บทที่ 94: ผู้คนจากอีกโลกหนึ่ง (ตอนฟรี)
บทที่ 94: ผู้คนจากอีกโลกหนึ่ง
สวนริมทะเลสาบ
สวนสาธารณะที่มืดมิดแห่งนี้กำลังเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ดวงตาของหยางเจิงจับจ้องไปที่ร่างลึกลับทั้งสามในชุดดำ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง
ทางด้านซ้ายของเขามีชายและหญิงยืนอยู่ ผู้หญิงคนนั้นมีผมยาวสยายและมีท่าทางสง่างาม และถ้าซูหนานอยู่ที่นี่ เขาก็คงจำเธอได้ในฐานะไป๋เหมิงเหมิง
ส่วนชายคนนั้นคือเจิงตี้ ผู้เล่นที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งในเมืองตงหลิน ผู้ซึ่งปลุกพลังสายเลือดแล้ว
อีกด้านหนึ่งของหยางเจิง ทหารหลายคนถือปืนยิงอย่างต่อเนื่อง พยายามล้มร่างในชุดดำ
“พวกเขามาจากไหน พวกเขามีพลังมากมายขนาดนี้ได้ยังไง?” ดวงตาของไป๋เหมิงเหมิงเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
คนสามคนในชุดดำนี้แข็งแกร่งเกินไป อย่างน้อยก็พวกเขาก็ปลุกพลังสายเลือดสองสายแล้ว หรืออาจถึงสามสายแล้วก็ได้
ความเร็วนั้นเร็วมาก พวกเขาสามารถหลบกระสุนได้ด้วยซ้ำ!
“หวังหนานเป็นผู้เล่น แต่สองคนนั้นไม่ใช่ผู้เล่นอย่างแน่นอน”
“ถ้าพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เล่น พวกเขาก็จะต้องอยู่บนการจัดอันดับแน่” จิ้งตี้วิเคราะห์อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้เล่นที่ปลุกพลังสายเลือดเพียงสองคนในเมืองตงหลิน พวกเขาจึงได้รับเชิญมาที่นี่ โดยเดิมทีเชื่อว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาเมื่อรวมกับอาวุธปืนจะสามารถต่อกรกับหวังหนานได้
แต่กระนั้นพวกเขาก็ถูกจับได้โดยไม่ทันตั้งตัวจากสถานการณ์ปัจจุบัน
“หยุดยิง!” หยางเจิงพูดอย่างเข้มงวด
การยิงปืนอย่างต่อเนื่องได้กินกระสุนไปมากแล้ว แต่การป้องกันไม่ให้ร่างทั้งสามในชุดดำเข้าใกล้นั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เสียงปืนหยุดลง และร่างทั้งสามในชุดดำก็ไม่เพียงแต่ไม่แสดงความกลัวต่อปืนในมือเท่านั้น แต่ดวงตาของพวกเขายังกลับเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
หยางเจิงจ้องไปที่ร่างสูงในชุดดำอย่างแน่วแน่และพูดว่า “หวังหนาน นายต้องการอะไร”
ปฏิบัติการในคืนนี้ได้รับการวางแผนมาอย่างรอบคอบโดยเขา โดยมุ่งเป้าไปที่การจับร่างลึกลับในชุดดำเหล่านี้
เมื่อคืนนี้ ผู้เล่นหลายคนเสียชีวิตลง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเมืองตงหลิน และในฐานะผู้นำของเมือง เขาก็ไม่สามารถแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
ร่างสูงในชุดดำตอบว่า “ฉันบอกกัปตันหยางไปแล้วว่าฉันต้องการอะไร นายเพียงแค่ช่วยฉันหาสร้อยข้อมือเส้นนั้น แล้วเราจะออกจากเมืองตงหลินโดยทันที”
หยางเจิงพูดอย่างโกรธจัดว่า “ฉันไม่สนใจว่านายกำลังมองหาอะไรอยู่ แต่การฆ่าผู้เล่นแบบนี้เป็นการละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง”
“กฎหมาย?” ร่างสูงในชุดดำยิ้มเยาะ “กฎหมายคืออะไร? มันก็เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับพวกคนต้อยต่ำในการควบคุมโลกนี้”
“สำหรับฉัน หมัดนี่แหล่ะคือกฎหมาย!”
ร่างสูงในชุดดำมองหยางเจิงและคนอื่นๆ ด้วยความดูถูกในดวงตาของเขา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยางเจิงก็ตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่ไม่มีอะไรที่เขาทำได้
ร่างสูงในชุดดำพูดต่อ “เดิมที ตราบใดที่นายให้ความร่วมมืออย่างเชื่อฟัง มันก็จะไม่มีปัญหาใดๆ แต่ตอนนี้เมื่อนายกำลังแสวงหาจุดจบของตัวเอง นายก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน”
จิตสังหารปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา ร่างสูงในชุดดำก้าวไปข้างหน้า
ในสายตาของเขา หยางเจิงและคนอื่นๆ เป็นเพียงมดเท่านั้น และตอนนี้มดเหล่านี้ก็ต้องการที่จะจัดการกับเขา ซึ่งมันน่ารำคาญมาก
ใบหน้าของหยางเจิงมืดลง และความรู้สึกวิกฤตก็ผุดขึ้นมาในใจของเขา ขณะที่เขากำลังจะสั่งให้ยิงปืนต่อไป เสียงของชายคนหนึ่งก็ตะโกนออกมา
จากระยะไกล บนทางเดินที่ปูด้วยหินราบ ชายหนุ่มรูปงามค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้
“เฒ่า A นี่ก็ผ่านไปนานมากแล้วนะ และคุณก็ยังเหมือนเดิมเลย”
“โอ้? ฉันไม่คิดว่านายจะมาด้วยนะ!” เมื่อเห็นชายหนุ่ม คิ้วของชายชุดดำก็ขมวดเล็กน้อย
“หยุด! นายเป็นใคร?” ทหารหลายคนชี้ปืนไปที่ชายหนุ่มและซักถามเขา
ชายหนุ่มยิ้มให้หยางเจิง “กัปตันหยาง ไม่ต้องกังวล ฉันชื่อเจียงเหวิน ฉันมาเพื่อช่วยเหลือุณ”
สีหน้าของหยางเจิงเปลี่ยนไป ราวกับเพิ่งตระหนักบางอย่างได้ “นายอยู่หน่วยตระเวนราตรีหรอ?”
ในฐานะผู้นำของเมืองตงหลิน หยางเจิงย่อมรู้ความลับบางอย่าง รวมถึงองค์กรที่เรียกว่าหน่วยตระเวนราตรี
หน่วยตระเวนราตรียังเป็นหน่วยงานของทางการที่ก่อตั้งขึ้นหลังจากการทดสอบเบต้าสาธารณะของเกมเปิดขึ้น
สมาชิกทุกคนล้วนลึกลับมาก โดยไม่มีใครรู้ที่มาของพวกเขา ราวกับว่าพวกเขาปรากฏตัวขึ้นจากอากาศเปล่า
หน่วยตระเวนราตรีหรอ? หน่วยงานนั้นคืออะไร? ไป๋เหมิงเหมิงและเจิงตี้ต่างมองตากัน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้
เจียงเหวินมองไปที่ร่างสูงในชุดดำ “คุณถูกเขาหลอกแล้ว เขาไม่ใช่หวังหนาน”
“ไม่ใช่หวังหนานหรอ”
ไป๋เหมิงเหมิงและเจิงตี้ตกตะลึง แต่ดวงตาของหยางเจิงกลับเป็นประกาย
จริงๆ แล้ว ครั้งแรกที่เขาเห็นร่างในชุดดำที่เรียกกันว่าเฒ่า A เขาก็สงสัยอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ใช่หวังหนาน
ในความคิดของเขา ชายที่ช่วยเขาในวันนั้นต่างหากที่ดูจะคล้ายกับหวังหนานมากกว่า
“ถ้าเขาไม่ใช่หวังหนาน แล้วเขาเป็นใครล่ะ?” เจิงตี้อดไม่ได้ที่จะถาม
เจียงเหวินมองไปที่เฒ่า A และคนอื่นๆ “เพื่อให้ชัดเจนขึ้น พวกเขาไม่ใช่ผู้เล่นด้วยซ้ำ!”
“ไม่ใช่ผู้เล่นหรอ?”
หยางเจิง, ไป๋เหมิงเหมิงและเจิงตี้ต่างมองตากัน หัวใจของพวกเขาตกตะลึงแต่ก็ไม่แปลกใจมากนัก
จริงๆ แล้ว พวกเขาคิดถึงความเป็นไปได้นี้มานานแล้ว เพราะไม่มีผู้เล่นมากนักในรายชื่อการจัดอันดับที่ปลุกพลังสายเลือดที่สองแล้ว
อย่างไรก็ตาม คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ถ้าร่างในชุดดำไม่ใช่ผู้เล่น แล้วเจียงเหวินก็ไม่ใช่ผู้เล่นเช่นกันด้วยรึเปล่า
ไป๋เหมิงเหมิงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ถ้าพวกเขาไม่ใช่ผู้เล่น แล้วพวกเขาได้พลังจากเกมมาได้ยังไง?”
เจียงเหวินยิ้มอย่างลึกลับ “ก็เพราะพวกเขาไม่ได้มาจากโลกนี้!”
ไม่ได้มาจากโลกนี้หรอ?
ตอนนี้ ไม่ใช่แค่ไป๋เหมิงเหมิงและเจิงตี้เท่านั้น แต่แม้กระทั่งหยางเจิงก็ตกตะลึงอย่างมาก
“เป็นไปได้ยังไง พวกเขาเป็นคนจากโลกปีศาจหรอ?”
ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและลังเล สายตาของพวกเขาที่จ้องมองร่างในชุดดำทั้งสามเต็มไปด้วยความอยากรู้..
*ถ้าไม่สนใจแล้วจะถามทำไมวะไอ้หยางเจิง