บทที่ 205 ตอนที่ 204. การอวดคือสิ่งจำเป็น
สาวออฟฟิศตัวน้อยที่ทำงานอยู่ในเซินเฉิงคนหนึ่งชื่อ เหลียงเยว่ (梁玥) ซึ่งเคยนำถั่วงอกมาแช่น้ำในขวดจนเกิดปฏิกิริยารุนแรงจนต้องไปห้องน้ำหลายครั้ง ตอนนี้เธอเริ่มสำรวจศักยภาพของตัวเองในด้านการทำอาหาร หลังจากเธอได้ลองทำถั่วงอกด้วยตัวเอง
เธอรู้สึกว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในด้านการทำอาหาร โดยเฉพาะเมื่อได้จับจ่ายซื้อเครื่องครัวต่างๆ เช่น หม้อผัด หม้อนึ่ง หม้อหุงข้าว มีด เขียง ที่คีบ และชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารน่ารักๆ รวม 12 ชิ้น และขวดปรุงรสแบบหมุนได้ที่เต็มไปด้วยเครื่องปรุงหลากชนิด ทำให้เธอไม่ต้องหาเครื่องปรุงจากชุดที่แถมมากับอาหารเดลิเวอรี่ให้วุ่นวายอีกต่อไป
ตามคำกล่าวที่ว่า “ถ้าอยากทำให้งานออกมาดี ต้องมีเครื่องมือที่ดี” เหลียงเยว่ก็เริ่มจินตนาการถึงฝีมือการทำอาหารของตัวเองว่าจะไปไกลขนาดไหน เธอคิดถึงการทำอาหารหลายๆ จานแล้วชวนเพื่อนสาวมาทานที่บ้านเพื่อให้เพื่อนตะลึงกับฝีมือของเธอ
เธอเริ่มต้นอย่างง่ายๆ โดยใช้หม้อหุงข้าวหุงข้าวจำนวนมากและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากนั้นเธอก็เอาข้าวที่หุงเองมาใส่กล่องอาหารกลางวันไปทานที่ทำงานพร้อมกับสั่งอาหารจานหลักอีกจานหนึ่ง ความรู้สึกเหมือนข้าวที่หุงเองมีรสชาติอร่อยกว่าข้าวกล่องทั่วไปอย่างมาก
แน่นอนว่ามันต้องอร่อยกว่าข้าวเดลิเวอรี่สิ เพราะข้าวที่เธอซื้อมาแพงกว่าเดลิเวอรี่ถึงหกหยวน (หยวนจีน) ต่อหนึ่งชั่งเลยทีเดียว
วันแรกนั้นข้าวยังเหลืออยู่ เธอจึงเก็บไว้ในตู้เย็นและวันที่สาม
เธอก็ลองทำข้าวผัดไข่ดู ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง
“โอ้! การผัดคือแบบนี้เองเหรอ? ตอนนี้ฉันก็รู้แล้ว! การทอดไข่ก็ต้องแบบนี้เอง ฉันเก่งจัง!”
เธอภูมิใจกับฝีมือของตัวเองสุดๆ จนมั่นใจว่าตัวเองมีความสามารถด้านทำอาหารและรู้สึกเหมือนเป็นอัจฉริยะด้านนี้อย่างแท้จริง
ข้าวผัดไข่นั้นเธอก็เอาไปทานเป็นอาหารกลางวันที่ทำงาน และเก็บไว้สำหรับอาหารเย็นกับมื้อเช้าของวันถัดไป โดยตอนนี้ข้าวผัดที่ทำขึ้นก็ดูจะมากเกินไป
เมื่อผ่านไปสามวัน
สามวันหมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ?
ถ้าใครยังไม่รู้จักคำว่า “ความชอบสามนาที” หรือ “ความเบื่อหน่ายชั่วคราว” ก็จะรู้จากที่เหลียงเยว่ทำ เธอค่อยๆ หมดความสนใจ และปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปโดยไม่สนใจว่าจะเข้าครัวอีกเมื่อไหร่
สุดท้ายเธอก็แทบจะไม่ได้เข้าไปในครัวอีกเลย อย่างมากก็แค่ทำไข่ดาวใส่แซนด์วิชในตอนที่เธอหิวตอนกลางคืน
แม้ฝีมือการทำอาหารของเธอจะไม่ค่อยพัฒนาไปไหนนัก แต่เธอก็ยังคงชื่นชอบดูวิดีโอ
ทำอาหาร วิดีโอไหนมีอะไรก็ดูหมด
เธอมักจะไปปรากฏตัวในคอมเมนต์ บางครั้งก็ขอขนมในวิดีโอ บางทีก็ตกแต่งภาพโดยใส่กุญแจมือให้หลัวอี้หาง บางครั้งก็ดูวิดีโอเกี่ยวกับการทำกุ้งเผา และดูจนหิวจนน้ำลายไหล
น่าเสียดาย ที่หลังจากอัปโหลดวิดีโอล่าสุดเกี่ยวกับ “การล้างแค้นซึ่งกันและกัน” แล้ว ช่อง
“丁小满是只猫” (ติงเสี่ยวม่านเป็นแมวตัวหนึ่ง) ก็อัปโหลดวิดีโอใหม่ค่อนข้างน้อย มีบ้างที่อัปโหลดวิดีโอของเจ้าแมวติงเสี่ยวม่านที่ไปสำรวจและต่อสู้ในที่ต่างๆ ซึ่งก็น่ารักใช่เล่น
แต่ไม่ใช่สิ่งที่เธอชอบเท่าไรนัก เพราะมันไม่ได้ให้ความรู้สึกสนุกเหมือนวิดีโอทำอาหาร
ในที่สุดเธอก็ค่อยๆ ห่างจากการติดตามช่องนี้ไป จนตอนนี้ไม่ค่อยได้เข้าไปดูบ่อยๆ แล้ว
อย่างไรก็ตาม เธอยังคงเปิดการแจ้งเตือนเมื่อช่องนี้เริ่มไลฟ์สด
ครั้งนี้เมื่อมีการแจ้งเตือนว่าไลฟ์สดเปิดขึ้น เธอก็กดเข้าไปดูทันที
ยังไงเจ้าแมวติงเสี่ยวม่านก็ยังเก่งและฉลาดเหมือนเดิม
แต่เดี๋ยวก่อน! คนขายของในไลฟ์สดนี้คือใครกัน!?
ไม่รอช้า เธอเลือกที่จะกดสั่งซื้อลงไปหนึ่งกระปุกที่รสเผ็ดหอมเป็นราคา 98 หยวน เพราะเธอเพิ่งจะได้รับเงินเดือนมา ทำให้รู้สึกว่ามีอำนาจในการซื้อของอย่างมาก
วันอาทิตย์ตอนเช้า เธอได้รับพัสดุของเธอและพบว่ามันเป็นกระปุกเล็กๆ เท่านั้น เธอรู้สึกเสียดายเงินไปนิดหน่อย
แต่กระปุกนั้นก็ดูน่ารักน่าจับจ้องไม่หยอก เธอจินตนาการว่าเมื่อล้างกระปุกแล้วเอามาเก็บแปรงแต่งหน้าได้ก็ดูจะเข้าท่าไม่น้อย
ด้วยความคิดเล่นๆ เธอหยิบกระปุกไปที่ครัว วางลงบนเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร
“เอาล่ะ” เธอพูดกับตัวเองพลางเปิดฝากระปุกและดึงฝาออก
ทันทีที่ฝาเปิดออกกลิ่นหอมของน้ำพริกก็ลอยมาถึงจมูก
เมื่อเธอได้สติอีกครั้ง เธอพบว่ามีช้อนอยู่ในมือ และน้ำพริกในกระปุกก็หายไปส่วนหนึ่ง ตอนนี้เธอกำลังเคี้ยวอาหารอยู่ในปาก
“เผ็ดจัง เผ็ดมาก” เธออุทานออกมา แต่รสชาตินั้นช่างหอมอร่อย เธอรู้สึกได้ว่าเป็นความเผ็ดที่กำลังพอดีสำหรับเธอ
เธอลองพูดกับตัวเองว่า “มันค่อนข้างเค็ม อืม นี่ไม่น่าจะกินเพียวๆ ได้ น่าจะกินกับอะไรดี?”
ขณะที่พูดกับตัวเอง เธอก็วางกระปุกลงแล้ววิ่งออกจากบ้านไปที่ร้านสะดวกซื้อข้างล่าง หยิบหมั่นโถว (ขนมปังนึ่ง) ขึ้นมาสองลูกแล้วรีบกลับบ้าน เธอฉีกหมั่นโถวออกใส่น้ำพริกเข้าไปแล้วกัดไปคำโต
“อร่อยจัง หมั่นโถวรสหวานเข้ากับน้ำพริกเผ็ดๆ ได้อย่างดี”
เธอจัดการหมั่นโถวทั้งสองลูกอย่างรวดเร็ว อิ่มท้องพอดี
ด้วยความสุข เธอกลับมานั่งที่โซฟาและคิดว่า “น้ำพริกอร่อยมากเลยนะ แต่กินกับขนมปังแบบนี้มันสิ้นเปลืองจริงๆ ควรเอาไปทำอาหารจานอื่นดีกว่า”
เธอเลยลองค้นสูตรอาหารต่างๆ และสุดท้ายตัดสินใจทำข้าวผัดไข่ราดน้ำพริกสูตรพิเศษ โดยใส่ส่วนผสมหลายอย่างเพิ่มเข้าไป
เธอเริ่มทำข้าวสวยให้เสร็จก่อน แล้วก็ออกไปเดินเล่นในห้างร้านค้าระหว่างรอข้าวเย็นตัวเพราะจะทำข้าวผัดนั้นต้องใช้ข้าวที่แห้งเย็นหน่อย
เธอกลับมาพร้อมกับผักกาดหอมและเห็ดหอมสด รวมถึงถั่วดองนิดหน่อย หลังจากจัดเตรียมทุกอย่างแล้ว เธอเริ่มลงมือทำข้าวผัดทันที
เมื่อน้ำพ
ริกถูกใส่ลงไปในกระทะพร้อมกับข้าวกลิ่นก็ลอยฟุ้งทั่วครัวจนออกไปถึงทางเดิน และบ้านข้างๆ ก็ได้กลิ่นเช่นกัน
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเด็กข้างบ้านร้องไห้โฮออกมา
เหลียงเยว่หัวเราะออกมาด้วยความภูมิใจ
เธอพอใจกับรสชาติอาหารของตัวเองมาก กัดคำโตๆ ติดๆ กันไปหลายคำ
“นี่เป็นฝีมือของฉันเหรอเนี่ย?”
หลังจากที่เธอใช้เวลาชื่นชมตัวเองอยู่นาน เธอก็ได้กินข้าวผัดหมดจนเกลี้ยง แม้ว่ามันจะตั้งใจทำไว้หลายมื้อแต่เธอกินจนไม่เหลือ
และวันถัดไป ซึ่งเป็นวันจันทร์นั้น เธอตื่นเช้ามาเตรียมข้าวผัดอีกครั้งเพื่อเอาไปทานและแบ่งเพื่อนที่ทำงาน เธอได้รับคำชมจากเพื่อนๆ และหัวหน้าที่พากันมาชิม และสิ่งนี้ทำให้เธออิ่มเอิบใจสุดๆ รู้สึกภาคภูมิใจยิ่งขึ้น
ตอนเย็นเมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็ได้พบกับกลุ่มแชทชื่อว่า “กลุ่มคนรักน้ำพริกบ้านแมวติงเสี่ยวม่าน” ซึ่งเต็มไปด้วยสมาชิกที่มาแบ่งปันสูตรอาหารหลากหลาย เธอจึงรู้สึกสนใจมากและรีบเข้าร่วม
ในกลุ่มนั้นมีสูตรอาหารหลากหลาย ทั้งสูตรทำน้ำซุปหม้อไฟ สูตรตุ๋นเท้าไก่รสเผ็ด และอีกหลายสูตรที่ทำให้เธอรู้สึกสนใจในรสชาติใหม่ๆ เธอไม่รอช้า รีบสั่งน้ำพริกเพิ่มอีกชุด คราวนี้ซื้อแบบครบชุดทั้ง 4 กระปุกที่ลดราคา 10%
เธอตั้งใจว่าจะได้ลองทำเมนูต่างๆ อย่างเต็มที่คราวนี้
(จบบท)###