ตอนที่แล้วตอนที่ 37 ไม่ว่าผู้อยู่เหนือธรรมชาติจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็เทียบไม่ได้กับคลื่นซอมบี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 39 อย่าเข้ามาใกล้แม้แต่ครึ่งก้าว

ตอนที่ 38 คลื่นซอมบี้เดินเข้าไปในหมอกประหลาด


ตอนที่ 38 คลื่นซอมบี้เดินเข้าไปในหมอกประหลาด

ที่ทางด่วนบริเวณทางแยกเมืองตงหูและเมืองซวงหลง ขบวนรถอพยพได้ขับมาถึงที่นี่ และจอดพักรถอยู่ตรงนี้ ภูมิประเทศที่นี่สูงจึงสามารถมองเห็นทางใต้ของเมืองตงหูได้อย่างชัดเจน

หวังกังเจี้ยนได้กระโดดขึ้นไปบนหลังคารถ ก่อนจะหยิบกล้องส่องทางไกลออกมา และมองย้อนกลับไปดูเมืองที่เขาเกิดและโตขึ้นมา เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งจะต้องจากที่นี่ไป ความรู้สึกเศร้าในใจพรั่งพรูออกมาอย่างไม่สามารถอธิบายได้  เขาขอมองกลับไปดูมันอีกครั้ง ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้กลับมาเห็นมันอีก

ในตอนนั้นหวังหยง, ซ่งต้ายี่ และถังจินชวนต่างก็ปีนตามเขาขึ้นมา  สำหรับสมาชิกธรรมดาคนอื่นๆ  พวกเขาก็นั่งอยู่ในรถตามคำสั่งของหวังกังเจี้ยน เพราะถ้าหากมีคนลงจากรถมากเกินไป  ก็จะต้องใช้เวลานานในการขึ้นรถใหม่ ดังนั้นจึงไม่ให้พวกเขาลงจากรถเลยจะดีกว่า

“ฉันเห็นกลุ่มซอมบี้กำลังตรงไปยังเมืองตงหูอย่างรวดเร็ว” หวังหยงชี้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ด้วยสายตาที่เฉียบคมของเขา และกระซิบ

หวังกังเจี้ยนและคนอื่น ๆ รีบมองตามมือของเขาไปทันที

แน่นอนว่าพวกเขาก็เห็นคลื่นซอมบี้กลุ่มใหญ่ กำลังวิ่งเข้าไปในเมืองตงหูอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตรงมายังในเมืองเล็กๆแห่งนี้ซึ่งก็ยังมีผู้รอดชีวิตบางส่วนเหลืออยู่ในเมืองตงหู นั่นก็คือคนที่ไม่อยู่ในแก๊งใดๆเลย พวกเขาไม่มีเวลาที่จะหลบหนีด้วยซ้ำ ทำได้เพียงส่งเสียงกรีดร้องออกมา ก่อนที่พวกเขาจะจมลงไปในคลื่นซอมบี้

ในตอนนั้นซ่งต้ายี่ก็เบิกตากว้าง เพราะเขาเห็นซอมบี้บางตัวมีปีกและกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า

“ในอีกห้าปี จะต้องมีซอมบี้ระดับสูงทุกชนิดปรากฏตัวขึ้นมาอย่างแน่นอน และถ้าเราไม่พัฒนาไปเร็วกว่าซอมบี้ ไม่ช้าก็เร็วเราก็จะถูกซอมบี้กลืนกินไปจนหมด” หวังกังเจี้ยนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเบาๆ

หวังหยง, ซ่งต้ายี่และถังจินชวนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ พลังวิญญาณกำลังแผ่ซ่านไปทั่วโลก ส่งผลให้ตอนนี้สัตว์และพืชเริ่มกลายพันธุ์อย่างบ้าคลั่ง  หากมนุษย์ไม่สามารถวิวัฒนาการขึ้นไปให้อยู่เหนือสัตว์และพืชกลายพันธุ์พวกนั้น  พวกเขาก็จะถูกกำจัดโดยสายพันธุ์ใหม่ไม่ช้าก็เร็ว

