ทุกคนเปลี่ยนอาชีพ : แต่นักฝึกมังกรกากสุดงั้นเหรอ? ตอนที่ 43 น้าสวยจังเลย
“อ๋อ เป็นแบบนี้นี่เอง เธอคิดเผื่อถึงขนาดรีบมาแต่เช้าเลยนะ”
ลู่ฟานยิ้มบางและพูด
“ไม่เข้ามานั่งข้างในก่อนล่ะ”
“อ้อ ผมลืมแนะนำ นี่หานเค่อน้าสาวของผม น้าครับ คนนี้ที่ผมเล่าให้ฟังไง ฉินฉิวลูกของเทศมนตรีฉิน เราเจอกันในป่าเมื่อไม่กี่วันก่อนแล้วก็ไปที่แดนลับด้วยกัน”
เมื่อได้ฟังเรื่องราว ผู้หญิงทั้งสองคนตกใจ
“อ๊ะ?! เป็นคุณน้าของลู่ฟานเหรอคะ?”
“เธอคือลูกสาวของเทศมนตรีฉินเหรอ?”
ทั้งสองไม่คาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนที่งดงามขนาดนี้
ฉินฉิวตอบสนองได้เร็วกว่า เธอยิ้มอ่อนหวานและพูด
“คุณน้าหน้าเด็กแล้วยังสวยมากเลย ทีแรกหนูคิดว่าน้าเป็นพี่สาวหรือเป็นแฟนของลู่ฟานซะอีก ไม่คิดว่าน้าจะเป็นผู้ใหญ่เลยค่ะ…”
หานเค่อหน้าแดงระเรื่อ เธอพูดอย่างเขินอาย
“ที่จริงน้าไม่ใช่ผู้ใหญ่หรอกจ๊ะ น้าเป็นลูกสาวคนสุดท้ายในครอบครัว ไม่ได้แก่กว่าหนูเท่าไหร่หรอก”
ลู่ฟานพูดอย่างร่าเริง
“ใช่ ปีนี้น้าอายุแค่ 26 เอง”
ฉินฉิวพูดตามตรง
“ไม่คิดเลยว่าน้านายจะอายุ 26 ถ้าเป็นคนอื่นคงเชื่อว่าน้านายอายุแค่ยี่สิบต้น ๆ น้าสวยจังเลย…”
“ฮิฮิ…”
หานเค่อรู้สึกเขินอายจากคำชมและรีบบอกให้ฉินฉิวไปนั่งข้างในบ้าน
ณ สนามบินเมืองเจียงไห่
ฉินชางไห่และพ่อบ้านแม่บ้านตระกูลฉินได้เตรียมรถหนูรอองค์หญิงไท่จี๋ลงมาจากเครื่องบิน รับพระนางและพาไปส่งที่โรงแรมห้าดาว
แต่ทว่าเครื่องบินนั้นลงจอดที่สนามบินแล้วอย่างเห็นได้ชัด แต่องค์หญิงแห่งไท่จี๋ยังไม่เสด็จลงมา ซึ่งทำให้ฉินชางไห่กังวลเล็กน้อย
หลังจากรออยู่นาน ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นคนสวมชุดประจำอาณาจักรไท่จี๋เดินตรงมาที่ฉินชางไห่และคนอื่น ๆ
คนที่เดินนำเป็นสตรีวัยกลางคนดูงดงาม เธอเหมือนกับเลขาส่วนพระองค์ เธอเดินตรงมาที่ฉินชางไห่และจับมือกับเขา
“คุณคือเทศมนตรีฉินสินะ? ขอบคุณที่มารับรองพวกเรา ฉันคือผู้ดูแลขององค์หญิงจินจูเมื่อพระองค์ทรงประทับต่างแดน ฉันเป็นคนสกุลคุ่ย เราไปที่โรงแรมกันก่อนเถอะ”
สตรีวัยกลางคนมีสีหน้าว่างเปล่าและน้ำเสียงนั้นไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก
ฉินชางไห่อึ้งและดูคนด้านหลังเธอ ทุกคนล้วนเป็นคนอารักขา เสมียน และคนที่เหมือนมาด้วยกัน ไม่มีคนที่น่าจะเป็นองค์หญิงน้อยแห่งอาณาจักรไท่จี๋เลย
ฉินชางไห่ถามด้วยความสับสน
“เอ่อ เลขาคุ่ย เราต้องรับองค์หญิงของคุณไม่ใช่หรือ? พระองค์ทรงอยู่ที่ไหนล่ะ?”
เลขาคุ่ยพูดอย่างเย็นชา
“องค์หญิงจินเสด็จมาที่เมืองเจียงไห่เพื่อทำธุระบางอย่าง พระองค์ทรงเสด็จไปแล้ว”
“เสด็จไปแล้ว!?”
