ทุกคนเปลี่ยนอาชีพ : แต่นักฝึกมังกรกากสุดงั้นเหรอ? ตอนที่ 53 นักฝึกมังกรคนที่สอง
ที่อีกด้าน
ในโรงพยาบาล
“...เจ้าคนที่ชื่อลู่ฟานนั่นยังไม่โดนจับแล้วยังอยู่สุขสบายข้างนอกนั่นเรอะ?!”
ใบหน้าน่ารักของจินจูเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ความบวมแดงบนใบหน้านั้นจางหายลงไปแล้ว เธอกลับมาเป็นปกติ
ลู่ฟานไม่ได้ฆ่าเธอ เขาเพียงแค่ตบเธอไม่กี่ครั้ง เธอต้องการแค่เวทย์ฟื้นฟูและจะหายดีในเวลาไม่นาน
แต่สิ่งที่จินจูให้ความสำคัญไม่ใช่ความร้ายแรงของอาการบาดเจ็บตัวเอง แต่เรื่องที่เธอโดนตบหลังจากที่เพิ่งมาถึงอาณาจักรมังกรต่างหาก!
ในอาณาจักรไท่จี๋ ฐานะองค์หญิงของเธอทำให้เธอได้รับความเคารพนับถือเป็นอย่างสูงในทุกหนทุกแห่ง
แต่ตอนนี้เธอกลับถูกตบโดยเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ในเขตอยู่อาศัยในอาณาจักรมังกรและถูกส่งเข้าโรงพยาบาล นี่มันอัปยศเป็นอย่างยิ่ง!
จินจูอยากจะพาลู่ฟานกลับอาณาจักรไท่จี๋ พาเขาไปทรมานทุกวัน ให้ชีวิตของเขาเลวร้ายเสียยิ่งกว่าความตาย
แต่เธอเพิ่งจะได้รับแจ้งจากเลขาส่วนตัวว่าลู่ฟานยังไม่ถูกจับอย่างที่เธอคิด และฉินชางไห่ก็รีบพาคนของเขาออกจากบ้านลู่ฟานโดยไม่ลงโทษเขาแต่ประการใดเลย
แค่นี้ก็ทำให้จินจูโกรธแล้ว
ใบหน้าเลขาคุ่ยมืดมัว เธอพยักหน้ารับ
“หม่อมฉันเพิ่งจะได้ข่าว เป็นเรื่องจริงค่ะ”
“ดูเหมือนเทศมนตรีเจียงไห่จะจงใจเล็งพวกเรา เขาทำร้ายเรากลางถนนและทำให้พระองค์บาดเจ็บ เรื่องใหญ่ขนาดนี้เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถ้าคนลงมือจะโดนจับกุมตัวก็ไม่แปลก”
“แต่ฉินชางไห่กลับไม่จับกุมเขา เขาไม่แม้แต่พาเขาไปควบคุมตัวระหว่างรอสืบสวนด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจเอาใจคนของตัวเอง”
จินจูโกรธจนกัดฟันเสียงดัง
“เจ้าฉินชางไห่คนนี้ เป็นแค่เทศมนตรีแท้ ๆ กล้าดียังไงมาหาเรื่องกันได้ มันไม่อยากจะเป็นเทศมนตรีอีกแล้วรึไง?!”
ขณะที่พูด จินจูมองเลขาคุ่ยอีกครั้งและหยิบหมอนขึ้นมาฟาดหัวเลขาคุ่ยอย่างแรง เธอสาปแช่ง
“แล้วแก กับน้องชายแก!”
“มันบอกว่ามันเป็นยอดฝีมือระดับสอง แต่ยังปกป้องชั้นไม่ได้”
“แกก็ด้วย ชั้นได้รับความไม่ยุติธรรมในอาณาจักรมังกร แต่แกทำได้แค่รายงานข่าวร้ายงั้นเรอะ? ทำไมไม่ติดต่อตระกูลจินให้กดดันพวกมันจนกว่าชั้นจะได้คำอธิบายวะ?!”
เลขาคุ่ยถูกท่าทอทำร้ายอย่างนี้แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน เธอก้มหน้ายิ่งกว่าเดิมและพูดอย่างระมัดระวัง
“องค์หญิง หม่อมฉันรายงานเรื่องนี้กับตระกูลจินแล้วเพคะ”
“หัวหน้าตระกูลโกรธมากและติดต่อให้เจ้าหน้าที่อาวุโสของอาณาจักรมังกรมอบคำอธิบาย”
“ได้ยินว่าผู้นำระดับสูงของอาณาจักรมังกรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากและส่งเจ้าหน้าที่พิเศษมาจัดการแล้ว หม่อมฉันเชื่อว่าพวกเขาจะมาถึงเมืองเจียงไห่ในอีกไม่ช้าและช่วยเราจับกุมคนร้ายได้”
“แบบนั้นก็ดี!”
จินจูใจเย็นลงเล็กน้อย
“เจ้าลู่ฟานนั่นต้องตาย!”
เธอยังคงมั่นใจในฐานะอันสูงส่งของตัวเองเป็นอย่างมาก
เพราะอย่างไรเธอก็เป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรไท่จี๋ ถ้าหากเธอโดนทำร้ายในอาณาจักรมังกร อาณาจักรมังกรจะต้องให้คำอธิบายกับเธอและส่งตัวลู่ฟานมาให้อย่างว่าง่าย
การคิดถึงลู่ฟานทำให้ใบหน้าของจินจูเศร้าหมองอีกครั้ง
ตัวเธอเองนั้นไม่คิดว่าลู่ฟานมีมังกรอยู่แล้ว และดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่มังกรดินธรรมดาด้วย
สายเลือดมังกรในมังกรดำตัวนั้นจะต้องบริสุทธิ์กว่ามังกรดินที่เธอมี
เธอไม่รู้ว่าลู่ฟานเอามังกรตัวนั้นมาจากไหน ถ้าจับตัวเขาไปทรมานที่อาณาจักรไท่จี๋ได้เมื่อไหร่ เธอจะต้องเปิดปากเขาและถามเขาทุกเรื่อง
น่าเสียดายที่ไข่มังกรในมือตระกูลจินจะยังไม่มีประโยชน์ไปสักระยะ
เพราะถ้าอยากจะควบคุมมังกรดินให้ได้ จะต้องมีวิชาฝึกมังกร และมีเพียงนักฝึกมังกรเท่านั้นที่ฝึกมังกรได้
ถ้าตระกูลจินไม่ได้มังกรดินตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงและฟักมัน สุดท้ายพวกเขาจะได้เพียงแค่มังกรดินดุร้ายที่ยากจะฝึกให้เชื่อง
เป้าหมายสุดท้ายของมังกรดินตัวนั้นก็คงจะเป็นการถูกฆ่าและเก็บเป็นวัตถุดิบ
มันเป็นการเสียสัตว์ร้ายที่มีสายเลือดมังกรอย่างเปล่าประโยชน์ แทนที่จะใช้เป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อใช้ประโยชน์ได้มากมาย
ทางดีที่สุดก็คือการหานักฝึกมังกรและให้มังกรดินเกราะแข็งเป็นสัตว์เลี้ยง
เมื่อลู่ฟานผู้เป็นนักฝึกมังกรไม่สามารถใช้งานได้อีก จินจูก็ทำได้แค่มองหาคนอื่นที่เปลี่ยนอาชีพมาเป็นนักฝึกมังกร
ในตอนที่จินจูคิดว่าจะไปหานักฝึกมังกรอีกคนที่ไหนเพื่อให้ภารกิจที่ตระกูลมอบให้สำเร็จอยู่นั้นเอง เลขาคุ่ยก็ได้รับโทรศัพท์
หลังจากเลขาคุ่ยรับสาย เธอตื่นเต้นและพูดกับจินจูทันที
“องค์หญิง มีข่าวดีจากตระกูลจินค่ะ”
“ข่าวดีอะไร? นักฝึกมังกรถูกจับและชั้นฆ่ามันตายแล้วเรอะ?”
จินจูพูดอย่างไม่พอใจ
เลขาคุ่ยตอบ
“ไม่ใช่ค่ะ หน่วยข่าวกรองส่งข่าวให้เราว่ามีนักฝึกมังกรมากกว่าหนึ่งคนที่เปลี่ยนอาชีพในอาณาจักรมังกรปีนี้ค่ะ”
“นอกจากลู่ฟานคนนั้นแล้วยังมีอีกคนในเมืองฉิงโจวที่เพิ่งจะเปลี่ยนอาชีพเป็นนักฝึกมังกร หน่วยข่าวกรองจะส่งข้อมูลส่วนตัวของเขาในเร็ว ๆ นี้ค่ะ”
“เราไปหานักฝึกมังกรคนนั้นและทำให้เขาเป็นคนตระกูลจินได้”
“มีนักฝึกมังกรอีกคนเหรอ?!”
จินจูหรี่ตาด้วยความแปลกใจ
“ดีมาก ถ้าเราได้ข้อมูลเขาเมื่อไหร่ เราจะจัดเครื่องบินไปหาเขาทันที”
“หวังว่าคราวนี้คนที่เราจะไปเจอจะรู้ว่าต้องทำตัวยังไงนะ”