“ไปกันเถอะ ไม่อย่างนั้นซอมบี้อาจจะได้กลิ่นลมหายใจของเราได้ ถึงตอนนั้นมันจะสายเกินไป” ซ่งต้ายี่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ

หวังหยงและถังจินชวนต่างก็พยักหน้าและเตรียมที่จะกลับเข้าไปในรถ

แต่ทันใดนั้นหวังกังเจี้ยนก็เห็นบางสิ่งบางอย่างและยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่คิดจะขยับไปไหน

“พี่ พี่มัวดูอะไรอยู่?” หวังหยงถามออกมาด้วยความสับสน

หวังกังเจี้ยนชี้ไปยังสถานที่หนึ่ง และกล่าวว่า "นายมีสายตาที่ดี ดูนั่นสิ นายเห็นหมอกหนานั่นหรือเปล่า?"

พรสวรรค์ที่หวังหยงได้มาคือ [สายตายาว] นับตั้งแต่ที่เขากลายมาเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติ  สายตาของเขาก็ยาวจนสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ในระยะไกลได้อย่างชัดเจนแต่ข้อเสียคือเมื่อมองใกล้ๆ สายตาของเขาจะเบลอมาก พรสวรรค์นี้ไม่สามารถเปิดหรือปิดได้ตามต้องการ ดังนั้นเมื่อเขาเปิดใช้สายตายาว เขาจึงต้องพยายามหลายครั้งกว่าที่จะปิดมันลงได้

หวังหยงเลิกคิ้ว ก่อนจะเปิดใช้งานพลังวิญญาณทันที และมองไปยังทิศทางที่หวังกังเจี้ยนชี้ออกไป

“จริงด้วย บริเวณนั้นมีหมอกหนามาก แต่ที่อื่นไม่มีหมอกเลย” เขาพูดด้วยความสงสัย

เมื่อถังจินชวนและซ่งต้ายี่เห็นว่าพวกเขาไม่ได้กลับไปที่รถ ทั้งสองก็เดินกลับมาอีกครั้ง ถังจินชวนยิ้มและพูดว่า "พวกคุณกำลังดูอะไรอยู่?"

หวังหยงชี้ไปที่บริเวณนั้น แล้วถามว่า "เหล่าถัง  คุณเคยไปที่บริเวณนั้นไหม ตอนนี้ที่นั่นมีหมอกหนามาก"

ถังจินชวนหรี่ตาลงและมองออกไป เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า "นั่นมันฐานที่มั่นเดิมของแก๊งหลิงฉวนไม่ใช่เหรอ? ฉันผ่านบริเวณนั้นตอนที่ฉันไปที่บริษัทรถทัวร์ของเมืองตงหูเมื่อสองวันก่อน ตอนนั้นยังไม่มีหมอกเลย แล้วทำไมตอนนี้ถึงมีหมอกหนาเกิดขึ้นได้ มันแปลกมาก”

ซ่งต้ายี่ยิ้มแล้วพูดว่า "ขนาดวิกฤตซอมบี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้ คงไม่มีอะไรน่าแปลกใจไปกว่านี้แล้ว"

หวังหยงและถังจินชวนพยักหน้าเมื่อได้ยินเช่นนี้ ถูกต้องแล้ว มีหลายอย่างที่ดูจะไม่สมเหตุสมผลผิดธรรมชาติและผืนหลักการทางวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นมามากมาย จนหลักการต่างๆที่รู้มาไม่มีความสำคัญอีกต่อไป

“เฮ้! ซอมบี้จำนวนมากได้เบี่ยงเบนเป้าหมายและกำลังตรงเข้าไปทางกลุ่มหมอก!” ในตอนนั้นหวังหยงกำลังจะหลับตาพยายามปิดการใช้งานสายตายาว แต่จู่ๆ เขาก็เห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เขาเห็นซอมบี้หลายสิบตัวเดินออกจากกลุ่ม และมุ่งหน้าตรงเข้าไปในพื้นที่ที่มีหมอกปกคลุม จากนั้นก็มีซอมบี้หลายสิบหลายร้อยตัวเริ่มเดินตามไป!

