กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 586 ตัดขาดกฎเกณฑ์มรรคาสวรรค์

กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 586 ตัดขาดกฎเกณฑ์มรรคาสวรรค์

“มีจริงด้วย” ภายในใจของหลิวชิงอวี่กล่าว

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

แม้ว่าระดับกึ่งจักรพรรดิเซียนจะยากที่จะก้าวเข้าไป แต่ในช่วงเวลาหลายปี ก็ยังคงมีผู้ที่สามารถบรรลุระดับนั้นได้หนึ่งหรือสองคน แต่จนถึงทุกวันนี้ ยมโลกได้ล่มสลายไปหลายปี แต่กลับไม่มีบุคคลระดับกึ่งจักรพรรดิเซียนปรากฏขึ้นแม้แต่คนเดียว

ดูอย่างไร ก็รู้สึกไม่สมเหตุสมผล

หากกล่าวว่าเบื้องหลังเรื่องราวนี้ ไม่มีเรื่องราวใด ๆ ที่ซ่อนอยู่ เขาก็ไม่เชื่อเช่นกัน

“ผู้อาวุโส ข้อมูลข่าวสารนี้มีค่าเท่าใด”

หลิวชิงอวี่เอ่ยถาม

เมื่อครู่ คำพูดของผู้อาวุโสมีความหมายชัดเจน เขาก็ไม่ใช่คนโง่เขลา ต้องการทราบข้อมูลข่าวสารเช่นนี้ จำเป็นต้องใช้สิ่งของที่มีค่ามาแลกเปลี่ยน

ส่วนทรัพยากรที่ต้องใช้ จะมากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์

“ไม่”

หลี่อวิ๋นยักไหล่ กล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “สมบัติเวทระดับราชันเซียนหนึ่งชิ้นก็เพียงพอ เพราะเรื่องราวนี้ มีหลายคนที่รู้”

“อืม?”

หลิวชิงอวี่ และเจ้าแห่งภูเขาเทียนหมางเลิกคิ้วขึ้น

พวกเขาทั้งสองได้เตรียมใจที่จะจ่ายในราคาสูงแล้ว

ไม่นึกเลยว่า สมบัติเวทระดับราชันเซียนหนึ่งชิ้น ก็สามารถแลกเปลี่ยนกับเรื่องราวที่น่าตกใจเช่นนี้ได้ ทำให้พวกเขาทั้งสอง รู้สึกตกใจอยู่ครู่หนึ่ง

ตามหลักการแล้ว

ข่าวสารลับเช่นนี้ ไม่ควรมีราคาเริ่มต้นที่สมบัติเวทระดับกึ่งจักรพรรดิเซียนหรอกหรือ?

หลังจากนั้น

พวกเขานึกถึงคำพูดของหลี่อวิ๋น ที่กล่าวว่าเรื่องราวนี้มีหลายคนที่รู้ จึงเริ่มเข้าใจ

ในมือของเจ้าแห่งภูเขาเทียนหมาง ปรากฏเจดีย์โบราณหนึ่งหลัง ส่งไปเบื้องหน้าหลี่อวิ๋น เอ่ยอย่างเคารพว่า “ขอให้ผู้อาวุโสไขข้อข้องใจ”

เจดีย์หลังนี้ มิใช่สิ่งอื่นใด มันคือสิ่งที่เขาได้รับมาจากตระกูลเซียว ตอนนี้นำมันออกมาแลกเปลี่ยนข่าวสาร นับว่าคุ้มค่า

หลี่อวิ๋นยื่นมือออกไปรับไว้ มองเจดีย์อย่างละเอียด หลังจากนั้นก็นำมันเก็บไว้

ข้างกาย หลิวชิงอวี่และเจ้าแห่งภูเขาเทียนหมาง รอคอยด้วยความร้อนใจ

ผ่านไปเนิ่นนาน หลี่อวิ๋นจึงเอ่ยขึ้น

“ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีใครสามารถบรรลุระดับกึ่งจักรพรรดิเซียนได้ เหตุผลนั้นง่ายมาก นั่นคือมีคนตัดขาดกฎเกณฑ์มรรคาสวรรค์บางส่วน ทำให้ทุกคนไม่อาจก้าวหน้าต่อไป”

“อะไรนะ?”

ได้ยินคำพูดนี้

หลิวชิงอวี่ และเจ้าแห่งภูเขาเทียนหมาง ต่างก็มองหน้ากัน ความคิดแรกที่ปรากฏขึ้นในใจของพวกเขา นั่นคือเป็นไปไม่ได้

กฎเกณฑ์มรรคาสวรรค์

มันคืออะไร?

มันคือรากฐานของโลกใบหนึ่ง หรือแม้แต่โลกนับไม่ถ้วน

เพียงแค่มนุษย์ กล่าวว่าจะตัดขาด ก็สามารถตัดขาดได้หรือ?

นี่มิใช่การล้อเล่นหรอกหรือ?

แต่นึกถึงเรื่องที่หลี่อวิ๋นคือเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ พวกเขาทั้งสองจึงอดกลั้นความประหลาดใจเอาไว้ รอคอยคำพูดต่อไปของหลี่อวิ๋น

พวกเขารู้ว่า ในเมื่อหลี่อวิ๋นกล่าวเช่นนั้น ย่อมต้องมีเหตุผล

“พูดให้ถูกต้องคือ บุคคลผู้นั้นตัดขาดเส้นทางของ พวกเจ้า เท่านั้น”

“นี่…”

หลิวชิงอวี่ไม่เข้าใจ เขามีสีหน้าสับสน ประสานมือ เอ่ยถามว่า “ผู้อาวุโส โปรดอธิบายให้กระจ่าง”

“การบำเพ็ญของพวกเจ้า เดินทางมาถึงทางตันแล้ว เพราะกฎเกณฑ์ฟ้าดินไม่อนุญาต เว้นเสียแต่ว่า จะมีคนสามารถเปิดเส้นทางการบำเพ็ญใหม่”

“มิเช่นนั้น จะไม่มีใครสามารถบรรลุระดับกึ่งจักรพรรดิเซียน หรือระดับจักรพรรดิเซียนได้”

“ในอดีต มีหลายคนที่รับรู้ถึงเรื่องนี้ พวกเขาต้องการแก้ไขเส้นทางการบำเพ็ญ แต่กฎเกณฑ์ฟ้าดินได้ถูกทำลายไปบางส่วน มิใช่มนุษย์ที่จะสามารถแก้ไขได้”

หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างเชื่องช้า

คำพูดทุกคำของเขา ราวกับสายฟ้าฟาด ทำให้พวกเขาทั้งสอง รู้สึกตกใจ ภายในใจปั่นป่วนอยู่เนิ่นนาน

การบำเพ็ญมาถึงทางตันแล้วหรือ?

จะทำเช่นไรดี?

คำพูดของผู้อาวุโสมีความหมายชัดเจนยิ่งนัก นั่นคือในระบบการบำเพ็ญปัจจุบัน ไม่ว่าวิชาเวทที่เจ้าฝึกฝน จะลึกลับซับซ้อนเพียงใด หากยังคงอยู่ในระบบการบำเพ็ญเดิม

ก็จะไม่มีใครสามารถบรรลุระดับกึ่งจักรพรรดิเซียนได้

เว้นเสียแต่ว่า จะมีคนสามารถสร้างระบบการบำเพ็ญใหม่ขึ้นมา

แต่บุคคลเช่นนั้น หนึ่งยุคสมัย อาจจะไม่มีแม้แต่คนเดียว รอจนกระทั่งระบบการบำเพ็ญใหม่ปรากฏขึ้น ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเพียงใด

“ผู้อาวุโสหมายความว่า หากพวกข้าต้องการบรรลุระดับกึ่งจักรพรรดิเซียน ต้องสร้างระบบการบำเพ็ญใหม่ขึ้นมา?”

เจ้าแห่งภูเขาเทียนหมางกล่าวด้วยน้ำเสียงขมขื่น

การสร้างวิชาเวทใหม่ สำหรับเขาแล้ว มิใช่เรื่องยาก ด้วยพลังอำนาจระดับราชันเซียนของเขา เพียงแค่คิด ก็สามารถสร้างวิชาเวทระดับสูงขึ้นมาได้

คิดแบบส่ง ๆ ก็เป็นวิชาเวทที่สามารถทำให้คนอื่นบรรลุระดับจักรพรรดิได้

นี่คือข้อดีของการมีพลังอำนาจสูงส่ง การสร้างวิชาเวท สำหรับเขาแล้ว ไม่ต่างอะไรกับการกินข้าวดื่มน้ำ

แต่การสร้างระบบการบำเพ็ญใหม่

นั่นมิใช่เรื่องง่าย

เขาในตอนนี้ เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของระบบการบำเพ็ญนี้แล้ว สายตาของเขาถูกจำกัด หากต้องการสร้างระบบการบำเพ็ญใหม่ เดินทางไปในเส้นทางของตนเอง นับว่ายากยิ่งกว่าปีนขึ้นฟ้า

กล่าวได้ว่า พลังอำนาจยิ่งสูงส่ง ก็ยิ่งถูกจำกัดโดยระบบการบำเพ็ญปัจจุบัน

เช่นเดียวกับเขา ที่เป็นถึงราชันเซียน สามารถคาดเดาได้ว่าชีวิตนี้ คงไม่มีทางที่จะก้าวหน้าขึ้นไปอีก

“ผู้อาวุโส ใครกันที่ตัดขาดเส้นทางการบำเพ็ญของพวกเรา”

หลิวชิงอวี่ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

สีหน้าของเขาดูไม่ดี อารมณ์แปรปรวน หากไม่รู้เรื่องนี้ ก็คงไม่เป็นไร แต่ในเมื่อเขารู้แล้ว เขาก็อยากจะขุดหลุมฝังศพของบุคคลผู้นั้น

นี่มิใช่การหลอกลวงหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้น ยังหลอกลวงคนมากมายนับไม่ถ้วน เห็นได้ชัดว่า ในอนาคต หากไม่มีผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าปรากฏขึ้น ทุกคนก็จะถูกจำกัด

ในสายตาของเขา บุคคลที่สามารถทำเช่นนี้ได้ ย่อมต้องมีพลังอำนาจและแรงจูงใจ

คาดว่า…จะเป็นเจ้าแห่งยมโลกคนนั้นกระมัง