ตอนที่แล้วบทที่ 22 แตกละเอียด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24 เป็นของฉัน

บทที่ 23 หยกน้ำแข็ง


เมื่อเศษหินจำลองแตกกระจาย ฟางเสิ่นมองสิ่งที่กลิ้งออกมาบนพื้น มีเศษหินดินเล็กๆ ที่ถูกห่อหุ้มด้วยก้อนหยกใสสีเขียว เมื่อเห็นเขาก็จำได้ทันทีว่ามันคือ “หยกชนิดน้ำแข็ง” ซึ่งเป็นหยกคุณภาพสูงและมีราคาสูงมาก

“อย่างนี้นี่เอง” ฟางเสิ่นพยักหน้า เมื่อเห็นหยกนี้ก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ เมื่อเข้าใกล้มัน

หยกเป็นหนึ่งในชนิดของอัญมณีที่นิยมใช้ทำเครื่องประดับในสังคมมนุษย์ และมีมูลค่าสูงมาก แต่ในสายตาของผู้บำเพ็ญระดับสูงแล้ว หยกนี้ยังไม่ถือว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่า เพราะในบรรดาสมบัติแห่งโลกนั้น มีเพียงหยกเนื้อที่มีคุณภาพสูงสุดคุณภาพเยี่ยมเท่านั้นถึงจะได้รับการจัดอันดับให้เป็นสมบัติที่แท้จริงได้ ส่วนหยกนี้ยังไม่ได้ผ่านการเจียระไน จึงเป็นแค่หยกน้ำแข็งดิบๆ แม้จะมีคุณภาพดี แต่ก็ยังขาดคุณสมบัติที่จะนำมาสร้างมูลค่าหรือนำมาเป็นทรัพย์สมบัติของโลกนุษย์อยู่ดี (ต้องผ่านกระบวนการคัดแยกและตรวจสอบคุณภาพ)

อาจพูดได้ว่า หยกน้ำแข็งก้อนนี้ เป็นเพียงหยกชั้นต่ำของสมบัติแห่งโลกเท่านั้น

ระดับของดวงตาสวรรค์ของฟางเสิ่นในตอนนี้ยังไม่สูงพอที่จะตรวจจับสมบัติชั้นต่ำได้ แต่เนื่องจากหยกน้ำแข็งนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับสมบัติแห่งโลกเพียงเล็กน้อย จึงทำให้ฟางเสิ่นสามารถสัมผัสและรับรู้ถึงการมีอยู่ของมันได้บ้าง

เรื่องเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติทั่วไป เช่น โสม ซึ่งในสายตาคนทั่วไปก็คือสมบัติที่มีค่า แต่ในสายตาผู้บำเพ็ญระดับสูงแล้ว โสมส่วนใหญ่ยังไม่สามารถจัดอยู่ในระดับสมบัติแห่งโลกได้ ต้องเป็นโสมอายุอย่างน้อยหนึ่งร้อยปีเท่านั้น จึงจะสามารถจัดให้อยู่ในระดับสมบัติชั้นต่ำได้ โสมที่เหลือนั้นล้วนจัดเป็นสมบัติชั้นรอง ส่วนโสมที่อายุยังน้อยเกินไปนั้นยิ่งไม่มีค่าพอที่จะเรียกว่าชั้นรองด้วยซ้ำ

“เป็นหยกน้ำแข็งจริงๆ ด้วย”

ภายในร้าน “หินหยกวิจิตร” ไม่ได้มีเพียงฟางเสิ่นคนเดียวที่ดูออกว่ามันคือหยก ชายวัยกลางคนที่ดูสง่างามซึ่งสนิทสนมกับเจ้าของร้านก็ถูกดึงดูดความสนใจมาที่นี่เช่นกัน เมื่อเขาเห็นหยกน้ำแข็งที่อยู่บนพื้นก็รีบเดินเข้ามา เขาไม่สนใจจะรักษามาดสง่างามเลยแม้แต่น้อย รีบหยิบหยกขึ้นมาในทันทีแล้วเช็ดทำความสะอาดอย่างระมัดระวัง ดวงตาเขายิ่งทอประกายเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ

“คนนี้คือ?” ฟางเสิ่นมองชายคนนั้นด้วยความงุนงง เขาไม่ห้ามการกระทำของชายคนนี้ เพราะดูเหมือนว่าชายคนนี้จะเพียงแค่ชอบหยกเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะครอบครองมันไป

“เขาเป็นประธานบริษัทเครื่องประดับเทียนหย่า ชื่อสวี่เย่เฉิง ดูเหมือนว่าจะชอบหยกก้อนนี้มาก” ชายชราเจ้าของร้านเอ่ยขึ้น หยกน้ำแข็งเช่นนี้เป็นหยกคุณภาพสูง เขาเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงไม่ได้แสดงท่าทีตื่นเต้นเหมือนชายอีกคน

“คุณลุงตู้ครับ หยกน้ำแข็งก้อนนี้เป็นของใคร ช่วยขายให้ผมเถอะ” สวี่เย่เฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ราวกับกลัวว่าจะมีใครมาแย่งหยกไปจากมือ

ฟางเสิ่นพยักหน้าเข้าใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้จักชื่อของชายชรา

“หยกก้อนนี้ซ่อนอยู่ในหินประดับจำลองที่พ่อหนุ่มคนนี้ซื้อไป ตอนที่หนานหนานยกมาแล้วทำตกแตก หยกก้อนนี้ก็กลิ้งออกมา เขาเองก็เป็นคนพบมัน นายต้องถามเขาเอง” ชายชราตู้ลูบผมสีขาวของตัวเองพลางตอบด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย

ฟางเสิ่นหันไปมองชายชราแวบหนึ่ง ความประทับใจที่มีต่อชายชรานี้เพิ่มขึ้นมาไม่น้อย

ไม่โลภในเงินทอง ยึดมั่นในหลักการ คุณลักษณะแบบนี้ช่างหาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน มีแต่คนรุ่นเก่าเท่านั้นที่ยังคงรักษามันเอาไว้ได้

แม้ว่าเขาจะจ่ายเงินซื้อไปแล้ว แต่ถ้าชายชราเกิดความโลภขึ้นมาบอกว่าหยกนี้เป็นของเขาเอง เรื่องก็คงยุ่งยากน่าดู ถึงแม้ว่าฟางเสิ่นจะไม่กลัวปัญหาเรื่องยัดเยียดความผิดที่ทำหินแตกหรือการโต้แย้งว่าใครเป็นเจ้าของหยกนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการหลีกเลี่ยงปัญหาไม่จำเป็นก็ย่อมจะดีกว่า

“ของคุณเหรอ?” สวี่เย่เฉิงมองฟางเสิ่นด้วยสายตาอิจฉา “ทำไมผมไม่มีโชคแบบนี้บ้างนะ”

“เอ่อ คุณคือ?” ฟางเสิ่นถามอย่างสุภาพ

“คุณเรียกผมว่าสวี่เย่เฉิงก็ได้” ชายคนนั้นตอบ

“ได้ครับ คุณสวี่ คุณอยากได้หยกก้อนนี้หรือเปล่าครับ?” ฟางเสิ่นถามยิ้มๆ

“แน่นอน ขายให้ผมได้ไหม คุณลุงตู้รับรองได้ว่าผมเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เอาเปรียบแน่นอน” สวี่เย่เฉิงเอ่ยอย่างตื่นเต้น หากได้หยกน้ำแข็งก้อนนี้มา เขาสามารถนำไปทำเครื่องประดับขายได้อย่างแน่นอน มันจะช่วยกระตุ้นยอดขายบริษัทของเขาได้มากมายมหาศาล ดังนั้น เขาจึงต้องการหยกก้อนนี้อย่างที่สุด

“อืม ผมเองก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บไว้” ฟางเสิ่นตอบตกลง หยกก้อนนี้ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในระดับสมบัติแห่งโลก ฟางเสิ่นไม่ได้สนใจมันมากนักอยู่แล้ว จะนำไปขายในร้านประมูลก็ไม่คุ้มกับเวลาที่จะเสียไป ในเมื่อฟางเสิ่นขาดเงินอยู่ในตอนนี้ การขายมันออกไปก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

“สองล้าน คุณสวี่ เอาไปได้เลย” ฟางเสิ่นกล่าวขึ้นมาอย่างตรงไปตรงมา ด้วยพื้นเพครอบครัวที่เขาเคยมี ฟางเสิ่นเองก็พอจะรู้ว่าหยกก้อนนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ ดังนั้นต่อให้สวี่เย่เฉิงอยากจะกดราคาก็ทำไม่ได้

เมื่อฟางเสิ่นเสนอราคาสองล้าน ชายชราตู้ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจแรงด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าหยกก้อนนี้จะมีราคาสูงขนาดนี้ แต่ด้วยนิสัยของเขา ก็ไม่ได้คิดเสียดายอะไร เพียงแค่ชื่นชมในโชคดีของฟางเสิ่นเท่านั้น

“มองขาดจริงๆ” สวี่เย่เฉิงเอ่ยชื่นชม เขาไม่คิดว่าฟางเสิ่นจะเป็นผู้รู้จริง ราคาสองล้านอาจไม่ใช่ราคาที่ถูกที่สุด แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่เขารับได้ ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงทันที

ทั้งสองฝ่ายทำการซื้อขายกันอย่างรวดเร็ว ฟางเสิ่นได้รับเงินสองล้านในทันที ซึ่งเพียงพอที่จะนำไปซื้อกิจการของร้านประมูลหลงซิงได้

เงินสองล้านนี้ได้มาง่ายยิ่งกว่าห้าแสนที่ได้จากการรักษาสวี่เจี้ยนจวินเสียอีก ฟางเสิ่นแอบคิดในใจว่า หากเขาหันไปเสี่ยงโชคในวงการค้าหยกดิบ ก็คงจะทำเงินได้มากมายในเวลาไม่นาน แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะละทิ้งความคิดนั้นไป

เพราะการได้เงินเหมือนได้มาฟรีๆ เช่นนี้ ใครจะไม่อยากได้ แต่หากจงใจไปหาเงินด้วยวิธีการเสี่ยงโชค มันก็จะกลายเป็นการเดินในเส้นทางที่ผิดไป

เมื่อร้านประมูลสองโลกของเขาเปิดทำการ หากสามารถสร้างชื่อเสียงได้ ผลตอบแทนในอนาคตย่อมสูงกว่าการเสี่ยงดวงกับก้อนหยกที่ยังไม่เจียระไนหลายเท่าแน่นอน

อีกทั้ง แม้ว่าฟางเสิ่นจะสามารถตรวจสอบก้อนหยกดิบได้ว่ามีหยกอยู่ข้างในหรือไม่ แต่เขาก็ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ว่าหยกนั้นมีขนาดใหญ่แค่ไหนและคุณภาพเป็นอย่างไร หากลงทุนเสี่ยงโชคกับการซื้อหลายๆก้อนแล้วไม่ใช่หยกในระดับสมบัติแห่งโลกจริงๆ ก็จะทำให้เขาขาดทุนได้

“นี่คือบัตรติดต่อของผม” ฟางเสิ่นยื่นบัตรติดต่อให้สวี่เย่เฉิงและชายชราตู้คนละใบ

บัตรติดต่อของเขาในตอนนี้สมบูรณ์กว่าครั้งก่อนมาก ไม่เพียงแต่มีช่องทางการติดต่อของฟางเสิ่น ยังมีที่ตั้งร้านประมูลของเขาระบุไว้ด้วย

“เลขที่ 300 ถนนหนานซาน? จำได้ว่ามันคือร้านประมูลหลงซิงไม่ใช่หรือ?” สวี่เย่เฉิงเอ่ยด้วยความประหลาดใจ

“ต่อไปจะเปลี่ยนชื่อเป็นร้านประมูลสองโลกแล้ว” ฟางเสิ่นยิ้มตอบ

สวี่เย่เฉิงเข้าใจ “ถ้าร้านประมูลเปิดทำการเมื่อไหร่ คุณสวี่จะไปอุดหนุนอย่างแน่นอน”

“คุณตา พี่ชายไม่ว่าอะไรหนานหนานแล้วใช่ไหมคะ?” เด็กหญิงถามขึ้นขณะจ้องมองฟางเสิ่นด้วยดวงตากลมโตใสแจ๋ว เธอยังไม่รู้ว่าจำนวนเงินสองล้านนั้นมันมากมายแค่ไหน

“ไม่มีทางที่พี่ชายจะโกรธเธอหรอก” ชายชราตู้ลูบหัวเด็กหญิงอย่างอ่อนโยน

“ใช่ๆ พูดไปแล้ว พี่ได้เงินก้อนนี้มาก็เพราะเธอช่วยนี่แหละ” ฟางเสิ่นลูบหัวเด็กหญิงด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย

“ของเล่นเล็กๆ น้อยๆ ให้เธอเล่นแล้วกันนะ” ฟางเสิ่นเก็บเศษหยกที่ตกแตกบนพื้นบางส่วน ซึ่งมีขนาดเล็กเท่าเล็บมือ จะบอกว่ามันเป็นเศษที่แตกตอนที่หินหล่นลงพื้น หรือว่ามันเป็นเศษอยู่แล้วก็ไม่รู้

สวี่เย่เฉิงไม่สนใจเศษหยกพวกนี้ ฟางเสิ่นเองก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บมันไว้ จึงยื่นให้กับเด็กหญิงแทน

เมื่อเห็นเศษหยกที่เปล่งประกาย เด็กหญิงก็หัวเราะร่าอย่างมีความสุข

ชายชราตู้ขยับปากจะพูดเพื่อปฏิเสธ เพราะถึงแม้จะเป็นเศษเล็กๆ แบบนี้ แต่ก็ยังมีมูลค่าเป็นหมื่นได้

“มันไม่ได้มีราคาอะไรหรอกครับคุณตา แค่ของเล่นที่ผมให้เธอสนุกเท่านั้น แล้วถ้าเพื่อนของคุณตากลับมาจากต่างจังหวัดก็อย่าลืมแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ” ฟางเสิ่นพูดขึ้น

หินประดับจำลองทั้งสองก้อน ก้อนหนึ่งมีหยกน้ำแข็ง อีกก้อนหนึ่งมีไม้คืนวัย ความบังเอิญเช่นนี้ยิ่งทำให้ฟางเสิ่นยิ่งรู้สึกสนใจผู้สร้างมันขึ้นมาอย่างมาก

จบบท

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด