บทที่ 28 สกัดสารสำคัญของไม้คืนวัย
“อ๊ะ เมื่อกี้สองคนนั้น ดูเหมือนจะเป็นเสี่ยวฉี (ลำดับที่เจ็ด) กับเสี่ยวสืออี (ลำดับที่สิบเอ็ด)”
รถสปอร์ตแล่นอย่างรวดเร็วบนถนน ฟางหางหยวนหันมองไปทางด้านหลังไม่กี่ครั้งก่อนจะละสายตาไป
ฟางเสิ่นและฟางจือสิง ในบรรดารุ่นที่สามของตระกูลฟาง ทั้งคู่เคยมีลำดับที่เจ็ดและลำดับที่สิบเอ็ดตามลำดับ แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงอดีต เพราะตอนนี้สองพี่น้องฟางเสิ่นไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับตระกูลฟางอีกแล้ว
ฟางหางหยวนเองก็รู้เรื่องนี้ดี เมื่อครู่เขาเพียงนึกขึ้นได้ว่าเห็นฟางเสิ่นและฟางจือสิง แต่เขาก็แค่มองผ่าน ๆ เท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจอะไร สำหรับเขา นี่เป็นเพียงเหตุการณ์เล็ก ๆ ที่ไม่มีความหมายอะไรเลย
สองพี่น้องฟางเสิ่นในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย สำหรับฟางหางหยวน แค่ถอนหายใจเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว
“ตระกูลหลี่รุ่นปัจจุบันได้ส่งบัตรเชิญออกไปเมื่อยี่สิบกว่าวันก่อน บอกว่าจะจัดงานวันเกิดให้กับลูกสาวคนโต ตอนนั้นพวกเราต้องไปด้วย อาจือ (ชื่อเล่น) เรื่องของขวัญฝากให้นายจัดการ อย่าทำให้ฉันขายหน้าล่ะ” ฟางหางหยวนพูดพลางคิดถึงบางสิ่ง
ชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยที่นั่งข้างกับฟางหางหยวน หลังจากได้ฟังก็รีบตัวตรง สีหน้าเคร่งขรึม พอได้ยินฟางหางหยวนพูดจบก็รีบตอบรับทันที
เขาชื่อฟางเจ๋อ เป็นคนตระกูลฟางเช่นกัน แต่ไม่ใช่สมาชิกสายตรง หากเป็นสมาชิกสายนอกซึ่งมีสถานะต่ำกว่าในบรรดารุ่นที่สามของตระกูลฟาง โอกาสในการขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญจึงยากกว่ามาก เขาเป็นผู้ช่วยคนสนิทของฟางหางหยวน
“พี่หางหยวน ลูกสาวคนโตของหัวหน้าตระกูลหลี่รุ่นนี้ ผมได้ยินมาว่าเธอ…” ฟางเจ๋อพูดพลางแสดงสีหน้ารังเกียจออกมา
“ฮ่า ๆ ใช่เลย งานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้อาจจะจัดขึ้นเพื่อหาคู่ให้ลูกสาวคนโตของเขา แต่ช่างเถอะ... พูดถึงตระกูลหลี่แล้ว พวกเขาแข็งแกร่งกว่าตระกูลฟางของพวกเราด้วยซ้ำ ถ้าเลือกฉันจริง ๆ ถึงจะไม่ค่อยเต็มใจก็เถอะ แต่ฉันก็คงต้องทำใจรับไป คิดซะว่าได้แต่งเมียมาเป็นของโชว์ที่บ้านเท่านั้นเอง” ฟางหางหยวนหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ “จริง ๆ แล้ว คนที่ฉันสนใจคือ น้องสาวคนเล็กของเธอต่างหาก ฮ่า ๆ นั่นสิถึงจะเรียกว่าสาวน้อยน่ารัก”
“พี่หางหยวนสนใจเธอ ก็ถือว่าเป็นโชคดีของเธอแล้ว” ฟางเจ๋อยิ้มประจบ
ลัมโบร์กินีพ่นควันไอเสียออกมาเป็นวงแล้วพาเขาทั้งสองจากไปอย่างรวดเร็ว
….
หลังจากส่งฟางจือสิงกลับโรงเรียน ฟางเสิ่นก็เรียกรถแท็กซี่กลับบ้านพัก
งานปรับปรุงสถานที่ประมูล ฟางเสิ่นไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด เขามอบหมายให้เซี่ยหย่าซวีและคนอื่น ๆ เป็นผู้จัดการทั้งหมด เขาจะเข้ามาเฉพาะตอนที่พวกเขาจัดการเองไม่ได้หรือตัดสินใจไม่ได้เท่านั้น
พวกเซี่ยหย่าซวีก้าวหน้าไปมาก โดยเฉพาะเซี่ยหย่าซวี ตอนที่รับหน้าที่ดูแลสถานที่ประมูลใหม่ ๆ เธอยังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่มาก และไม่ค่อยมีความมั่นใจ แต่ด้วยอำนาจในการบริหารบุคลากรที่เธอมี เธอได้ปลดพนักงานเก่าบางคนที่ชอบอวดเบ่งและไม่เชื่อฟังคำสั่งออกไป ส่งผลให้เธอสามารถสร้างความน่าเชื่อถือในหมู่พนักงานที่เหลือได้อย่างรวดเร็ว และค่อย ๆ คุ้นเคยกับการดำเนินงานและกระบวนการต่าง ๆ ในการบริหารสถานที่ประมูลมากขึ้นทุกวัน
ตอนนี้เธอเริ่มมีท่าทางคล้ายผู้หญิงเก่งในสายงานธุรกิจมากขึ้น ไม่มีความรู้สึกแบบนักศึกษาอีกต่อไป
เวลาส่วนใหญ่ของฟางเสิ่นมักหมดไปกับการดูแลไม้คืนวัย เพราะมันมีผลต่อความสำเร็จครั้งแรกของสองโลกประมูลมาก เขาจึงไม่สามารถยอมให้เกิดข้อผิดพลาดใด ๆ ได้
เวลาว่าง ฟางเสิ่นจะเปิดดวงตาสวรรค์เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของแผ่นดินประจำตัว
ด้วยการขยายพื้นที่ไปเรื่อย ๆ ที่ดินก็ถูกครอบคลุมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การขยายตัวของแผ่นดินประจำตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ได้มาถึงขีดจำกัดเมื่อเดือนก่อนแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามที่ฟางเสิ่นคาดไว้
เมื่อพื้นที่ขยายมากพอแล้ว การเปลี่ยนแปลงเชิงปริมาณจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ แผ่นดินประจำตัวจะเริ่มวิวัฒนาการครั้งที่สอง ก้าวสู่สภาวะที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จากนั้นความเร็วในการขยายตัวก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก ระหว่างนี้พลังงานจากภูเขาและแม่น้ำที่เชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นกับแผ่นดินประจำตัวจะก่อให้เกิดพลังงานสะท้อนกลับมายังฟางเสิ่น ทำให้เขาสามารถก้าวเข้าสู่ระดับสร้างแผ่นดินขั้นสองได้
ผู้ฝึกตนสายดินแตกต่างจากผู้ฝึกตนทั่วไป การใช้สมบัติล้ำค่าจากฟ้าดินจะช่วยให้ฝึกฝนได้เร็วขึ้นก็จริง แต่แก่นแท้ของผู้ฝึกตนสายดินยังคงอยู่ที่แผ่นดินประจำตัว
ดวงตาสวรรค์ถูกเปิดออก ทุกสิ่งรอบตัวเริ่มพร่ามัวไปหมด
เห็นเพียงแสงสีขาวจาง ๆ ที่ไหลเวียนอยู่บนผืนดิน คล้ายกับปรอทที่เคลื่อนไหวช้า ๆ เมื่อเทียบกับเมื่อเดือนก่อน แสงสีขาวนี้ดูหนาแน่นและเข้มข้นขึ้นราวกับจะจับต้องได้ นี่คือสัญญาณของการวิวัฒนาการของแผ่นดินประจำตัว
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แผ่นดินประจำตัวได้ครอบคลุมครึ่งหนึ่งของหมู่เกาะตงไห่ และกำลังขยายตัวไปยังแผ่นดินใหญ่และมหาสมุทรอย่างต่อเนื่อง หากมองจากภาพรวมจะเห็นว่าแผ่นดินนี้เต็มไปด้วยแสงสีขาวอมม่วงและเริ่มมีขนาดที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อย ๆ
น่าเสียดายที่ยังไม่พบสมบัติล้ำค่าจากฟ้าดิน นี่แสดงให้เห็นว่าสมบัติล้ำค่าเหล่านี้หายากเพียงใด
ฟางเสิ่นไม่ได้รู้สึกผิดหวัง เขามีความอดทนมากพอ
วันนั้นเอง
ฟางเสิ่นยืนอยู่ในสวนหย่อมเล็ก ๆ หน้าบ้าน มองไปที่พื้นดิน เห็นท่อนไม้สีเขียวอมม่วงปักอยู่ในดินที่อ่อนนุ่ม มันดูเขียวชอุ่มและเปล่งประกายความมีชีวิตชีวาออกมา
เมื่อครึ่งเดือนก่อน ฟางเสิ่นได้ย้ายไม้คืนวัยจากกระถางมาปลูกที่สวนแห่งนี้ เนื่องจากดินในสวนนี้เหมาะแก่การเติบโตของมันมากกว่า ฟ้าดินไม่ทำให้คนมีความพยายามผิดหวัง หลังจากผ่านการเพาะปลูกมาสิบกว่าวัน ท่อนไม้คืนวัยนี้ก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งในที่สุด
“ถึงเวลาสกัดสารสำคัญแล้ว” ฟางเสิ่นเผยรอยยิ้มดีใจ การปรับปรุงสถานที่ประมูลก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เซี่ยหย่าซวีก็เริ่มวางแผนเรื่องการประชาสัมพันธ์ในขั้นตอนต่อไป เมื่อไม้คืนวัยฟื้นคืนชีพในช่วงเวลานี้ก็เป็นเหมือนยาบำรุงกำลังอย่างดี
เขาค่อย ๆ ขุดดินรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ในช่วงเวลานี้ ไม้คืนวัยได้งอกรากออกมาจำนวนมากเพื่อดูดซับพลังจากพื้นดิน ฟางเสิ่นไม่ต้องการทำลายรากใดรากหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ
ไม้คืนวัยที่สมบูรณ์แบบ สารสำคัญที่สกัดออกมาจะมีประสิทธิภาพสูงสุด แม้แต่รากเส้นหนึ่งหักก็จะทำให้ประสิทธิภาพของมันลดลงไป
หลังจากล้างดินรอบ ๆ รากของไม้คืนวัยให้สะอาดแล้ว ฟางเสิ่นก็กลับเข้าไปในห้องของตัวเอง
ขั้นตอนการสกัดสารสำคัญจากไม้คืนวัยนั้นไม่ยากอย่างที่คิด และไม่ซับซ้อนจนเกินไป เหตุผลที่คนอื่นไม่สามารถใช้ประโยชน์จากไม้คืนวัยได้ ก็เพราะพวกเขาไม่รู้วิธีการที่ถูกต้องเท่านั้นเอง
ฟางเสิ่นจุดเทียนไขเล่มหนึ่งแล้ววางมันไว้ด้านหน้าไม้คืนวัย โดยรักษาระยะห่างเล็กน้อย ไม่ได้ให้ไฟจากเทียนโดนไม้คืนวัยโดยตรง แต่ให้ความร้อนจากเปลวเทียนแผ่ผ่านอากาศบาง ๆ ไปถึง
อุณหภูมิที่ร้อนระอุจากเปลวเทียนแผ่ไปถึงไม้คืนวัยได้ในเวลาไม่นาน ไม้คืนวัยจึงเริ่มมีหยดน้ำสีเขียวสดไหลซึมออกมาทีละหยด
ฟางเสิ่นเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว เขาได้เอียงไม้คืนวัยไว้เล็กน้อย หยดน้ำสีเขียวนี้จึงไม่ไหลเปื้อนลำต้นของไม้คืนวัย แต่ไหลลงขวดหยกใบเล็กโดยตรง
พลังชีวิตอันอัดแน่นแผ่ซ่านออกมาจากขวดหยก ฟางเสิ่นอดไม่ได้ที่จะดีใจ
หยดน้ำสีเขียวนี้คือสารสำคัญของไม้คืนวัย และเป็นสิ่งที่มันสร้างขึ้นตามสัญชาตญาณเพื่อใช้รักษาตัวเมื่อรู้สึกถึงภัยอันตรายจากภายนอก หากสารนี้ไม่ถูกฟางเสิ่นเก็บไป มันก็จะซึมออกไปตามลำต้นของไม้คืนวัยเพื่อฟื้นฟูชีวิตให้มันอยู่รอดต่อไปได้
ฟางเสิ่นใช้วิธีเดิมซ้ำไปซ้ำมา เขาไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อฟ้าสาง ขวดหยกก็เต็มไปด้วยสารสำคัญของไม้คืนวัยทั้งหมด 36 หยด ส่วนลำต้นของไม้คืนวัยนั้นกลับเหลือเพียงแค่เปลือกไม้กลวง ๆ ที่ไม่ต่างอะไรกับฟืนธรรมดาอีกต่อไป
ฟางเสิ่นดับเทียนไขที่ไม่รู้ว่าเป็นเล่มที่เท่าไหร่ แล้วถอนหายใจยาวออกมา แม้จะไม่ได้นอนทั้งคืน แต่เขากลับไม่รู้สึกเหนื่อยล้าแต่อย่างใด ในทางกลับกัน เขากลับรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างเต็มที่ ซึ่งแน่นอนว่านี่คือผลกระทบทางอ้อมของสารสำคัญจากไม้คืนวัย
“สำเร็จแล้ว” ฟางเสิ่นมองสารสีเขียวเข้มที่ขยับไหวอยู่ในขวดหยกด้วยความยินดี
สารสำคัญจากไม้คืนวัย 36 หยดนี้ ทุกหยดสามารถทำให้คนกลับไปมีความเยาว์วัยได้อีกครั้ง และทุกหยดก็จะนำพาผลประโยชน์มหาศาลมาให้ฟางเสิ่น
จบบท