ตอนที่แล้วบทที่ 722 ปัญหาจากพืชวิญญาณมากเกินไป 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 724 วิชาการแปลงร่างโดยกำเนิด 

บทที่ 723 สิ่งที่จางเหลียงทำ 


นับตั้งแต่เฉินโม่ค้นพบว่ามู่เถาไปเปิดเผยเรื่องราวของเขาแก่เหล่าแม่ทัพคนอื่นๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนสำนักมั่วไถ เขาก็ไม่ได้ไปพบกับจางเหลียงอีกเลย

ปัจจุบันหนึ่งปีผ่านไปแล้ว

ระหว่างนี้ ไม่มีใครเปิดเผยถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่แม้แต่เนี่ยหยวนจือ ซึ่งเป็นผู้ดูแลของสำนักเซียนทั้งหมดที่เลือกจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องนี้ เขารอให้เฉินโม่กลับมาที่หอถ่ายทอดวิชาอีกครั้ง

จางเหลียงเองก็เฝ้ารอเช่นกันและการรอคอยนี้กินเวลานานกว่าหนึ่งปี

เฉินโม่ยืนอยู่บนยอดเขาหยินเยว่ มองไปทางหอถ่ายทอดวิชา ก่อนจะกระโดดลงไปพลางเปลี่ยนร่างเป็นนกบินลงมาอย่างช้าๆ

บนลานหน้าหอถ่ายทอดวิชา ศิษย์รุ่นที่สี่ของสำนักมั่วไถนั่งสมาธิอยู่ พวกเขาฝึกหายใจตามการแนะนำของจางเหลียงเพื่อดูดซับพลังวิญญาณจากฟ้าดิน

ในขณะนี้ พลังวิญญาณรอบๆ เขาหยินเยว่หนาแน่นกว่าที่เคยอยู่ในเขตของสำนักมั่วไถหลายเท่า และการคัดเลือกศิษย์ใหม่ก็เข้มงวดมากขึ้น ทำให้ศิษย์เหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความเข้าใจดีขึ้น แต่ยังมีจิตใจที่มั่นคงขึ้นมากด้วย

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้หากขาดความอดทนในการสอนซ้ำๆ ของจางเหลียง

ก่อนที่ศิษย์จะสร้างรากฐาน พวกเขาจะต้องฝึกกับจางเหลียงในหอถ่ายทอดวิชา และเมื่อสร้างรากฐานได้แล้ว พวกเขาจะถูกจัดไปตามความถนัด ความชอบและตามความต้องการของเหล่าผู้อาวุโส

เมื่อเฉินโม่ปรากฏตัวขึ้น ศิษย์ที่กำลังท่องบทสวดอยู่ก็หยุดลงทันที พวกเขาอาจไม่รู้จักผู้อาวุโสบางคน แต่ไม่มีทางที่จะไม่รู้จักท่านเจ้าสำนัก

ยิ่งไปกว่านั้นท่านเจ้าสำนักยังเป็นหนึ่งในหกคนที่ทรงอำนาจที่สุดในผิงตูโจว

หลังจากความเงียบผ่านไป จางเหลียงก็ลุกขึ้นช้าๆ

การไม่ได้พบกันนานกว่าหนึ่งปี ทำให้จางเหลียงดูแก่ลงไปอีก แม้ว่ายาว่านโส่วจะช่วยชะลออายุขัยของเขา ทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น แต่ก็ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ เพียงแค่ยืดอายุออกไปโดยไม่ได้ฟื้นฟูร่างกายของเขาให้แข็งแรง

สุดท้ายแล้ว เขาก็ยังต้องเผชิญกับความตาย

"ขอคารวะท่านเจ้าสำนัก"

เมื่อก่อน เฉินโม่เป็นแค่เด็กน้อย แต่ตอนนี้เขาเติบโตไปไกลจนจางเหลียงไม่อาจเข้าใจได้

หากไม่มีเหตุการณ์ของมู่เถา เมื่อได้พบกันอีกครั้งเขาอาจจะรู้สึกยินดีบ้าง

แต่ตอนนี้ แม้เขาจะทำงานหนักเพื่อฝึกศิษย์ของสำนักมั่วไถ แต่ในใจยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

“ท่านผู้อาวุโสดูแก่ลงอีกแล้วนะ” เฉินโม่กล่าวขณะมองเส้นผมที่ขาวดุจนกกระเรียนของจางเหลียงด้วยความเสียดาย

“ถ้าไม่มีท่านเจ้าสำนัก ข้าคงตายไปนานแล้ว”

นี่คือสิ่งที่ทำให้จางเหลียงเจ็บปวดที่สุด

คนหนึ่งเป็นผู้มีพระคุณที่สำคัญยิ่งดั่งได้ชีวิตใหม่ ส่วนอีกคนเป็นคู่ชีวิตที่อยู่เคียงข้างเขาในช่วงเวลาที่เขาตกต่ำและยังให้กำเนิดบุตรสองคนแก่เขา

จางเหลียงรู้ว่าควรเลือกทางใด แต่ภายในใจเขายังคงลำบากที่จะก้าวข้ามเรื่องนี้ไปได้

“มีข้าอยู่ ท่านผู้อาวุโสอยากตายก็คงยาก” เฉินโม่หัวเราะเสียงดัง ก่อนจะหยิบยาวิหคเทพ ออกมาและส่งให้จางเหลียงด้วยตนเอง

“นี่คือยาในระดับสี่ ท่านกินหนึ่งเม็ดทุกเดือน เมื่อท่านหลอมมันแล้ว ร่างกายจะเริ่มฟื้นฟูขึ้นเหมือนกับน้ำที่ได้เติมลงในบ่อที่แห้งเหือด ราวกับต้นไม้แห้งที่ฟื้นคืนชีพ เมื่อถึงเวลานั้น ท่านก็สามารถเริ่มฝึกตนอีกครั้งได้”

อายุขัยของผู้ฝึกฝนในระดับขั้นทองอยู่ระหว่าง 300 ถึง 500 ปี แม้แต่จางเหลียงก็มีชีวิตอยู่ได้เพียง 400 ปีโดยใช้วิธีต่างๆ ในการยืดอายุ

แต่หากเขาทะลวงไปถึงขั้นปฐมภูมิ อายุขัยของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ไม่ว่าจะอย่างไร อายุขัยก็เป็นเรื่องรองไป การที่สามารถกลับไปฝึกตนได้ใหม่อีกครั้งต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุด!

จางเหลียงกุมขวดเซรามิกในมือไว้แน่น น้ำตาจุกในลำคอ

แต่เดิมเขาเตรียมใจจะตายไปพร้อมกับการสอนศิษย์ไปเรื่อยๆแต่ไม่คาดคิดว่าเฉินโม่จะมอบยาวิหคเทพให้เขา

“ขอบคุณ…ขอบคุณมากท่านเจ้าสำนัก”

“ท่านผู้อาวุโสทำงานเพื่อสำนักมาอย่างมากมาย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ท่านสมควรได้รับ”

“เฮ้อ…”

จางเหลียงถอนหายใจยาว

เฉินโม่กล่าวต่อว่า “ท่านกินยาวิหคเทพไปก่อน เมื่อร่างกายท่านไม่ถูกจำกัดด้วยอายุขัยอีกต่อไป ค่อยไปรับยาวิญญาณเซียนเสริมพลัง ยานี้ท่านต้องไปเอาที่หอปรุงยาเอง สำนักของเราจะจัดหาให้ท่านแบบไม่จำกัด”

“ขอบคุณ...ขอบคุณ”

“รีบฝึกตนให้เต็มที่ ข้ายังจะพาท่านไปยังเป่ยโจว เพื่อเรียนรู้แนวคิดการสอนที่ก้าวหน้า หวังว่าท่านจะสามารถฝึกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมได้มากขึ้น”

จางเหลียงพยักหน้ารับแรงๆ ในใจเขารอคอยให้เฉินโม่ถามถึงเรื่องของมู่เถา

แต่ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉินโม่ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนั้นเลยแม้แต่นิด

เฉินโม่มาเร็ว ไปก็เร็ว การมอบยาและสนทนาของพวกเขาทั้งหมดอยู่ในสายตาของศิษย์ที่อยู่ในหอถ่ายทอดวิชา

คนที่ใกล้จะตาย ได้พลังฟ้าประทาน

นี่คือพลังอะไร?

ศิษย์เหล่านั้นที่เคยรู้สึกภูมิใจเพียงแค่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักมั่วไถและจวนแม่ทัพ บัดนี้มีความรู้สึกตื่นเต้นที่ท่วมท้น

นี่แหละคือรากฐานของสำนัก นี่แหละคือความยิ่งใหญ่ของเจ้าสำนัก!

“ทุกคนฝึกต่อไปเถอะ” จางเหลียงโบกมือให้ศิษย์ทั้งหมด

วันนี้เขาไม่มีอารมณ์จะบรรยายธรรม

เขาเดินผ่านหอถ่ายทอดวิชาไปยังลานเล็กหลังหอ ซึ่งเป็นที่พักของเขา

เวลาผ่านไปนานหลายปี จางหยวนเซิงและจางหยวนฉีได้เติบโตเป็นเด็กหนุ่มที่หล่อเหลา ทั้งสองคนได้สัมผัสกับวิถีชีวิตในสำนักเซียนมาตั้งแต่เล็ก ทำให้บัดนี้พวกเขามีความแข็งแกร่งในระดับสร้างรากฐานขั้นหกถึงเจ็ด

ส่วนระดับขั้นทอง? คงอีกไม่นานเกินรอ

จางเหลียงเดินผ่านลานหน้าไปยังห้องเล็กๆหลังบ้าน

จางหยวนเซิงได้ยินเสียงเคลื่อนไหว พอหันกลับมาก็เห็นว่าพ่อของเขาเดินเข้ามาแล้ว

“ท่านพ่อ”

“อืม”

ในตระกูลจางมีธรรมเนียมที่ดี มู่เถาเองก็ทุ่มเททุกอย่างเพื่อลูกทั้งสองของนาง

จางเหลียงเดินเข้าไปหาหลายก้าว หญิงสาวผู้ซึ่งใบหน้ายังคงงดงามแม้กาลเวลาจะผ่านไปนอนอย่างสงบอยู่บนเตียงหิน

มู่เถานอนอยู่แบบนี้มากว่าหนึ่งปีแล้ว

ไม่ได้ตาย...แต่ก็ไม่ได้มีชีวิต

เวลาที่ผ่านมาเป็นปีนี้ ล้วนเป็นจางเหลียงที่ดูแลนาง

นี่เป็นทั้งการแสดงความรับผิดชอบต่อเฉินโม่และเป็นการปลอบใจสุดท้ายของเขา

“เจ้าลำบากมาก”

“ท่านพ่อ แม่จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่?” จางหยวนเซิงและจางหยวนฉีไม่รู้ความจริง พวกเขาเพียงรู้ว่าแม่ของพวกเขาได้รับผลกระทบจากการฝึกวิชา

ความจริงที่โหดร้ายนี้ จางเหลียงไม่อาจบอกพวกเขาได้

“ใกล้แล้ว...ใกล้แล้วล่ะ”

“เราจะไปขอคำปรึกษาจากท่านเจ้าสำนักดีไหม? บางทีท่านอาจจะมีวิธีช่วยแม่ได้”

“วันนี้เขามาแล้ว และข้าก็บอกเขาไปแล้ว”

“จริงหรือ? แล้วท่านเจ้าสำนักมีวิธีช่วยแม่ไหม?” จางหยวนเซิงถามด้วยความตื่นเต้น

“น่าจะมี...”

บางครั้งคำโกหกไม่ทำร้ายคน แต่ความจริงต่างหากที่แสนเจ็บปวด

จางเหลียงไล่ลูกๆ ของเขาออกไป ก่อนจะนั่งลงเฝ้ามองมู่เถาอย่างสงบ

“เจ้าควรบอกข้าตั้งแต่แรก ท่านเจ้าสำนักจะเข้าใจเจ้า...”

(จบบท)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด