ตอนที่ 24 การพนันกับเอรินะ
ตอนที่ 24 การพนันกับเอรินะ
เซี่ยหยูกำลังล้างจานในครัว
ร้านเปิดทั้งวันก็ไม่ได้มีลูกค้ามากมายอะไร เขาจึงล้างจานทันทีที่สกปรก ไม่งั้นก็จะรกตา
ชามและตะเกียบ 4ชุด จานเล็ก 4ใบ หม้อสแตนเลสใบใหญ่ 1ใบ ทั้งครัวยังคงมีกลิ่นหอมเผ็ดร้อนหลงเหลืออยู่ขณะที่เขาล้าง
ฮึ่ม
เมื่อล้างเสร็จแล้วหยิบกระดาษเช็ดมือให้แห้ง เซี่ยหยูล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง ตั้งใจจะโทรหาปู่ ถามว่าขึ้นเครื่องหรือยัง และขอเอกสารต่างๆ ของร้านไปด้วย
จริงๆ แล้วการเปิดร้านอาหารในแต่ละประเทศต้องใช้ใบอนุญาตคล้ายๆ กัน
ในญี่ปุ่นอันดับแรกที่ต้องมี
"ใบสมัครขออนุญาตประกอบกิจการ"
และ "ใบรับรองคุณสมบัติผู้จัดการสุขอนามัยอาหาร"
ที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุข
ถัดมาก็เป็นเอกสารรับรองคุณสมบัติจากหน่วยงานรัฐบาลต่างๆ เช่น สรรพากร สถานีดับเพลิง สำนักงานจัดหางาน
อย่างน้อยในโลกก่อนหน้านี้ การที่คนจีนจะเปิดร้านในญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ในโลกปัจจุบัน ดูเหมือนสมาคมอาหารจะเข้ามาแทนที่บทบาทบางส่วนของหน่วยงานรัฐบาล
ไม่ต้องมีใบอนุญาตมากมาย ด่านที่ยากที่สุดอยู่ที่สมาคมอาหารนั่นเอง
มีใบอนุญาตจากสมาคมอาหารก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว
"ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด..."
โทรไปแล้วได้ยินแต่เสียงสัญญาณไม่ว่าง เซี่ยหยูเบ้ปาก "ดูท่าจะขึ้นเครื่องแล้วสินะ"
อืม?
เซี่ยหยูรู้สึกว่ามีคนอยู่ด้านหลังจึงหันไปมอง เห็นสาวผมทองยืนขวางประตูครัวอยู่
เขาแสดงสีหน้ากึ่งยิ้ม กึ่งไม่ยิ้ม แล้วพูดว่า
"นี่เอรินะ เธอเดินไม่มีเสียง เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?
หรือว่ายังกินไม่อิ่ม?"
คราวนี้ 'ลิ้นเทพ' ไม่ได้โกรธเพราะคำพูดล้อเล่นของเขา ดวงตาสีม่วงอ่อนดูสงบนิ่ง
"อาหารที่เรืองแสงนั่น ทำยังไง?"
เธอถามตรงๆ และไม่มีท่าทีเขินอาย
"ก็ใช้มือสองข้างของฉันไง"
"..."
เอรินะสูดหายใจลึก เกือบจะระเบิดอารมณ์อีกครั้ง "ฉันถามว่าหลักการที่ทำให้อาหารเรืองแสงน่ะ!!"
"หลักการเหรอ?" เซี่ยหยูทำท่าครุ่นคิดอย่างจริงจัง แต่แล้วก็พูดออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
"หลักการก็คือ...ไม่มีหลักการไง!"
"หมายความว่าไง?" เอรินะเริ่มรู้สึกหงุดหงิด
"ยังไงเธอก็ทำไม่ได้หรอก" เซี่ยหยูโบกมือไปมา
จริงๆ แล้วอาหารเรืองแสงจะมีหลักการอะไรกัน ตามเนื้อเรื่องต้นฉบับของยอดนักปรุงโซมะ อาหารที่เรืองแสงถึงจะนับว่าเป็นอาหารที่ดี
แต่ถ้าพูดแบบนี้ ในโลกปัจจุบัน ดูเหมือนจะเป็นการเรียกร้องจากเชฟมากเกินไปน่ะสิ
เต้าหู้หม่าล่าที่ทำได้แค่ 70 คะแนนจากระบบ ยังทำให้ผู้อำนวยการโทสึกิถึงกับ 'เสื้อผ้าขาดรุ่ย' และบอกว่าอร่อย
ส่วนเต้าหู้หม่าล่าที่ทำได้ 90 คะแนนขึ้นไปและเรืองแสง ก็ทำให้ 'ลิ้นเทพ' ของเอรินะถึงกับหลงใหล
พูดอีกอย่างก็คือ อาหารที่ได้คะแนนผ่าน 60 คะแนนจากระบบเชฟเทพ ในหมู่นักเรียนโรงเรียนอาหารโทสึกิก็ถือว่าโดดเด่นแล้ว
ถ้าเอาอาหารที่ได้ 90 คะแนนและเรืองแสงไปประชันในการแข่งขันอาหารกับสิบยอดหัวกะทิคนปัจจุบัน ก็น่าจะเอาชนะได้โดยง่าย
แน่นอนว่าถ้าหัวข้อการแข่งขันเป็นเต้าหู้หรืออาหารจีน เซี่ยหยูถึงจะมีพื้นที่ให้แสดงฝีมือ โดยใช้ไม้ตายเดียวที่มีตอนนี้คือ 'เต้าหู้หม่าล่าเวทมนต์'
แต่ถ้าหัวข้อเป็นอาหารตะวันตกหรืออาหารญี่ปุ่น เขาก็คงได้แต่อ้าปากค้าง รอโดนสิบยอดหัวกะทิถล่มเอา
พอทบทวน 'ฝีมือการทำอาหาร' ของตัวเองอย่างจริงจัง เซี่ยหยูก็รู้สึกอับอายจริงๆ
ถ้าใช้ไม้ตาย เขาอาจจะคุยโม้กับสิบยอดหัวกะทิได้อย่างสบายๆ
แต่ถ้าเป็นอาหารอื่นๆ เช่น อาหารฝรั่งเศสหรืออาหารญี่ปุ่น เขาอาจจะทำได้ไม่ถึงระดับนักเรียนธรรมดาของโทสึกิด้วยซ้ำ
"ฉันทำไม่ได้งั้นเหรอ?"
คราวนี้ เอรินะโกรธจริงๆ แล้ว เธอกัดฟันจ้องเขาด้วยความโกรธ
"ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ! ถ้าเป็นอาหาร ไม่มีอะไรที่ลิ้นเทพอย่างฉันทำไม่ได้หรอก!"
"..." เซี่ยหยูกลอกตา รู้สึกหมดคำพูดกับนิสัยดื้อรั้นและเอาแต่ใจของเอรินะ
อธิบายไม่ได้ จะให้บอกว่าเป็นเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติก็คงไม่ได้ เซี่ยหยูจึงตัดสินใจไม่สนใจการรบเร้าของเธออีก
เขาเดินอ้อมเจ้าของลิ้นเทพกลับไปที่หน้าร้าน แล้วก็เห็นอาราโตะ ฮิซาโกะ
"ไง เลขา น้อย!"
เขาทักทาย แต่สาวน้อยผมสีม่วงแดงกลับมองเขาอย่างระแวง "คุณเป็นใคร? คุณหนูเอรินะอยู่ไหน..."
"นี่ร้านของฉันนะ!"
เซี่ยหยูชี้นิ้วโป้งลงพื้น
"อ๊ะ" ตอนนี้อาราโตะ ฮิซาโกะ ก็เห็นเจ้าของลิ้นเทพที่เดินตามเซี่ยหยูออกมา เธอรีบโค้งขอโทษทันที
"ต้องขอบคุณที่ดูแลคุณหนูด้วยนะคะ"
เธอเป็นเลขาฯ ของเจ้าของลิ้นเทพ จึงรู้ตารางงานของเอรินะเป็นอย่างดี
ร้านเล็กๆ ที่ผู้อำนวยการโทสึกิและเจ้าของลิ้นเทพมาใช้บริการ ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
ในแง่หนึ่ง อาราโตะ ฮิซาโกะ ฉลาดกว่าเจ้านายของเธอ อย่างนาคิริ เอรินะมาก
"ใช่ๆ ฉันดูแลเธอแล้ว รีบพาเธอไปเถอะ" เซี่ยหยูทำท่าไม่สุภาพ ชี้ไปที่สาวผมทองที่จ้องเขาเขม็งอย่างกับผีที่อยู่ด้านหลัง
"ดูแลคนที่ยุ่งยากขนาดนี้ เหนื่อยจริงๆ นะ เลขาน้อย"
ฮิซาโกะ งุนงงกับน้ำเสียงสนิทสนมของเซี่ยหยู
เลขา น้อย? ทำไมเรียกแบบนี้ล่ะ...
"รีบไปเถอะ ฉันไม่คิดค่าอาหารหรอก" เซี่ยหยูโบกมืออีกครั้ง แล้วก็ไม่สนใจคู่นายบ่าวนี้อีก หันไปคุยกับสาวๆ ชาวจีนอีก2คนด้วยรอยยิ้ม
เขารู้สึกว่าโลกนี้ดูเป็นของจริง ก็ต่อเมื่อได้คุยกับสาวสวยจากมิติปกติ
"คุณหนูคะ!" ฮิซาโกะ มองไปที่เจ้าของลิ้นเทพ
"ไป!"
นาคิริ เอรินะกัดริมฝีปากแน่น หมุนตัวเดินออกไปอย่างโกรธๆ แต่พอถึงประตูร้าน เธอก็หยุดกะทันหัน
"นายควรไปโทสึกินะ"
"โทสึกิเหรอ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ไป ฉันอยากทำร้านอาหารจริงๆ ไม่ใช่ไปเรียน"
"นายกำลังเสียเวลากับพรสวรรค์ของตัวเอง..."
นาคิริ เอรินะพูดอย่างโมโห
"เสียเวลากับพรสวรรค์?
เชฟฝึกฝนทำอาหารทั้งวันทั้งคืน ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าไม่ใช่เหรอ
คำชมต่างหากที่เป็นการยืนยันฝีมือของเชฟ ที่นี่แหละที่ฉันจะได้แสดงคุณค่าของตัวเอง"
พูดจบ เซี่ยหยูก็พูดขึ้นทันที
"งั้นเรามาพนันกันไหม เอรินะ"
"พนัน?"
"ถ้าก่อนเปิดเทอม เดือนเมษายน ร้านอาหารของฉันไม่สามารถทำให้ลูกค้าแน่นร้านในช่วงเวลา 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน
ฉันจะยอมแพ้ หลังเปิดเทอมฉันจะปิดร้าน แล้วไปเรียนที่โทสึกิ และสมัครใจเข้าร่วมทีมของเธอ"
"อ้อ?" ดวงตาของเอรินะเป็นประกาย "นายแน่ใจนะ?"
"แน่นอน!"
"แต่ว่า ในเมื่อเป็นการพนัน ถ้าเธอแพ้ เธอต้องมาเป็นผู้ช่วยเชฟที่ร้านอาหารเล็กๆ ของฉันเป็นเวลา 1ปี ตกลงไหม?" เซี่ยหยูพูดพร้อมรอยยิ้ม
ซึ่งในสายตาของอาราโตะ ฮิซาโกะมันดูเหมือนจิ้งจอกน้อย ที่กำลังสาสมใจในแผนการของตัวเอง
"ผู้ช่วยเชฟ?
ไม่ได้นะคะ คุณหนูเอรินะ ห้ามตกลงกับการพนันที่ไร้สาระแบบนี้!" ฮิซาโกะรีบเตือนด้วยความกังวล
"เอรินะ นี่เป็นการพนันที่ยุติธรรมนะ ถ้าฉันแพ้ อนาคตช่วงมัธยมปลายของฉันก็ต้องอยู่ที่โทสึกิ
แต่ถ้าเธอแพ้ เธอแค่มาเป็นผู้ช่วยเชฟที่ร้านเล็กๆ ของฉัน 1ปีเท่านั้น จริงๆ แล้วฉันนี่แหละที่เสียเปรียบ!" เซี่ยหยูพูดพร้อมกับกางมือออก
"ตกลง! ฉันรับการพนันนี้!" เอรินะพูดเสียงแข็ง
"ฉันไม่เชื่อหรอกว่าร้านเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จักแบบนี้ จะสามารถทำให้ลูกค้าแน่นร้านได้ ในเวลาแค่เดือนกว่าๆ"
"ฉันไม่รู้ว่าอะไร ที่ทำให้นายมั่นใจได้ขนาดนี้ แต่การบริหารร้านอาหารน่ะ แค่ฝีมือการทำอาหารอย่างเดียวมันไม่พอหรอก!"
--------------------------------
ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ
หากพบคำผิด แจ้งได้เลย