ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 320 ภูเขาหลิงซานแห่งนิกายพุทธ
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 320 ภูเขาหลิงซานแห่งนิกายพุทธ
จี๋อวิ๋นอดตื่นเต้นมิได้
แท้จริงแล้ว สถานที่แห่งนี้ คือ ภูเขาหลิงซาน ที่เขารอคอยมาโดยตลอด!
ตั้งแต่ครั้งที่เขาอยู่โลกเบื้องล่าง เขาก็เฝ้าคิดถึงสถานที่แห่งนี้
บัดนี้ ความปรารถนาของเขาก็เป็นจริง
และหลังจากวังสวรรค์ จี๋อวิ๋นก็ได้รับฐานที่มั่นของขุมอำนาจโลกเทพนิยายแห่งที่สอง!
ครู่ต่อมา
จี๋อวิ๋นเก็บซ่อนความตื่นเต้นในดวงตา จ้องมองไปยังภูเขาหลิงซานภายในกลุ่มแสงอย่างพินิจพิเคราะห์
ก่อนหน้านี้เขามองเพียงผิวเผิน บัดนี้เมื่อมองอย่างละเอียด จึงพบว่าภูเขาหลิงซานเป็นเพียงภูเขาหลัก
โดยรอบยังมีภูเขาสูงอีกหลายลูก งดงามไม่แพ้กัน มีน้ำตกไหลริน มีแสงพุทธดุจดั่งทะเล
ทำให้ภูเขาหลิงซานที่อยู่ใจกลางดูศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นภูเขาโบราณโดยรอบ หรือภูเขาหลัก
บนนั้น ล้วนมีวัดโบราณที่ยิ่งใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่
สิ่งที่ทำให้จี๋อวิ๋นสนใจมากที่สุด แน่นอนว่าคือสิ่งที่อยู่บนยอดเขาหลิงซาน
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในสายตาของสมาชิกนิกายพุทธทั้งหมด สถานที่สูงส่ง ไร้ผู้ต่อต้าน… วัดต้าลุ่ยอิม!
กล่าวได้ว่า เมื่อเทียบกับวัดโบราณแห่งอื่น ๆ วัดต้าลุ่ยอิมแห่งนี้ มีพลังอำนาจที่น่ากลัวยิ่งนัก
เรียบง่าย กว้างขวาง ยิ่งใหญ่มาก ราวกับสรวงสวรรค์อมตะตั้งตระหง่านอยู่ ณ ที่แห่งนั้น
ราวกับเป็นศูนย์กลางของหมื่นโลกา ระหว่างฟ้าดิน ภายในจักรวาล นอกจากสถานที่แห่งนี้แล้ว ไม่มีสิ่งใดเทียบเคียงได้!
"สมกับที่เป็นสิ่งก่อสร้างที่แข็งแกร่งที่สุดของภูเขาหลิงซาน พลังอำนาจเช่นนี้… ยอดเยี่ยม"
จี๋อวิ๋นมองเพียงแวบเดียว ก็มิอาจละสายตาได้
ในระดับหนึ่ง วัดต้าลุ่ยอิมแห่งนี้ ดูเหมือนจะเหนือกว่าพระราชวังล่องนภาของวังสวรรค์
เพราะวัดต้าลุ่ยอิมแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยสองอริยะ จวินถี และเจี๋ยหยิน
ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่บำเพ็ญเพียรของพวกเขา
สถานที่บำเพ็ญเพียรของอริยะ เป็นสิ่งที่สูงส่งและมีค่าอย่างยิ่ง
แม้ว่าจวินถี และเจี๋ยหยินจะไม่ได้ใส่ใจมากนัก ด้อยกว่าตำหนักทัศนาจรมรกตของนิกายเจี๋ย และตำหนักหยกสุญตาของนิกายฉ่าน
แต่ก็ยังคงเหนือกว่าพระราชวังล่องนภา หรือกระทั่งวังสวรรค์ทั้งหมด
ต้องรู้ว่า อริยะนั้นเป็นอมตะ ไร้ผู้ต่อต้าน สูงส่งเหนือสามภพ
สิ่งใดก็ตามที่ผ่านมือของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นหญ้า หรือต้นไม้ ล้วนสามารถกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้
ดังนั้น วัดต้าลุ่ยอิมแห่งนี้ จึงมิใช่สถานที่ธรรมดาสามัญ
"ไม่เลวจริง ๆ เช่นนี้แล้ว รูปแบบของนิกายพุทธก็เริ่มชัดเจน"
จี๋อวิ๋นตื่นเต้นอย่างยิ่ง
ส่วนวิธีการเปิดเผยต่อสายตาของสรรพชีวิตนั้น เขาวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
ก่อนหน้านี้ ตอนที่เขาอยู่โลกเบื้องล่าง เคยสกัดหุ่นเชิดพระพุทธเจ้าบัณฑูรอาภาผาสุกออกมา
บุคคลผู้นี้มีนามเดิมว่า เซียนบัณฑูรอาภาหูยาว เป็นคนทรยศของนิกายเจี๋ย
พอดี ตอนนี้เขามีหุ่นเชิดเทวีจินหลิง
ดังนั้น เขาจึงวางแผนที่จะให้หุ่นเชิดเทวีจินหลิง บุกโจมตีนิกายพุทธที่ภูเขาหลิงซาน และให้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน
เช่นนี้ ข่าวสารก็จะแผ่กระจายออกไปเอง
ยิ่งไปกว่านั้น วิธีการนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ภูเขาหลิงซานปรากฏตัวต่อหน้าสรรพชีวิต แต่ยังทำให้เป็นที่รู้จักในฐานะขุมอำนาจจากยุคอมตะ
นับว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว
"อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่รีบร้อน"
จี๋อวิ๋นกล่าวกับตัวเองในใจ สิ่งสำคัญในตอนนี้ คือการปราบปรามโลกมาร เพื่อให้ได้รับแต้มต้นกำเนิดมรรคมากขึ้น
ส่วนเรื่องการโอ้อวด ต้องรอสักพัก
จากนั้น จี๋อวิ๋นมองดูสิ่งของที่เหลืออยู่ พบว่าไม่มีสิ่งใดน่าสนใจ จึงไม่สนใจ
ชั่วขณะถัดมา เขาหายตัวไปจากที่เดิม
ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนยอดเขาทางตะวันตก
สถานที่แห่งนี้คือดินแดนของนิกายพุทธ ตั้งอยู่มุมหนึ่งของโลกวิญญาณ
จี๋อวิ๋นก้าวเท้าเบา ๆ เดินทางเข้าไปในห้วงมิติ
จากนั้น ภายใต้การปกคลุมของม้วนภาพขุนเขาและท้องทะเล เขาจึงอัญเชิญภูเขาหลิงซานออกมา
“ตู้ม!”
ทันใดนั้น กลิ่นอายอันน่ากลัวยิ่งนักก็แผ่กระจายออกมา
ราวกับเทพนิยายปรากฏตัวขึ้น มีเสียงสวดมนต์ดังก้องกังวาน
ราวกับว่าพระโพธิสัตว์และพระพุทธเจ้ามากมาย กำลังสวดมนต์
พร้อมกันนั้น แสงพุทธมากมายแผ่ซ่านออกไป ฟ้าดินสว่างไสว ส่องสว่างทั่วทั้งความมืดมิด
ครู่ต่อมา ภูเขาหลิงซานก็ปรากฏตัวขึ้น
ตั้งตระหง่านอยู่ ณ ที่แห่งนั้น สูงเสียดฟ้า ปราบปรามสิบทิศ มีเพียงสถานที่แห่งนี้เท่านั้นที่เป็นอมตะ!
"สมบูรณ์แบบ"
จี๋อวิ๋นมองดูอย่างพินิจพิเคราะห์ พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
"หากมีชมพูทวีป ก็คงจะดี"
ชมพูทวีป เป็นฐานที่มั่นของนิกายพุทธในไซอิ๋ว
หากนำทั้งสองสิ่งมารวมกัน จี๋อวิ๋นคงจะเรียกว่า ไร้ผู้ต่อต้าน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาทำได้เพียงคิด
จากนั้น จิตสำนึกของจี๋อวิ๋นก็ปรากฏตัวขึ้นในสามสถานที่ นั่นก็คือ นิกายพุทธ ยมโลก และวังอสูร
เขานำผลพลัมเหลืองถิ่นกลางที่ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน และสมบัติวิญญาณแต่กำเนิดสามชิ้น มอบให้กับเซียวลั่วหลี เหยาหรูอวี้ และเจียงหยู่ซี ตามลำดับ
หลังจากสั่งให้พวกนางบำเพ็ญเพียร เขาก็เรียกจิตสำนึกกลับมา
หากกู้ชิงเฟิงเห็นภาพนี้ คงจะรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง
พวกเขาต่างก็เป็นเครื่องมือ แต่กลับมีเพียงเขาเท่านั้นที่ไม่ได้รับสิ่งใด!
น่าเศร้าใจจริง ๆ!
ในเวลาเดียวกัน ณ วังสวรรค์ ภายในศาลาแห่งหนึ่ง
ชายชุดขาวยังคงเล่นหมากล้อมกับราชันเซียนกลไกสวรรค์
“ไม่คิดเลยว่าราชันเซียนชื่อหยวน หนึ่งในคนสำคัญของเผ่ามนุษย์สวรรค์ในอดีต จะเข้าร่วมกับวังสวรรค์แล้ว”
ทันใดนั้น ราชันเซียนกลไกสวรรค์ก็กล่าวขึ้น
ชายชุดขาวมิได้รู้สึกตกใจที่ชื่อของเขาถูกเปิดเผย
เขาเพียงถอนหายใจเบา ๆ “ราชันเซียนชื่อหยวนตายไปนานแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ เป็นเพียงดวงวิญญาณที่แสวงหาประวัติศาสตร์เท่านั้น”
“ตอนนี้ ประวัติศาสตร์โบราณได้ปรากฏตัวขึ้น ข้ามิได้มีสิ่งใดต้องการอีกต่อไป”
ราชันเซียนกลไกสวรรค์ฝั่งตรงข้ามก็กล่าวเช่นกัน
“ใช่ ใครกันจะคาดคิดว่า ช่วงเวลาที่หายไปในประวัติศาสตร์ จะยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้”
“วังสวรรค์ นิกายพุทธ ยมโลก สามเผ่ามังกร หงส์ กิเลน”
“รวมไปถึงนิกายเจี๋ย ช่างน่าสนใจยิ่งนัก”
เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชุดขาวราชันเซียนชื่อหยวนกำลังจะเอ่ยวาจา
ทันใดนั้น เสียงอันสงบนิ่งก็ดังขึ้น ไร้ซึ่งสัญญาณเตือนใด ๆ
“นิกายเจี๋ยหรือ? เป็นเพียงกลุ่มคนโง่เขลาเท่านั้น มีสิ่งใดน่าสนใจ”
คำพูดที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ราชันเซียนชื่อหยวนและราชันเซียนกลไกสวรรค์มีสีหน้าเปลี่ยนไป
พวกเขามองไปยังทิศทางนั้น ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ
เห็นเพียงนักพรตชุดขาวคนหนึ่ง ปรากฏตัวขึ้นไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด
ใบหน้าของเขาดูสง่างาม ร่างกายสูงสง่า ดูเหมือนจะเป็นเพียงคนธรรมดา
แต่ดวงตาทั้งสองข้าง กลับดูลึกลับ ไม่อาจหยั่งถึง
ราชันเซียนชื่อหยวนและราชันเซียนกลไกสวรรค์มองดู รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังถูกดูดเข้าไป
แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ยังคงมิอาจต้านทานได้!
ยอดฝีมือ แน่นอนว่าเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง!
ไม่จำเป็นต้องเตือน ราชันเซียนชื่อหยวนและราชันเซียนกลไกสวรรค์ก็รู้ดี
นักพรตชุดขาวผู้นี้ มีพลังรบที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง!
และสิ่งที่ทำให้พวกเขาสนใจยิ่งกว่า ก็คือ คำพูดของนักพรตชุดขาวผู้นี้
ภายในคำพูดนั้น เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามนิกายเจี๋ย!
แม้ว่าราชันเซียนทั้งสองจะไม่รู้ว่านิกายเจี๋ยแข็งแกร่งเพียงใด แต่ในเมื่อวังสวรรค์ให้ความสำคัญ ย่อมต้องเป็นขุมอำนาจที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม นักพรตชุดขาวผู้นี้ กลับดูถูกเหยียดหยามนิกายเจี๋ย ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง
“ขออภัย ไม่ทราบว่าสหายเต๋าคือ……”
ทันใดนั้น ราชันเซียนกลไกสวรรค์ก็ลุกขึ้น ประสานมือ เอ่ยถาม
นักพรตชุดขาวมองเขาเพียงแวบเดียว กล่าวเพียงสี่คำ
“นิกายฉ่าน หยู่ติ่ง”