ตอนที่แล้วบรรลุมรรคาด้วยวิชาบำเพ็ญคู่ ตอนที่ 18 [18+]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบรรลุมรรคาด้วยวิชาบำเพ็ญคู่ ตอนที่ 20

บรรลุมรรคาด้วยวิชาบำเพ็ญคู่ ตอนที่ 19 [18+]


บรรลุมรรคาด้วยวิชาบำเพ็ญคู่ ตอนที่ 19 [18+]

ในห้องเรียนที่ว่างเปล่า เสียงแห่งความรัญจวนแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากในห้องเรียน พวกเขาแสดงความปรารถนาภายในออกมาอย่างเต็มที่โดยไม่กังวลว่าจะถูกจับได้

การบรรยายจะเริ่มในอีกไม่กี่ชั่วยามข้างหน้า ดังนั้นพวกเขาจึงยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะทำในสิ่งที่ต้องการ ทว่าสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ มีศิษย์จำนวนหนึ่งมารวมตัวกันอยู่ข้างนอกเพื่อฟังเสียงหนั่นเนื้อของพวกเขาที่กระทบกัน ศิษย์สตรีเริ่มหน้าแดงเมื่อพวกนางเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ พวกนางหัวเราะคิกคักราวกับเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังแอบฟังในสิ่งที่ไม่สมควรฟัง

“เด็กน้อย พวกเจ้ากำลังแอบฟังอะไรกันอยู่?” ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังพลันเอ่ยถามขึ้น

“ผู้อาวุโสเจียงเหมย!” พวกนางสะดุ้งโหยงราวกับถูกจับได้ว่าทำสิ่งที่ฝ่าฝืนกฎ

ผู้อาวุโสผู้นี้อยู่ในขอบเขตร่างกายลึกล้ำและขอบเขตแก่นจิต ทุกคนล้วนทราบดีว่าการฝึกฝนจิตวิญญาณจะสามารถช่วยในการยืดอายุขัยได้ แต่หนทางเดียวที่จะรักษารูปลักษณ์ของพวกเขาไว้ได้ก็คือการฝึกฝนร่างกาย

แม้ว่าระดับการฝึกฝนร่างกายของนางจะดีกว่าผู้อาวุโสในสำนักนอกเพียงเล็กน้อย ทว่าก็ทำให้รูปลักษณ์ของนางแตกต่างไปอย่างมาก นางดูเหมือนสตรีที่อายุใกล้เลขสาม ทั้งๆที่ความจริงนางมีอายุ 40 ปีแล้ว

ในที่สุดผู้อาวุโสก็ได้ยินสิ่งที่พวกนางกำลังฟังอยู่

“หลีกไป!” นางเปิดประตูแล้วปิดลงอย่างแรง

เหล่าเด็กสาวพยายามแอบดูในขณะที่ประตูเปิดออก แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน สิ่งที่พวกนางได้เห็นทำให้ใบหน้าของพวกนางแดงก่ำ เด็กสาวที่มองไม่เห็นภายในห้องต่างขอร้องให้เด็กสาวเหล่านั้นอธิบายสิ่งที่พวกนางเห็น จากนั้นทุกคนก็อ้าปากค้างและรู้สึกราวกับได้รับรู้ความลับสวรรค์

“เป็นศิษย์พี่ไป๋ฟานจริงๆเหรอ?” นางเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสของนิกาย เด็กสาวทั่วไป นางกระทั่งเหลือบแลยังไม่เหลือบแล ยิ่งไม่ต้องพูดถึงศิษย์บุรุษเลย

........

........

........

ภายในห้องเรียน เสี่ยวฟางกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้โดยมีไป๋ฟานนั่งอยู่บนตักโดยที่กระบี่เนื้อของเขายังคงเสียบคาอยู่ในตัวนาง ภูเขาแฝดขนาดมาตรฐานของนางกระเด้งขึ้นลงทุกครั้งที่ร่างกายของนางถูกกระแทก รูปร่างของนางสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ไม่มากไม่น้อยเกินไป อีกทั้งนางยังงดงามมากเสียจนไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่านางก็คือโฉมงามอันดับหนึ่งของสำนัก

นางรู้สึกเขินอายเกินกว่าจะอ้าขาให้ผู้อาวุโสเห็น แต่นางก็ไม่อยากหุบขาเช่นกัน เสี่ยวฟางเกาะกุมหน้าอกที่กระเพื่อมไหวของนางไว้ ขณะที่เขามองดูผู้อาวุโสที่มองมาอย่างใจเย็นด้วยสายตาที่ชวนหลงใหล

เสียงครางของหญิงสาวไม่ได้เบาลง แต่กลับดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเสี่ยวฟางกำลังพยายามจะบอกบางอย่างต่อผู้อาวุโสที่กำลังเฝ้าดูอยู่ นางเผลอเลียริมฝีปากของตัวเองโดยไม่รู้ตัว

เสี่ยวฟางสังเกตเห็นแววตาอันเปล่งประกายของผู้อาวุโส ดังนั้นจึงตัดสินใจแสดงให้นางเห็น เขาเตรียมที่จะใช้เคล็ดวิชาใหม่ที่เขาฝึกฝนกับชุนฮัว แม้ว่าเขาจะยังคงฝึกฝนอยู่ เขาก็ยังมั่นใจพอที่จะลองใช้มันต่อหน้าผู้อาวุโสท่านนี้

เสี่ยวฟางลุกขึ้น จับไป๋ฟานให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นพานางไปที่กลางห้องเรียน ให้ใกล้กับผู้อาวุโสมากขึ้น

แขนของเขาโอบขาทั้งสองข้างของนางไว้ ขณะที่มือของเขาจับบั้นท้ายทั้งสองข้างของนางแน่น แขนของนางโอบรอบคอของเขา ขณะที่นางส่งเสียงครวญครางทุกครั้งที่ถูกกระแทก เงื่อนไขทั้งหมดสำหรับการสำแดงเคล็ดวิชาใหม่ของเขาได้รับการจัดเตรียมเสร็จแล้ว

[กระบี่เนื้อฟ้าร้องคำรน]

" อ่าาา ~ อ่า อ่า อ่า อ๋าา...” นางร้องออกมาขณะที่เขากระแทกกระทั้นนางจนแทบหมดสติ

เสียงกระแทกที่ดังจากแก้มก้นถึงต้นขาดังขึ้นเรื่อยๆ นางไม่ได้ครางเป็นครั้งคราว แต่ครางทุกครั้งที่เขากระแทกเข้าไปในตัวนาง

น้ำของนางฉีดพุ่งเป็นละอองกลุ่มใหญ่ทุกๆสองสามวินาที แต่นั่นไม่ได้รบกวนจังหวะของเขาแต่อย่างใด ผู้อาวุโสที่เฝ้าดูอยู่รู้สึกว่าถ้ำด้านล่างของนางเริ่มเปียกชื้น

เสี่ยวฟางเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเสียงครวญครางของนางก็หยุดลงและร่างของนางก็กระตุกเกร็ง นางไม่สามารถอดข่มข่มข่มกลั้นไว้ได้อีกต่อไป เสี่ยวฟางตัดกระชับเคล็ดวิชานี้ให้สั้นลงและดำเนินการโจมตีครั้งสุดท้าย

เขาวางนางลงบนโต๊ะ จับเอวนางไว้ จากนั้นจึงดึงนางกระแทกเข้ามา

[กระบี่เนื้อทะลวงสวรรค์]

วินาทีถัดมา กระบี่เนื้อของเสี่ยวฟางได้จมดิ่งลงไปในผลไม้ศักดิ์สิทธิ์สีชมพูแสนน่ารักของนางจนมิดด้าม ทำให้น้ำหล่อลื่นของนางพุ่งออกมาอย่างไม่อาจควบคุม ปากของนางยังคงอ้าอยู่ แต่เสียงเร้าอารมณ์ของนางกลับเงียบลง ร่างกายของนางแข็งทื่อในขณะที่ยังคงอยู่ในท่าทางเร้าอารมณ์นั้น นางได้สัมผัสกับสรวงสวรรค์แล้ว

ผู้อาวุโสอดกลืนน้ำลายไม่ได้นางเผยท่าทางดีใจเล็กน้อยเมื่อเห็นวิธีการที่เขาจัดการศิษย์ของนาง ราวกับว่านางคือผู้ที่โดนมังกรร่างกำยำนั้นทำลายล้าง มันคงอยู่เพียงชั่วครู่ก่อนที่ผู้อาวุโสจะรู้ตัวว่านางกำลังเผยสีหน้าอย่างไร นางรีบปกปิดมันไว้อย่างรวดเร็ว

“เสร็จหรือยัง?” ผู้อาวุโสถามราวกับหมดความอดทน

ในที่สุดเสี่ยวฟางก็ปลดปล่อยปราณหยางของเขาเข้าไปในรูที่สั่นเทิ้มของนาง นางจับตัวเขาไว้แน่น และมันทำให้นางได้สติกลับมา ผู้อาวุโสเฝ้าดูด้วยตาที่เบิกกว้าง

“นั่นมันเคล็ดวิชาอะไรกัน?” นางคิด ผู้อาวุโสไม่อาจทำใจเชื่อได้ แต่ในขณะนั้นนางก็เริ่มรู้สึกเสียวซ่านที่ริมฝีปากล่าง และนางรู้สึกว่าน้องสาวของนางเริ่มแฉะ นางไม่เคยดูใครร่วมรักในระยะใกล้มาก่อน นางกระทั่งไม่เคยได้สัมผัสกับตัวเองด้วยซ้ำ

เสี่ยวฟางนั่งลงอีกครั้งและอุ้มไป๋ฟานลงมานั่งตัก

แม้กระนั้นนางก็ยังคงนิ่งเฉยและเยือกเย็น “ตอนนี้เจ้าทำเสร็จแล้วใช่ไหมเด็กน้อยแซ่ไป๋?”

ไป๋ฟานไม่อาจกล่าววาจาหรือหยุดสั่น นางทำได้แค่จ้องมองผู้อาวุโส ในที่สุดนางก็พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสี่ยวฟางหันศีรษะมาจูบนาง ขณะที่เขาลูบหน้าอกอวบอิ่มของนาง นางไม่ขัดขืนลิ้น หรือการสัมผัสของเขาแต่อย่างใด นางแทบจะพยายามโน้มน้าวตัวเองว่าสิ่งนี้คุ้มค่ากับการลงโทษที่นางอาจได้รับจากการเพิกเฉยต่อผู้อาวุโส

เมื่อร่างกายที่สั่นกระตุกของนางหยุดลงในที่สุดและในที่สุดพวกเขาก็เสร็จกิจ เสี่ยวฟางเป็นคนแรกที่พูดขึ้น

“ตอนนี้เราเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสเจียงเหมย”

ไป๋ฟานลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้ากลับเข้าที่ นางโค้งคำนับผู้อาวุโสขณะที่นางเดินผ่านผู้อาวุโสเพื่อออกจากห้อง เมื่อนางออกมาถึงข้างนอก นางก็ได้รับการต้อนรับจากฝูงชนที่กำลังรอให้นางบอกเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในห้องนั้น ไป๋ฟานรู้สึกเขินอายจนแดงไปถึงลำคอ นางรีบวิ่งหนีทันที หลายคนออกจากบริเวณนั้นเพื่อไล่ตามไป๋ฟานหรือไม่ก็ไปที่ห้องเรียนของพวกนาง

ส่วนศิษย์ที่เหลืออยู่นั้น พวกนางเพียงต้องการรอพบกับบุรุษผู้ดึงพลังศักดิ์สิทธิ์จากเทพธิดาของพวกนางไป๋ฟาน

ในขณะเดียวกันภายในห้องเรียน ผู้อาวุโสเดินเข้ามาหาเสี่ยวฟาง นางจ้องมองกระบี่เนื้อของเขาที่ยังคงโด่ขึ้นฟ้าด้วยความไม่พอใจ

“ข้าได้ยินลูกศิษย์บางคนของข้ากระซิบกระซาบกันเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าในระหว่างเรียน เจ้าเป็นตัวปัญหามาก อยู่ต่อหน้าข้าเช่นนี้แล้ว ทำไมเจ้าถึงยังดูมั่นใจปานนั้น?”

“ท่านตอบข้าหน่อยสิ ท่านจะปล่อยปลาใหญ่ไปเพียงเพราะกลัวจะถูกฉุดลากลงน้ำงั้นหรือ?”

“ศิษย์พี่ไป๋ของเจ้าเป็นปลาตัวใหญ่พอที่เจ้าจะยอมถูกฉุดลากลงน้ำจริงๆ?” นางกล่าวด้วยใบหน้าที่ขมวดคิ้วมุ่น

เสี่ยวฟางก้าวเข้าไปใกล้นางอีกก้าวหนึ่ง

“ศิษย์พี่ไป๋เป็นเพียงแค่เหยื่อล่อ ส่วนท่าน...” เสี่ยวฟางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวนชวนหลงใหล นางรู้สึกถึงความรู้สึกเสียวซ่านที่แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย มือของเสี่ยวฟางล้วงเข้าไปใต้ชุดชั้นในของนาง และตอนนี้กำลังลูบไล้ช่องคลอดแฉะๆ ของนาง เขาใช้มือลูบเป็นวงกลมช้าๆ เพื่อหยอกเย้ากับส่วนล่างของนาง

"ในสายตาของข้า เจ้าก็เป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่ง เจ้าไม่ควรเสียเวลาไปเปล่าๆ"

"ท่านคุ้มค่ากับเวลาของข้า"

นางหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย ภูเขาคู่แฝดของนางยังใหญ่กว่าของชุนฮัวเสียอีก และปทุมถันของนางก็แข็งชูชันภายใต้เสื้อคลุมหนาๆของนาง

“ถึงแม้ภายนอกข้าจะดูอ่อนวัยกว่าอายุมาก แต่ความจริงข้าแก่กว่าเจ้ามาก ข้าจะคำนึงถึงลูกศิษย์ของข้าและปล่อยเจ้าไป ข้าแนะนำให้เจ้าจากไปก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ”

“ท่านอาจจะเป็นผู้อาวุโสของข้า แต่ในบางเรื่อง ข้าเชื่อว่าท่านยังต้องเรียนรู้จากข้าอีกมาก” นิ้วของเขาสอดเข้าไปในถ้ำสีชมพูของนางเพียงเล็กน้อย และลูบไล้ริมฝีปากด้านในของนาง

“เสี่ยวฟาง พอแล้ว! เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำทุกสิ่งที่ต้องการที่นี่ได้งั้นหรือ?” นางแสดงท่าทีโกรธ หากแต่มือของนางไม่ได้ดึงมือเขาออก ในขณะนั้นเอง นางปรารถนาลึกๆว่าเขาจะจับนางเปลื้องผ้าและข่มขืนนางจนหมดแรง เสี่ยวฟางยังคงสอดนิ้วเข้าออกถ้ำของนางทำให้น้ำหล่อลื่นของนางไหลซึมติดนิ้วของเขาออกมา

“ผู้อาวุโสเจียง ข้าบอกได้เลยว่าท่านยังคงบริสุทธิ์อยู่ หากท่านตั้งมั่นว่าจะไม่สัมผัสประสบการณ์ที่ไป๋ฟานประสบเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ให้ดับไฟหลังเที่ยงคืน หากยังมีวันใดที่ไฟยังถูกจุดอยู่หากข้าเห็นข้าจะไม่ให้ท่านได้นอนตลอดทั้งคืน” เขาสอดนิ้วเข้าไปจนสุดขณะที่เขาพูดจายั่วยวนที่ข้างใบหูของนาง เมื่อเขาพูดจบ เขาก็ดึงนิ้วออก ผู้อาวุโสเจียงเหมยยังคงนิ่งค้างขณะที่เขาเดินผ่านนางไป

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้ายังบริสุทธิ์อยู่?”

“การที่ท่านมองพวกเราทำให้ท่านเหม่อลอย แต่ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นนานนักหรอก” เขายิ้มอย่างมีเสน่ห์ เสี่ยวฟางเดินออกไปก่อนที่นางจะทันได้ตอบเขา

เสี่ยวฟางมีชื่อเสียงในทางลบ แต่เขากลับกลายเป็นคนดังในสายตาของเหล่าศิษย์สตรี เขาคือเด็กเกเรประเภทที่สาวๆแทบทุกคนไม่กลัวก็อยากได้มาครอบครอง

“พี่มังกรใหญ่ ท่านกับไป๋ฟานทำเรื่องอย่างว่ากันที่นั่นจริงๆงั้นเหรอ?” หญิงสาวทั้งหมดรุมล้อมถามเขา

“พี่มังกรใหญ่?” เสี่ยวฟางคิดขณะที่เขายิ้มอย่างขมขื่น ทว่า รอยยิ้มขมขื่นก็ยังคงเป็นรอยยิ้มอยู่ดี และเหล่าลูกศิษย์ก็ร้องวี๊ดว๊าราวกับว่าเขาได้ยืนยันข้อสงสัยของพวกนางแล้ว เสี่ยวฟางขยิบตาให้พวกนางแล้วใช้ความเร็วที่ไม่มีใครเทียบได้ของเขาหายตัวไปต่อหน้าต่อตาพวกนาง เขาเพียงหลบหนีสุดกำลัง ขณะที่เหล่าเด็กสาวเกือบจะเป็นลมเพราะเสน่ห์ของเสี่ยวฟาง

“อ๊าย ข้ายังไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะขยิบตาให้ข้า!”

"ไม่ใช่เจ้า เขาขยิบตาให้ข้าต่างหาก!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด