอแล้ว มันน่าจะเพียงพอสำหรับตอนนี้”

เมื่อหลี่จื่อฮุยได้ยินสิ่งที่ฉู่เจียงพูด ดวงตาของเธอก็ชื้นขึ้นทันที

“นายน้อยฉู่ ต่อไปนี้ฉันจะเป็นผู้หญิงของคุณ ไม่ว่าคุณอยากให้ฉันทำอะไร ฉันก็จะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด...”

เธออาจไม่มีความสำคัญสำหรับฉู่เจียง

แต่ฉู่เจียงคือสวรรค์สำหรับเธอ!

“เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น ฉันบอกเธอแล้วไงว่าเธอสมควรได้รับสิ่งนี้”

ฉู่เจียงไม่สนใจเลย มันก็แค่สองล้านเท่านั้น ซึ่งเป็นเพียงหยดน้ำในถังเมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สินของเขาในปัจจุบัน

เมื่อเขาพาหลี่จื่อฮุยออกจากห้องและเดินไปที่ห้องโถง ฉินปินและหวังคงก็กำลังนั่งกินอาหารเช้าอยู่ที่นั่น

“น้องฉู่ ทางนี้...”

เมื่อฉินปินเห็นฉู่เจียงและหลี่จื่อฮุยออกมา เขาก็ยื่นมือออกไปและทักทาย

ฉู่เจียงมองฉินปินและอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มแห้งๆ

หลี่จื่อฮุยเดินตามฉู่เจียงไป โดยเดินอย่างเก้ๆ กังๆ เนื่องจากแรงกระแทกเมื่อคืนนี้

เธอก้มหัวลง ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความอับอาย และไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองใครเลย

ฉู่เจียงค่อยๆ เอื้อมมือไปโอบเอวของหลี่จื่อฮุย ทำให้ร่างกายของหลี่จื่อฮุยเกร็งอย่างรวดเร็ว

"ฉันจะแนะนำทั้งสองคนนี้ให้ คนแรกหวังคงและคนที่สองฉินปิน ต่อไปนี้เรียกพวกเขาว่าพี่คงและพี่ฉินก็พอ!"

ฉู่เจียงกอดหลี่จื่อฮุยและแนะนำหวังคงและฉินปินให้เธอรู้จักสั้นๆ

แน่นอนว่าหลี่จื่อฮุยรู้จักหวังคงและฉินปิน เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อย เมื่อคืนเธอมาที่นี่ เธอรู้เพียงว่าคนที่เธอต้องรับใช้คือคุณชายฉู่ ผู้มีสถานะที่โดดเด่น

แต่เธอไม่รู้จริงๆ ว่าที่จริงแล้วฉู่เจียงเป็นพี่น้องกับหวังคง ฉินปินและคนอื่นๆ

ในฐานะคนรวยรุ่นที่สองที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน หวังคงและฉินปินเป็นที่รู้จักอย่างมากในประเทศ

"คุณชายฉู่และหวังคงเป็นเพื่อนกัน ดังนั้นคุณชายฉู่..."

หลี่จื่อฮุยอดไม่ได้ที่จะคิดแบบนี้

เธอรู้ว่าคนอย่างเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นที่รักของฉู่เจียง แต่เธอก็จะไม่มีวันกลายเป็นคนสำคัญของเขาอย่างแน่นอน

แต่เธอก็เข้าใจด้วยว่าหากเธอสามารถเป็นผู้หญิงของฉู่เจียงได้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เธอก็คงไม่มีปัญหากับการมีอาหารและเสื้อผ้าดีๆ ไปตลอดชีวิต!

ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่น

นอกจากนี้ การเป็นผู้หญิงของฉู่เจียงไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้เสียใจเท่านั้น แต่สำหรับเธอแล้วมันเป็นโอกาสที่จะบินขึ้นไปสูงดั่งหงส์เพลิง

ฉินปินและหวังคงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลี่จื่อฮุย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดอะไรก็ตาม ในขณะที่พวกผู้ชายเห็นวิธีที่หลี่จื่อฮุยเดินเมื่อสักครู่ พวกเขาก็แสดงรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกโรคจิตออกมาโดยไม่รู้ตัว

หลังอาหารเช้า ฉู่เจียงก็ขับรถพาหลี่จื่อฮุยไปโรงพยาบาลที่แม่ของเธอเข้ารักษาตัวอยู่

“เธอยังต้องไปเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่แม่ของเธอจะสนับสนุนด้านการเรียนของเธอ”

หลังจากที่ฉู่เจียงรู้ว่าหลี่จื่อฮุยเรียนที่มหาวิทยาลัยฟู่ตั้นในเซี่ยงไฮ้ เขาก็มองไปที่เธอและพูดอย่างจริงใจ

“เธอไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน แค่ใช้เงินไปก็พอ ถ้าเงินไม่พอก็บอกฉัน”

“นายน้อยฉู่ ฉัน...ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยหรอกค่ะ”

หลี่จื่อฮุยพึมพำเบาๆ

“นี่ไม่ใช่เรื่องการใช้เงินอย่างไม่ระวัง เธอต้องใช้เงินที่ควรใช้อยู่ดี ถ้ามีเวลาก็ออกไปซื้อเสื้อผ้า กระเป๋าและของอื่นๆสักชุด ถ้าเงินไม่พอ ฉันจะให้เธอเพิ่ม!”

ฉู่เจียงไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบ เพราะตอนนี้หลี่จื่อฮุยเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว เรื่องของเธอจึงขึ้นอยู่กับตัวเขาด้วย

“ฉันอาจจะพาเธอไปงานปาร์ตี้ในอนาคต ดังนั้นอย่าให้ฉันเสียหน้าเด็ดขาด”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉู่เจียงพูด หลี่จื่อฮุยที่อยากจะพูดบางอย่างแต่ก็เม้มริมฝีปากและพยักหน้าเบาๆ “ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว!”

“ไปดูแลแม่ของเธอเถอะ ถ้าฉันมีเวลาอีกสองวัน ฉันจะแวะมาเยี่ยม!”

มุมปากของฉู่เจียงยกขึ้นเล็กน้อย เขาจึงยิ้มและพูดเบาๆ

“ค่ะ!”

หลี่จื่อฮุยลงจากรถและมองดูฉู่เจียงขับรถ Lamborghini ออกไปจากโรงพยาบาล เมื่อเธอเห็นรถขับออกไป เธอก็ถอนหายใจและหันหลังกลับและเดินไปที่แผนกผู้ป่วยใน

สำหรับเธอ การได้พบกับฉู่เจียงถือเป็นเรื่องโชคดีที่สุดที่เกิดขึ้น

หากเปรียบเทียบกับคนรวยรุ่นที่สองที่เธอรู้จักเป็นการส่วนตัวแล้ว ฉู่เจียงดูเด็กในระดับหนึ่งและหน้าตาก็ดี

ประการที่สาม ฉู่เจียงใจดีกับเธอมาก

เมื่อเธอตัดสินใจไปที่พระราชวังหย่งฟู่ เธอก็หมดหวังในชีวิตไปแล้ว

แต่ตอนนี้ ความหวังก็จุดประกายขึ้นในดวงตาของเธออีกครั้ง

*ช่วงนี้ขอลงวันละ 1 ตอนก่อนนะครับขอแปลตุนเอาไว้เยอะๆก่อนจะได้มีลงทุกวันไม่ขาดตอนนะครับ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด