ตอนที่ 93 ที่พึ่งพิงแห่งสุดท้าย (ฟรี)
ตอนที่ 93 ที่พึ่งพิงแห่งสุดท้าย
เมื่อมีคนธรรมดาจำนวนมากเหลืออยู่ในฐาน และการที่ผู้ปลุกพลังของทีมลาดตระเวนต้องคอยปกป้องคนเหล่านี้ การเคลื่อนไหวของพวกเขาจึงถูกรั้งเอาไว้
เมื่อเห็นแบบนั้น ซ่งเฉิงจุนจึงหยิบใบปลิวที่ไม่ได้ใช้กองหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเป้ และเดินไปข้างหน้า
เขาฉีกแผ่นหนึ่งออก แล้วมอบแผ่นอื่นๆ ให้กับสมาชิกทีมลาดตระเวนคนอื่นๆ ที่มาช่วยสนับสนุน
“ผมจะเข้าไปส่งใบปลิวให้พวกเขา พวกนายคอยจัดการอยู่ที่นี่ คอยเปิดทางเอาไว้”
ด้วยแก่นคริสตัล ซอมบี้เหล่านี้ก็เหมือนกับสมบัติเดินได้
ในโรงแรมเจียงหลิน สิ่งของที่มีค่าที่สุดคือ แก่นคริสตัล มันเป็นของจำเป็นที่ทุกคนต้องมีติดตัว
"ระวังตัวด้วยหัวหน้า!"
คนอื่นๆ รู้ด้วยว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขาในการรวบรวมแก่นคริสตัล แม้ว่าพวกเขาจะต้องถือใบปลิวในมือข้างหนึ่ง แต่พลังของพวกเขาที่โจมตีใส่ซอมบี้รอบๆ ก็ยังไม่น้อยลงเลย
ซ่งเฉิงจุนฆ่าซอมบี้ และเดินเข้าไปในฐาน ในไม่ช้าเขาก็เห็นผู้คนที่ถูกโอบล้อมอยู่ข้างใน
ซ่งเฉิงจุนฉีกใบปลิวอีกแผ่นแล้วมอบให้ผู้ปลุกพลังของทีมลาดตระเวนที่กำลังฆ่าซอมบี้อย่างกล้าหาญ
"นี่คือใบปลิวของโรงแรมเจียงหลิน รับไปเร็วเข้า!"
แน่นอนว่าคนของทีมลาดตระเวนรู้ว่าใบปลิวของโรงแรมเจียงหลินทำอะไรได้บ้าง พวกเขาจึงรีบรับเอาไป
“แจกจ่ายสิ่งเหล่านี้ให้คนอื่นๆ เราต้องรีบออกจากที่นี่กันแล้ว”
พวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไปที่โรงแรมเจียงหลิน
ด้วยความช่วยเหลือจากใบปลิว และในที่สุดพวกเขาก็ประสบความสำเร็จในฝ่าวงล้อมออกมาจากฝูงซอมบี้
“รีบตรงไปที่ถนน อย่ามัวชักช้าอยู่ที่นี่ ไม่งั้นเราจะตายกันหมด”
ชาวบ้านธรรมดาๆ หลายคนที่เพิ่งติดอยู่ในวงล้อมของซอมบี้ต่างดูหวาดกลัวในเวลานี้ พวกเขาถือใบปลิวของโรงแรมเจียงหลินไว้ในมือแน่น และวิ่งเต็มกำลังไปยังถนน
ขบวนรถเดินทางไปไกลแล้ว แล้วหากต้องการตามให้ทันก็ทำได้แค่เร่งความเร็วเท่านั้น
"เข้ามาในรถ"
ซ่งเฉิงจุนตรงไปบนที่นั่งคนขับ หลังจากเห็นว่าทุกคนขึ้นมาแล้ว เขาก็รีบขับออกไป
แม้ว่าจะมีคนจำนวนมาก แต่ก็ไม่ถึงกลับเบียดเสียด
ขบวนรถเดินทางกันมาทั้งวันทั้งคืน จนกระทั่งถึงเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น พวกเขาก็มาถึงโรงแรมเจียงหลิน
โรงแรมเจียงหลินค่อนข้างเงียบในตอนเช้าตรู่ แต่ป้ายชื่อของโรงแรมที่ประตูนั้นก็ยังส่องสว่าง และสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ราวกับว่ามันเป็นสัญญาณสำหรับผู้รอดชีวิตทุกคน
คนที่หลงทางในวันสิ้นโลกสามารถหาทางรอดได้ตราบใดที่พวกเขาได้เห็นแสงนำทางนี้
จิ้งจอกน้อยไม่จำเป็นต้องนอน เมื่อผู้คนจากฐานมาถึง มันก็ไปก่อกวนฉู่เจียงหยาง
แม้ฉู่เจียงหยางจะเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่จำเป็นต้องพักผ่อน แต่เขาก็ปิดระบบส่วนใหญ่ในเวลากลางคืน
แต่จิ้งจอกน้อยหาได้สนใจแม้แต่น้อย เมื่อมีแขกมาถึง เขาก็ต้องไปทำงาน
ฉู่เจียงหยางไม่โกรธ หลังจากที่จิ้งจอกน้อยช่วยเขาเปิดระบบปฏิบัติการกลับมา เขาก็เปิดไฟในตึกสำนักงาน
จากนั้นเขาก็เดินออกจากตึก มาที่ประตูโรงแรม และเปิดประตูโรงแรมให้ทุกคนที่รออยู่
"ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมเจียงหลิน ผมชื่อฉู่เจียงหยาง เป็นผู้ดูแลของที่แห่งนี้"
“สวัสดี เราคงต้องขอรบกวนคุณแล้ว มีคนมากมายอยู่ที่นี่ ผมสงสัยว่าตอนนี้ทางโรงแรมมีห้องพักเหลือบ้างไหม?”
ซ่งเฉิงจุนรู้สึกเขินอายไม่น้อย ตอนนี้เพิ่งจะตีสามเท่านั้น จะบอกว่าเช้าแล้วก็พูดได้ไม่เต็มปาก
เดิมทีเขาต้องการให้ผู้คนรวมตัวในระยะสิบเมตรด้านนอกโรงแรมเจียงหลิน และรอสองสามชั่วโมงเพื่อรอโรงแรมเปิด
แค่คาดไม่ถึงว่าฉู่เจียงหยางจะตื่นขึ้นมา และออกมาเปิดประตูโรงแรมให้พวกเขาด้วยตนเอง
“เรายังมีห้องพักเหลืออยู่ หากพวกคุณอยากเข้าพักก็เชิญเข้ามาได้เลย”
ฉู่เจียงหยางเปิดประตูโรงแรมเอาไว้ จากนั้นหันหลังแล้วเดินไปที่ตึกสำนักงาน
ผู้ที่เคยมาโรงแรมเจียงหลินเดินตามฉู่เจียงหยางไปติดๆ ส่วนผู้ที่ไม่เคยมา เมื่อเห็นคนอื่นๆ ทำอะไร พวกเขาก็พยายามทำตาม
ผู้ที่มีห้องพักในโรงแรมเจียงหลินอยู่แล้วสามารถกลับไปที่ห้องของตนเพื่อพักผ่อนได้ด้วยตัวเองหลังจากรายงานตัวต่อซ่งเฉิงจุนแล้ว
“เข้าแถว ทุกคนเข้าแถว อย่าเบียดเสียดกัน!”
เมื่อเห็นว่าจะเกิดความวุ่นวาย ซ่งเฉิงจุนจึงต้องอยู่ต่อเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
“ผู้นำฐาน คุณต้องไปพักผ่อนก่อน ยังพอมีเวลาสักสองสามชั่วโมงให้ได้นอนสักงีบหนึ่ง”
วันนี้ยังมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการ หากออมแรงไว้ได้ก็ควรทำ
แขก “ครอบครัวของผมมีสมาชิก 5 คน คุณมีห้องพักแบบไหนที่จะแนะนำบ้างไหม?”
ฉู่เจียงหยาง "มีทั้งห้องธรรมดา และห้องดีลักซ์สำหรับ 5 คน คุณอยากพักห้องไหน?"
แขก “ฉันอยู่ตัวคนเดียว ช่วยเปิดห้องเดี่ยวให้หน่อย แต่ขอแบบที่มันหรูหราหน่อยนะ”
ฉู่เจียงหยาง “ตกลง โปรดรอสักครู่”
…
ฉู่เจียงหยางทำงานตั้งแต่ตีสามถึงหกโมงเช้าโดยไม่มีอาการเหนื่อยล้า ทำให้หลายคนคร่ำครวญถึงความแข็งแกร่งของเขา
สำหรับแขกหลายคนที่ตื่นแต่เช้า เมื่อลงมาพวกเขาก็ได้เห็นคิวยาวเหยียดในตึกสำนักงานของโรงแรมเจียงหลิน ด้วยความสงสัย พวกเขาจึงเดินเข้ามาถาม
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รู้ว่าคนเหล่านี้มาจากฐานผู้ลี้ภัยในเมือง B สีหน้าของหลายๆ คนก็แตกต่างกันออกไป
“พวกคุณมาจากจากฐานผู้ลี้ภัยในเมือง B เหรอ? ทำไมจู่ๆ จึงมารวมตัวกันที่นี่มากมายถึงขนาดนี้?”
เมื่อได้ยินคำถามของแขกเหล่านี้ ผู้คนจากฐานก็เงียบลง
พวกเขาอายเดินกว่าที่จะพูดว่าฐานถูกฝูงซอมบี้ปิดล้อมแล้ว พวกเขาจึงต้องหนีหัวซุกหัวซุนมาที่นี่
“ฐานของเราได้พบกับฝูงซอมบี้ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอพยพคนมาที่นี่เป็นการชั่วคราว”
คนธรรมดาที่เข้าคิวต่างอายที่จะพูด แต่ซ่งเฉิงจุนรู้สึกว่าต่อให้พูดเรื่องนี้ไปก็ไม่ได้แปลกอะไร
เมื่อแขกคนอื่นๆ ได้ยินคำตอบของซ่งเฉิงจุน ทุกคนก็มองมาด้วยความเห็นอกเห็นใจ
“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณโชคดีมาก โรงแรมเจียงหลินเพิ่งเปิดห้องพักชุดใหม่เมื่อวานนี้ ไม่เช่นนั้นแม้ว่าคุณจะมาถึงที่นี่ก็อาจจะไม่มีห้องเหลือ”
การขยับขยายเมื่อวานนี้ หลายคนได้อยู่ดู ทำให้พวกเขาได้เห็นตอนที่พื้นดินโล่งๆ กลายเป็นตึกสูงหลายสิบหลังในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว
เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด ซ่งเฉิงจุนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ดูเหมือนว่าจะมีการเตรียมการล่วงหน้าไว้แล้วเมื่อขอให้พวกเขาอพยพคนมา และมีห้องพักเตรียมไว้พร้อม
สำหรับสิ่งนี้ ซ่งเฉิงจุนรู้สึกขอบคุณฉู่เจียงเยว่มาก
หลู่เจิ้งเหยาเป็นคนนอนน้อย เขาเข้านอนตอนตีสาม และเมื่อมาถึงหกโมงเช้า เขาก็ตื่นขึ้นมาด้วยตัวเองโดยไม่ต้องให้ใครปลุก
หลังจากดวงอาทิตย์ส่องแสง ในที่สุดก็เห็นโรงแรมเจียงหลินอย่างเต็มตา
หลู่เจิ้งเหยามองไปที่สนามหญ้าสีเขียว และต้นไม้สีสันสดใสหลายต้นในโรงแรมเจียงหลิน และเขาไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าได้
“เฮ้! คุณมาใหม่เหรอ?”
หลู่เจิ้งเหยากำลังพยายามสูดอากาศบริสุทธิ์ในโรงแรมเจียงหลิน ทันใดนั้นเขาก็ถูกแตะไหล่ และต้องลืมตาขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเขาลืมตาแล้วหันกลับไปก็ได้ชายคนหนึ่งที่อายุสามสิบต้นๆ
“สวัสดี เมื่อวานผมมาที่นี่พร้อมกับผู้คนจากฐานผู้ลี้ภัย”
หลู่เจิ้งเหยาไม่ได้บอกว่าตนเป็นถึงผู้นำฐาน เพราะนั้นไม่จำเป็น
นี่คือโรงแรมเจียงหลิน และฉู่เจียงเยว่เป็นผู้ดูแลจัดการทุกสิ่งที่นี่
เมื่อเขาสัญญากับซ่งเฉิงจุนว่าจะย้ายทุกคนในฐานมายังโรงแรมเจียงหลิน เขาก็พร้อมที่จะกลายเป็นคนสามัญธรรมดาแล้ว
“งั้นผมของถามหน่อยได้ไหมว่าที่คนอื่นๆ พูดว่าฐานผู้ลี้ภัยในเมือง B นั้นถูกฝูงซอมบี้โจมตี นั้นเป็นเรื่องจริงเหรอ?”