ฉินชางไห่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พยายามคิดถึงความเป็นไปได้ว่าองค์หญิงแห่งไท่จี๋จะต้องมีเหตุผลของตัวเองในการมาที่เมืองเจียงไห่
……
“...อาหารพวกนี้มีคุณสมบัติเสริมแกร่งทั้งหมดเลยเหรอเนี่ย!? แม่ครัวเสริมแกร่งที่เป็นอาชีพลับทำเรื่องแบบนี้ได้งั้นเหรอ?!”
ฉินฉิวอึ้งเมื่อมองอาหารจำนวนมากบนโต๊ะ
ในตอนนี้ หานเค่อได้นำชามและตะเกียบเข้ามาวางไว้หน้าฉินฉิวและพูดด้วยรอยยิ้ม
“น้าต้องขอบคุณหนูกับเสี่ยวฟานที่ทำให้น้าได้เปลี่ยนอาชีพเป็นอาชีพลับที่ดีขนาดนี้”
ฉินฉิวเข้ามาเพื่อทานมื้อเช้า แต่บนโต๊ะกลับเต็มไปด้วยของอร่อยที่จะเพิ่มค่าสถานะได้อย่างถาวร และลู่ฟานยังต้อนรับฉินฉิวอย่างดีทำให้ฉินฉิวหน้าแดงและอยู่กินต่อ
หลังจากได้ชิมอย่างระมัดระวังก็พบว่าอาหารทุกเมนูล้วนมีรสชาติที่ดี ดียิ่งกว่าการทำอาหารของตระกูลฉินอยู่มากโข
“อาหารพวกนี้อร่อยจริง ๆ นะ…”
ฉินฉิวหรี่ตาเล็กน้อยและพูด
“คุณน้าคะ ถ้าคุณน้าเรียนพิมพ์เขียวสูตรอาหารมาแล้ว อาหารที่น้าทำก็น่าจะได้ค่าสถานะถาวรใช่ไหม?”
“ถ้าหนูกลับไป หนูจะให้ตระกูลฉินรวบรวมพิมพ์เขียวเมนูอาหารจากทั้งเมืองเจียงไห่มาให้ แบบนี้ดีไหมคะ?”
หานเค่อปฏิเสธในทันที
“จะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะ? หนูเพิ่งให้เสี่ยวฟานมา 10 ล้าน น้าคิดว่าเงินขนาดนั้นมันมากเกินไปอยู่แล้ว ถ้ายังให้ของน้าเพิ่มอีก น้าคงรับไม่ไหว…”
ในตอนนี้ ลู่ฟานยิ้มและพูดแทรก
“ไม่เป็นไรหรอกน้า พิมพ์เขียวอาหารมันไม่ได้แพงเท่าไหร่ แล้วเราก็จ่ายเองไหวด้วย แต่ถ้าเราอยากจะรวบรวมทั้งหมดในเมืองเจียงไห่ บางทีคงมีแค่ตระกูลฉินที่ทำได้นะ”
“เราร่วมมือกับตระกูลฉิน ให้พวกเขาหาพิมพ์เขียวให้เรา แล้วน้าก็ทำอาหารที่เพิ่มค่าสถานะถาวรแบ่งให้ตระกูลฉินไปเพิ่มพลังด้วย”
ฉินฉิวผงกหัวเห็นด้วยซ้ำไปซ้ำมา
“หนูว่าทำแบบที่ลู่ฟานแนะนำก็ดีนะ พิมพ์เขียวแทบจะไม่มีราคาอะไรอยู่แล้ว แต่อาหารที่เพิ่มค่าสถานะได้ต่างหากที่ล้ำค่า ถ้าคิดแบบนี้ ตระกูลฉินของเราก็กำไรด้วยซ้ำไป!”
“แบบนี้มัน…”
หานเค่อหยุดคิด และสุดท้ายเธอจึงยิ้มออกมา
“ถ้าคิดว่าไม่เป็นไร น้าก็ไม่ปฏิเสธจ๊ะ”
“เดี๋ยวหนูจะกลับไปบอกพ่อให้นะ!”
ฉินฉิวอารมณ์ดี เธอไม่คิดเลยว่าการมาที่นี่เพียงเพราะนำเงินมาให้ลู่ฟานจะทำให้เธอได้ขุดเจอสมบัติอย่างหานเค่อ
ด้วยแนวทางนี้ ตระกูลฉินจะได้อาหารจำนวนมากที่เพิ่มค่าสถานะได้ และยังเสริมความสัมพันธ์กับลู่ฟานลูกรักสวรรค์ได้อีกด้วย นี่มันกำไรครั้งใหญ่
ในขณะที่ทั้งสามคุยกันอย่างมีความสุขอยู่นั้นเอง ประตูร้านก็เปิดอีกครั้ง
“คนที่ชั้นตามหามาอยู่ในที่โทรม ๆ แบบนี้เหรอเนี่ย?”