ตอนที่แล้วบทที่ 287-288
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 291-292

บทที่ 289-290


[แปลโดยฝีมือ...ยัก.ษา.แปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]

[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]

[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมานะครับ]

บทที่ 289 พบพานสหาย (III)

เหมิงฉีหน้าแดงก่ำ ถึงแม้จะมั่นใจว่านางมิได้ทำสิ่งใดที่น่าอาย แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะมิรู้จักอาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาที่ได้อยู่กับ 'หยุนชิงเหยียน' ในภาพมายา ครานั้น... ผู้คนมากมายก็เห็นเช่นกันหรือ? ความพยายามของนางที่มีต่อหยุนชิงเหยียน... คนอื่นก็รู้เห็นหมดแล้ว?

แก้มนวลแดงปลั่ง ขนตาแพยาวกระพริบปริบๆ ช่างน่าอายยิ่งนัก! คนมากมายเห็นนางเอ่ยปากอยากเป็นศิษย์หยุนชิงเหยียน แต่กลับถูกปฏิเสธ

ช่างน่าขายหน้า...

"เหมิงฉี?" ซือคงซิงกำลังจะเอ่ยต่อ แต่เห็นท่าทีแปลกไปของเหมิงฉี นางสะดุ้งเล็กน้อย หรือว่าตนเองพูดสิ่งใดผิดไป?

"มิ... มิมีสิ่งใด..." เหมิงฉีพูดตะกุกตะกัก

ซือคงซิงมิได้เชื่อ หน้าแดงขนาดนี้ ยังบอกว่ามิมีสิ่งใดอีกหรือ?!

ซือคงซิงหันไปมองซูจุนโม่และคนอื่นๆ อย่างฉงน "เหมิงฉีเป็นเช่นไรไป?"

"ไม่มีอะไรจริงๆ!" เหมิงฉีพึมพำ

ช่างเถิด! เมื่อคนอื่นล่วงรู้แล้ว นางก็มิอาจทำสิ่งใดได้! หยุนชิงเหยียนนั้นทรงพลัง อ่อนโยน วิเศษ ท่านชี้แนะนางด้วยความอดทน มิเคยเยาะเย้ยความคิดแปลกประหลาดของนาง นางมิเชื่อว่าเมื่อได้พบกับบุรุษที่แสนวิเศษเช่นหยุนชิงเหยียนแล้ว ผู้อื่นจะมิรู้สึกสิ่งใด มิมีความคิดเช่นเดียวกับนาง!

"เหมิงฉี..." บัดนี้ แม้แต่ซูจุนโม่ก็มองนางอย่างสงสัย "หรือว่าเจ้า..."

ฉู่เทียนเฟิงกับฉินซิวโม่สบตากัน ต่างก็เห็นความประหลาดใจในดวงตาของกันและกัน พวกเขาทั้งหมดต่างได้เห็นว่าเหมิงฉีกับจี๋อู๋จิ่วผู้นั้นเข้ากันได้ดีเพียงใด ณ ทะเลปราณมาร คนหนึ่งไม่ยอมจากไป ไม่เคยยอมแพ้ ส่วนอีกคนก็ทรงพลัง หยิ่งยโส แต่ปกป้องนางอย่างชัดเจน

ทั้งสองต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ใช้ชีวิตร่วมกัน ฝ่าฟันสถานการณ์เสี่ยงตายมาด้วยกัน มิมีสิ่งใดเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสองจริงหรือ?

ภายในเรือนสัตว์อสูร ณ แหวนมิติของเหมิงฉี แม้แต่เสี่ยวชียังหรี่ตาลงเล็กน้อย

เหมิงฉี... หน้าแดงหรือ?

มีเพียงเสวี่ยจินเหวินที่มองเหมิงฉีด้วยรอยยิ้ม ในความคิดของนาง เหมิงฉีเป็นผู้มีจิตใจมั่นคง ใช้ชีวิตอิสระ ถึงจี๋อู๋จิ่วจะเป็นบุรุษเย่อหยิ่ง กล้าหาญท้าทายสหพันธ์แพทย์ แล้วเช่นไรเล่า? เหมิงฉีจะชอบผู้ใดก็ย่อมได้

"มิใช่!" แม้พวงแก้มยังคงแดงระเรื่อ แต่นางก็ส่ายหน้ารัวๆ "ข้ามิเป็นอันใด!"

บัดนี้ แม้แต่ซือคงซิงก็รู้สึกว่าเหมิงฉีมีสิ่งใดผิดปกติ อย่างไรก็ตาม นางมิได้ซักถามต่อ "ภายหลัง พวกข้าได้เห็นเจ้ารักษาจี๋อู๋จิ่ว แล้วเขาก็ทำลายทะเลปราณมาร หลังจากนั้น เสียงของท่านหลินเหยียนก็ปรากฏขึ้น กล่าวว่านางต้องการรับเจ้าเป็นศิษย์ แต่เจ้าปฏิเสธ"

"ข้าเข้าใจแล้ว" ถึงแม้เหมิงฉีจะมิได้เสียใจกับการตัดสินใจของตนเอง แต่ก็ยังมีความเจ็บปวดแล่นริ้วในอก

"อ้อ จริงสิ!" ซือคงซิงกล่าวขึ้น "ก่อนที่จี๋อู๋จิ่วจะฟื้น ผู้บ่มเพาะวิชาแพทย์ในแวดวงแพทย์ต่างก็กังวลเรื่องความปลอดภัยของเจ้า พวกเขาต้องการช่วยเหลือเจ้า หลายคนพยายามส่งมนตร์คุ้มครองชีวิตให้เจ้า พวกเขากล่าวว่าตราบใดที่เจ้ายังกลับมาได้ แม้จะเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย พวกเขาก็จะใช้พลังทั้งหมดของสำนักเพื่อช่วยชีวิตเจ้า"

"ข้าเข้าใจแล้ว" เหมิงฉีตกตะลึง ความรู้สึกอบอุ่นหลั่งไหลเข้าสู่หัวใจ ถึงแม้จะมิได้เห็นด้วยตาตนเอง แต่นางก็สามารถจินตนาการถึงภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นได้

นางรู้ว่าคำพูดของจี๋อู๋จิ่วล้วนเป็นเรื่องไร้สาระ ผู้บ่มเพาะที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งวิชาแพทย์ส่วนใหญ่นั้นล้วนอ่อนโยน มีจิตใจเมตตา พวกเขาไม่มีวันปล่อยให้ผู้ใดตายไปโดยมิได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

เช่นเดียวกับท่านหลินเหยียน

เช่นเดียวกับท่านผู้อาวุโสเหยียนหมิงเฟิง

เช่นเดียวกับเหล่าผู้บ่มเพาะวิชาแพทย์เหล่านี้ ที่ไม่เคยรู้จักนางมาก่อน และบางทีอาจจะไม่มีโอกาสได้พบเจอกันอีกเลย

"ทุกคนเป็นห่วงเจ้ายิ่งนัก แม้แต่ซูจุนโม่ก็ยังอดมิได้ที่จะเข้าโจมตีพลังกั้นร่วมกับสหายทั้งสองของเจ้า..." ซือคงซิงชีคางไปทางฉู่เทียนเฟิงและฉินซิวโม่ "ยังมีพี่หญิงเสวี่ยและเจ้าสำนักเผ่ยแห่งตำหนักซิงหลัว... ทุกคนต่างก็พยายามทำลายพลังกั้นเพื่อช่วยเหลือเจ้า"

"ซิงซิง" เสวี่ยจินเหวินยิ้ม "เจ้าเป็นคนแรกที่พุ่งเข้าไป"

"อ่า ก็ข้ากลัวนี่นา!" ซือคงซิงส่ายหน้า "แล้วจี๋อู๋จิ่วก็ฟื้นขึ้นมา เจ้าทั้งสองก็ผ่านการทดสอบขั้นสุดท้ายไปได้อย่างปลอดภัย"

"ข้าเข้าใจแล้ว" เหมิงฉีพยักหน้า ความร้อนผ่าวบนใบหน้าจางหายไป นางมองผู้คนในลานเรือน เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดเอ่ยถึงหยุนชิงเหยียน เหมิงฉีก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

นางยื่นมือออกไปกอดซือคงซิง "ขอบใจเจ้ามาก ซิงซิง ขอบใจทุกคน"

ถึงแม้เหมิงฉีจะเพิ่งกลับมาจากการทดสอบสิบสองวัน พร้อมกับประสบการณ์เฉียดตายหลายครั้ง แต่นางกลับรู้สึกอบอุ่นใจ มิได้รู้สึกเหน็ดเหนื่อย

"อ้อ จริงสิ" ซือคงซิงผละออกจากอ้อมกอด "เหมิงฉี เจ้าสามารถรวมแก่นทองคำได้สำเร็จแล้วหรือไม่?"

"สำเร็จแล้ว" เหมิงฉีพยักหน้า เช็ดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริง "มิใช่เรื่องง่ายเลย! ข้าคิดว่าข้าคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปี!" นางกล่าวเสริม "ต่อไป ข้าจะมิฉุดรั้งพวกเจ้าอีก!"

"เพ้ยๆ!" ซือคงซิงร้อง "ฉุดรั้งอันใดกัน! เหมิงฉี เจ้าช่างยอดเยี่ยม เจ้ามิรู้หรือ? บอกให้เจ้ารู้ ผู้บ่มเพาะวิชาแพทย์ในแวดวงแพทย์ต่างตกตะลึงในตัวเจ้า! แม้แต่สหพันธ์เฟิงและสี่ตระกูลใหญ่ก็ยังมิกล้าเอ่ยสิ่งใด!"

"นั่นเป็นเพราะท่านหลินเหยียน" เหมิงฉีตอบ แม้ว่านางจะฝ่าฟันจนสำเร็จ แต่นางก็เป็นเพียงผู้บ่มเพาะแก่นทองคำ ถึงแม้ความสามารถในการป้องกันตนเองจะเพิ่มขึ้น แต่มันก็ยังมิเพียงพอ นางยังคงต้องบ่มเพาะต่อไป

"เหมิงฉี" ฉินซิวโม่เอ่ยถาม "เกิดสิ่งใดขึ้นหลังจากนั้น? หลังจากที่หลินเหยียนกล่าวว่าเจ้าสามารถเป็นสหายกับนางได้ พวกเราก็มิได้พบเจ้าอีกเลย"

"ข้ากับจี๋อู๋จิ่วเดินไปทางทิศบูรพา พบทางออก แล้วก็ออกจากพลังกั้น" เหมิงฉีมองฉินซิวโม่ "เจ้าบรรลุขั้นก่อกำเนิดวิญญาณแล้วหรือ?"

"ใช่" ฉินซิวโม่พยักหน้ารับ

เหมิงฉีมองบุรุษหนุ่ม ดวงเนตรคมกล้าของเขาดุจท้องฟ้ายามราตรี นางจำได้ว่าหลังจากที่ฉินซิวโม่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บในชาติที่แล้ว เขาก็เริ่มบ่มเพาะวิชาอย่างบ้าคลั่ง ไม่นาน ชื่อเสียง 'มารน้อย' ก็เลื่องลือไปทั่วสามภพ ภายหลัง เขากลับไปยังแดนทักษิณพร้อมกับกระบี่คู่ใจ แก้แค้นสหายทรยศ สังหารศัตรู และเข้าครอบครองทั้งสำนัก

ตามลำดับเวลาแล้ว ฉินซิวโม่มิควรบ่มเพาะวิชาอย่างเอาเป็นเอาตายในตอนนี้หรือ? เหตุใดจึงมีเวลาเดินทางมายังเมืองซิงหลัวได้?

ซือคงซิงเล่าว่าเขาร่วมมือกับคนอื่นๆ ช่วยเหลือนาง นางจะจดจำความเมตตานี้ไว้

เหมิงฉีครุ่นคิด บัดนี้นางมิได้ขาดแคลนหินวิญญาณ บางทีนางควรจะ...

บทที่ 290 พบพานสหาย (IV)

"เหมิงฉี" ฉู่เทียนเฟิงสนใจเรื่องอื่น "เจ้าบอกว่าจี๋อู๋จิ่วติดหนี้หินวิญญาณเจ้าด้วยหรือ"

เหมิงฉีสะดุ้ง ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง นางไม่คิดว่าพวกเขาจะเฝ้าดูทุกการกระทำของนางภายในพลังกั้นจริงๆ

"...ใช่" นางไม่ถนัดเรื่องโกหกยิ่งกว่านั้น การโกหกก็ไร้ประโยชน์

"เขาติดหนี้เจ้าเท่าใด" ฉู่เทียนเฟิงถามต่อ

ในบรรดาคนเหล่านี้ มีเพียงฉินซิวโม่เท่านั้นที่สามารถเดาได้ว่าคุณชายรองเจ้าสำนักผู้หยิ่งผยองผู้นี้กำลังคิดสิ่งใด เขายิ้มน้อยๆ กลับไปสู่ท่าทางเกียจคร้านเช่นเดิม เพื่อรอดูเหตุการณ์อันน่าตื่นเต้น

เหมิงฉีครุ่นคิด สีหน้าเรียบเฉย "สถานการณ์ในตอนนั้นคับขัน อันที่จริง ข้ามิได้จริงจัง" นางอธิบาย "อย่าใส่ใจเลย พวกท่านก็เห็นว่าจี๋อู๋จิ่วกับข้าร่วมรบกัน หากปราศจากเขา ตอนนี้ข้าอาจยังติดอยู่ในบททดสอบแรก ข้าแค่พูดเช่นนั้นเพื่อกระตุ้นให้เขาตื่น"

"พวกเรารู้!" ฉู่เทียนเฟิงขัดจังหวะ "แล้วเขาติดหนี้เจ้าเท่าใด"

ฉู่เทียนเฟิงเดาว่าเหมิงฉีน่าจะช่วยเหลือจี๋อู๋จิ่ว แล้วจึงเรียกเก็บค่ารักษา แม้ว่าเหมิงฉีจะบอกว่านางมิได้คิดถึงหนี้สิน เพราะพวกเขาร่วมรบกัน แต่ฉู่เทียนเฟิงก็ยังคงอยากรู้จำนวนที่แน่นอน

ฉินซิวโม่ยกยิ้ม "น่าจะราวๆ หินวิญญาณขั้นแปดหลายสิบก้อนกระมัง"

"...ก่อนจากกัน จี๋อู๋จิ่วได้มอบสัญญาเงินกู้จำนวนหนึ่งพันหินวิญญาณขั้นสูงสุดให้ข้า" ในที่สุดเหมิงฉีก็พึมพำ

ฉู่เทียนเฟิง "!!!"

ฉินซิวโม่ "..."

"เมื่อพบเขาอีกครั้ง ข้าจะคืนสัญญาเงินกู้นี้ให้เขา" เหมิงฉีกล่าว พลางยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจ "ข้ารู้สึกง่วงนอนแล้ว"

"เช่นนั้นก็กลับไปพักผ่อนเถิด" ซือคงซิงกล่าว นางดึงเหมิงฉีไปทางห้องนอน "เรื่องอื่นๆ ค่อยว่ากันเมื่อเจ้าตื่น ไปเถิด"

"อืม" เหมิงฉีหันมายิ้ม "ขอบใจที่เป็นห่วง ข้าขอตัวไปพักผ่อนก่อน"

...

หลังจากเหมิงฉีกลับเข้าห้อง นางก็ปิดประตู คลายความเมื่อยล้า แล้วจึงหยิบเรือนสัตว์อสูรออกมาจากแหวนมิติ "เสี่ยวชี" นางเรียก เมื่อเห็นลูกเสือขาวนอนเอกเขนกอยู่บนเตียง นางยื่นมือไปลูบหัวกลมๆ ของมัน

"อาการบาดเจ็บของเจ้า..." เหมิงฉีขมวดคิ้ว เหตุใดเสี่ยวชีจึงดูอ่อนแอลง? นางหลับตา ครู่ต่อมา ปลายนิ้วของนางก็เปล่งประกาย ขณะที่นางสัมผัสหน้าผากของมัน

"อ้า" เหมิงฉีร้องลั่น รีบดึงพลังที่ส่งเข้าไปในร่างกาย เสี่ยวชีกัดกลับมา เซถอยหลัง จ้องมองลูกเสือขาวด้วยความงุนงง

เมื่อครู่คือสิ่งใด? นางส่ายหน้า ดูเหมือนนางจะถูก...กัดโดยพลังอันแข็งแกร่ง ถึงแม้พลังนั้นจะมิได้ทำร้ายนาง แต่นางก็มิทันตั้งตัว ถูกผลักออกมา

นั่นคือสิ่งใดกัน!

เหมิงฉียืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จึงค่อยๆ เดินไปที่เตียง ลูกเสือขาวเอาคางเกยอุ้งเท้า หลับตาแน่น ไม่ยอมมองนาง

"เจ้า...เจ้าโกรธข้าหรือ" แม้จะอ่านสีหน้าจากใบหน้ากลมๆ ของมันไม่ออก แต่เหมิงฉีก็รู้สึกว่ามันดูเหมือนจะโกรธ

"เอ่อ..." เหมิงฉีเกาหัว "ขออภัย เสี่ยวชี ถึงแม้มิได้ตั้งใจ แต่ข้าก็กักขังเจ้าไว้ในเรือนสัตว์อสูรนานเกินไป"

ตอนที่นางติดอยู่ในพลังกั้น มีจี๋อู๋จิ่วอยู่ด้วยตลอด นางมิมีโอกาสปล่อยเสี่ยวชีออกมา โชคดีที่นางได้เปลี่ยนเรือนสัตว์อสูรเป็นระดับที่ดีกว่า หากมันอยู่ในแหวนมิติของนาง ก็จะไม่มีปัญหา

เหมิงฉีลูบหัวเสี่ยวชีเบาๆ "ข้าจะไม่ทำเช่นนั้นอีก"

"ครั้งนี้ นอกจากจะผ่านการทดสอบ ข้ายังได้พบกับผู้สูงส่งท่านหนึ่ง"

ยังคงเรียกว่า 'ผู้สูงส่ง' อีกหรือ

เหอะ-

ช่างเป็นเด็กสาวที่ดื้อรั้นเสียจริง

ถึงจะคิดเช่นนั้น แต่หยุนชิงเหยียนก็ยังลืมตาขึ้น เหลือบมองเหมิงฉี

เมื่อเหมิงฉีเริ่มพูดถึงหลินเหยียน ดวงตาของนางก็เป็นประกาย "นางเป็นผู้บ่มเพาะวิชาแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่เมื่อหมื่นปีก่อน! มีชื่อเสียงเลื่องลือ มิเพียงเป็นอัจฉริยะ แต่ยังเป็นคนใจบุญ มีพลังแข็งแกร่ง เป็นคนที่ดีมากๆ..."

"ดีมากๆ!" เหมิงฉีอุทาน ดูเหมือนจะตื่นเต้นจนพูดมิออก สุดท้ายก็วนเวียนอยู่กับคำพูดเดิมๆ

ครู่หนึ่ง เหมิงฉีจึงสงบลง นางจ้องมองไปในระยะไกล "ผู้สูงส่งผู้นั้นมอบบันทึกประสบการณ์ทั้งชีวิตใหข้า อย่างไรก็ตาม ขั้นการบ่มเพาะของข้ายังต่ำ อ่านได้ไม่กี่เล่ม แต่เสี่ยวชี..." นางจับอุ้งเท้าของลูกเสือขาว ดวงตาเป็นประกาย "ข้าคิดว่าข้าหาวิธีรักษาเจ้าได้จากบันทึกนี้!"

ในขณะนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง

"ใคร" เหมิงฉีปล่อยอุ้งเท้าเสี่ยวชี หันไปที่ประตู ถามเสียงดัง

"เหมิงฉี" เสียงทุ้มนุ่มเย็นชาของบุรุษดังมาจากภายนอก "ข้าเอง"

"เจ้าสำนักเผ่ย" เหมิงฉีตกใจ แต่นางก็รีบไปเปิดประตู นางมิต้องกังวลเรื่องเสี่ยวชี มันพรางตัวได้อย่างดี ทุกคนรู้เพียงว่านางเลี้ยงลูกเสือขาว แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นสัตว์อสูรจากสวรรค์

เผ่ยมู่เฟิงเป็นสุภาพบุรุษ หลังจากที่เหมิงฉีเปิดประตู เขาก็ละสายตาจากห้องนอน "ข้ากำลังจะออกเดินทางไปยังทะเลดารา" เขากล่าว "มีหลายสิ่งเกิดขึ้นกับเจ้า ข้าควรจะอยู่ต่อ...อย่างไรก็ตาม ทางเข้าสู่ทะเลดาราในแดนบูรพากำลังจะปิดตัวลง ครั้งต่อไปที่จะปรากฏคือสามเดือนข้างหน้า" เขาเว้นวรรค "ข้ามาเพื่อบอกลา เหมิงฉี ดูแลตัวเองด้วย"

เผ่ยมู่เฟิงคลี่ยิ้ม "พบกันใหม่ในอีกสิบปี เหมิงฉี หวังว่าเราจะร่ำสุราด้วยกัน ครานั้น จงดื่มให้เต็มที่ ผู้ใดมิเมา ห้ามกลับเรือน!"

กล่าวจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด