ตอนที่แล้วบทที่ 20 ภาพวาดสุดสะพรึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 22 เงื่อนงำที่สอง

บทที่ 21 เส้นทางกลับบ้านที่ไม่ชอบมาพากล


เฟยเหนี่ยวสปอร์ต เผชิญกับวิกฤติการเงิน

หม่าเซิ่งหนาน ซื้อประกันชีวิตวงเงินสูง

เซี่ยเหมย มีแรงจูงใจในการฆ่าไป๋ปิง

ภาพหน้าผู้หญิงชรา...

ไป๋ปิง ไม่มีสัญญาณแห่งโชคชะตา

คนตายหรือ?

...

เสิ่นเฟยเขียนประเด็นเหล่านี้ลงไปอย่างเรียบง่าย และจ้องมองสมุดบันทึกของเขาอย่างใจลอย

ภายในสองวัน เขาได้บันทึกจุดสำคัญต่าง ๆ ของคดีไป๋ปิงไว้ทั้งหมด

แน่นอนว่าต้องมีเงื่อนงำบางอย่างซ่อนอยู่ระหว่างจุดสำคัญเหล่านี้ที่จะเชื่อมโยงพวกมันเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ

แล้วเงื่อนงำนั้นจะเป็นอะไร?

เสิ่นเฟยคิดไม่ออกในทันที เขาจึงปิดสมุดบันทึกลง

“หัวหน้าเสิ่น ยังไม่ได้กินข้าวเย็นใช่ไหมครับ? ผมเลี้ยงข้าวมื้อนี้เอง!”

ลิ่วจึ จัดเตียงพับอย่างเรียบร้อยแล้ว เห็นเสิ่นเฟยเก็บสมุดบันทึก จึงเอ่ยชวนขึ้น

เสิ่นเฟยแค่นเสียงหัวเราะ “พูดดูดีอีกแล้ว คงหวังจะกินข้าวฟรีล่ะสิ?”

ลิ่วจึหัวเราะ “หัวหน้าเสิ่น รู้ทันผมจริง ๆ”

ท้องของเสิ่นเฟยเริ่มร้องด้วยความหิว เขาจึงลุกขึ้นและกล่าวว่า “ไปกันเถอะ ข้าง ๆ สถานีตำรวจมีร้านเกี๊ยวอร่อยอยู่ร้านหนึ่ง”

“ดีเลย!”

ลิ่วจึยิ้มกว้างทันที

ทั้งสองคนเดินออกจากสถานีตำรวจ เดินไปประมาณร้อยเมตรก็ถึงร้านเล็ก ๆ ชื่อ ร้านเกี๊ยวพี่ซิน

พวกเขาสั่งเกี๊ยวไส้หมูกับหอมใหญ่ กับอาหารผัดสองจาน และเหล้าขาวหนึ่งขวด

พวกเขานั่งกินและดื่มกันไปอย่างเพลิดเพลิน

หลังจากดื่มเหล้าขาวร้อน ๆ ไปไม่กี่แก้ว หน้าของลิ่วจึก็เริ่มแดง และเขาเริ่มพูดไม่หยุด

“หัวหน้าเสิ่น ผมไม่เคยรู้เลยว่าการเป็นตำรวจสืบสวนจะเหนื่อยขนาดนี้ ทำงานไม่มีวันไม่มีคืนเลยนะครับ”

เสิ่นเฟยยิ้มขื่น “ใช่ ถ้าไม่ปิดคดีได้ พวกเราก็ไม่มีโอกาสพักหรอก ทั้งหมดก็เพราะพวกชอบทำผิดกฎหมายอย่างนายไง”

ลิ่วจึหัวเราะเก้อ ๆ “หัวหน้าเสิ่น ผมคิดมาดีแล้วครับ จากนี้ไปผมจะเลิกทำเรื่องผิดกฎหมายแล้ว”

“ทำไม? จะเป็นคนดีแล้วหรือ?”

“ก็ทำนองนั้นครับ มีคำโบราณว่า ‘เดินริมแม่น้ำบ่อย ๆ ก็ต้องเปียกบ้าง’ ครั้งนี้ผมกลัวสุด ๆ ไปเลย คงไม่กล้าเดินกลางคืนอีกแล้ว”

เสิ่นเฟยพยักหน้า “ดีแล้ว ถ้ายังทำต่อไป สักวันจะต้องเจอเรื่องใหญ่ จนต้องติดคุกตลอดชีวิต”

แม้ว่าเสิ่นเฟยจะยุ่งกับงานและมีเพื่อนน้อย แต่ลิ่วจึกลับเป็นข้อยกเว้น แม้คนหนึ่งเป็นตำรวจ อีกคนเป็นโจร แต่พวกเขาก็มีเรื่องคุยกันมากมาย

ลิ่วจึยิ้ม “จริงครับ ชีวิตที่ต้องแอบ ๆ ซ่อน ๆ มันไม่มีความหมายเลย”

“ถ้านายคิดจะเปลี่ยนตัวเองจริง ๆ ฉันจะหางานให้นาย”

“ขอบคุณมากครับ หัวหน้าเสิ่น มาชนแก้วกัน!”

ลิ่วจึยกแก้วขึ้นอย่างดีใจ เสิ่นเฟยชนแก้วกับเขาแล้วดื่มหมดในคราวเดียว

ลิ่วจึพูด “หัวหน้าเสิ่น จริง ๆ แล้วคดีไป๋ปิงนี่ ผมว่าไม่ได้ซับซ้อนอะไร”

“นายมีความเห็นยังไง?” เสิ่นเฟยถามอย่างสนใจ

“น่าจะเป็นหม่าเซิ่งหนานที่ต้องการหลอกเอาเงินประกัน คนรวยบางคนภายนอกดูดี แต่ลับหลังทำเรื่องแย่ยิ่งกว่าเราอีก”

เสิ่นเฟยไม่แสดงความคิดเห็น แม้เขาจะเคยคิดเช่นนี้ แต่หลักฐานที่มีไม่สอดคล้องกัน การสันนิษฐานล้วน ๆ ไม่อาจใช้ในการตัดสินคดีได้

หลังจากดื่มกันจนมึนเมา ทั้งสองคนก็ออกจากร้านเกี๊ยว

เสิ่นเฟยพูด “ลิ่วจึ นายกลับไปเองนะ ฉันต้องกลับบ้านไปดูปลาที่เลี้ยงไว้ มันคงใกล้จะอดตายแล้ว”

ลิ่วจึพยักหน้า “ได้ครับ ถ้ามีเรื่องด่วนผมจะโทรหาคุณ”

เสิ่นเฟยเดินกลับบ้าน เขาอาศัยอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจ แค่สองช่วงถนนเท่านั้น

ระหว่างเดินกลับ เขารู้สึกว่าคืนนี้บรรยากาศดูแปลก ๆ

ขณะที่เขาเดินผ่านต้นไม้ริมทาง จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ เหมือนมีคนเดินตามมา

เขาหยุดและหันไปมอง แต่ไม่เห็นใคร มีเพียงไฟถนนบางดวงที่ดับลง

เสิ่นเฟยคิดว่าไฟคงเก่ามากและเสียเป็นเรื่องปกติ เขาจึงเดินต่อ

เมื่อใกล้ถึงประตูทางเข้าหมู่บ้าน เขาได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงอยู่ใกล้มาก

เขาค่อย ๆ เอื้อมมือไปจับปืนที่ซ่อนอยู่ใต้รักแร้ แต่พอดีมีคนเดินออกมาจากป้อมยาม

“หัวหน้าเสิ่น คืนนี้กลับบ้านหรือครับ?”

เป็นลุงจ้าวยามประจำหมู่บ้าน

เสิ่นเฟยถอนหายใจด้วยความโล่งใจ แต่ในวินาทีถัดมา ลุงจ้าวกลับทำหน้าตกใจ ชี้ไปที่ด้านหลังของเสิ่นเฟย

“หัวหน้าเสิ่น... ข้างหลังคุณ... มีคนตามมาด้วย!”

เสิ่นเฟยตกใจและหันกลับไปทันที พร้อมชักปืนออกมา แต่ด้านหลังเขา... ว่างเปล่า

เมื่อหันกลับมาอีกที ลุงจ้าวก็หายไปแล้ว มีเพียงลมหนาวพัดผ่านจนเสิ่นเฟยรู้สึกขนลุก

เขารีบวิ่งกลับบ้านทันที เปิดไฟทุกดวง แล้วนั่งหอบหายใจอยู่ครู่หนึ่ง

เสิ่นเฟยคิดกับตัวเอง หรือว่าสิ่งประหลาดที่เกิดกับลิ่วจึจะเกิดขึ้นกับเขาด้วย?

หรือว่า... ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับไป๋ปิง จะต้องเจอกับสิ่งลี้ลับ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด