ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 พิชิตด้วยกระบี่เดียว!

บทที่ 1 เกิดใหม่พร้อมพลัง


บทที่ 1 เกิดใหม่พร้อมพลัง

“เร็วเข้า รีบขนของออกไปให้หมด!  พวกของไร้ค่า อย่าเหลือไว้แม้แต่ชิ้นเดียว!”

ในภวังค์อันเลือนราง หลินอวี่ได้ยินเสียงอันแสนเอาแต่ใจ เสียงนั้นดังราวกับสายฟ้าฟาด ปลุกเขาให้ตื่นจากหลับไหลในทันที

“ข้ายังไม่ตาย!”

เขาลืมตาขึ้น ดวงตาเปล่งประกายแห่งความตกตะลึง

หลินอวี่คืออัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดนับตั้งแต่ยุคมืดของทวีปเซิ่งหยวน  อายุยังไม่ถึงสามร้อยปี เขาก็ฝึกฝนจนถึงขอบเขตราชันย์ ได้รับฉายาว่า "ราชันย์กระบี่"  น่าเสียดาย แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งเพียงใด ก็ไม่อาจทำลายพันธนาการของยุคมืดได้

ในมหาภัยพิบัติแห่งวิถีจักรพรรดิ เขาใช้พลังทั้งหมดที่มี แต่ก็ยังคงล้มเหลวและจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า!

บางที สวรรค์อาจจะเห็นใจในพรสวรรค์ของหลินอวี่ ไม่ยอมให้เขาหายไปเช่นนั้น  หลังจากล้มเหลวในการฝ่าวิบัติ หลินอวี่ก็ไม่ได้ตาย แต่กลับมาเกิดใหม่ในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกันคือ "หลินอวี่" เมื่อสามพันปีก่อนอย่างน่าอัศจรรย์

สามพันปีก่อน!

นี่คือยุคทองของวิถีแห่งการต่อสู้!

“ไอ้ขยะ เจ้ายังยืนโง่อยู่ตรงนั้นทำไม?  ไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือไง?”

ในเวลานั้น เสียงอันแสนเอาแต่ใจจากก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้นอีกครั้ง  หญิงสาวในชุดสีเขียวใบหน้าสะสวย แต่กลับเต็มไปด้วยความรำคาญและดูถูกเหยียดหยาม มองหลินอวี่อย่างเย็นชาและพูดว่า “ห้องนี้ คุณหนูของข้าจองแล้ว เจ้ายังไม่รีบไสหัวไปอีกเหรอ?”

“หืม?”

หลินอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เหลือบมองหญิงสาวชุดเขียว

ร่างที่เขาครอบครองอยู่นี้ บังเอิญมีชื่อเดียวกันว่า "หลินอวี่"  มาจากเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่าเมืองหลิงสือ เป็นบุตรชายคนโตของตระกูลหลิน ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมือง

ครึ่งปีก่อน หลินอวี่ผ่านการทดสอบเข้าสำนักของหุบเขาเสวียนเจี้ยน  และกลายเป็นศิษย์สายนอก

หุบเขาเสวียนเจี้ยน เป็นหนึ่งในห้ากองกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแดนเหนือของทวีปเซิ่งหยวน มีอำนาจรองจากสำนักว่านหลิง  มีอำนาจอย่างมาก และเต็มไปด้วยอัจฉริยะจำนวนนับไม่ถ้วน

แม้ว่าหลินอวี่จะเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองหลิงสือ  แต่เมืองหลิงสือก็เป็นเพียงเมืองเล็กๆ เท่านั้น เมื่อเทียบกับหุบเขาเสวียนเจี้ยน พรสวรรค์ของหลินอวี่ก็ดูธรรมดาสามัญ หรือแม้แต่ไร้ความสามารถ

ครึ่งปีต่อมา  ขอบเขตโฮ่วเทียนขั้นปลายของหลินอวี่ กลายเป็นผู้อ่อนแอในหุบเขาเสวียนเจี้ยน  ถึงกลับถูกเรียกว่าไอ้ขยะ

ส่วนหญิงสาวชุดเขียวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา  ผู้หยิ่งยโสโอหังและมีท่าทางเย่อหยิ่ง  แม้แต่ศิษย์สายนอกหุบเขาเสวียนเจี้ยนก็ยังไม่ใช่  ความจริงแล้ว นางเป็นแค่สาวใช้ผู้หนึ่งเท่านั้น

แม้จะเป็นสาวใช้ แต่นางก็เป็นสาวใช้ของลั่วหยุนซี!

ลั่วหยุนซี นางคือศิษย์สายนอกหุบเขาเสวียนเจี้ยนอันดับหนึ่ง  และยังเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของศิษย์สายนอก ไม่เพียงแต่เป็นหญิงงาม แต่ยังเป็นหญิงใจทรามอีกด้วย

หุบเขาเสวียนเจี้ยน เป็นสถานที่ที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดและโหดร้าย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ศิษย์สายนอก  ยิ่งอ่อนแอยิ่งถูกข่มเหง  ตราบใดที่ไม่สังหารกัน ผู้แข็งแกร่งสามารถทำอะไรกับผู้อ่อนแอได้ทุกอย่าง

ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ลั่วหยุนซีใช้วิธีการต่างๆ  ปล้นสะดม  ขับไล่ศิษย์ที่อยู่ในอันดับท้ายๆ ออกจากหุบเขาเสวียนเจี้ยนหลายคน  และยึดห้องบ่มเพาะของพวกเขา  เปลี่ยนเป็นครัว  โกดังเก็บของ ฯลฯ ของนางเอง

และตอนนี้ นางก็หมายตาห้องบ่มเพาะของหลินอวี่  หญิงสาวชุดเขียวจึงเป็นตัวแทนของนาง  มายึดห้องบ่มเพาะ

“ไอ้ขยะ เจ้ายังมัวเหม่ออะไรอยู่?”

เห็นหลินอวี่ทำท่าครุ่นคิด  ไม่สนใจนาง  หญิงสาวชุดเขียวก็มีสีหน้ามืดครึ้ม  แม้ว่านางจะเป็นแค่สาวใช้  แต่ก็เป็นสาวใช้ของลั่วหยุนซีเชียวนะ!

ด้วยสถานะนี้  ไม่มีใครในศิษย์สายนอกของหุบเขาเสวียนเจี้ยนกล้าดูถูกนาง  แม้แต่ศิษย์สายนอกทั้งสิบอันดับ  ก็ยังปฏิบัติต่อนางด้วยความเคารพ  นางไม่เคยเจอใครที่เพิกเฉยต่อนางอย่างหลินอวี่มาก่อน

นางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไอ้ขยะ ดูท่าทางเจ้าแล้ว คงจะไม่อยากออกไปจากที่นี่สินะ?  ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จะบอกเจ้าให้รู้  คุณหนูของข้าจะยึดห้องฝึกฝนของเจ้าไปทำเป็นห้องน้ำ  บางที ข้าอาจจะขอร้องคุณหนูให้เจ้าอยู่ที่นี่  ทำความสะอาดห้องน้ำให้คุณหนูก็ได้”

“ฮ่าๆๆ!”

ได้ยินคำพูดของหญิงสาวชุดเขียว  เด็กหนุ่มสิบกว่าคนที่กำลังเก็บของในห้องฝึกฝนก็อดหัวเราะไม่ได้

เด็กหนุ่มเหล่านี้ล้วนเป็นศิษย์สายนอกของหุบเขาเสวียนเจี้ยน  ด้วยสถานะของพวกเขาที่มาเก็บของที่นี่  มันก็เพื่อเอาใจลั่วหยุนซีอย่างแน่นอน

ทว่าส่วนหนึ่ง พวกเขามาเพื่อดูเรื่องตลกของหลินอวี่

ศิษย์สายนอกอย่างเป็นทางการ  กลับต้องยกห้องบ่มเพาะให้ผู้นอื่น  และกลายเป็นห้องน้ำของศิษย์หญิง  นี่มันน่าอับอายแค่ไหน?

หลังจากได้รับความอับอายเช่นนี้  หลินอวี่ยังไม่เอาหัวโขกกำแพงตายอีกเหรอ?

“บังอาจ!”

อย่างไรก็ตาม  ในเวลานี้ หลินอวี่ก็ลุกขึ้นยืนทันที  ดวงตาของเขาเปล่งประกายแห่งความหนาวเย็น  ร่างกายโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย  แผ่กลิ่นอายแห่งการกดขี่ที่น่าตกใจออกมาโดยไม่รู้ตัว  พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แค่บ่าวรับใช้  กล้าพูดกับศิษย์อย่างเป็นทางการของหุบเขาเสวียนเจี้ยนแบบนี้  เจ้าช่างกล้ายิ่งนัก!”

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”

ได้ยินคำพูดของหลินอวี่  ใบหน้าของหญิงสาวชุดเขียวก็เปลี่ยนไปทันที

“ข้าพูดว่าอะไร?  เจ้าได้ยินชัดเจนอยู่แล้ว!”

ไม่รอให้หญิงสาวชุดเขียวพูดต่อ  หลินอวี่ก็ขัดจังหวะนางทันที  เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างแรง  ก้าวนี้ราวกับเหยียบลงบนหัวใจของนาง  “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นบ่าวไพล่ผู้ใด  แต่สถานะของเจ้าก็เป็นแค่บ่าวรับใช้เท่านั้น!  ตามกฎของหุบเขาเสวียนเจี้ยน  ถ้าบ่าวรับใช้ดูหมิ่นศิษย์อย่างเป็นทางการ  ถือเป็นโทษประหาร  เจ้าอยากตายหรือ!?”

