บทที่ 12 วิชากระบี่ไท่เสวียนห้าธาตุ
บทที่ 12 วิชากระบี่ไท่เสวียนห้าธาตุ
มองแผ่นป้ายสีเขียวในมือของหลินอวี่ ศิษย์สายนอกกลุ่มหนึ่ง ต่างก็แสดงสีหน้าอิจฉา และปรารถนา
ศิษย์ของหุบเขาเสวียนเจี้ยน แบ่งออกเป็นสามระดับ คือ ศิษย์สายนอก ศิษย์สายใน ศิษย์สายตรง
ในบรรดาเหล่านี้ ศิษย์สายนอกมีจำนวนมากที่สุด มีหลายหมื่นคน สถานะก็ต่ำที่สุด ไม่ได้รับความสำคัญจากสำนักเลย แม้ว่าจะตายทีละหลายสิบหลายร้อยคน สำนักก็ไม่ได้สนใจ
ส่วนศิษย์สายใน มีจำนวนน้อยกว่ามาก มีเพียงพันกว่าคน สถานะก็สูงขึ้นมาก ศิษย์สายในแต่ละคน จะถูกบันทึกไว้ในสำนัก และได้รับการฝึกฝน
ส่วนศิษย์สายตรง มีจำนวนน้อยยิ่งกว่า มีเพียงสามสิบหกคน!
ศิษย์สายตรงสามสิบหกคน แต่ละคนล้วนถูกหุบเขาเสวียนเจี้ยนปฏิบัติราวกับสมบัติล้ำค่า หากเสียชีวิตไปหนึ่งคน มันจะทำให้หุบเขาเสวียนเจี้ยนโกรธเกรี้ยว และแก้แค้นอย่างบ้าคลั่ง เรียกได้ว่ามีสถานะสูงส่งมาก
แน่นอน ศิษย์สายตรง เป็นบุคคลที่ศิษย์สายนอกไม่กล้าแม้แต่จะคิด ความปรารถนาสูงสุดของพวกเขา คือการได้เข้าสู่สำนักภายใน และกลายเป็นศิษย์สายใน
ส่วนตอนนี้ หลินอวี่ได้เข้าสู่สำนักภายในสำเร็จแล้ว!
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของพวกเขา การเป็นศิษย์สายในคือเรื่องใหญ่ แต่สำหรับหลินอวี่ มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
ดังนั้น หลังจากรับแผ่นป้ายสีเขียว บนใบหน้าของหลินอวี่ ก็ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม ไม่นาน เขาก็หายตัวไป
……
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในพริบตา ครึ่งเดือนก็ผ่านไป
ข่าวที่ว่ามีศิษย์ของหุบเขาเสวียนเจี้ยนเข้าใจครึ่งก้าวเจตจำนงกระบี่ แพร่กระจายไปทั่วหุบเขาเสวียนเจี้ยน และสร้างความฮือฮา แต่หลินอวี่ไม่ได้สนใจ
ตั้งแต่วันที่การประลองเป็นตายจบลง หลินอวี่ก็ทำเรื่องเข้าสู่ศิษย์สายในเสร็จแล้ว วันรุ่งขึ้น เขาก็ย้ายออกจากห้องฝึกฝนของศิษย์สายนอก เข้าสู่ศิษย์สายใน
ต้องยอมรับว่า การปฏิบัติต่อศิษย์สายใน ดีกว่าศิษย์สายนอกมาก ศิษย์สายในแต่ละคน สามารถมีบ้านพักของตัวเองได้
ในเวลานี้ ภายในบ้าน การฝึกฝนของหลินอวี่ มาถึงขั้นตอนสำคัญที่สุดแล้ว
เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!
ฝ่ามือของเขา ตบลงบนตันเถียนของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ร่างกายสั่นสะเทือนด้วยจังหวะที่แปลกประหลาด ตั้งแต่ผิวหนัง กระดูก ไปจนถึงเส้นลมปราณ เลือด ทุกส่วนของร่างกาย ล้วนสั่นสะเทือนไม่หยุด
การสั่นสะเทือนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเส้นลมปราณของเขา
ทุกครั้งที่เส้นลมปราณของเขาสั่นสะเทือน จะมีสิ่งสกปรกจางๆ ถูกขับออกมา ส่วนเส้นลมปราณของเขา ก็ขยายออกเล็กน้อย แม้ว่าทุกครั้งจะขยายออกเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากสะสมหลายร้อยครั้ง มันก็ชัดเจนมาก
ตูม!
ในช่วงเวลาหนึ่ง พลังที่น่าตกใจก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของหลินอวี่ การฝึกฝนครึ่งเดือน ในที่สุดก็ทำให้ขอบเขตของหลินอวี่มาถึงขอบเขตเสียนเทียนขั้นกลาง!
วู้วว!
เขาสะบัดแขน จากนั้นมีเสียงราวกับคลื่นดังขึ้น แค่พลังกาย มันก็สามารถสร้างเสียงระเบิดที่น่าตกใจได้
หลังจากเข้าสู่ขอบเขตเสียนเทียนขั้นกลาง พลังกายของเขาเพิ่มขึ้นจากหนึ่งหมื่นจิน เป็นสองหมื่นจินโดยตรง เทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์เสียนเทียนขั้นสูงสุด!
ตอนนี้ ถ้าให้หลินอวี่ต่อสู้กับลั่วหยุนซี เขาย่อมสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย แค่สะบัดกระบี่ ก็สามารถผ่าร่างของนางออกเป็นสองส่วนได้
แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์ระดับเจินหยวนขั้นต้น หลินอวี่ก็สามารถเอาชนะ และสังหารได้ด้วยครึ่งก้าวเจตจำนงกระบี่
“หลังจากเข้าสู่ขอบเขตเสียนเทียนขั้นกลาง พลังของข้า ก็ไม่ใช่ศิษย์ที่อ่อนแอที่สุดในศิษย์สายในของหุบเขาเสวียนเจี้ยนแล้ว อย่างน้อยก็อยู่ในระดับกลางๆ”
หลินอวี่พยักหน้า ประเมินพลังของตัวเองอย่างแม่นยำ
ศิษย์สายในของหุบเขาเสวียนเจี้ยน ล้วนอยู่ในขอบเขตเจินหยวน คนที่อ่อนแอที่สุด มีเพียงขอบเขตเจินหยวนขั้นต้น ส่วนระดับกลางๆ ล้วนเป็นขอบเขตเจินหยวนขั้นกลาง และมีเพียงผู้ที่ถึงขอบเขตเจินหยวนขั้นปลาย จึงจะถือว่าเป็นบุคคลสำคัญ
ส่วนผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด มีน้อยมากในศิษย์สายใน โดยทั่วไปแล้ว พวกเขาสามารถติดอันดับยี่สิบอันดับแรกในศิษย์สายใน ตราบใดที่ก้าวไปอีกขั้น ทะลวงไปถึงขอบเขตหลุนไห่ ก็สามารถกลายเป็นศิษย์สายตรงได้
แน่นอน แม้ว่าจะอยู่ในขอบเขตเดียวกัน ความต่างระดับของผู้ฝึกยุทธ์ ก็ยังคงใหญ่มาก เช่นเดียวกับขอบเขตเจินหยวนขั้นปลาย คนที่อยู่ในรายนามเสวียนเจี้ยน กับคนที่ไม่ได้อยู่ในรายนามเสวียนเจี้ยน มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
รายนามเสวียนเจี้ยน เป็นบัญชีรายชื่อพลังของหุบเขาเสวียนเจี้ยน มีเพียงหนึ่งร้อยแปดอันดับ ประกอบด้วยศิษย์สายตรงสามสิบหกคน และศิษย์สายในที่แข็งแกร่งที่สุดเจ็ดสิบสองคน
คนที่สามารถติดรายนามเสวียนเจี้ยนได้ ล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!
เช่นเดียวกับฉู่เทียนเหยา เขาอยู่ในขอบเขตเจินหยวนขั้นปลาย แถมยังมีพี่ชายที่เป็นศิษย์สายตรง แต่เขาก็แค่ติดรายนามเสวียนเจี้ยน อันดับยังอยู่นอกร้อยอันดับแรก
พลังของหลินอวี่ในตอนนี้ ยังคงห่างไกลจากบุคคลในรายนามเสวียนเจี้ยน
“ขอบเขตบ่มเพาะของข้า มาถึงขอบเขตเสียนเทียนขั้นกลางแล้ว ต่อไป ควรฝึกฝนวิชากระบี่ประเภทโจมตี”
หลินอวี่อาบน้ำ กลับมาที่บ้าน พูดกับตัวเอง
แม้ว่าเคล็ดกระบี่พฤกษา จะเป็นทักษะวิชาต่อสู้ระดับเสวียนขั้นกลาง แต่มันเป็นเพียงทักษะวิชาต่อสู้เสริม ไม่มีกระบวนท่าโจมตีใดๆ ในฐานะมือกระบี่ การควบคุมวิชากระบี่โจมตี มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เหตุผลที่มือกระบี่สามารถกลายเป็นสำนักหลักในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์ได้ นั่นก็เพราะพลังโจมตีที่แข็งแกร่ง สิ่งที่มือกระบี่ใฝ่หา คือพลังโจมตีสูงสุด!
ตอนที่ประลองเป็นตาย ถ้าหลินอวี่ควบคุมวิชากระบี่โจมตี เขาย่อมสามารถชนะได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในชาติที่แล้ว หลินอวี่จะควบคุมวิชากระบี่ที่ทรงพลังมากมาย แต่การที่อยู่ในหัว กับการใช้จริง มันเป็นคนละเรื่องกัน
การฝึกฝนเป็นแบบนี้ เมื่อเปลี่ยนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นขอบเขตหรือทักษะวิชาต่อสู้ ล้วนต้องเริ่มต้นใหม่ ฝึกฝนใหม่!
หลินอวี่คิดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตัดสินใจ
ต่อไป วิชากระบี่ที่เขาจะฝึกฝน คือ "เคล็ดกระบี่วารีอ่อน"!
เคล็ดกระบี่วารีอ่อน เช่นเดียวกับเคล็ดกระบี่พฤกษา เป็นทักษะวิชาต่อสู้ระดับเสวียนขั้นกลาง ไม่เพียงเท่านั้น ทักษะวิชาต่อสู้ทั้งสองนี้ เรียกได้ว่ามีต้นกำเนิดเดียวกัน ล้วนเป็นวิชาย่อยของ "วิชากระบี่ไท่เสวียนห้าธาตุ"
"วิชากระบี่ไท่เสวียนห้าธาตุ" เป็นวิชากระบี่ที่มีชื่อเสียงมากในยุคมืด ระดับของมันคือระดับตี้ขั้นสูงสุด ได้รับการยกย่องว่าเป็นวิชากระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนขอบเขตสวรรค์กำเนิด!
วิชากระบี่นี้ มีห้าวิชาย่อย คือ "เคล็ดกระบี่ทองโลหะ" "เคล็ดกระบี่พฤกษา" "เคล็ดกระบี่วารีอ่อน" "เคล็ดกระบี่เพลิงแยก" "เคล็ดกระบี่ปฐพีหนา"
ในห้าวิชาย่อย เคล็ดกระบี่ทองโลหะ เน้นการเจาะทะลุ และการโจมตี เคล็ดกระบี่พฤกษา เป็นเคล็ดกระบี่เสริม เคล็ดกระบี่วารีอ่อน นุ่มนวลแปลกประหลาด เปลี่ยนแปลงได้ร้อยพัน เคล็ดกระบี่เพลิงแยก เป็นเคล็ดกระบี่ที่เหมาะสำหรับการต่อสู้แบบกลุ่ม ส่วนเคล็ดกระบี่ปฐพีหนา มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด
ในห้าเคล็ดกระบี่นี้ เคล็ดกระบี่ทองโลหะ และเคล็ดกระบี่เพลิงแยก ล้วนแข็งแกร่งเกินไป ด้วยขอบเขตของหลินอวี่ในตอนนี้ ยังไม่สามารถฝึกฝนได้ ส่วนเคล็ดกระบี่ปฐพีหนา เน้นการป้องกัน ไม่ค่อยมีประโยชน์สำหรับหลินอวี่ในตอนนี้
มีเพียงเคล็ดกระบี่วารีอ่อน ประการแรก คุณสมบัติค่อนข้างอ่อนโยน ประการที่สอง มันมีความคล้ายคลึงกับเคล็ดกระบี่พฤกษา หลินอวี่จึงสามารถฝึกฝนได้ด้วยขอบเขตเสียนเทียนขั้นกลาง
