บทที่ 25 ตำแหน่งสิบที่
บทที่ 25 ตำแหน่งสิบที่
สิ้นเสียง ชายหนุ่มในชุดสีม่วง ร่างผอม มีสีหน้ามืดครึ้ม ก็เดินมาหาหลินอวี่
เขามีสีหน้าเย็นชา มองหลินอวี่ด้วยสายตาดูถูก หัวเราะเยาะ พูดว่า “หลินอวี่ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าใช้วิธีไหน ถึงได้ตำแหน่งเข้าหอคอยกระบี่ แต่ข้าจะบอกเจ้าให้รู้ ด้วยพลังระดับเสียนเทียนของเจ้า แม้ว่าจะเข้าหอคอยกระบี่ได้ มันก็แค่เสียเวลาเปล่า!”
“หืม?”
ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มชุดม่วง หลินอวี่ก็ขมวดคิ้ว
“ฮ่าๆๆ หลินอวี่ ไม่ต้องสนใจมัน!”
แต่ยังไม่ทันที่หลินอวี่จะพูด ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น จากนั้น ชายหนุ่มผมดำในชุดดำ มีกลิ่นอายที่รุนแรง ก็ปรากฏตัวต่อหน้าหลินอวี่
“หูเหยียนจ้าน?”
เห็นชายหนุ่มชุดดำ หลินอวี่ก็ตกตะลึง
ชายหนุ่มชุดดำตรงหน้าเป็นคนที่เขารู้จัก เขาคือหูเหยียนจ้าน ผู้แข็งแกร่งอันดับเก้าในศิษย์สายใน ตอนที่แย่งชิงผลหยวนโลหิต เขาเคยช่วยหลินอวี่ ถือว่ารู้จักกัน
“หลินอวี่ ตอนที่อยู่ภูเขาเฉินอู้ ข้าก็รู้สึกว่าเจ้ามีศักยภาพมาก ในอนาคตเจ้าอาจจะกลายเป็นบุคคลสำคัญ แต่ข้าไม่คิดว่า จะได้เจอเจ้าที่หน้าหอคอยกระบี่!”
กลิ่นอายของหูเหยียนจ้านดูเย็นชา แต่เมื่อเห็นหลินอวี่ เขากลับยิ้ม และพูดว่า “ข้าได้ยินเรื่องที่เจ้าเอาชนะหลานเต้าเซิง ไม่เลว ไม่เลวจริงๆ”
“ฮึ่ม!”
ได้ยินคำพูดของหูเหยียนจ้าน สีหน้าของชายหนุ่มชุดม่วงก็มืดครึ้ม แค่นเสียงอย่างเย็นชา พูดว่า “หูเหยียนจ้าน เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? หรือว่าเจ้าจะปกป้องไอ้เด็กนี่?”
“ถูกต้อง”
หูเหยียนจ้านมองชายหนุ่มชุดม่วง มีท่าทางเย็นชา พูดอย่างแผ่วเบาว่า “ลู่เฉินหมิง ข้ารู้ว่าหลินอวี่แย่งตำแหน่งของน้องชายเจ้า และทำให้เจ้าไม่พอใจ แต่หลินอวี่เป็นสหายของข้า หูเหยียนจ้าน! ตราบใดที่ข้าอยู่ที่นี่ เจ้าก็อย่าได้หมายทำร้ายเขา”
พูดจบ เขาก็ไม่สนใจสีหน้าที่น่าเกลียดของชายหนุ่มชุดม่วง มองหลินอวี่ ยิ้มพูดว่า “แน่นอน หลินอวี่ เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องลู่เฉินหมิง พลังของมัน เป็นแค่ระดับต่ำสุดในบรรดาพวกเราสิบคนที่เข้าหอคอยกระบี่”
“สิบคน?”
หลินอวี่มองไปทางหอคอยกระบี่ตามสายตาของหูเหยียนจ้าน
ที่ประตูหอคอยกระบี่ มีคนอยู่เจ็ดคน สี่คนกำลังหลับตา ไม่สนใจหลินอวี่ ส่วนอีกสองคน กลับมองมายังหลินอวี่ด้วยความสนใจ พร้อมกับมีสีหน้าสงสัย ส่วนชายหนุ่มในชุดสีเขียว มีกลิ่นอายสง่างาม เขากลับมองหลินอวี่อย่างเฉยเมย บางครั้งก็มีแสงเย็นชาพุ่งออกมาจากดวงตาของเขา
“หลินอวี่ คนที่ใส่ชุดสีเขียว เจ้าเคยมีเรื่องกับเขา”
เสียงของหูเหยียนจ้านดังขึ้น “เขาชื่อหลิวเฉียนชิ่ง หลานเต้าเซิงที่เจ้าสังหาร เป็นผู้ติดตามคนเดียวของเขาที่ติดรายนามเสวียนเจี้ยน ถ้ามีโอกาส เขาจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”
“เขาเองสินะ?”
หลินอวี่พยักหน้า ระมัดระวังในใจ
หลิวเฉียนชิ่งผู้นี้ เป็นถึงผู้แข็งแกร่งอันดับที่สิบเจ็ดในศิษย์สายใน พลังของเขาไม่ธรรมดา แม้แต่ในขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด เขาก็เป็นถึงระดับแนวหน้า
ไม่เพียงแต่หลิวเฉียนชิ่ง ชายหนุ่มชุดม่วงที่ชื่อลู่เฉินหมิง ก็ไม่ใช่คนใจดีเช่นกัน
ลู่เฉินหมิง อยู่ในอันดับที่ยี่สิบสามของศิษย์สายใน มีพลังถึงขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด ไม่เพียงเท่านั้น เขายังครอบครองเจตจำนงกระบี่สี่ส่วน พลังของเขาไม่ด้อยไปกว่าหลิวเฉียนชิ่ง
“ว่าแต่ พี่ชายหูเหยียน ข้าเพิ่งเข้าสู่ศิษย์สายในได้ไม่นาน ยังไม่ค่อยรู้อะไร หอคอยกระบี่นี้ มันคืออะไร?”
หลินอวี่ถามหูเหยียนจ้าน
“หืม?”
หูเหยียนจ้านตกตะลึง “เจ้าได้รับตำแหน่งเข้าหอคอยกระบี่ แต่กลับไม่รู้ว่าหอคอยกระบี่คืออะไรเนี้ยนะ?”
หูเหยียนจ้านส่ายหน้า พูดอย่างจนใจ “ช่างเถอะ หลินอวี่ ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง เหตุผลที่หุบเขาเสวียนเจี้ยนของเรา สามารถกลายเป็นกองกำลังอันดับสองในแคว้นว่านหลิงได้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะหอคอยกระบี่นี้!”
“หอคอยกระบี่นี้ มีทั้งหมดเก้าชั้น เป็นตัวแทนของโลกเก้าใบ ในแต่ละโลก ล้วนเต็มไปด้วยหุ่นเชิดเซียนกระบี่ หุ่นเชิดเซียนกระบี่เหล่านี้ ล้วนมีขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด สิ่งที่แตกต่างคือ หุ่นเชิดในชั้นแรก ครอบครองเจตจำนงกระบี่หนึ่งส่วน ส่วนในชั้นที่สอง หุ่นเชิดเซียนกระบี่ครอบครองเจตจำนงกระบี่สองส่วน ส่วนหุ่นเชิดในชั้นที่สาม ครอบครองเจตจำนงกระบี่สามส่วน ไล่ไปเรื่อยๆ หุ่นเชิดเซียนกระบี่ในชั้นที่เก้า ครอบครองเจตจำนงกระบี่เก้าส่วน!”
“พลังของหุ่นเชิดเซียนกระบี่เหล่านี้แข็งแกร่งมาก แต่ถ้าสามารถสังหารพวกมันได้ ก็จะได้รับพลังลึกลับ การหล่อเลี้ยงนี้ สามารถเสริมสร้างเจตจำนงกระบี่ของตนเองได้โดยตรง! นอกจากนี้ ในหอคอยกระบี่ ยังมีสมุนไพรเจตจำนงกระบี่ ทุกครั้งที่กินสมุนไพรเจตจำนงกระบี่ ก็สามารถเสริมสร้างเจตจำนงกระบี่ของตัวเองได้”
“อะไรนะ?”
บนใบหน้าของหลินอวี่ มีสีหน้าตกใจปรากฏขึ้น ได้ยินแบบนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าการที่สามารถเข้าหอคอยกระบี่ได้ มันเป็นโอกาสที่ไม่ธรรมดา!
สังหารหุ่นเชิดเซียนกระบี่ กินสมุนไพรเจตจำนงกระบี่ ก็สามารถเสริมสร้างเจตจำนงกระบี่ของตัวเองได้โดยตรง วิธีการแบบนี้ ในยุคมืด มันเป็นเรื่องที่จินตนาการไม่ออกจริงๆ!
“หลินอวี่ เจ้าอย่าเพิ่งดีใจ”
เห็นสีหน้าดีใจของหลินอวี่ หูเหยียนจ้านก็ส่ายหน้า พูดว่า “เจ้ารู้หรือไม่? โดยทั่วไปแล้ว คนที่สามารถเข้าหอคอยกระบี่ได้ ล้วนเป็นผู้ที่ถึงขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด และยังเป็นบุคคลสำคัญ เจ้ารู้ไหมว่าทำไม?”
“ไม่รู้”
หลินอวี่ส่ายหน้า เขารู้อะไรเกี่ยวกับหอคอยกระบี่นี้บ้างล่ะ? แม้แต่เรื่องที่ว่าทำไมเขาถึงได้ตำแหน่งนี้ เขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน
“เพราะคนที่เข้าหอคอยกระบี่ ไม่ว่าพลังจะแข็งแกร่งแค่ไหน พลังที่สามารถควบคุมได้ ล้วนเป็นขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด!”
หูเหยียนจ้านพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเจินหยวนขั้นสูงสุด พวกเขาอยู่ในขอบเขตนี้ ย่อมสามารถใช้พลังของขอบเขตนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่พลังของเจ้า เป็นแค่ขอบเขตเสียนเทียนขั้นปลาย ยากที่จะควบคุมพลังของขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด ในเรื่องนี้ เจ้าจะเสียเปรียบมาก”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
หลินอวี่พยักหน้า แต่ในใจกลับยิ้มออกมา
พลังขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด?
ในชาติที่แล้ว เขาเป็นถึงผู้ที่อยู่ขอบเขตราชันย์ การควบคุมพลังขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด มันยากสำหรับเขาหรือไง?
แน่นอน หลินอวี่จะไม่พูดเรื่องนี้ออกมา
ในการพูดคุยกับหูเหยียนจ้าน เขาก็รู้จักคนทั้งสิบที่จะเข้าหอคอยกระบี่ในครั้งนี้
พลังของหูเหยียนจ้านแข็งแกร่งมากจริงๆ แต่ในบรรดาคนทั้งสิบ เขายังไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุด คนที่แข็งแกร่งที่สุด คือชายหนุ่มผมสั้นในชุดสีเหลือง ชื่อเจียงหลิวกวง เป็นถึงผู้แข็งแกร่งอันดับที่เจ็ดในศิษย์สายใน
นอกจากนี้ ยังมีอีกสองคน คนหนึ่งคือผู้แข็งแกร่งอันดับที่สิบในศิษย์สายใน อีกคนคือผู้แข็งแกร่งอันดับที่สิบเอ็ดในศิษย์สายใน พลังของพวกเขาไม่ด้อยไปกว่าหูเหยียนจ้าน
ส่วนหลิวเฉียนชิ่ง อยู่ในอันดับที่หกในบรรดาคนทั้งสิบ พลังของเขาอยู่ในระดับกลางๆ ส่วนชายหนุ่มชุดม่วง ลู่เฉินหมิง อยู่ในอันดับที่แปด เกือบจะเป็นอันดับต่ำสุดในบรรดาคนทั้งสิบ
ส่วนสาเหตุที่ลู่เฉินหมิงแสดงท่าทีเป็นศัตรูกับหลินอวี่ตั้งแต่แรก มันก็ง่ายมาก เดิมที ตำแหน่งนี้เป็นของน้องชายเขา ลู่เฉินคง แต่ในช่วงเวลาสุดท้าย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร มันกลับถูกหลินอวี่แย่งไป
การแย่งชิงตำแหน่ง และตัดโอกาสของผู้อื่น สำหรับผู้ฝึกยุทธ์แล้ว มันเป็นความแค้นที่อยู่ร่วมกันไม่ได้ การที่ลู่เฉินหมิงเกลียดหลินอวี่ มันย่อมเป็นเรื่องปกติ
ส่วนหลินอวี่ แน่นอนว่าเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาคนทั้งสิบ และยังเป็นคนเดียวที่ยังไม่ถึงขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด
พรึบ!
ในช่วงเวลาหนึ่ง ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำ ก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