ตุบ ตุบ ตุบ!

ถูกพลังของหลินอวี่กดดัน  หญิงสาวชุดเขียวหน้าซีดเผือด  ถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว

ไม่ว่ายังไง หญิงสาวชุดเขียวก็เป็นแค่เด็กสาวคนหนึ่ง  ส่วนหลินอวี่  ชาติที่แล้วเป็นถึงราชันย์ผู้แข็งแกร่ง  อีกเพียงก้าวเดียวก็จะก้าวสู่จักรพรรดิ  แม้ว่าพลังจะลดลง  แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางจะรับมือได้!

และนี่คือสาเหตุที่หญิงสาวชุดเขียวถูกหลินอวี่ต้อนจนต้องถอย

“เหรอ?”

อย่างไรก็ตาม  คลื่นลูกหนึ่งยังไม่ทันสงบ คลื่นลูกใหม่ก็ถาโถมเข้ามา  ริมห้องฝึกฝน  มีเสียงเย็นชาหนึ่งดังขึ้น  “บ่าวรับใช้คนเดียว  อาจจะจัดการเจ้าไม่ได้  แต่ถ้าเป็นข้าล่ะ?  หุบเขาเสวียนเจี้ยน  ไม่ได้ห้ามศิษย์ต่อสู้กันนะ”

คนที่พูดคือเด็กหนุ่มชุดดำ  บนใบหน้าของเขานอกจากความเย็นชาแล้ว  ยังมีความดีใจแฝงอยู่

โอกาสมาถึงแล้ว!

หลินอวี่ผู้นนี้  ช่างไม่รู้อะไรเลย  กล้าท้าทายบ่าวรับใช้ของลั่วหยุนซี  แต่สำหรับเขาแล้ว  นี่เป็นเรื่องดี

ตราบใดที่คว้าโอกาสนี้  สั่งสอนหลินอวี่ให้หนัก  ก็จะสามารถสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับหญิงสาวชุดเขียว  และอาจจะได้ใกล้ชิดกับลั่วหยุนซี  นี่เป็นโอกาสทองที่หาได้ยาก!

ในเวลาเดียวกัน  เด็กหนุ่มคนอื่นๆ ก็ตระหนักถึงเรื่องนี้  ต่างก็แสดงสีหน้าเสียใจ  เสียใจที่ตัวเองไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เร็วกว่า  และถูกผู้อื่นแย่งไปก่อน

ตูม!

พลังหมัดพุ่งออกมา  คลื่นพลังปั่นป่วน  เห็นเด็กหนุ่มชุดดำยิ้มเยาะ  ก้าวเท้าออกไป  ต่อยเข้าที่หน้าอกของหลินอวี่อย่างแรง  หมัดนี้ราวกับจะทุบหน้าอกของหลินอวี่ให้แหลก!

“ไอ้ขยะ  ลงไปนอนซะ!”

มองหลินอวี่ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม  เด็กหนุ่มชุดดำก็ยิ้มเยาะ  แต่ในพริบตาต่อมา  รอยยิ้มเยาะบนใบหน้าของเขาก็แข็งค้าง!

ฟิ้ว!

ในชั่วพริบตา  นิ้วสองนิ้วของหลินอวี่พุ่งออกไป  ราวกับกระบี่อันแหลมคม  จิ้มลงบนท้องน้อยของเด็กหนุ่มชุดดำในทันที

“อ๊าก!”

เด็กหนุ่มชุดดำร้องเสียงหลง  ทั้งร่างราวกับถูกฟ้าผ่า  กระเด็นออกไป  ชนเข้ากับกำแพง  ส่งเสียง “โครม”  ก่อนจะหยุดลง

อะไรกัน!

ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกใจ  อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าหวาดกลัว

แม้ว่าพลังของเด็กหนุ่มชุดดำจะไม่แข็งแกร่ง  แต่ก็ฝึกฝนจนถึงขอบเขตโฮ่วเทียนขั้นสูงสุด และระดับสูงกว่าหลินอวี่หนึ่งขั้น  กลับรับมือกับการโจมตีของหลินอวี่ไม่ได้!

ไอ้ขยะนี่  ทำไมถึงมีพลังเช่นนี้?

“ถ้าไม่มีความสามารถ  ก็อย่าออกมาเสียหน้า”

หลินอวี่เห็นสีหน้าของทุกคน  เขาส่ายหน้า  แล้วหันไปมองหญิงสาวชุดเขียว  พูดอย่างแผ่วเบาว่า “กลับไปบอกนายของเจ้า  ห้องบ่มเพาะของข้า  ใครก็แตะต้องไม่ได้  อีกอย่าง  ตอนเที่ยงของอีกสามวัน  ข้าจะท้า 'ประลองเป็นตาย' กับนายของเจ้า!”

ประลองเป็นตาย!

ได้ยินสี่คำนี้  ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์  ต่างก็มีสีหน้าซีดเผือด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด