ตอนที่แล้วบทที่ 682 การแบ่งทรัพยากร! 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 684 ดินแดนลับหยินเยว่ที่น่าพิศวง 

บทที่ 683 ด่านหยินเยว่และนาวิญญาณขั้นห้า 


“ท่านแม่ทัพ ที่นี่คือดินแดนลับหยินเยว่ที่เป็นของท่านใช่ไหม?”

ด้วยคำชี้แนะของ เนี่ยหยวนจือทำให้หลี่ถิงอี้ผู้เคยเป็นญาติเชื่อมโยงกับตระกูลเนี่ย ตอนนี้ได้รับการยอมรับจากสำนักเซียนและได้รับการปฏิบัติเหมือนคนใน

ตอนนี้เขาติดตามกลุ่มผู้อาวุโสใหญ่หลายคนพร้อมกับท่านเจ้าสำนักเพื่อไปสำรวจดินแดนที่เป็นของเฉินโม่

ในเวลานี้จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความหวาดกลัว

ที่บริเวณส่วนกลางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของผิงตูโจวมีภูเขาเนินเตี้ยติดต่อกันเป็นแนวยาวหากมองจากท้องฟ้าจะไม่สามารถสังเกตเห็นได้ แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในนั้นแล้วจะมองเห็นภาพรวมของสถานที่แห่งนี้

ทหารที่เคยรับผิดชอบเฝ้าที่นี่ต่างถูกแม่ทัพคนอื่นนำตัวไปหมดแล้วทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่รกร้างไม่มีผู้ใด

เมื่อมองออกไปจากด้านนอกของเนินเขาสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือนาวิญญาณกว้างใหญ่ไพศาล

ถ้าหากกล่าวว่าดินแดนลับหยินเยว่ของแม่ทัพที่สามเว่ยอี้เป็นเหมือน ยอดเขามั่วไถของสำนักมั่วไถ ดินแดนนี้ก็ถูกซ่อนอยู่ด้วยการจัดวางค่ายกลอย่างแน่นหนาซึ่งพื้นที่ส่วนกลางนั้นมี แร่ธาตุวิญญาณขั้นห้าหนึ่งแห่งและนาวิญญาณขั้นห้า 120 ไร่ ส่วนบริเวณรอบนอกมีแร่ธาตุวิญญาณขั้นสี่ สี่แห่งและ นาวิญญาณขั้นสี่เกือบพันไร่

แม้เฉพาะการครอบครองพื้นที่นี้เพียงอย่างเดียวเฉินโม่ก็สามารถอาศัยพืชวิญญาณในนาวิญญาณนี้เพื่อยกระดับพลังและอำนาจของตนได้อีกครั้ง

ที่ขอบนอกของดินแดนลับนี้เฉินโม่ได้พาผู้อาวุโสใหญ่จากสำนักมั่วไถมาที่นี่

ในนาวิญญาณขั้นสี่รอบๆนี้ ปลูกข้าวหยกสวรรค์ ดอกม่วงม่านหยก และเฟิ่งหลิงไถไว้จำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม นาวิญญาณขั้นสี่เกือบพันไร่เหล่านี้กลับมีพืชวิญญาณเติบโตอยู่อย่างเบาบางการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ต่ำมาก

หากคำนวณตามความสามารถ เพิ่มผลผลิต ของเฉินโม่ พื้นที่นี้เทียบเท่ากับนาวิญญาณขั้นสี่เพียง 100 ไร่เท่านั้น!และหากเพิ่มความสามารถ เร่งการเติบโตเข้าไป พื้นที่นาขนาดพันไร่นี้จะมีการใช้ประโยชน์เพียงแค่ประมาณ 15 ไร่

“ที่นี่ไม่ใช่”

เฉินโม่ตอบความสงสัยของหลี่ถิงอี้ จากนั้นเขาลอยตัวขึ้นฟ้าเรียกฝนลงมาเพื่อรดน้ำพืชวิญญาณด้านล่าง

แม้ว่าจำนวนพืชวิญญาณจะไม่มากแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงเก็บเกี่ยว

การตั้งค่ายกลและรดน้ำเช่นนี้ ยังมีโอกาสทำให้พืชวิญญาณเหล่านี้มีผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ด้วยพรสวรรค์เพิ่มผลผลิตและเร่งการเติบโต ของเขาผลผลิตสามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 60 เท่า ซึ่งเพียงพอให้เขาและผู้ฝึกตนในสำนักมั่วไถได้ฝึกปรือพลังไปอีกหลายปี!

และในผลผลิตที่เพิ่มขึ้นถึง 60 เท่านี้เขาต้องแบ่งให้คนอื่นเพียงแค่ 4 เท่า เท่านั้น

ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นของเฉินโม่เอง

ใต้พื้นที่นาวิญญาณขั้นสี่เนี่ยหยวนจือและคนอื่นๆไม่ได้ใช้พลังป้องกันตัวเองจากสายฝนวิญญาณ พวกเขาเพียงยอมให้ฝนชโลมกาย เพราะรู้ดีว่าด้วยพลังเพิ่มผลผลิตอันแข็งแกร่งของท่านเจ้าสำนักพืชวิญญาณเหล่านี้จะเติบโตอย่างมหาศาลนี่คืออนาคตของพวกเขา

หลังจากฝนฤดูใบไม้ร่วงผ่านไป เนี่ยหยวนจือและผู้อาวุโสหลายคนเช่นปีศาจงูแดงและงูเขียว ก็สะบัดหยดน้ำบนตัวออกก่อนเดินตามเฉินโม่ไปข้างหน้า

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงบริเวณที่เส้นพลังวิญญาณของผืนดินถูกตัดขาด

เฉินโม่หวนคิดครู่หนึ่งก่อนจะหันไปบอกฉีเฉินว่า

"ที่นี่ข้าจะมอบให้เจ้า!"

“ท่านเจ้าสำนักวางใจได้! หอกานซือของเราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!” เขากล่าวพร้อมเดินไปที่รอยตัดของเส้นพลังวิญญาณ

เบื้องล่างคือเหวลึกที่มองไม่เห็นก้น แต่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่ล้นทะลักขึ้นมาจากพื้นดิน

ฉีเฉินรีบส่งซากศพขั้นสามลงไปขุดในเหมือง และไม่นานเขาก็ขุดพบผลึกหินวิญญาณระดับต่ำก้อนหนึ่ง!

ทุกคนที่มองเห็นเหตุการณ์ต่างรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง

แร่ธาตุขั้นสี่เหล่านี้ต่างถูกครอบครองโดยเหล่าแม่ทัพ สำนักเซียนและเมืองต่างๆไม่เพียงแค่ไม่เคยครอบครองพวกเขาแทบไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ!

นี่จึงทำให้ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ในผิงตูโจวต้องหยุดอยู่ที่ระดับขั้นทองหรือปรมาจารย์ปฐมภูมิแม้จะมีพรสวรรค์เลิศล้ำแต่ก็ไม่อาจก้าวข้ามขีดจำกัดได้

แต่ในตอนนี้พวกเขามีเหมืองของตนเองและมีหินวิญญาณ อย่างไม่ขาดสายจะไม่ให้ตื่นเต้นได้อย่างไร?

“ท่านเจ้าสำนัก!”

ฉีเฉินก้าวไปข้างหน้ารับหินวิญญาณจากซากศพและนำมันมามอบให้เฉินโม่

อย่างไรก็ตามเฉินโม่โบกมือและกล่าวว่า

“เก็บไว้ก่อนเมื่อสะสมได้มากกว่านี้ค่อยนำมาให้ข้า”

“นี่…” ฉีเฉินลังเลเล็กน้อย นี่มันผลึกวิญญาณนะ!

เขาจะมีสิทธิ์ถือครองได้อย่างไร?

แต่คำพูดต่อมาของเฉินโม่ทำให้ทุกคนในสำนักมั่วไถต้องอ้าปากค้าง

“นี่เป็นแค่เหมืองขั้นสี่ ข้างหน้ายังมีเหมืองขั้นห้าถ้าโชคดีที่นั่นอาจขุดพบผลึกวิญญาณระดับกลาง ได้”

“ยังมีเหมืองขั้นห้าอีกหรือ?”

เนี่ยหยวนจือถึงกับหายใจถี่ขึ้น

ตั้งแต่เฉินโม่กลับมาจากจงโจวข่าวดีแบบนี้มีมาเรื่อยๆจนทำให้ทุกคนตกตะลึง

และตอนนี้ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะคิดเช่นเดียวกับที่เฉินโม่เคยคิดไว้ก่อนหน้า...เหล่าแม่ทัพร่ำรวยขนาดไหนกันแน่!

ในขณะที่คนอื่นยังคงตกตะลึงกับข่าวดี ฉีเฉินก็นำหินวิญญาณใส่ในถุงเก็บของเฉพาะและกล่าวว่า “ท่านเจ้าสำนัก! เมื่อข้าสะสมได้ครบหนึ่งร้อยก้อนจะนำไปมอบให้ท่าน”

“ดี”

เฉินโม่ยิ้มและเดินหน้าต่อไป

เดินไปประมาณหนึ่งก้านธูป กลุ่มของเฉินโม่ก็มาถึงส่วนลึกของด่านหยินเยว

ที่นี่ปรากฏภูเขาสูงเสียดฟ้าอยู่เบื้องหน้าแต่แม้จะเรียกว่า “ภูเขา” มันกลับดูเหมือนเข็มยึดทะเลขนาดใหญ่ที่ผุดขึ้นจากพื้นดินมากกว่า

แม้ว่าภูเขานี้จะสูงมากแต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร

ขนาดยังไม่เท่ากับภูเขาบนหลังเจ้าเต่าเฒ่าด้วยซ้ำ

“ที่นี่น่าจะเป็นยอดเขาหยินเยว่” เฉินโม่หยุดและมองไปรอบๆ

ในวันนั้นหลังจากการประชุมที่ ด่านเฟยเทียนสิ้นสุดลง ซือกวงหยวนได้เข้ามาหาเฉินโม่และอธิบายเรื่องดินแดนลับสองแห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือยอดเขาหยินเยว่ที่ดูเหมือนจะเชื่อมต่อระหว่างฟ้ากับดิน

และก็เป็นจริงเมื่อมองจากด้านหลังของยอดเขาหยินเยว่ มีโพรงขนาดเท่าคนหนึ่งคนปรากฏขึ้น

เฉินโม่หันไปมองฉีเฉินอีกครั้งเขารีบสั่งการให้ ซากศพขั้นสามสี่ตัวเข้าไปในโพรงทันที

ซากศพเหล่านี้ไม่มีความรู้สึก ไม่รู้จักความกลัว และไม่หวาดกลัวต่อสิ่งที่ไม่รู้แม้เบื้องหน้าจะเป็นเหวลึกพวกมันก็จะก้าวไปอย่างไม่หวั่นเกรง

ทุกคนเฝ้ามองทางเข้าที่มีขนาดเท่าคนหนึ่งคน ในขณะที่สีหน้าของฉีเฉินแสดงความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานซากศพตัวหนึ่งสูญเสียแขนไปแต่แขนอีกข้างกลับถือหินวิญญาณก้อนใหญ่สิบกว่าก้อนออกมา!

เฉินโม่มองดูและอดยิ้มไม่ได้ก่อนจะกล่าวกับฉีเฉินว่า

“ค่าเดินทางของเจ้าได้มาแล้ว!”

ไม่น่าแปลกใจที่จางเจี๋ยจะใจกว้างขนาดนั้นหินวิญญาณกว่าร้อยก้อนก็แจกได้อย่างไม่ลังเล

สำหรับพวกเขาแล้ว มันแทบจะไม่เป็นค่าใช้จ่ายที่ใหญ่โตอะไร

“ขุดออกมาอีกสักหน่อย ผู้อาวุโสใหญ่โอวหยางและเนี่ยหยวนจือยังต้องไปฝึกตนที่เป่ยโจวอีก” เฉินโม่กล่าวเย้าเล่น

“ขอรับ!”

ฉีเฉินตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น

หลังจากขุดเหมืองมานานกว่าเจ็ดถึงแปดปีเขารู้ดีกว่าใครถึงมูลค่าของหินวิญญาณเหล่านี้

และตั้งแต่นี้ไป เหมืองวิญญาณและแร่ธาตุทั้งหมดจะกลายเป็นของสำนักมั่วไถอย่างแท้จริง!

"นั่นคืออะไร?"

จู่ๆเฉินโม่ก็สังเกตเห็นนาวิญญาณขั้นห้าขนาดใหญ่

เมื่อเขาก้าวเข้าไปในนาวิญญาณนั้นก็รู้สึกได้ถึงพลังราวกับมังกรกระโจนสู่ทะเล

นาวิญญาณขั้นห้า!

ทั้งสิ้น 120 ไร่ของนาวิญญาณขั้นห้า!

อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเฉินโม่เริ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและคิ้วของเขาขมวดขึ้นทันที

ในนาวิญญาณขั้นห้ากว่า 100 ไร่นี้เหลือเพียงหน้าน้ำแข็งอัสนีม่วงไม่กี่ต้น ส่วนอื่นๆถูกเก็บเกี่ยวและทำลายจนหมด!

(จบบท)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด