ตอนที่แล้ว109 - เสรีภาพต้องมาเป็นลำดับแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป111 - หยามหน้าฮ่องเต้

110 - เจ้าเด็กไม่ได้เรื่อง


110 - เจ้าเด็กไม่ได้เรื่อง

ในเวลานั้น เสนาบดีกรมโยธาและการเกษตร ต้วนหลุนกำลังนั่งจิบชาอ่านหนังสืออยู่ในห้องทำงานของตัวเอง

ในช่วงฤดูหนาว กรมโยธาและการเกษตรเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบที่สุดของปี

ทันใดนั้น รองเจ้ากรมกรมโยธาและการเกษตร เจี่ยจวิ้นก็รีบร้อนวิ่งเข้ามาในห้อง "ใต้เท้าต้วน ฝ่าบาทเสด็จ!"

ต้วนหลุนตกใจจนถ้วยชาหลุดมือ เขาดีดตัวขึ้นมาจากเก้าอี้รีบจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

หลังจากนั้น เขารีบสั่งว่า "เร็ว เรียกทุกคนมารวมตัวกัน!"

เจี่ยจวิ้นพยักหน้าแล้วรีบออกไปทันที

ต้วนหลุนปรับเครื่องแต่งกายของตนให้เรียบร้อย และคิดในใจว่า "เหตุใดฝ่าบาทถึงเสด็จมาที่นี่ตอนนี้? หรือจะเกี่ยวกับเรื่องการจ้างแรงงานทดแทน?"

เขาเป็นคนของพรรคไท่จื่อ แม้จะไม่แสดงตัวออกมาอย่างชัดเจน แต่ลูกน้องของเขาอย่างเจี่ยจวิ้นได้รับความเมตตาจากไท่จื่ออย่างมาก

หลังจากหลี่เยว่แสดงความสามารถออกมาด้วยแผนการที่ยอดเยี่ยมสองครั้ง ทำให้ไท่จื่อล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

ตอนนี้ทุกคนกำลังหาทางแก้ปัญหานี้อยู่ เบื้องต้นพวกเขาจึงพยายามปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือต่อองค์ชายแปดทุกรูปแบบ หรือว่าฝ่าบาทจะมาด้วยเรื่องนี้?

เมื่อหลี่ซื่อหลงปรากฏตัวต่อหน้าต้วนหลุน เขารีบพาขุนนางในกรมโยธาและการเกษตรคุกเข่าต้อนรับ "กระหม่อมต้วนหลุนถวายบังคมฝ่าบาท ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี!"

เหล่าขุนนางต่างคุกเข่าตาม พร้อมกล่าวตะโกนถวายพระพรอย่างพร้อมเพียงกัน

หลี่ซื่อหลงมองไปรอบๆ สายตาของเขาก็เย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ "ลุกขึ้นได้!"

"ขอบพระทัยฝ่าบาท!"

ทุกคนค้อมตัวไปข้างหน้าและกรมศีรษะลงเล็กน้อย

หลี่ซื่อหลงเดินตรวจตราในกรมโยธาและการเกษตร ก่อนจะมาหยุดที่ห้องทำงานของต้วนหลุน เมื่อเห็นบันทึกที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ พระองค์จึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย "หลี่เยว่ได้มาหาเจ้าหรือยัง?"

ต้วนหลุนคิดในใจว่า “แน่นอนว่าฝ่าบาทเสด็จมาเพราะเรื่องนี้จริงๆ” ดังนั้นเขาจึงรีบตอบว่า "กราบทูลฝ่าบาท ยังไม่มาเลยพะยะค่ะ!"

หลี่ซื่อหลงขมวดคิ้ว "ยังไม่มา? กรมโยธาและการเกษตรไม่มีโครงการซ่อมแซมระบบชลประทานหรือตัดถนนอะไรบ้างเลยหรือ?"

ต้วนหลุนตอบว่า "ขอเดชะฝ่าบาท แน่นอนว่ามี แต่สภาพอากาศหนาวจัด ดินแข็งและน้ำก็กลายเป็นน้ำแข็ง การซ่อมแซมชลประทานหรือการทำความสะอาดคูคลองเป็นงานที่ยากลำบากในช่วงเวลานี้"

หลี่ซื่อหลงรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก “หลี่เยว่ได้วางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว เขาควรจะมาที่กรมโยธาและการเกษตรเพื่อวางแผนโครงการ แต่กลับยังไม่มาทำอะไรสักอย่าง เจ้าเด็กนั่นใช้เวลาหมดไปกับอะไร?”

"แล้วกรมโยธาและการเกษตรได้วางแผนอะไรบ้าง?" หลี่ซื่อหลงถามต่อ "เช่นการจัดสรรพื้นที่ให้กับผู้ประสบภัย? เมื่อวานมีหิมะตกเล็กน้อย และตามสภาพอากาศ น่าจะมีหิมะตกหนักในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หากผู้ประสบภัยไม่มีหลังคาคุ้มกัน แม้จะมีอาหารและเสื้อผ้า ก็ยังอาจจะหนาวตายได้!"

ต้วนหลุนถอนหายใจพร้อมรอยยิ้มเศร้า "การจัดสรรที่ดินไม่ใช่เรื่องยาก กรมโยธาและการเกษตรขาดงบประมาณ กระหม่อมพยายามส่งหนังสือขอเงินไปหลายครั้ง แต่ใต้เท้าไต้เว่ยก็ยังไม่อนุมัติเลยพะยะค่ะ"

แม้ว่ากรมพิธีการจะเป็นที่หนึ่งในหกกรมใหญ่ แต่ผู้ที่มีอำนาจแท้จริงก็คือกรมการคลังซึ่งทำหน้าที่เบิกจ่ายงบประมาณ แม้ว่าจะได้รับคำสั่งจากกรมพิธีการซึ่งฮ่องเต้สั่งการโดยตรงแต่เมื่อไม่มีเงินย่อมไม่สามารถดำเนินไปตามนโยบายของฮ่องเต้ได้

"สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือผู้ประสบภัย เจ้าจงส่งหนังสือไปหาไต้เว่ยอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องเอาเงินออกมาให้ได้!"

ต้วนหลุน ผู้ที่มีประสบการณ์ในวงราชการมานาน ยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อยและกล่าวว่า "ฝ่าบาทโปรดพระราชทานเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร หากกระหม่อมมีราชโองการ ใต้เท้าไต้เว่ยคงไม่มีทางปฏิเสธได้"

หลี่ซื่อหลงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่ถูกบ่ายเบี่ยงเช่นนี้

หลี่ซื่อหลงรู้ดีว่าหากเขาสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรไต้เว่ยก็คงปฏิเสธอยู่ดี เพราะคลังหลวงว่างเปล่า ดังนั้นเขาในฐานะฮ่องเต้จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องควักเงินของตัวเอง

"ว่าแต่ ฉินโม่ไปไหน? ตอนที่ข้าตรวจงาน เขายังไม่ปรากฏตัวขึ้นเลย" หลี่ซื่อหลงเปลี่ยนเรื่องถาม

"ฝ่าบาท ฉินโม่ยังไม่มารายงานตัวเลยพ่ะย่ะค่ะ!"

หลี่ซื่อหลงทรงแต่งตั้งฉินโม่ให้เป็นผู้ช่วยของต้วนหลุนและทำหน้าที่ดูแลกรมการเกษตร แน่นอนว่าเรื่องใหญ่โตเช่นนี้เขารับรู้ตั้งแต่แรก

"ยังไม่มา?"

หลี่ซื่อหลงโกรธมาก "เจ้านี่กำเริบเสิบสานขึ้นทุกวัน กล้าดีอย่างไรไม่มารับตำแหน่ง!"

พอคิดถึงฉินโม่ที่นั่งสบายอยู่ที่บ้าน นับเงินไปเรื่อยๆ ในขณะที่ตนเองกำลังปวดหัวอย่างหนักเรื่องการหาเงินเพื่อเลี้ยงดูผู้คนทั้งแผ่นดินมันก็ทำให้เขาแทบจะคุ้มคลั่ง

"ไป! ไปเรียกฉินโม่มา ถ้าไม่มา ก็ให้ทหารมัดตัวมาที่นี่!"

หลี่ซื่อหลงนั่งลงบนเก้าอี้เสนาบดี "ข้าจะรออยู่ที่นี่เอง เกาซื่อเหลียนเจ้าไม่ต้องไป ให้ อู่เช่อไปแทน!"

ทันใดนั้น เสียงเย็นเยือกดังขึ้นจากด้านนอก "รับบัญชา!"

ถ้าเกาซื่อเหลียนเป็นคนที่หลี่ซื่อหลงไว้ใจมากที่สุด อู่เช่อก็คือเงาของเขา

ใบหน้าของเกาซื่อเหลียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะอู่เช่อไม่ได้มีลักษณะนิสัยเหมือนกับเขา อู่เช่อคนนี้มีจิตใจเย็นชาเต็มไปด้วยความดุร้าย เมื่อได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้เขาจะทำงานให้สำเร็จต่อให้ต้องตายก็ไม่ขมวดคิ้ว

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม ฉินโม่ก็ถูกมัดตัวลากเข้ามา

"โอ้ย ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้!"

"ไอ้แกะสารเลว ใครใช้ให้เจ้าจับข้าไว้? รอให้ข้าออกไปได้ก่อนเถอะ เราจะได้เห็นดีกัน!"

"เจ้าเป็นใบ้หรือ เหตุใดไม่พูดอะไรเลย!"

ตลอดทาง ฉินโม่ด่าไม่หยุด

อู่เช่อเป็นขันทีใหญ่มีสถานะเป็นรองเกาซื่อเหลียนเท่านั้น เมื่อถูกเด็กน้อยอย่างฉินโม่ด่าทอไม่หยุดเขาจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าสกปรกยัดปากฉินโม่ พร้อมกับหัวเราะเยาะ "ข้าไม่ใช่เกาซื่อเหลียนที่จะมาพูดจาดีๆ กับเจ้า ถ้าเจ้าด่าข้าอีก ข้าจะตัดลิ้นเจ้าแน่!"