ในชั่วพริบตา ซอมบี้จำนวนมากก็แยกตัวออกจากกลุ่มเดิมและมุ่งหน้าไปทางเหนือ ตรงเข้าไปยังกลุ่มหมอก

หวังกังเจี้ยน, ถังจินชวนและซ่งต้ายี่ต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนี้

เกิดอะไรขึ้น? ซอมบี้เปลี่ยนเป้าหมายแล้วเหรอ? แทนที่จะไล่ตามคนเป็น แต่กลับวิ่งเข้าไปในกลุ่มหมอกแทน?

หวังหยงยังคงมองออกไปยังที่ตรงนั้น โดยไม่กระพริบตา

ภายในเวลาไม่ถึงห้านาที คลื่นซอมบี้ก็ได้เปลี่ยนทิศทางและวิ่งไปยังกลุ่มหมอก ในนั้นมีซอมบี้ระดับสูงหลายตัวที่แข็งแกร่ง พวกมันวิ่งและบินนำหน้าคลื่นซอมบี้ไป

ที่นั่นมีอะไรที่สามารถดึงดูดซอมบี้ได้ขนาดนั้นเชียวหรือ?

ห้านาทีต่อมา หวังหยงก็มองไปที่นั่นอีกครั้ง และก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าคลื่นซอมบี้ที่ตอนแรกแยกเป็นสองกลุ่ม ตอนนี้พวกมันทั้งหมดได้เลี้ยวโค้งอย่างสมบูรณ์และมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่มีหมอก!

“นายเห็นมันไหม เกิดอะไรขึ้น?” หวังกังเจี้ยนถามขึ้นมา

หวังหยงจึงได้อธิบายสถานการณ์ให้พวกเขาฟังทั้งหมด

หวังกังเจี้ยนและอีกสามก็ได้แต่สงสัย คลื่นซอมบี้เปลี่ยนเส้นทางอย่างนั้นเหรอ?  กลุ่มหมอกนั่นมีพลังเวทย์มนตร์อะไรกันแน่?

“คลื่นซอมบี้ได้เคลื่อนตัวเข้าไปในหมอกนานแล้ว แต่ก็ไม่มีซอมบี้เดินออกมาแม้แต่ตัวเดียว” หวังหยงมองออกไปอีกครั้ง และอธิบายสถานการณ์ออกมาอย่างจริงจัง

หวังกังเจี้ยนและอีกสามคนดูประหลาดใจมากยิ่งขึ้น..เป็นไปได้ไหมว่าบริเวณที่มีหมอกหนานั้น จะเป็นเหมือนหลุมดำที่ไม่มีก้นบึ้ง? เมื่อซอมบี้เดินเข้าไปบริเวณนั้น พวกมันก็จะถูกดูดเข้าไปและออกมาไม่ได้อีก?

หวังกังเจี้ยนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงสั่งการออกมาว่า "สั่งให้ขบวนรถหยุดอยู่ตรงนี้ และให้ทุกคนอยู่แต่ในรถ"

หลังจากสั่งการออกมาแล้ว เขาก็ได้ตั้งตารอดูสถานการณ์อยู่อย่างนั้น ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

นับตั้งแต่วิกฤติซอมบี้ปะทุขึ้นมา พวกเขาก็ไม่กล้านิ่งนอนใจอีกต่อไป ซอมบี้อันตราย และสัตว์กลายพันธุ์ก็อาจจะซ่อนตัวอยู่ทุกหนทุกแห่ง

หวังกังเจี้ยนจึงได้สั่งให้ผู้อยู่เหนือธรรมชาติในทีมแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม เพื่อจัดตั้งทีมลาดตระเวนในตอนกลางคืน

ผู้คนหลายร้อยคนกำลังตั้งแคมป์อยู่ข้างนอก ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะมีสัตว์ประหลาดชนิดไหนปรากฏออกมาในเวลานี้บ้าง ทุกคนจึงเลือกที่จะอยู่ในเต็นท์

อย่างไรก็ตาม คืนนี้ก็ผ่านไปโดยดี

นอกจากซอมบี้สองสามตัวและหมาป่ากลายพันธุ์สองสามตัว ก็ไม่มีเรื่องน่าประหลาดใจอะไรเกิดขึ้นอีก

พระอาทิตย์กำลังขึ้น

หวังกังเจี้ยนและอีกสี่คนยืนอยู่บนเนินเขาแล้วมองดูสถานการณ์ในเมือง

“หมอกยังอยู่และยังไม่สลายไป”

“ยังมีซอมบี้และสัตว์พิเศษมากมายจากทุกทิศทุกทางกำลังวิ่งเข้าไปในสายหมอกนั้น”

“พี่  ผมรู้สึกว่าเมื่อคืนที่เราไม่ถูกซอมบี้และสัตว์กลายพันธ์โจมตีก็อาจเป็นเพราะพวกมันถูกกลุ่มหมอกนั้นดึงดูดก็เป็นได้?” หวังหยงพูดพลางมองดูผู้คนรอบตัวเขาด้วยสีหน้าสงสัย

หวังกังเจี้ยนกล่าวว่า "...ฉันอยู่ข้างหลังนาย"

หวังหยงยิ้มออกมาอย่างเชื่องช้าและหันหลังกลับ

ถังจินชวนพูดอย่างจริงจังว่า "ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน หมอกนั้นมีแรงดึงดูดต่อสิ่งมีชีวิตกลายพันธ์พวกนี้อย่างมาก บางทีมันอาจจะเหมือนกับในนวนิยาย ที่ตรงนั้นอาจมีสมบัติบางอย่างถือกำเนิดขึ้นมา มันถึงได้ดึงดูดสัตว์กลายพันธ์และซอมบี้เหล่านั้น"

"คุณกำลังจะบอกว่าซอมบี้และสัตว์กลายพันธ์เหล่านี้อาจจะเริ่มต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสมบัติที่อยู่ในนั้นงั้นเหรอ?”

“เป็นไปได้มาก! หากว่าพวกมันสามารถเอาสมบัตินั้นมาครอบครองได้ พวกมันก็จะได้แก่นปราณจำนวนมาก ในตอนนี้แก่นปราณถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย!  ไม่ว่าจะใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองหรือเพื่อแลกเปลี่ยนวัสดุ ก็เป็นทางเลือกที่ดีทั้งสิ้น”

ซ่งต้าอี้กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า "ถ้าอย่างนั้น เราควรออกไปโดยเร็วที่สุด หากว่าพวกมันสามารถคว้าแก่นปราณมาได้ ความแข็งแกร่งของพวกมันก็จะเพิ่มขึ้นมหาศาล หากพวกมันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษขั้น 3 หรือ 4 ขึ้นมา เราก็ไม่สามารถเอาชนะพวกมันได้ อย่าลืมว่ามีคนธรรมดาหลายร้อยคนอยู่ที่นี่ และเราต้องปกป้องชีวิตของพวกเขาก่อนให้สมกับที่พวกเขาไว้วางใจในตัวของเรา”

หวังกังเจี้ยนและทั้งสามคนรู้สึกหนักใจ ซ่งต้ายี่พูดถูก ชีวิตของผู้คนจำนวนมากนั้นสำคัญที่สุด พวกเขาทั้งสี่ไม่สามารถล้อเล่นกับชีวิตของผู้คนได้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด