บทที่ 212 ผู้หญิงคนนี้ตาบอดหรือไง?
[แปลโดยฝีมือ...ยัก.ษา.แปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมานะครับ]
บทที่ 212 ผู้หญิงคนนี้ตาบอดหรือไง?
หลังจากวางสายโทรศัพท์ กู่เฉินหนานก็รีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างเร่งรีบ
เมื่อแต่งตัวเสร็จ เขาก็สังเกตเห็นซูเฉียนโม่ที่ถูกมัดมือมัดเท้าและยัดผ้าขนหนูไว้ในปากบนเตียง
ในตอนนี้ ซูเฉียนโม่ถูกกู่เฉินหนานมัดด้วยวิธีที่ดูวาบหวิว แถมยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!
ถ้าหากมีใครมาเห็นซูเฉียนโม่ในสภาพนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่า หลินเหมยจะคิดว่ากู่เฉินหนานลักพาตัวและข่มขืนซูเฉียนโม่แล้วแจ้งตำรวจหรือไม่
แค่ตัวกู่เฉินหนานเองก็คงอายจนอยากจะมุดแผ่นดินหนี
กู่เฉินหนานรีบแก้มัดเชือก แล้วดึงผ้าขนหนูออกจากปากของซูเฉียนโม่
ใบหน้าของซูเฉียนโม่แดงก่ำ เหงื่อไหลท่วมตัว ดวงตาก็ดูพร่ามัวเล็กน้อย
"เฉียนโม่ ตื่นเร็ว แม่ผมมาแล้ว"
"อืม~" ซูเฉียนโม่พยักหน้า พยายามดันตัวเองขึ้นจากท่าหมอบคลาน แต่กลับรู้สึกหมดแรง
เมื่อเห็นดังนั้นกู่เฉินหนานจึงรีบโน้มตัวลงไปพยุงซูเฉียนโม่ขึ้น แล้วคว้าเสื้อผ้ามาสวมให้
"คุณพักก่อนนะ ผมจะลงไปรับแม่ก่อน"
ซูเฉียนโม่พยักหน้า พึมพำเบา ๆ ว่า "ค่ะ~"
กู่เฉินหนานก้มลงจูบหน้าผากของซูเฉียนโม่เบา ๆ จากนั้นจึงไปจัดเสื้อผ้าหน้ากระจกในห้องน้ำ แล้วรีบลงไปชั้นล่าง
หน้าประตูใหญ่ของหมู่บ้าน...
หลินเหมยเห็นกู่เฉินหนานตั้งแต่ไกล ๆ สีหน้าของเธอก็พลันดีใจขึ้น ตั้งใจจะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของกู่เฉินหนาน แต่จู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นบึ้งตึง
"ทำไมแกถึงช้าแบบนี้ ติดเกมจนไม่สนใจแม่แล้วใช่ไหม รู้ไหมว่าของพวกนี้มันหนักแค่ไหน?"
พูดจบ หลินเหมยก็ชี้นิ้วไปที่กองอาหารและข้าวของเครื่องใช้ที่วางอยู่บนพื้น
"ผมก็มีธุระนี่ครับ"กู่เฉินหนานเกาหัวพลางยกของทั้งหมดขึ้นมา "งั้นผมขึ้นไปก่อนนะครับ"
หลินเหมย: ?
"แกไม่อยากเจอหน้าแม่ขนาดนั้นเลยเหรอ คิดว่าฉันมาส่งของให้แกเฉย ๆ งั้นสิ พอได้ของแล้วก็จะเผ่นเลย?" หลินเหมยขมวดคิ้ว
กู่เฉินหนานชะงัก "ไม่ใช่นะครับ แน่นอนว่าไม่ใช่ ผมกำลังจะเอาของขึ้นไปเก็บ แล้วค่อยพาคุณแม่ไปเดินเล่นไงครับ"
"หึ"
หลินเหมยปรายตามองกู่เฉินหนาน "ขึ้นไปพร้อมกัน ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก"
ตอนนี้ซูเฉียนโม่ยังอยู่ในอาการมึนงง ถ้าขึ้นไปตอนนี้ แล้วเผื่อเธอหายมึนไม่ทัน แล้วแม่มาเห็นจะทำยังไง?
"ไม่ ไม่ต้องหรอกมั้งครับ?"กู่เฉินหนานพูดอย่างลำบากใจ "มีอะไรก็พูดตรงนี้ก็ได้นี่ครับ"
"ได้ยังไง ให้คนแถวนี้มาฟังเรื่องราวอันรุ่งโรจน์ของแก ที่เอาแต่ขลุกอยู่แต่ในบ้านเล่นเกม ไม่หางานทำ ไม่หาแฟน?"
พูดจบ หลินเหมยก็ก้าวเท้าเดิน "แกจะขายหน้าก็เรื่องของแก แต่ฉันขายหน้าไม่ได้!"
"แต่..."
กู่เฉินหนานยังอยากจะขัด แต่กลับถูกสายตาของหลินเหมยหยุดไว้
เมื่อเห็นท่าทางแน่วแน่ของหลินเหมยที่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ต้องขึ้นห้องกู่เฉินหนานก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างจนใจ
หวังว่าเฉียนโม่จะแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนะ...
กู่เฉินหนานเดินตามหลินเหมยไป ทั้งสองคุยกันไปพลาง ๆ
"เรื่องเสี่ยวหลิว แกก็อย่าเก็บมาใส่ใจเลย เขามีรถ มีบ้าน มีงานดี ๆ จะมองแกไม่ติดก็ไม่แปลก"
"เพราะนี่ไม่ใช่นิยายหรือละครโทรทัศน์ ความรักบริสุทธิ์ในยุคนี้มันหายไปนานแล้ว ถ้าแกไม่มีเงิน ไม่มีฐานะ ก็ไม่มีใครอยากอยู่กับแกหรอก"
"เพราะงั้นแกต้องรีบหางานทำ อย่างน้อยเวลาคนอื่นถามขึ้นมา แกจะได้ตอบได้บ้าง"
หลินเหมยพูดด้วยความหวังดี
"ผมรู้ครับ"กู่เฉินหนานพยักหน้า
หลินเหมยยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะพูดต่อ "พอแกมีงานทำแล้ว ค่อยหาแฟนก็ยังไม่สาย หน้าตาแกเหมือนแม่ หล่อเหลาเอาการเชียวล่ะ!"
"โธ่ ๆ "กู่เฉินหนานแซว "นี่คุณแม่กำลังชมผมหรือชมตัวเองกันแน่เนี่ย?"
หลินเหมยถลึงตาใส่เขา ก่อนจะพูดต่อ "เอาจริงจังนะ แกอยากได้แฟนแบบไหน?"
กู่เฉินหนานชะงัก ขมวดคิ้ว "ผมบอกพ่อไปแล้วนี่ครับ ว่าผมมีแฟนแล้ว"
"หา?"
หลินเหมยไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด เมื่อวานกู่เฉินหนานยังไม่มีแฟน วันนี้จะมีได้ยังไง?
หลอกใครกัน?
ในตอนนั้นเอง ทั้งสองก็เดินขึ้นมาถึงหน้าห้องเช่าแล้ว
"ถึงแล้วครับ"
พูดจบกู่เฉินหนานก็ล้วงกุญแจออกมาไขประตู
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ของห้องเช่า
เสื้อโค้ทถูกโยนทิ้งไว้บนโซฟาอย่างไม่เป็นระเบียบ โต๊ะกลางเต็มไปด้วยขวดต่าง ๆ
"ดูห้องนี้สิ รกเหมือนรังหนูแบบนี้ ผู้หญิงที่ไหนเขาจะอยากอยู่กับแก" หลินเหมยต่อว่าทันที
แต่ในขณะนั้นเอง...
ประตูห้องนอนก็เปิดออก ซูเฉียนโม่ในชุดที่เรียบร้อยก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องนั่งเล่น
"สวัสดีค่ะ คุณป้า"
คำทักทายของซูเฉียนโม่ทำให้หลินเหมยชะงัก หันไปมองทันที สีหน้าเปลี่ยนจากสงสัยเป็นตกตะลึงในพริบตา
ไม่ต้องพูดถึงความงามและรูปร่างของซูเฉียนโม่ เอาเป็นว่าเธอเพอร์เฟกต์ไร้ที่ติก็แล้วกัน
หลินเหมยถึงกับอึ้ง ตาเบิกกว้าง มองซูเฉียนโม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
สวยเหลือเกิน สวยจริง ๆ
ใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติ รูปร่างที่โค้งเว้าได้สัดส่วน บวกกับออร่าคุณหนูของซูเฉียนโม่ ทำให้หลินเหมยถึงกับอึ้งไปหลายวินาที
หลังจากได้สติกลับคืนมา เธอก็รีบลุกขึ้นยืน "พรวด"
"สวัสดี สวัสดี"
หลินเหมยหันกลับมามองกู่เฉินหนานด้วยความสงสัย "เธอคือ?"
กู่เฉินหนานยังไม่ทันได้พูด ซูเฉียนโม่ก็พูดขึ้นก่อน "คุณป้าคะ ฉันคือคู่หมั้นของเฉินหนานค่ะ"
"คุ่..."
หลินเหมยอึ้งอีกครั้ง
อะไรคือคู่หมั้น?
พวกเธอหมั้นกันแล้วเหรอ?
แต่ทำไมฉันที่เป็นแม่ถึงไม่รู้เรื่อง?
กู่เฉินหนานรู้ทันทีว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงรีบพูดแก้ "แฟนครับ แฟน"
"แฟน?"
หัวใจของหลินเหมยเต้นตึกตัก
เธอเข้าไปใกล้มองกู่เฉินหนานแล้วถามเสียงเบา "แกบอกว่าผู้หญิงที่สวยราวกับนางฟ้าคนนี้เป็นแฟนแก? จริงหรือหลอก?"
กู่เฉินหนานถึงกับพูดไม่ออก ฉันจะไปหลอกเธอทำไม?
"แน่นอนว่าจริง ของแท้แน่นอน"
สีหน้าของหลินเหมยเปลี่ยนไปทันที เธอเดินเข้าไปจับแขนของซูเฉียนโม่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วดึงเธอลงมานั่งข้าง ๆ ท่ามกลางความประหลาดใจของซูเฉียนโม่
"หนู ๆ บอกป้าหน่อยสิ ว่าไอ้เฉินหนานบ้านเราใช้วิธีไหนจีบหนูติด? เขาขู่เข็ญหนูหรือเปล่า? หรือว่าหนูมีเรื่องอะไรยากจะบอก?"
"บอกป้ามาเลยนะ ถ้าเขาขู่หนู ป้าจะส่งเขาไปโรงพักเดี๋ยวนี้เลย!"
กู่เฉินหนานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับมุมปากกระตุก
โอ้โห ไม่ถามอะไรสักคำก็คิดว่าฉันใช้วิธีสกปรก ๆ จริง ๆ เลย แม่แท้ ๆ ...
ก็ไม่แปลกที่หลินเหมยจะคิดแบบนั้น เพราะหน้าตาของซูเฉียนโม่นั้นอยู่ในระดับท็อปสุด ๆ ในสายตาของหลินเหมยตอนนี้กู่เฉินหนานก็เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้ที่เอาแต่เล่นเกม
แต่เมื่อซูเฉียนโม่ได้ยินคำพูดของหลินเหมย เธอกลับหัวเราะออกมา "คุณป้าคะ เข้าใจผิดแล้วค่ะ หนูกับเฉินหนานรักกันเอง เขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับหนูเลยค่ะ"
"ดีแล้ว ดีแล้ว!" หินก้อนใหญ่ในใจหลินเหมยหล่นลงพื้น
ถ้าลูกชายตัวเองทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้น เธอคงอับอายขายขี้หน้าจริง ๆ
ในขณะที่หลินเหมยโล่งใจ ซูเฉียนโม่ก็เม้มปากพูดว่า "คุณป้าคะ จริง ๆ คุณป้ามีบางอย่างที่เข้าใจผิดอยู่นะคะ"
"หืม? เข้าใจผิดอะไรเหรอ?" หลินเหมยถาม
ซูเฉียนโม่มองไปที่กู่เฉินหนาน ดวงตาเต็มไปด้วยความรัก "จริง ๆ แล้วไม่ใช่เฉินหนานที่จีบหนูนะคะ แต่เป็นหนูที่จีบเขาค่ะ"
"หนูมีความสุขมากที่เขาตอบรับความรักของหนู"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเหมยก็เบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ สมองประมวลผลไม่ทัน
อะไรนะ?
ไม่ใช่เฉินหนานที่จีบผู้หญิงคนนี้ แต่เป็นผู้หญิงคนนี้ที่จีบเฉินหนาน?
ไม่ ไม่ใช่ ผู้หญิงคนนี้ตาบอดหรือไง?