บทที่ 24 หอคอยกระบี่
บทที่ 24 หอคอยกระบี่
“หลานเต้าเซิง ตายแล้ว?”
เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ ศิษย์สายในรอบๆ ก็ตกตะลึง ราวกับถูกฟ้าผ่า พวกเขางุนงง
แม้ว่าหลานเต้าเซิงจะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในศิษย์สายใน แต่เขาก็เป็นถึงบุคคลในรายนามเสวียนเจี้ยน พลังของเขาเป็นถึงระดับแนวหน้าในศิษย์สายใน แต่ตอนนี้ กลับถูกหลินอวี่ คนที่เพิ่งเข้าสู่ศิษย์สายในได้ไม่นาน สังหารทิ้ง!
กำลังจะเกิดเรื่องใหญ่!
ในเวลานี้ ศิษย์สายในเหล่านี้ ต่างก็คิดแบบนี้ทุกคน
หลินอวี่ผู้นี้ เพิ่งเข้าสู่ศิษย์สายในได้ไม่นาน ด้วยขอบเขตเสียนเทียนขั้นปลาย กลับสามารถสังหารหลานเต้าเซิงได้ ถ้าปล่อยให้เขาเติบโต เขาจะกลายเป็นศิษย์สายตรงอย่างแน่นอน ใช่ไหม?
แม้แต่ในบรรดาเหล่าศิษย์สายตรง หลินอวี่ผู้นี้ อาจจะกลายเป็นบุคคลสำคัญ!
“แค่ศิษย์ระดับเสียนเทียนขั้นปลาย กลับสามารถครอบครองเจตจำนงกระบี่เจ็ดส่วน ฝึกฝนทักษะวิชาต่อสู้ระดับหวงขั้นสูงสุดจนถึงระดับสำเร็จขั้นกลาง ไม่เลว ไม่เลวจริงๆ”
ในส่วนลึกของหุบเขาเสวียนเจี้ยน ภายในยอดเขาที่เต็มไปด้วยหมอกจนมองไม่เห็นนิ้วมือ ชายชราในชุดสีทอง จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น มองไปทางหลินอวี่ มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“ไม่คิดเลยว่า ข้าเพิ่งออกจากการฝึกฝน ก็จะได้เจอเด็กน้อยที่มีศักยภาพขนาดนี้ อืม… ศิษย์อัจฉริยะแบบนี้ ต้องฝึกฝนให้ดี ห้ามปล่อยให้เขาสูญเปล่า”
ชายชราชุดทองยิ้ม จากนั้นร่างของเขาก็สั่นไหว ในพริบตา ก็ปรากฏตัวต่อหน้าผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำ
“อะ! ท่านผู้อาวุโสอิ๋นเจิน!”
เห็นร่างของชายชราชุดทอง ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำก็ตกใจ จากนั้นก็คุกเข่าลง มีสีหน้าเคารพปรากฏขึ้น
ผู้อาวุโสดูแลสำนักของหุบเขาเสวียนเจี้ยน แบ่งออกเป็นสองระดับ คือ ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดขาว และผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำ แต่เหนือผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำ ยังมี "ผู้อาวุโสชุดทอง" ที่สูงส่งกว่า
ผู้อาวุโสชุดทอง มีจำนวนน้อยมาก ในหุบเขาเสวียนเจี้ยน มีเพียงสิบเก้าคน พวกเขามีสถานะและอำนาจสูงส่ง แม้แต่ศิษย์สายตรง ก็ยังไม่กล้าโอหังต่อหน้าพวกเขา
ส่วนชายชราชุดทองที่อยู่ตรงหน้าเขา คือ "ผู้อาวุโสอิ๋นเจิน" ผู้อาวุโสชุดทองที่แข็งแกร่งที่สุด!
“อืม”
เผชิญหน้ากับท่าทางเคารพของผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำ ผู้อาวุโสอิ๋นเจินก็แค่พยักหน้า พูดอย่างแผ่วเบาว่า “ข้าจำได้ว่า อีกไม่นานก็จะถึงวันเปิดหอคอยกระบี่ ศิษย์สายในคนใหม่ที่ชื่อหลินอวี่ไม่เลวเลย ให้ตำแหน่งหอคอยกระบี่เขาสักที่”
“หลินอวี่?”
ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำตกตะลึง “ศิษย์สายในคนใหม่? ข้าจำได้ว่า เขาอยู่ขอบเขตเสียนเทียน ให้เขาเข้าหอคอยกระบี่ มันเร็วไปหน่อยหรือเปล่าขอรับ? ยิ่งไปกว่านั้น ตำแหน่งเข้าหอคอยกระบี่ในครั้งนี้ จัดสรรเรียบร้อยแล้ว”
“จัดสรรแล้วก็ช่างมัน เตะใครออกสักคนก็ได้”
ผู้อาวุโสอิ๋นเจินพูดอย่างแผ่วเบา “เรื่องนี้ ข้าตัดสินใจแล้ว ถ้าใครไม่พอใจ ให้มันมาหาข้า”
พูดจบ ก็ไม่รอให้ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำตอบ ร่างของผู้อาวุโสอิ๋นเจินก็สั่นไหว จากนั้นก็หายตัวไป
“นี่…”
ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำได้แต่ยิ้มแห้งๆ รู้สึกจนใจ
……
เรื่องที่หลินอวี่สังหารหลานเต้าเซิง และแทนที่หลานเต้าเซิง จนกลายเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับที่เก้าสิบเจ็ดของรายนามเสวียนเจี้ยน ไม่นานนัก เรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วศิษย์สายใน!
การที่หลานเต้าเซิงถูกสังหารและแทนที่ เรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ท้ายที่สุด แม้ว่ารายนามเสวียนเจี้ยนจะเข้ายาก แต่มันก็มีหนึ่งร้อยแปดอันดับ นอกจากผู้แข็งแกร่งในอันดับต้นๆ การเปลี่ยนแปลงของคนอื่นๆ มันเป็นเรื่องปกติ
แต่ปัญหาคือ คนที่สังหารหลานเต้าเซิง เป็นแค่คนที่เพิ่งเข้าสู่ศิษย์สายในได้ไม่นาน และยังอยู่ขอบเขตเสียนเทียน!
ในชั่วขณะหนึ่ง หลังจากที่หลินอวี่แสดงครึ่งก้าวเจตจำนงกระบี่ ชื่อของหลินอวี่ ก็สร้างความฮือฮาในศิษย์สายในอีกครั้ง หลายคน ต่างก็จำชื่อหลินอวี่ไว้
ส่วนหลินอวี่ หลังจากสังหารหลานเต้าเซิง เขาก็กลับมาที่บ้านพักอย่างเงียบๆ ฝึกฝนอย่างสงบ
ผู้แข็งแกร่งทั้งหมด ไม่ได้เกิดขึ้นมาง่ายๆ โดยไม่ทำอะไรเลย พวกเขาล้วนเกิดจากความพยายาม และการต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง แม้แต่หลินอวี่ที่มีประสบการณ์ในชาติที่แล้ว ถ้าเขาไม่พยายาม เขาก็ไม่มีทางกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงได้
การฝึกฝนครึ่งเดือน ทำให้พลังของหลินอวี่มาถึงขีดสุดของขอบเขตเสียนเทียนขั้นปลาย ห่างจากขอบเขตเสียนเทียนขั้นสูงสุดไม่ไกลนัก
อย่างไรก็ตาม ในด้านวิชาพลิ้วไหวดั่งสายลม และกระบี่เงาพลิ้ว หลินอวี่กลับไม่มีความก้าวหน้ามากนัก ยังคงห่างไกลจากระดับสำเร็จขั้นสูงสุด
“หืม?”
ในช่วงเวลาหนึ่ง หลินอวี่ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขาหยุดฝึกฝน และมองไปข้างหน้า
ร่างสีดำพุ่งมาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า สุดท้าย ก็หยุดอยู่เหนือบ้านพักของหลินอวี่ ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำมองหลินอวี่ ยิ้มกล่าวว่า “หลินอวี่ ยินดีด้วยที่เจ้าได้รับหนึ่งในตำแหน่งเข้าหอคอยกระบี่”
“ตำแหน่งเข้าหอคอยกระบี่?”
ได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำ หลินอวี่ก็ตกตะลึง
“ถูกต้อง”
ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำพยักหน้า ปฏิบัติต่อหลินอวี่อย่างสุภาพ พูดว่า “เจ้าเพิ่งเข้าสู่ศิษย์สายในได้ไม่นาน ไม่รู้จักหอคอยกระบี่ มันเป็นเรื่องปกติ เกี่ยวกับหอคอยกระบี่ ข้าเองก็ไม่ค่อยรู้มากนัก ข้าบอกเจ้าได้แค่ว่า การที่สามารถเข้าหอคอยกระบี่ได้ มันย่อมเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ เพียงพอที่จะทำให้ศิษย์สายในทุกคนอิจฉา ส่วนจะเป็นยังไง มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง”
“เอาล่ะ ข้าพูดแค่นี้ พวกเราไม่มีเวลามากนัก ไปกับข้าเถอะ”
พูดจบ ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำก็ยื่นมือออกไป กระแสพลังก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ห่อหุ้มหลินอวี่ จากนั้น ก็พาหลินอวี่ มุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่ง
สำหรับการกระทำของผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำ หลินอวี่ไม่ได้ขัดขืน
เขารู้ว่า เขาครอบครองครึ่งก้าวเจตจำนงกระบี่ และติดรายนามเสวียนเจี้ยน เขาย่อมมีสถานะในหุบเขาเสวียนเจี้ยน ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำ คงไม่โง่พอที่จะมาทำร้ายเขา
หลินอวี่ลอยตามผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำ ทั้งสองเคลื่อนที่ไปมา ไม่รู้ว่าวนไปมากี่รอบ สุดท้าย ก็ผ่านค่ายกลลวงตา เข้ามาในหุบเขาที่เงียบสงบ
ภายในหุบเขา มีหอคอยรูปกระบี่พุ่งทะยานขึ้นฟ้า สูงเสียดฟ้า มีทั้งหมดเก้าชั้น บนหอคอยแต่ละชั้น ล้วนมีกระบี่ขนาดใหญ่สลักอยู่ กระบี่ขนาดใหญ่นั้นเปล่งประกาย เห็นได้ชัดว่าเป็นแค่รูปสลัก แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความรุนแรง ราวกับสามารถฉีกจิตวิญญาณได้
บนยอดหอคอย มีตัวอักษรขนาดใหญ่สองตัว มันคือคำว่า "หอคอยกระบี่"!
“เจตจำนงกระบี่นี้ ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!”
เห็นตัวอักษร "หอคอยกระบี่" สีหน้าของหลินอวี่ก็เปลี่ยนไป เจตจำนงกระบี่นี้ มันช่างรุนแรง และยิ่งใหญ่มาก เมื่อเทียบกับเจตจำนงกระบี่เจ็ดส่วนของหลินอวี่ มันราวกับเด็กทารกที่อ่อนแอ!
“เอาล่ะ หลินอวี่ ข้าส่งเจ้ามาถึงที่นี่ ต่อไป มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง”
เห็นตัวอักษร "หอคอยกระบี่" บนใบหน้าของผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำ ก็มีสีหน้าหวาดกลัวปรากฏขึ้น จากนั้น ร่างของเขาก็สั่นไหว ไม่นาน เขาก็หายตัวไป
“เจ้าคือหลินอวี่?”
ทันทีที่ผู้อาวุโสดูแลสำนักชุดดำหายตัวไป เสียงที่ไม่ค่อยเป็นมิตรก็ดังขึ้น “เฮอะ! เมื่อไหร่กัน ศิษย์ระดับเสียนเทียน ถึงจะสามารถเข้าหอคอยกระบี่ได้? หุบเขาเสวียนเจี้ยนของเรา ตกต่ำถึงเพียงนี้แล้วหรือ?”
