ตอนที่ 200 ติดต่อเมืองไป๋หลิน! จัดการกับลัทธิแมงมุมปีศาจ! (ฟรี)
ตอนที่ 200 ติดต่อเมืองไป๋หลิน! จัดการกับลัทธิแมงมุมปีศาจ!
“เรื่องของเฉียวกู่ไป๋ฉันรู้แล้วล่ะ”
“ว่าแต่ไป๋หยวน พวกนายสามารถติดต่อกับเมืองไป๋หลินได้รึเปล่า?”
ไป๋จื่ออันพยักหน้าเล็กน้อย เขาก็จำเรื่องของเฉียวกู่ไป๋เอาไว้
พูดตามตรง ไป๋จื่ออันไม่ได้กังวลเรื่องความปลอดภัยของเฉียวกู่ไป๋มากนัก
ตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ไม่ไปยังสถานที่ที่มีสัตว์วิญญาณระดับเพชรหรืออเมทิสต์ ด้วยพรสวรรค์โชคของเธอ เธอก็คงจะปลอดภัย
ยังไงซะ สถานการณ์ในโลกแห่งเงามืดนี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากมิติลับหมื่นรังไหมมากนัก
พวกมันล้วนแล้วแต่เป็นมิติลับระดับกลาง พลังต่อสู้สูงสุดก็คือสัตว์วิญญาณระดับอเมทิสต์
ช่วงนี้ไป๋จื่ออันเจอกับสัตว์วิญญาณระดับอเมทิสต์บ่อยครั้ง ก็เป็นเพราะเขาคอยตามหาผลึกเงาที่มีคุณภาพสูง เขาต้องไปยังสถานที่อันตราย
พูดได้เลยว่าสถานการณ์ของไป๋จื่ออันนั้นพิเศษมาก
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงไม่ได้กังวลเรื่องของเฉียวกู่ไป๋มากนัก
บางทีคนที่ต้องรู้สึกไม่สบายใจก็น่าจะเป็นคนที่ร่วมทีมกับเฉียวกู่ไป๋
เรื่องนี้ไป๋จื่ออันทำอะไรไม่ได้ ยังไงซะตอนนี้เฉียวกู่ไป๋ก็ไม่ได้อยู่ข้างๆ เขา
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงจำเรื่องนี้เอาไว้ เขาถามเรื่องอื่น
ไป๋หยวนกับคนอื่นๆ สามารถติดต่อกับเมืองไป๋หลินได้รึเปล่า?
พูดตามตรง ตอนที่ไป๋จื่ออันเจอไป๋หยวน เขาก็คิดเรื่องนี้
เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับไป๋จื่ออัน
ก่อนหน้านี้ ไป๋จื่ออันยังคงคิดอยู่ว่าเขาควรจะหาวัสดุวิวัฒนาการของราชันย์วาฬกับอีกาสุริยะจากไหน
ถ้าไป๋หยวนกับคนอื่นๆ สามารถติดต่อกับเมืองไป๋หลินได้ แบบนี้เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
เพราะไป๋จื่ออันสามารถฝากไป๋หยวนบอกเรื่องนี้กับไป๋จิ้งฉง ให้ไป๋จิ้งฉงช่วยรวบรวมวัสดุวิวัฒนาการให้กับเขา
นี่คือความคิดของไป๋จื่ออัน
ดังนั้นเขาจึงถามเรื่องนี้
“การสื่อสารระหว่างโลกทั้งสองต้องใช้สมบัติล้ำค่า พวกเราไม่สามารถติดต่อกับเมืองไป๋หลินได้แบบเรียลไทม์”
“แต่ช่องว่างมิติได้ขยายตัวแล้ว โลกทั้งสองสามารถติดต่อกันได้อย่างเสถียร”
“ดังนั้นทุกๆ ช่วงเวลา พวกเราจะให้คนๆ หนึ่งเดินทางกลับไปที่มิติลับหมื่นรังไหม”
“เพื่อที่จะส่งวัสดุและทรัพยากรต่างๆ กลับไปที่เมืองไป๋หลิน และนำวัสดุที่จำเป็นกลับมาด้วย”
ไป๋หยวนรีบบอก
ไป๋จื่ออันรู้สึกดีใจ เขาพยักหน้าเล็กน้อย
โดยรวมแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถติดต่อกับเมืองไป๋หลินได้ตลอดเวลา แต่พวกเขาก็ยังสามารถส่งข่าวสารกลับไปได้
ไป๋จื่ออันพอใจกับเรื่องนี้
เพราะสิ่งที่เขาต้องการก็คือการส่งข่าวสารกลับไป บอกให้ไป๋จิ้งฉงช่วยรวบรวมวัสดุวิวัฒนาการให้กับเขา
ส่วนเรื่องวิวัฒนาการนั้น ยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร
การที่เขาสามารถติดต่อกับเมืองไป๋หลินได้ มันก็เพียงพอแล้วสำหรับไป๋จื่ออัน
“ไป๋หยวน ฉันจะเขียนจดหมาย ฝากนายส่งมันกลับไปที่เมืองไป๋หลิน มอบมันให้กับคุณปู่ของฉันที”
ไป๋จื่ออันบอก
ไป๋หยวนตอบตกลงทันที
ไป๋จื่ออันหยิบปากกาและหมึกออกมาจากมิติสัตว์วิญญาณ เขาก็เริ่มเขียน
แน่นอนว่าเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ความลับรั่วไหล ไป๋จื่ออันจึงใช้รหัสลับของตระกูลไป๋เขียน
ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากรายการวัสดุแล้ว ไป๋จื่ออันยังเขียนถึงแผนการของลัทธิแมงมุมปีศาจ
เขาให้ไป๋จิ้งฉงแอบเข้ามาในโลกแห่งเงามืดหลังจากผ่านไปสามเดือน
นี่เป็นการกระทำที่รอบคอบของไป๋จื่ออัน
ตามความคิดเดิมของไป๋จื่ออัน เขาคิดที่จะขอความช่วยเหลือจากจื่อเยียนเหยียนเพื่อจัดการกับลัทธิแมงมุมปีศาจ
แต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะหาจื่อเยียนเหยียนเจอรึเปล่า
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้เขาหาเธอเจอ ชักชวนให้เธอช่วย เขาก็ไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับอเมทิสต์ได้
ที่สำคัญที่สุดก็คือ หลังจากที่เอาชนะจื่อเยียนเหยียนได้แล้ว ไป๋จื่ออันก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะแย่งชิงผลประโยชน์กับเขารึเปล่า
พูดได้เลยว่าเรื่องนี้มีความไม่แน่นอนมากเกินไป
ในเมื่อเป็นแบบนี้ การที่ขอให้ไป๋จิ้งฉงช่วย เป็นการป้องกันที่ดีที่สุด
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
หลังจากที่เขียนเสร็จ ไป๋จื่ออันก็ใช้วิธีป้องกันการสอดแนมกับจดหมายฉบับนี้
หลังจากที่ยืนยันว่ามันปลอดภัย ไป๋จื่ออันก็มอบจดหมายให้กับไป๋หยวน
“เรื่องนี้สำคัญมาก ไป๋หยวน นายไปส่งด้วยตัวเองเถอะ”
ไป๋จื่ออันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับไป๋หยวน
เดิมทีไป๋จื่ออันแค่คิดจะให้ไป๋จิ้งฉงช่วยรวบรวมวัสดุวิวัฒนาการเท่านั้น
มันไม่ใช่ความลับอะไร
ยังไงซะมีแค่ไป๋จื่ออันเท่านั้นที่ใช้มันได้ ต่อให้คนอื่นรู้ พวกเขาก็คงทำอะไรไม่ได้
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงไม่ได้กังวลอะไรมากนัก
แต่แผนการของลัทธิแมงมุมปีศาจนั้นต่างออกไป
ตอนนี้ลัทธิแมงมุมปีศาจกำลังวางแผนหลายอย่าง ความประมาทเพียงเล็กน้อยอาจจะทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น
ดังนั้นหลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ไป๋จื่ออันจึงตัดสินใจให้ไป๋หยวนไปส่งจดหมายฉบับนี้ด้วยตัวเอง
มีแค่ไป๋หยวนเท่านั้นที่เป็นคนที่เขาไว้ใจได้
“ครับ คุณชายจื่ออัน”
ไป๋หยวนตอบรับทันทีโดยไม่ลังเล
ตอนที่ทีมผจญภัยถูกจัดเตรียม ไป๋หยวนก็รีบมุ่งหน้าไปยังช่องว่างมิติ เขาเตรียมที่จะเดินทางกลับไปยังมิติลับหมื่นรังไหม กลับไปที่เมืองไป๋หลิน
ไป๋หยวนไม่ได้ลังเล เขาไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าทำไมไป๋จื่ออันถึงให้เขาไปส่งจดหมายฉบับนี้ด้วยตัวเอง
นี่คือคนที่ภักดีต่อตระกูลไป๋
พวกเขาได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก พวกเขาภักดีต่อตระกูลไป๋
“บางที นอกจากเฉียวกู่ไป๋แล้ว ฉันน่าจะลองฝึกฝนไป๋หยวนกับคนอื่นๆ ดู”
ไป๋จื่ออันครุ่นคิด
พูดตามตรง หลังจากที่ไป๋จื่ออันก้าวเข้าสู่เส้นทางของผู้ใช้สัตว์วิญญาณแล้ว นอกจากครอบครัวแล้ว เขาก็ดูแลแค่ไป๋จื่อ ไป๋เส้า และเฉียวกู่ไป๋
เพราะพวกเขาคือทีมของเขา พวกเขาภักดีต่อเขา
แต่พอเห็นไป๋หยวนทำตามคำสั่งของเขา ไป๋จื่ออันก็เริ่มคิด
เขาควรจะฝึกฝนไป๋หยวน ไป๋หยา และคนอื่นๆ รึเปล่า?
ยังไงซะพวกเขาก็ภักดีต่อตระกูลไป๋ การฝึกฝนพวกเขาจะเป็นประโยชน์มาก
“ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องทำก็คือพัฒนาพลังของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น”
“หลังจากนั้น ฉันถึงจะพัฒนาพลังของปู่กับพ่อแม่ ส่วนคนอื่นๆ ค่อยว่ากันทีหลัง”
ไป๋จื่ออันพึมพำ
ถึงแม้ว่าไป๋จื่ออันจะมีความคิดแบบนั้น แต่เขาก็มีลำดับขั้นตอนในใจ
อย่างแรกก็คือพลังของเขาเอง จากนั้นก็ครอบครัว คนที่ภักดีต่อเขาอย่างไป๋จื่อ ไป๋เส้า และเฉียวกู่ไป๋ สุดท้ายคือไป๋หยวน ไป๋หยา และคนรับใช้คนอื่นๆ ของตระกูลไป๋
นี่คือความคิดของไป๋จื่ออัน
เขาจะจัดสรรผลประโยชน์ตามความสัมพันธ์
ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนกับความจริงที่โหดร้าย แต่มันก็เป็นเรื่องจริง
ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะอยากฝึกฝนคนรับใช้ของตระกูลไป๋ แต่เขาก็ต้องทำทีละขั้นตอน
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็เลิกสนใจเรื่องนี้
“หลังจากที่ไป๋หยวนกลับมา พวกนายจะติดต่อกับเขายังไง?”
ไป๋จื่ออันถามคนที่เหลือ
“เรียนคุณชายจื่ออัน พวกเราจะทิ้งรหัสลับเอาไว้ พอท่านไป๋หยวนกลับมา เขาจะตามหาร่องรอยพวกนี้จนกว่าจะเจอพวกเรา”
สมาชิกของทีมผจญภัยคนหนึ่งพูดกับไป๋จื่ออัน
“เป็นแบบนี้นี่เอง ฉันเข้าใจแล้ว”
ไป๋จื่ออันพยักหน้า จากนั้นเขาก็จิ้มนิ้วไปทางด้านหลังขวา
“มุ่งหน้าไปทางนี้ ด้วยความเร็วที่พวกนายมี น่าจะใช้เวลาเดินทางประมาณสองวัน”
“พวกนายจะเจอภูเขา ที่นั่นมีแร่วิญญาณอยู่เยอะมาก แถมยังมีสัตว์วิญญาณระดับเงินอยู่ด้วย”
“ถ้าแร่พวกนั้นเหมาะสมกับนาย พวกนายก็ลองไปขุดดู”
ไป๋จื่ออันพูดอย่างรวดเร็ว
พูดตามตรง ช่วงนี้ไป๋จื่ออันไม่ได้แค่รวบรวมผลึกเงาเท่านั้น
เขายังได้รับผลประโยชน์อื่นๆ มาด้วย
เขาเป็นคนที่รู้จักโลกแห่งเงามืดดีที่สุด
ดังนั้นเขาจึงบอกตำแหน่งของทรัพยากรบางอย่างให้กับพวกเขารู้
ส่วนเรื่องที่ว่าพวกเขาจะฉวยโอกาสนี้เก็บผลประโยชน์ส่วนตัวรึเปล่านั้น
ไป๋จื่ออันไม่ได้กังวล
เพราะทีมผจญภัยที่นำโดยไป๋หยวนนั้น สมาชิกทุกคนล้วนแล้วแต่ได้รับการฝึกฝนจากตระกูลไป๋ ถึงแม้ว่าระดับของพวกเขาจะไม่สูงเท่าไป๋หยวนก็จริง
แต่พวกเขาก็คือคนของตระกูลไป๋ ไป๋จื่ออันสามารถไว้ใจได้
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงไม่กังวลอะไร
“ครับ คุณชายจื่ออัน”
พอได้ยินไป๋จื่ออันพูดแบบนั้น พวกเขาก็รู้สึกดีใจ
ยิ่งพวกเขาได้รับผลประโยชน์มากเท่าไหร่ รางวัลที่พวกเขาได้รับก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
การที่คุณชายจื่ออันมอบหมายเรื่องนี้ให้กับพวกเขา พวกเขาจะไปไม่พอใจได้ยังไง?
“ไปเถอะ”
ไป๋จื่ออันพยักหน้า เขาพูดกับทุกค
สมาชิกทีมผจญภัยลากลับไป๋จื่ออัน
พวกเขาทิ้งรหัสลับเอาไว้ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ไป๋จื่ออันบอก
“ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับไป๋หยวนกับคนอื่นๆ ที่นี่”
“ฉันมีพรสวรรค์ [โชคลาภ] อยู่กับตัว โชคของฉันนี่มันดีจริงๆ”
“แบบนี้ปัญหาของฉันก็หมดไป”
ไป๋จื่ออันถอนหายใจตอนที่มองทีมผจญภัยของตระกูลไป๋จากไป
ก่อนหน้านี้ เขายังคงกังวลเรื่องวัสดุวิวัฒนาการของราชันย์วาฬกับอีกาสุริยะ
แต่ไม่นาน เขาก็เจอกับไป๋หยวน เขาจึงฝากไป๋หยวนไปบอกเรื่องนี้ให้กับไป๋จิ้งฉง
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพรสวรรค์ [โชคลาภ] มันทำให้โชคของไป๋จื่ออันดีขึ้น
แบบนี้ไป๋จื่ออันก็สามารถทำตามแผนการของเขาได้อย่างสบายใจ
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็เลิกคิด เขาก็เริ่มรวบรวมผลึกเงาต่อ