ฉินโม่มาอยู่ในต้าเฉียนมานาน แต่ยังไม่เคยเจอขันทีที่ยโสแบบนี้มาก่อน

เขาโกรธจนจ้องมองอู่เช่อด้วยสายตาเคือง แต่ในไม่ช้าก็มาถึงกรมโยธาและการเกษตร

"ฝ่าบาท กระหม่อมพาฉินโม่มาแล้ว!"

อู่เช่อพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ตอนที่กระหม่อมไปที่ตระกูลฉิน เขาขัดขืนไม่ยอมมา กระหม่อมเลยต้องใช้วิธีนี้ และระหว่างทาง ฉินโม่ยังกล้าด่าฝ่าบาทว่าฝ่าบาทไม่มีอะไรทำ เลยสั่งให้เขาทำงานทุกวัน!"

ฉินโม่เบิกตากว้างด้วยความโกรธแค้น “โอ้โห! ไอ้แก่สารเลวนี่ยังใส่ร้ายเก่งกว่าข้าอีก!”

เขาด่าก็แค่ด่าอู่เช่อ แต่ไม่เคยด่าหลี่ซื่อหลงเลย!

เขาอยากจะอธิบาย แต่ปากของเขาถูกยัดด้วยผ้า ทำให้พูดอะไรไม่ได้

หลี่ซื่อหลงหน้าดำคล้ำ "เจ้าโง่ เจ้าไม่มารายงานตัวที่กรมโยธาและการเกษตรก็เรื่องหนึ่ง แต่ยังกล้าด่าข้าลับหลังอีก เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าจัดการเจ้าอย่างนั้นหรือ?"

ฮ่องเต้แค่นเสียงพร้อมกับดึงสายคาดเอวออกมาฟาดใส่ฉินโม่อย่างแรง

ฉินโม่เจ็บจนทนไม่ไหว “บ้าจริง! ไอ้เฒ่าบ้านี่ใส่ร้ายข้า ความแค้นนี้เราต้องได้สะสางกันแน่!”

หลี่ซื่อหลงไม่เพียงแค่ต้องการสั่งสอนฉินโม่ แต่ยังต้องการบอกให้ฉินโม่รู้ว่า ไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะทำอย่างลวกๆ ได้

การมอบตำแหน่งเป็นเรื่องสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ โดยปกติจะให้เวลาเตรียมตัวสามถึงห้าวัน

แต่นั่นสำหรับขุนนางที่มาจากต่างเมืองเท่านั้น เพราะพวกเขาต้องส่งของขวัญให้กับขุนนางภายในเมืองหลวงก่อนจากนั้นจึงค่อยรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

แต่นี่สำนักราชเลขาได้ส่งราชโองการแต่งตั้งมาถึงกรมโยธาและเกษตรตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน การที่ฉินโม่ไม่มารายงานตัวนั้น เป็นการท้าทายต่อกฎหมายของราชสำนัก และเป็นการดูหมิ่นหลี่ซื่อหลงอย่างรุนแรง

"ข้าปล่อยเจ้าเป็นอิสระมากเกินไป เจ้าเลยไม่รู้จักแยกแยะอะไรสำคัญอะไรไม่สำคัญ"

แม้ว่าหลี่ซื่อหลงจะดูเหมือนฟาดแรง แต่เขาก็ผ่อนแรงไปครึ่งหนึ่งก่อนที่จะฟาดลง

กระนั้น ฉินโม่ก็ยังเจ็บจนเหงื่อท่วมตัว

อู่เช่อหดตัวอยู่ที่มุมห้อง พร้อมกับแสยะยิ้มเงียบๆ

เกาซื่อเหลียนมองเห็นทุกอย่างและร้อนใจอย่างมาก "ฝ่าบาท ฉินโม่เพิ่งได้รับตำแหน่งครั้งแรก เขาจึงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร โปรดเห็นแก่บิดาของเขาที่ทำความชอบไว้มากละเว้นเด็กน้อยคนนี้ด้วยเถอะ!"

"ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร? เดินเข้าออกวังทุกวันจนแทบจะกลายเป็นสวนหลังบ้านของเขาแล้ว เขาจะกลัวอะไร?"

หลี่ซื่อหลงรู้ว่าเกาซื่อเหลียนกำลังช่วยพูดแทนฉินโม่ แต่ก็นั่นแหละ เป็นการให้พระองค์มีทางลงด้วย

จะให้ตีฉินโม่จนตายจริงๆ ก็คงไม่ได้

หลังจากฟาดอีกสามที หลี่ซื่อหลงก็หยุดมือ "ถ้าไม่เห็นแก่บิดาเจ้า ข้าจะตีเจ้าให้ตาย เจ้าเด็กไม่ได้เรื่อง!"

……………

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด