Chapter 307 : มังกรสุริยันทำลายตัวเอง - ตกตายทั้งสองฝ่าย (1) (ฟรี)
“ภาคีอัศวิน...ไม่ทำอะไรเลยรึ?!” สีหน้าของชาโดว์บิดเบี้ยวไม่น่ามองนัก
มังกรสุริยันหลุดออกมาจากเทือกเขามังกรหากแต่มันกลับไม่ได้ล้างสังหารเมืองมังกรแต่เลือกที่จะมุ่งหน้ามายังเมืองบาดาลที่อยู่ในทะเลตะวันออกเนี่ยนะ?
นี่มันเรื่องห่าเหวอะไรกัน? ไม่เข้าใจโว้ย!
โฮก!
มังกรสุริยันคำรามใส่คนทั้งสองอีกครั้ง
ชายชราเหยียดมือออกไปทันทีและพริบตานั้นจุดสีดำบนฝ่ามือของเขาก็พลันพุ่งออกมาจากฝ่ามือ
เพียงเสี้ยวพริบตาเดียวจุดสีดำนั้นก็ควบแน่นจนกลายเป็นโล่สีดำขนาดมหึมาและป้องกันขวางกั้นเบื้องหน้าของเขาเอาไว้
ชาโดว์หัวเราะแห้งๆ “ให้ฉันหลบข้างหลังได้ไหม?”
ชายชราพยักหน้า “พันธมิตรย่อมได้”
ชาโดว์รีบกระโจนไปหลบอยู่ด้านหลังของชายชราในทันทีและพริบตาต่อมามังกรสุริยันก็พลันพ่นเปลวเพลิงร้อนลวกออกมาจากปากของมัน
ตูม!
เปลวเพลิงเข้าปะทะกับโล่สีดำ
สีแดงและดำผสมผสานคาบเกี่ยวและสลายหายไป
แสงสว่างเจิดจ้าที่เกิดขึ้นจากการปะทะนั้นทำให้เหล่านักสู้บนเกาะไร้นามต่างพากันหลับตาแน่น
ลู่ผิงไห่ใช้จังหวะนี้กลิ้งตัวตกลงไปในทะเล
เพล้ง!
เปลวเพลิงมลายสิ้นเฉกเช่นเดียวกับโล่ทมิฬที่แตกสลายไปเช่นเดียวกัน
มังกรสุริยันสะบัดปีกบินเตรียมขึ้นไปด้านบนอีกครั้งเพื่อจะพ่นลมหายใจสุริยันออกมาอีกครา
อย่างไรก็ตามจู่ๆชายชราผู้นั้นกลับเหยียดมืออีกข้างออกมา
จุดสีดำปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขาและเพียงเสี้ยวพริบตาเดียวมันก็ก่อรูปขึ้นเป็นหอกทมิฬที่มีความยาวกว่าสิบเมตรและหนากว่าครึ่งเมตร
สีของมันทั้งดำขลับดูชั่วร้ายยิ่งและอบอวลไปด้วยแสงทมิฬ!
ชาโดว์จ้องเขม็งไปที่หอกนั้นและบังเกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ
การโจมตีนื้ถ้าโจมตีใส่เขาย่อมทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ไป!” ชายชราโยนหอกสีดำออกไปทันที
หลินเซวียนผู้ที่ควบคุมมังกรสุริยันอยู่นั้นหรี่ตาลงมองเขม็งไปที่หอกสีดำนั้น
เขาไม่เคยคิดเลยว่าชายชราผู้นั้นจะสามารถควบแน่นจุดสีดำเพื่อโจมตีได้อีกครั้งหลังจากที่ใช้โล่ทมิฬไปแล้วเมื่อครู่
“เจ้าพวกนี้จากองค์กรผู้กู้โลกนี่แปลกจริงๆ...” หลินเซวียนพยายามควบคุมร่างของมังกรสุริยันให้หลบอย่างสุดชีวิต
อย่างไรก็ตามหอกทมิฬนั้นกลับรวดเร็วและดุดันยิ่ง
เพียงเสี้ยวพริบตาเดียวมันก็เจาะทะลวงชั้นบรรยากาศและโผล่มาอยู่ด้านหน้าของมังกรสุริยันแล้ว
ฉึก!
หอกทมิฬเจาะทะลวงหน้าอกของมังกรสุริยันอย่างง่ายดายราวกับเต้าหู้
หลินเซวียนครางออกมาในลำคอ
เขาสัมผัสถึงความเจ็บปวดได้เฉกเช่นเดียวกับร่างอวตารแม้ว่าความเจ็บปวดนั้นจะเบาบางกว่ามากก็ตามที
สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าก็คือหอกสีดำนั้นจู่ๆก็หายไปและแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานสีดำหลั่งไหลเข้าสู่บาดแผล
หลินเซวียนสัมผัสได้ถึงกระแสพลังงานนับไม่ถ้วนที่ส่งผลให้ร่างกายของมังกรสุริยันทรุดโทรมลงอย่างต่อเนื่อง
จุดใดที่พลังงานสีดำไหลผ่านเซลล์ทุกเซลล์ เกล็ดทุกเกล็ด กระดูกทุกชิ้นล้วนทรุดโทรมลงด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
เห็นได้ชัดเลยว่ามังกรสุริยันที่เมื่อครู่ยังอยู่ในสภาพสูงสุด เจิดจ้าราวกับสุริยันบนท้องฟ้านั้นเพียงเสี้ยวพริบตาเดียวก็เริ่มทรุดโทรมลงแล้ว
เกล็ดบนร่างของมันเริ่มหม่นแสง เขาเองก็ปริแตกและแตกหักและหนวดเคราเองก็แตกสลายหายไปราวกับเศษกระดาษ
ราวกับสุริยันเจิดจ้ายามกลางวันจู่ๆก็แปรเปลี่ยนกลับกลายเป็นดวงสุริยันที่กำลังจะตกดินทางทิศตะวันตกก็ไม่ปาน
เมื่อชาโดว์เห็นเช่นนี้สีหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้มา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นอะไรแบบนี้หากแต่ทุกครั้งที่เห็นก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งไป
องค์กรผู้กู้โลกนี่ไม่รู้จริงๆว่าพวกมันไปได้อะไรมาจากทะเลดำที่ถูกปราการเทพธิดาสะกดเอาไว้แห่งนั้น
มันถึงขั้นสามารถทำให้นักสู้ขอบเขตที่ไร้ชื่อไร้นามได้ครอบครองพลังมหาศาลเฉกเช่นนี้ในก้าวเดียว
ตอนนี้องค์กรผู้กู้โลกได้ครอบครองพลังที่น่าสะพรึงที่ใช้ต่อกรกับกองพลก่อสร้างเช่นนี้แล้วใครเล่าจะกล้าการันตีว่าวันหนึ่งมันจะไม่ถูกใช้กับเขา
ชาโดว์ผงะถอยหลังไปครึ่งก้าวอย่างเงียบเชียบและลอบมองสถานการณ์ของชายชราในปัจจุบันอย่างระแวดระวัง
ในความคิดของเขาร่างของชายชราเมื่อครั้งแรกเจอนั้นครบถ้วนสมบูรณ์กว่านี้
หลังจากลองเทียบดูแบบคร่าวๆชาโดว์ก็คาดเดาอะไรบางอย่างได้ในใจ
จุดสีดำนั่นหลังจากที่ใช้งานโล่ทมิฬและหอกทมิฬอย่างต่อเนื่องก็ดูเหมือนว่าจุดสีดำบนร่างของชายชราจะลดลงไปไม่น้อย
โดยรวมแล้วดูเหมือนว่ากลิ่นอายอันแปลกประหลาดของชายชราจะสลายหายไปเยอะมาก
ในเวลาเดียวกันภัยคุกคามรุนแรงที่ชาโดว์สัมผัสได้จากร่างของชายชราเองก็ดูเหมือนจะอ่อนโทรมลงมากแล้วในตอนนี้
‘หรือว่าการใช้พลังนั่นจะเปป็นการเผาผลาญพลังงานแปลกประหลาดในร่างของพวกมัน?’ ชาโดว์คิดอย่างลึกซึ้ง
โฮก!
เหนือน่านฟ้า
มังกรสุริยันคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวดและล่วงหล่นลงมาบนพื้นดิน
แม้จะเห็นว่าตัวเองสามารถทำให้มังกรสุริยันได้รับบาดเจ็บได้แต่สีหน้าของชายชรากลับไม่แปรเปลี่ยน
ไร้ซึ่งความยินดีหรือความปิติแม้เพียงน้อยราวกับสิ่งที่ทำนั้นเป็นเพียงเรื่องทั่วๆไป
“มังกรสุริยันตัวนี้ฟื้นคืนมาจากความตายยย่อมมีค่าในการค้นคว้าไม่น้อย นายสามารถนำมันกลับไปได้” จู่ๆชายชราก็เอ่ยออกมา
ชาโดว์พยักหน้ารับคำเล็กน้อย
จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยมีอสูรตนใดเลยที่ฟื้นคืนชีพมาจากความตายได้ ถ้าการค้นคว้าร่างของมังกรสุริยันตัวนี้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจย่อมสามารถล้มล้างทุกทฤษฏีลงได้
อย่างไรก็ตามเมื่อมังกรมังกรสุริยบันล่วงลงมาจนเกือบถึงระดับน้ำทะเลแล้วและชาโดว์คิดว่ามันสูญสิ้นความสามารถในการต่อต้านไปแล้วจู่ๆมันกลับเงยหน้าขึ้นมาและพุ่งเข้าหาพวกเขาด้วยความเร็วสูงสุด
ราวกับดวงสุริยันย้อนทวนก็ไม่ปาน
ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ได้ห่างไกลกันมากนักดังนั้นเพียงเสี้ยวพริบตาเดียวร่างของมังกรสุริยันก็เข้ามาอยู่ในระยะ200เมตรของชายชราแล้ว
ระยะเท่านี้ก็พอแล้ว
ร่างของมังกรสุริยันบริเวณช่องว่างระหว่างเกล็ดจู่ๆก็พลันเปล่งแสงเจิดจ้าออกมาราวกับพลังงานอันบ้าคลั่งและน่าสะพรึงกำลังควบแน่นและขยายตัวอยู่ในร่างของมังกรสุริยันและหมายจะเผาผลาญและทำลายโลกใบนี้ไปพร้อมกับมัน
ภายในเมืองบาดาล
ดวงตาของหลินเซวียนผู้กำลังควบคุมร่างของมังกรสุริยันแดงก่ำและตัวเขาเองก็กระทั่งกระอักเลือดออกมาจากปาก
ถึงกระนั้นแล้วเขาก็ไม่หยุดมือ
ทำลายตัวเอง!
นี่คือสุดยอดท่าไม้ตายของมังกรสุริยันและยังเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดซึ่งจะเผาผลาญพลังชีวิตทั้งหมดของมันด้วย
ย้อนไปครานั้นมังกรสุริยันตัวนี้ถูกกัวเฉี่ยนฉือสังหารด้วยมือก็เคยใช้สกิลระเบิดตัวเองนี้จนทำให้นักสู้ขอบเขตที่9หลายคนบาดเจ็บสาหัสไปตามๆกัน
“ต่อให้ฉันต้องระเบิดตัวเองฉันก็ต้องฆ่าแกให้ได้!” หลินเซวียนรู้สึกราวกับตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับชายชราแปลกประหลาดผู้นั้นอยู่
ย้อนไปครานั้นตัวเขาก็เคยได้ประจักษ์ความน่าสะพรึงของเหล่าชายชราจากองค์กรผู้กู้โลกเหล่านี้มาแล้วเมื่อครั้งตอนอยู่ในเทือกเขามังกร